บทที่ 272 ข้าจะยกให้ท่านเป็นนายเหนือหัวของข้า!
เสียงกรีดร้องเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานเสียดแทงเข้าไปในหู เสียงของมันดังยิ่งกว่าเสียงภูเขาเสียงอสูรถล่ม มันดังอยู่ข้างในหัวของตั่วหลงด้วยความกลัวสุดขีด
ดวงตาตั่วหลงก็ค่อยๆสูญเสียสัญญาณชีพลง ลึกเข้าไปในสมองปรากฏใบหน้าบัณฑิตสีขึ้น มันชัดเจนแล้วว่า วิญญาณของประมุขของตระกูลปีกสีเทา ได้ถูกเผาทำลายไปแล้วและเขาได้สูญเสียชีวิตของเขาในเวลาเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ
ทั้งตี่ฉานและยู่โหลวต่างก็ตกตะลึง เมื่อเห็นตั่วหลงถึงแก่ความตาย
อย่างไรก็ตาม เสียงกรีดร้องเสียดหูของเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานทำให้พวกเขาทั้งสองมีความหวัง พวกเขามองไปที่ฉื่อหยาน และคิดว่าฉื่อหยานคือวีรบุรุษของพวกเขา มากขึ้น
เป็นไปตามที่โชคชะตากำหนด ! ?
ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะคิดเช่นนั้น ด้วยความคิดที่ว่าจะต้องนับเจ้าสารเลวน้อยเป็นเจ้าน้อยของพวกเขาพวกเขาสองคนไม่รู้ว่า ควรจะร้องไห้ หรือ ยิ้มดี
อย่างไรก็ตาม , พวกเขาก็ไม่สามารถยิ้มได้
ตี่ฉานรู้ว่าถ้าฉื่อหยานไม่ได้มาที่นี่ ที่ภูเขาเสียงอสูร ดินแดนแห่งนี้ก็คงไม่เริ่มล่มสลายเร็วเช่นนี้ คงจะไม่เกิดหายนะในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงไม่อาจหนีพ้นจากห่วงโซ่โชคชะตาของพวกเขาได้และต้องอยู่ดินแดนแห่งนี้ตลอดไปแน่นอน
นอกจากนี้ พวกเขาทั้งสองยังมีระดับการบ่มเพาะในระดับพระเจ้า ถ้าพวกเขามีเวลามากขึ้นพวกเขาก็อาจจะก้าวเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงได้
ถ้าพวกเขาอยู่ในดินแดนเลวร้ายเช่นนี้ต่อ เมื่อพวกเขาไปถึงระดับพระเจ้าแท้จริง สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่ก็คงหนีไม่พ้การลงโทษของพระเจ้าจากฟากฟ้าเหนือยอดเขาเสียงอสูร
อีกสามผู้นำรวมทั้งคาป้า อีเทียนโหมว และ หหยาเมิงก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอยทันทีที่พวกเขาเห็นว่าเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานแปลกไป
ภูเขาถล่มลงมาอย่างต่อเนื่อง เสียงฟ้าร้องทำให้พื้นโลกสั่น .
คนเหล่านั้นที่อยู่ภายในภูเขารู้ดีกว่าใครๆ ว่า พื้นที่แห่งนี้กำลังจะกลายเป็นล่มสลาย ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นในวินาทีต่อมา
” จัดการมัน ! ” ฉื่อหยานตะโกนเสียงเย็นชาออกมาในขณะที่ยื่นนิ้วของเขาที่สวยแหวนสายโลหิตออกไปยังตั่วหลงที่อยู่ไกลออกไป
แหวนสายโลหิตส่องแสงสีชมพูออกมา เส้นแสงชีชมพูจำนวนมากเป็นเหมือนกับคลื่นที่รุนแรงซัดไปที่ตั่วหลงและปกคลุมร่างของเขาอย่างรวดเร็วในพริบตา
” ไม่ ! ” ใบหน้าบัณฑิต ที่ซ่อนอยู่ภายในตั่วหลงก็ร้องออกมาและถูกดึงออกมาจากร่างของตั่วหลง
หลังจากที่มันได้ถูกดึงออกจากตั่วหลง มันก็ลอยไปที่ฉื่อหยาน
ตี่ฉานและยู่โหลวได้เป็นอย่างมาก สีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขา instinctively ย้ายไปข้างหลัง พวกเขาเลยรู้สึกตื่นเต้น หลังจากอึ้งไปสักครู่ เขารีบหยุดลดลง ไม่มีวิธีอื่นที่จะถอย
เพียงอยู่ภายในรัศมีสีฟ้า จะช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงวิญญาณโจมตี ไม่ว่าที่ไหนที่พวกเขาหนีไป ถ้าพวกเขาได้รับนอกรัศมีของการป้องกันสีฟ้า มันเป็นไปไม่ได้เพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณของพวกเขาจากการถูกเผา
ตี่ฉานและยู่โหลวก็มีปฏิกิริยาทันที พวกเขาหยุดการกระทำต่างๆ
” ไม่ ! ! ! ! ! ไม่ !” เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานกรีดร้องออกมาในขณะที่มันพยามดิ้นรนอย่างต่อเนื่องดิ้นรนเพื่อหนีจากแหวนสายโลหิต
อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามแค่ไหน มันก็กลายเป็นอ่อนแอและไม่มีพลังพอ ที่ต่อต้านแสงสีชมพูที่ดึงมันอยู่
จ้องมองอย่างตั้งใจไปที่ฉื่อหยาน , ตี่ฉาน และ ยู่โหลว ก็ตกตะลึง เปลวไฟนภาที่ถูกผนึกอยู่ภายในภูเขาเสียงอสูรมานาน กลับไม่มีพลังในการต่อต้านใดๆและถูกดึงเข้าไปในแหวน
ฉื่อหยานยื่นนิ้วออกมาออกมาจากม่านแสงสีฟ้าและชี้ไปยังที่เปลวไฟจากระยะไกล
ในที่สุด , เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานก็กลายเป็นแสงสีเงินประกายไหลและหายตัวไปในแหวนสายโลหิตบนนิ้วของฉื่อหยาน
กลิ่นอายพลังหยินระหว่างท้องฟ้าและพื้นดินก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นและไม่สามารถรวมตัวกันได้อีกต่อไป
” ตูม ตูม ตูม “
ภูเขาเสียงอสูรเหมือนกับได้สูญเสียแกนหลักที่สำคัญชองมันไป มันยุบด้วยความเร็วที่มากกว่าก่อนหลายเท่า
ตี่ฉาน และยู่โหลวยังอยู่ในความตื่นตระหนก พวกเขามองฉื่อหยานด้วยสายตาไม่น่าเชื่อ มันยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
หลังจากเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน ถูกดึงดูดเข้าไปในแหวนสายโลหิต ฉื่อหยานก็ไม่ได้แม้แต่จะปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขาเพื่อตรวจสอบด้านในของแหวน แต่ทันทีที่เขาก็เข้าไปที่แท่นหินขนาดใหญ่และหยิบกระสวยแยกนภาเข้่ามาในแหวนสายโลหิตทันที
” ไปกันเถอะ ” ฉื่อหยาน มองไปที่ ตี่ฉาน และ ยู่โหลวและพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ” เรารอดแล้ว “
” หวือหวือหวือ ” .
ท้องฟ้าเจิดจ้าแผ่เป็นรัศมีที่กระจายไหลพล่านด้วยฤทธิ์อำนาจ
ฟ้าร้อง และ สายฟ้าฟาด บันไดหินพลันปรากฏขึ้นทีละขั้นโดยไม่รู้มาจากที่ใด , มันเชื่อมโยงขึ้นไปบนแท่นหินขนาดใหญ่ที่อยู่บนท้องฟ้า บันไดหินบรรจบเข้ากับแสงบนท้องฟ้า มันเป็นเหมือนกับบันไดที่เชื่อมต่อกับสวรรค์
” บันไดสวรรค์ปรากฏ . . . . . . . ตามคำพูดของบรรพบุรุษ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นจริง . . . . . . . ” ตี่ฉาน ยกหัวขึ้นท้องฟ้า บ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของเขาดูเหมือนนึกไปถึงช่วงหนึ่งในความทรงจำเก่าๆ
ยู่โหลวยังประหลาดใจ ดวงตาที่สวยงามของนางสว่าง หลังจากนั้น นางก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา จนท้องเจ็บ นางไม่เก็บกิริยาที่แสนบอบบางของนางแบบปกติอีกต่อไป
ฉื่อหยานมองคนทั้งคู่ด้วยความสงสัย เขาสงสัยว่าอะไรที่กันทำให้เขาสองคนไปเกิดบ้าในช่วงเวลาเช่นนี้
” เป็นเจ้าจริงๆ ! ” ยูหัวเราะจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา . นางกุมท้องของนางและชี้ไปที่ฉื่อหยานในขณะที่หันไปพูดกับตี่ฉานโดยไม่หยุดหัวเราะ ” เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่ ? “
ตี่ฉานร่างกายที่แข็งแกร่งก็ตกใจ สีหน้าของเขา กลายเป็นซับซ้อน
หลังจากคิดสักพัก โดยไม่สนใจเศษหินของภูเขาเสียงอสูรที่กำลังถล่มลงมา ตี่ฉานก็คุกเข่าลงต่อหน้า ฉื่อหยาน เขาโค้งคำนับและกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ ” ข้า ตี่ฉาน ! ประมุขของตระกูลปีกดำ จากนี้ไป ข้าสาบานว่าจะถือว่าเจ้าเป็นนายเหนือหัวของข้า และมันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจนวันตาย “
” ข้า ยู่โหลว จักพรรดิ์นีตระกูลปีกขาว ข้าสาบานว่าจะถือว่าเจ้าเป็นนายเหนือหัวของข้า จและมันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจนวันตาย ” ยู่โหลวยิ้มเบาๆ ด้วยความนับถือ น่งคุกเข่าด้วยสีหน้าจริงจังและพูดสาบานออกมา
ฉื่อหยาน ก็ตกใจจนดวงตาและปากของเขาเปิดกว้าง
” ตูม ตูม ตูม “
ภูเขาเสียงอสูรกำลังจะยุบตัวลงอย่างสมบูรณ์ ภูเขาดูราวกับว่ามันถูกตัดและบดโดยค้อนและดาบ ทำให้ก้อนหินยักษ์มากมายถล่มลงมา
ไม่เพียงแค่นั้นสายฟ้าพิสุทธิเองก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่นแปลง จากท้องฟ้าที่มืดมิด ก็ค่อย ๆปรากฏสีฟ้าสดใสรอบๆ
” นี่ นี่มัน ?”
ฉื่อหยาน ก็มองไปยังจุดนั้น เขาไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่ ตี่ฉาน และ ยู่โหลวต้องการจะทำคืออะไร หรือว่าที่พวกเขาจะจริงหรือไม่ ในเวลานี้ เขารู้สึกสับสน เขาไม่ไม่รุ้และไม่สามารถพุดอะไรได้
พวกเขาสองคนไม่ได้รอฉื่อหยานแสดงออกอะไร หลังจากที่คุกเข่าลง ตี่ฉาน และ ยู่โหลวก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ยกศีรษะมองบันไดสวรรค์ที่มุ่งตรงไปสู่ท้องฟ้า ยู่โหลวกล่าวด้วยรอยยิ้ม ” นายท่าน นั่นบันไดสวรรค์ ในที่สุดเราก็สามารถออกจากสถานที่เลร้ายแห่งนี้ได้ ” .
นายท่าน . . . . . . .
ฉื่อหยานคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อมกับขมวกคิ้ว
” ท่านเอาจริงรึ ? “
” จากนี้ไป เจ้าคือนายท่านของตระกูลเราทั้งสอง ดังนั้น แม้ว่าจะไม่มีตั่วหลง ข้าก็จะทำให้พวกเขาปฏิบัติกับท่านเฉกเช่นคำแนะนำของบรรพบุรุษ ” ตี่ฉาน แววตาก็ส่องประกายแปลกประหลาด ” นายท่าน ตอนนี้ท่านมีเปลวไฟนภาอยู่ด้วยกันสามชนิด ตัวตนของท่านคือความหวาดกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลเสียงอสูร แต่ว่า ด้วย ยู่โหลว และข้านั้น ข้าคิดว่าตระกูลเสียงอสูรคงไม่กล้าทำอะไร “
” นี่ . . . “
” นายท่าน ที่ว่าท่านมายังที่นี่คงจะเป็นประสงค์ของพระเจ้า เราแค่ทำตามชะตากำที่ถูกหนดไว้โดยพระเจ้า . ” ยู่โหลวเผยรอยยิ้ม มองฉื่อหยาน ” ข้าอธิบายให้นายท่านฟัง เพราะท่านได้ช่วยสองเผ่าของเราออกไปจากแผ่นดินนี้เลวร้ายแห่งนี้ และยังท่านยังมีสายเลือดของพระเจ้าราชันย์อมตะ ท่านจึงมีสิทธิ์ที่จะเป็นนายเหนือหัวของเราทั้งสองตระกูล เราทำตามคำแนะนำของบรรพบุรุษ “
” สถานที่แห่งนี้กำลังจะล่มสลาย นายท่าน ขอให้ท่านขึ้นบันไดสวรรค์ไปก่อนเลย ” ตี่ฉานค่อย ๆตะโกน
ฉื่อหยาน ก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นคืออะไร แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความชั่วร้ายของพวกเขาอยู่แล้ว ทันทีที่เขาก็ก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนสวรรค์บันไดหลังจากลังเลเล็กน้อย
ตี่ฉานและยู่โหลวเองก็เหยียบบันไดหลังจากที่ฉื่อหยานยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว พวกเขายืนต่ำกว่า 2 ขั้น
ภูเขาเสียงอสูรแตกสลายไปเป็นอย่างมาก ด้วยเสียงระเบิดที่สะท้อนไปทั่วภูเขา ทำให้ภูเขาที่อยุ่มานานนับหลายปี กำลังถล่มที่ละเล็กน้อย จากสวรรค์บันไดที่พวกเขายืนอยู่บน ภูเขากำลังถูกทำลายและกระจัดกระจายไปทั่ว
ขณะที่ฉื่อหยาน กำลังยืนอยู่บนบันไดสวรรค์ เขาก็ตระหนักได้ว่าแม้ภูเขาเสียงอสูรจะพังทลายเป็นชิ้นๆ มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเขาเลย
แน่นอน , การล่มสลายของภูเขาเสียงอสูรดูเหมือนจะรุนแรง แต่ก็ไม่เห็นเลยว่าจะมีหินสักก่อนที่จสัมผัสกับบันไดสวรรค์ บริเวณโดยรอบบันไดปลอดภัยจากทั้งเศษซากหินที่ตกลงมาทั้งหมด
แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่ามันผิดปกติ แต่ด้วยธรรมชาติของมัน มันกลับทำให้ฉื่อหยานรู้สึกว่า นี่คือสภาพที่แท้จริงของมัน
ไม่นานหลังจากเกิดระเบิดขึ้น , ภูเขาเสียงอสูรก็เหมือนไม่มีอยู่จริง
ภูเขาขนาดใหญ่ถล่มในช่วงระยะเวลาที่สั้นเป็นอย่างมาก หินยักษ์แตกกระจายไปทั่วทุกที่ ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้า , สถานที่ที่สัตว์อสูรเสียงเคยอยู่กลายเป็นบันไดที่มุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกับมีคนทั้งสามยืนอยู่บนนั้น
นอกภูเขาเสียงอสูรนักรบระดับสูงได้หลบหนีห่างไกลออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการถล่มของภูเขาซึ่งมันเป็นอันตรายต่อพวกเขา
หลังจากการการล่มสลายที่รุนแรง ตอนนี้พวกเขา จู่ ๆก็เห็นบันไดสวรรค์ที่มุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับคนทั้งสามคนที่ยืนอยู่
สามผู้นำของเผ่าเสียงอสูร อีเทียนโหมว คาป้า และ หยาเมิงก็ตกใจพร้อมกับดวงตาของพวกเขาที่แสดงออกว่าไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาของพวกเขาจ้องมองไปยังคนทั้งสามที่อยู่บนบันได
ตี่ฉานขมวดคิ้วในขณะที่ หลี่ตามองไปที่ทั้งสามคน จากระยะไกลแล้วตะโกนว่า ” อีเทียนโหมว คาป้า หยาเมิง มาที่นี่ ข้ามีบางอย่างจะบอกพวกเจ้า . “
ทั้งสามคนก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกชั่วขณะ ก่อนที่จะมุ่งไปหาตี่ฉาน
หลายสิบล้านคนของทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็ ยกหัวขึ้นสู่ท้องฟ้า มองดูไปที่บันไดสวรรค์ ด้วยความสงสัยว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
สามผู้นำแห่งเผ่าเสียงอสูรก็มาอยู่ข้างๆตี่ฉานในพริบตา พวกเขาทั้งหมดพูดพร้อมกัน ” เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน . . . . . . . “
” มันถูกกำหราบแล้ว . ” ตี่ฉาน ยกมือของเขาขึ้น วาดเป็นวงกลมมหัศจรรย์และปรากฏเป็นม่านขึ้นรอบๆเพื่อ ไม่ให้เสียงใดเล็ดลอดออกไป
สีหน้าของทั้งสามผู้นำก็เปลี่ยนแปลงไปแย่างมาก
” ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้ารู้อีกครั้ง ” ยู่โหลวใบหน้าก็กลายเป็นจริงจัง นางชี้ไปที่ฉื่อหยาน และกล่าวว่า ” นี่คือนายท่านของเรา ท่านเป็นผู้ครอบครองเปลวไฟนภาทั้งสาม อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดสายเลือดอมตะจากพระเจ้าราชันย์อมตะ ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงรู้เกี่ยวกับคำพูดของบรรพบุรุษอยู่แล้ว เจ้าทั้งสามที่เป็นผู้นำของเผ่าเสียงอสูรคงรู้สินะ ว่สควรปฏิบัติตนเช่นใดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ?
” อะไรนะ ? ” หยาเมิงตะโกนด้วยความกลัว
” ที่ข้าพูดไม่ชัดเจนงั้นรึ ? ” ยู่โหลวขมวดคิ้วเข้าหากันและพูดด้วยเสียงเย็นชา ” เขาสามารถนำเผ่าพันธุ์ทั้งสองของเราออกจาสกที่แห่งนี้ได้ ประกอบกับที่มีสายเลือดพระเจ้าราชันย์อมตะ เราจะต้องยกให้เขาเป็นนายเหนือหัวของเรา เจ้าทั้ง 3 คน คิดจะไม่ทำตามคำแนะนำบอกบรรพุรุษงั้นรึ ? พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่นั่นหมายความว่าเช่นใด ?
หน้าของ อีเทียนโหมว ก็สั่นสะท้าน เขาช่วยไม่ได้ที่จะถามออกไป ” แล้วตั่วหลงอยู่ที่ใดกัน ? “
” เขาตายแล้ว ” ตี่ฉาน ก็มองไปที่ผู้นำทั้งสามอย่างเย็นชา ” เขาถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน โดยเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน ซึ่งตอนนี้มันอยู่ในการครอบครองของนายท่านเรา หึ ! แม้ว่าตอนนี้ท่านจะใช้เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานไม่ได้ แต่เพียงเปลวไฟนภาอีกสองก็เพียงะิที่จะทำลายเผ่าเสียงอสูรของพวกเจ้าทั้งหมดแล้ว ”
อีเทียนโหมวสีผิวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จู่ๆ เขาก็มองไปที่ฉื่อหยานด้วยความเคารพ หลังจากลังเลอยู่สักพัก เขาก็กล่าวว่า ” ข้าเป็นหนึ่งในผู้นำของตระกูลเสียงอสูร อีเทียนโหมว ข้าสาบานว่าจะยกให้ท่านเป็นนายท่านของข้า “
คาป้า และหยาเมิง รูม่านตาก็หดลง พวกเขาถอนหายใจออกมาและก้มหัวให้อย่างเสียใจต่อหน้าฉื่อหยาน ” เราสัญญาว่าจะยกให้ท่านเป็นนายเหนือหัวของเรา “
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 20 แล้ว มีถึงตอนที่ 920 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <