บทที่ 276 ตระกูลเคอเล่อ
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น อี้เทียนโหมวก็พาฉื่อหยานบินไปยังศูนย์กลางของเกาะมังกรเหมันอย่างรวดเร็ว
สายลมเสียดสี ในขณะที่พวกเขาลอยอยู่ อีเทียนโหมวปล่อยจิตสำนึกวิญญานครอบคลุมทั่วทั้งเกาะมังกรเหมัน เขาสัมพัสได้ถึงนักรบระดับสูงที่อยู่บนเกาะ รู้ได้ว่าพวกเขารวมกันอยู่ที่ใด และ ตระกูลใดมีนักรบที่แข็งแกร่งมากกว่า
ฉื่อหยาน ห้วงจิตสำนึกยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลา ห้าปีศาจในห้วงจิตสำนึกของเขายังคงสงบอยู่ จิตวิญญานหลักของเขายังคงเฝ้ามันอย่างระมัดระวัง
ฉื่อหยานส่งจิตสำนึกเข้าไปในแหวนสายโลหิต เขาได้ติดต่อกับ แกนเพลิงก่อนหน้านี้ หากมีเหตุการณ์ผิดปกติใด ๆเกิดขึ้น เขาจะปล่อยแกนเพลิงออกมาจากแหวน
เขายังคงระวังตัวจากอีเทียนโหมวอยู่
แม้ว่าอีเทียนโหมวจะได้สาบารว่าจะภักดีกับเขาแล้วก็ตาม ฉื่อหยาน ก็ยังไม่มั่นใจว่าเขายังมีเจตนาร้ายอื่นๆอีกหรือไม่
อีกอย่าง เมื่อเข้ามายังเกาะมังกรเหมัน ตี่ฉาน หรือยู่โหลวก็ไม่มีทางเลือกเพราะพวกเขาทั้งสองมีปีกอยู่บนแผ่นหลังของพวกเขา ซึ่งมันเปิดเผยให้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนจากชนเผ่าป่าเดือน ดังนั้น การปรากฏตัวของพวกเขาจะนำไปสู่บางปัญหาที่ไม่จำเป็น .
เขาไม่รู้ว่าเขาได้จากทะเลไม่มีสิ้นสุดไปนานเท่าใดหรือสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร ถ้าเขายังไม่รู้สถารการณ์ที่แน่ชัด เขาก็ไม่กล้าที่จะประมาท
เป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้นี้คือตระกูลของลินดา เขาต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดผ่าน ลินดา เขาอยากจะถามนางว่าเผ่าอสูรและเผ่าทมิฒได้บุกมาอยู่ทั่วทะเลไม่มีสิ้นสุดแล้วหรือไม่
เขาไม่สามารถพาคนจากเผ่าปีกไปได้แม้แต่คนเดียว และเพราะเขายังต้องการที่จะไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงต้องเลือกที่จะมากับคนจากเผ่าเสียงอสูรสักคน
เขารู้ว่าการเลือกอีเทียนโหมวนั้นค่อนข้างจะเสี่ยง แต่ด้วยการเรียนรู้คัมภีร์วิญญานของเผ่าเสียงอสูรมานาน ฉื่อหยานก็รู้เกี่ยวกับมันไม่มากก็น้อย และเขามั่นใจว่าอีเทียนโหมว ไม่อาจจะทำอะไรเขาได้เพียงแค่เวลาสั้นๆแน่นอน
นอกจากทันทีที่อีเทียนโหมวจะฆ่าเขา เปลวไฟนภาที่อยู่ในร่างของเขาก็จะช่วยเหลือเขา
มันเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดของเขา อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับห้วงจิตสำนึกและวิญญานหลักของเขา ฉื่อหยานจึงวางใจได้เล็กน้อย
จู่ๆอีเทียนโหมว ก็หยุดอยู่ตรงกลางของภูเขาและป่าไม้
ฉื่อหยาน ก็ประหลาดใจ เขาระมัดระวังและมองอย่างเงียบๆ สัมพัสไปยังทุกจุดเล็กๆบนร่างกายของอีเทียนโหมว ความสนใจทั้งหมดของเขามุ่งไปที่อีเทียนโหมว
” นายท่าน มีกลุ่มนักรบระดับต่ำเป็นจำนวนมาก . ผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่เพียงระดับปฐพี ไม่เพียงพอที่จะทำอะไรเราได้ ” สีหน้าของอีเทียนโหมวก็ไม่แยแส ; ดวงตาสีขาวเทาของเขามองไปที่ฉื่อหยานสักพักแล้วเขาก็กล่าวว่า ” นายท่าน ท่านระแวงข้างั้นรึ “
ฉื่อหยาน ก็อาย แต่ก็ยังพยักหน้าบอกตามตรง” ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะทำอะไร วิญญาณของเจ้านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าข้า มันไม่ง่ายที่จะป้องกันได้ ดังนั้น ข้าต้องรอบคอบและระมัดระวังตลอดเวลา . “
อีเทียนโหมวตกใจ แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ในตอนนี้
” ข้าขอโทษด้วย ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้า แต่ช่องว่างระหว่างเจ้าและข้านั่นห่างกันมากเกินไป และตอนนี้ ข้าก็อยู่กับเจ้าสองคน ข้าไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเจ้ามีเจตนาใดอื่นอีกหรือไม่ ดังนั้น ข้าจึงต้องระวังไว้เท่านั้น ” ฉื่อหยานอธิบายพร้อมกับฝืนยิ้ม
” เข้าใจแล้ว ” อีเทียนโหมวพยักหน้า ” ถ้าข้าเป็นท่าน ข้าก็คงไม่ต้องการอยู่ตามลำพังกับคนที่อันตรายเช่นข้า ที่ท่านกล้ามากับข้าสองคน ข้าก็แปลกใจ แล้วตี่ฉานและยู่โหลวเองก็เป็นกังวลเช่นกัน เขาได้เตือนข้าไว้ก่อนหน้านี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้านายของตน คนของข้าจะต้องรับผลกรรมนองเลือด “
ฉื่อหยาน ก็พูดอย่างสับสน ” ทำไมข้าไม่รู้เรื่องนี้ “
ทันทีที่อีเทียนโหมวได้บอกเขาเกี่ยวกับความจริง เขาก็รู้ได้ว่าตี่ฉานและยู่โหลว ทำเพื่อเขาจริงๆ ดังนั้นเขาคงไม่ต้องกังวลปัญหาใดอีก ด้วยตี่ฉานและยู่โหลวที่อยู่ข้างเขาและอยู่ใกล้กับเผ่าเสียงอสูร แม้ว่าอีเทียนโหมวตะมีแผนชั่วอะไร เขาก็คงไม่กล้าทำ
” นายท่าน ท่านอย่าได้กังวลไป” อีเทียนโหมวพูดขึ้น ” ก่อนหน้านี้ ท่านได้บอกเราว่า ตัวท่านไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเราทั้งสองเผ่า ตอนนั้นข้าได้คิดอย่างรอบคอบและก็ได้ยอมรับความจริงข้อนั้น ข้าเองก็เคยคิดที่จะทิ้งท่านไป อย่างไรก็ตาม ที่ข้าตัดสินใจอยู่เช่นเดียวกับ ตี่ฉาน และยู่โหลว ท่านรู้หรือไม่ทำไม ? “
ฉื่อหยานส่ายหัว ” ข้าไม่รู้ “
” เหมือนที่ ตี่ฉาน และยูโร่ว ได้กล่าวไว้ ท่านมีพรสวรรค์ที่น่าหวาดหวั่น ” อีเทียนโหมวตาสดใสขึ้นเรื่อย ๆ ” นายท่าน แม้ว่าท่านจะยังเด็ก แต่ความเข้าใจของท่านนั้นสูงมาก พื้นฐานการบ่มเพาะก็ลึกซึ้ง และยังมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ภายในร่างกายของท่าน นอกจากนี้ ท่านเป็นทายาทที่บรรพบุรุษของเราพูดถึง ด้วยทุกสิ่งเหล่านี้ที่รวมกันอยู่ในตัวท่าน ข้าก็ได้รู้แล้วว่านายท่าน เป็นความหวังของเผ่าพันธุ์ทั้งสองของเราอย่างแท้จริง แม้ว่าท่านจะยังคงอ่อนแอในตอนนี้ แต่ในอนาคตข้าเชื่อว่าท่านจะต้องแข็งแกร่ง”
ฉื่อหยาน ก็ประหลาดใจ
ดังนั้น ข้าหวังว่าท่านจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้อย่างรวดเร็ว . ” อีเทียนโหมว กล่าวอย่างจริงจัง
ฉื่อหยาน ก็เงียบ ครุ่นคิดสักพัก ก่อนค่อยๆพยักหน้าหัวของเขาและกล่าวว่า ” ข้าเข้าใจแล้ว “
อีเทียนโหมว สีหน้่าก็ผ่อนตลาย เขาชี้ไปข้างหน้าและกล่าวว่า ” มีกลุ่มนักรบตรงนั้น ท่านน่าจะมีอะไรต้องการถามพวกเขา เราไปกันเถอะ ? ! “
” ตกลง ” .
คราวนี้อีเทียนโหมวไม่ได้พาฉื่อหยานมาบินพร้อมกับเขา พวกเขาเลือกเดินไป หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เห็นกลุ่มของนักรบสิบคนที่ถืออาวุธในมือของตน และขี่ม้าอัคคีอยู่ที่ศูนย์กลางของเกาะมังกรเหมัน
ฉื่อหยานและอีเทียนโหมวเดินออกมาจากป่าที่มีสัตว์อสูรระดับที่สามหรือสี่หนาแน่น สำหรับนักรบเหล่านั้น สิ่งที่ได้มาจากสัตว์อสูรเหล่านี้ล้วนมีค่า โดยดูจากการแต่งตัวของพวกเขา ฉื่อหยานและอีเทียนโหมว เดาว่านักรบเหล่านั้นสมควรเป็นทหารรับจ้างที่มาเพื่อสำรวจบริเวณนี้
” ขอโทษที่รบกวนพวกเจ้า ” ฉื่อหยานก็เดินออกมาจากต้นไม้ ยืนอยู่ต่อหน้าคนเหล่านั้นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม ” ข้าคอถามทางไปยังตระกูลเคอเล่อได้หรือไม่ ? “
ตระกูลของลินดาคือ ตระกูลเคอเล่อ . เมื่อฉื่อหยานได้แยกจากนาง นางได้บอกเขาไว้อย่างดี
ฉื่อหยานปรากฏตัวทำให้คนเหล่านั้นตกกระใจด้วยความหวาดหลัว สีหน้าของนักรบสิบคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาหยุดม้าอัคคีของพวกเขาและมองมาที่ฉื่อหยายอย่างระวัง ชายชราผอมในหมู่พวกเขากระแอมขึ้นและพูดอย่างเย็นชา ” นี่เจ้ามาจากที่ใด ในเกาะมังกรเหมัน มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่รู้จักตระกูลเคอเล่อ ดูอย่างไรเจ้าก็เป็นคนนอก “
ฉื่อหยานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มในขณะที่หลี่ตาลงมองไปยังชายชราคนนั้น . เขาตระหนักได้ว่าชายชราอยู่ในนภาแรกชองระดับปฐพีและที่ยังแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา
” ใช่แล้ว ข้ามาจากเกาะอื่น ข้าต้องการไปที่ตระกูลเคอเล่อ ท่านจะบอกข้าได้หรือไม่ ? “
” ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ . ” ชายชราหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง เย็นชาและกล่าวว่า ” แต่เจ้ามีอะไรมาแลกเปลี่ยนหรือไม่หละ “
” ไม่ใช่ปัญหา ” ฉื่อหยานขว้างผลึกออกไป ผลึกก่อนนั้นกลายเป็นเส้นแสงไปยังชายชราคนนั้น สีหน้าของเขาที่เย็นชาในตอนแรก ทันทีที่ก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาจับผลึกก้อน เค้ามองมันอย่างรอบคอบก่อนที่จะเพลิดเพลินกับมัน และตะโกนออกมาดังๆ ” ผลึกดวงดาวระดับสูง “
” ตอนนี้ท่านจะบอกทางไปยังตระกูลเคอเล่อได้หรือยัง ? ” ฉื่อหยานรู้ว่าคริสตัลคุณภาพสูงนั้น มีค่าเป็นอย่างมาก นักรบเหล่านี้จะต้องสนใจแน่นอน เขาอมยิ้ม กล่าวว่า ” ข้ากำลังรีบ ท่านช่วยบอกข้าเร็วๆได้หรือไม่ ? “
” ผู้อาวุโสเที่ย นั่นเป็นผลึกดวงดาวของจริงรึ ? ” หนุ่มหล่อบนหลังม้าอัคคีก็ถามออกมาด้วยความตื่นเต้น
คนแก่ผู้ถูกเรียกผู้อาวุโสเที่ย ก็พยักหน้าในขณะที่สัมผัสไปบนคริสตัลอย่างร้อนรน เขามีความสุขมากกับคริสตัลที่อยู่ในมือ ความโลภของเขากลายเป็นมีมากขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ไอออกมาแห้งๆ , และกล่าวว่า , ” คริสตัล เพียงก้อนเดียวไม่เพียงพอ จะต้องนำมาอีกสามก้อน ”
หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา , นักรบอื่น ๆทันทีก็รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร พวกเขาทันทีก็ล้อมรอบ ฉื่อหยาน และหัวเราะออกมาอย่างระโมภ.
ฉื่อหยานขมวดคิ้ว ดวงตาของเขากลายเป็นคนเย็นชา จู่ๆ เขาก็เริ่มลงมือ โดยไม่รอให้มีใครพูดอะไร
ร่างของเขาอย่างรวดเร็วก็พรวดพราดไปที่ชายชราเหมือนกับสายฟ้าฟาด ฉื่อหยานตวัดแขนออกไปเหมือนกับคมดาบพุ่งตรงไปที่ท้องชายชรา
” พุก ”
เกิดเป็นหลุมเลือดขนาดเท่ากำปั้นปรากฏอยู่ที่กลางท้องของชาบชรา ฉื่อหยานร่างกายเล็กก็เคลื่อนไหวอีกเล็กน้อยและเขาก็ลงมือฆ่านักรบที่อยู่รอบๆ
หนึ่งนาทีต่อมา
นักรบ สิบคน ก็กลายเป็นกองเลือดและ ฉื่อหยานก็ได้ดูดซับพลังปราณลึกลับทั้งหมดของพวกเขา เขายังถามทางไปตระกูลเคอเล่อจากนักรบคนหนึ่งก่อนที่จะฆ่ามัน
อีเทียนโหมวไม่ได้แสดงออกใดๆ เขายืนอยู่ข้างๆ สังเกตอย่างเงียบๆ เขามองฉากที่ฉื่อหยานฆ่านักรบทิ้งสิบอย่างพอใจ ไม่มีใครสักคนเลยที่รอดชีวิตไปได้
สำหรับคนภายนอก การกระทำของฉื่อหยานนับได้ว่าโหดร้ายเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามสำรหับอีเทียนโหมวมันกลับทำให้เขาพอใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคิดในแง่ที่ดีต่อฉื่อหยาน ในขณะเดียวกันเขาก็ตระหนักได้ว่าคำพูดของตี่ฉานและยู่โหลวนั้นเป็นจริง
เมื่อตอนที่ฉื่อหยานอยูในดินแดนรกร้าง เขามักจะเชื่อฟังคำพูดและไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง ถึงแม้ว่าเขาได้แสดงความสามารถโดยธรรมชาติของเขา เขาก็ไม่เคยเปิดเผยแง่มุมเช่นนี้ต่อใครเลย
อีเทียนโหมวเป็นห่วงอยู่เสมอว่า ถึงฉื่อหยานมีความสามารถโดยธรรมชาติ แต่หากขาดบุคลิกที่จำเป็นอื่น ๆ ที่เหมาะสม มันก็ไม่ใช่เรื่องดี อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้เห็นการกระทำที่โหดเหี้ยมของฉื่อหยาน ในที่สุดเขาก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น .
จนถึงตอนนี้เขา ได้ยอมรับฉื่อหยานให้เป็นนายเหนือหัวจากใจจริง ถึงแม้เขาจะมีระดับการบ่มเพาะต่ำก็ตาม
เขาคราบเลือดออกจากแขนของเขา ฉื่อหยานก็เดินมาด้านข้างอีเทียนโหมวด้วยใบหน้าเย็นชาและพูดว่า ” ไปกันเถอะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราก็ควรไป “
” ขอรับ ” อีเทียนโหมวตอบ มันดูเหมือนว่าในน้ำเสียงของเขาจะเต็มไปด้วยความเคารพมากขึ้น แล้วเขาพาฉื่อหยานบินขึ่นไปพร้อมกับเขา
หลายหมู่บ้านและเมืองตั้งอยู่ที่ตีนภูเขามังเหมัน เต็มไปด้วยนักรบมากมาย สามารถพบกับผู้ที่ฝึกบ่มเพาะและฝึกวิชาได้มากมายในบริเวณนี้
ภูเขามังกรเหมันคือพื้นที่สำคัญของเกาะมังกรเหมัน ที่นี่มีสมุนไพรพิเศษมากมาย และยังมีกลิ่นอายธรรมชาติที่บนเขาหนาแน่น นี่เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์สำหรับการฝึกบ่มเพาะ
ดังนั้น นักรบบนเกาะมังกรเหมันจึงมารวมอยู่กันที่ภูเขามังกรเหมัน
ฉื่อหยาน และอีเทียนโหมวข้ามผ่านหมู่บ้านและเมืองที่อยู่ด้านหน้าไปเรื่อยๆ แล้วเขาก็เห็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตั้งอยู่ที่ตีนภูเขามังกรเหมัน .
ตระกูลเคอเล่อ เป็นหนึ่งในสามตระกูลที่อยู่บนเกาะมังกรเหมัน พวกเขาอาศัยอยู่ที่ตีนเขามังกรเหมันตลอดทั้งปี พวกเขาเป็นสาวกของพรรคสามเทพ และยังถือว่าเป็นขุมพลังภายนอกของพรรคสามเทพด้วย
ฉื่อหยาน และอีเทียนโหมว มก็าถึงที่ประตูตระกูลเคอเล่อ ฉื่อหยานเผยยิ้มและบอกว่าเขามาหาลินด้า
ทันทีที่ ฉื่อหยาน กล่าวว่าเขาต้องการที่จะพบกับคุณหนูของตระกูล ทหารเฝ้ายามทั้งสองก็สังเกตุเขาตั้งแต่หัวจราดเท้า หลังจากนั้น หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาว่า ” เจ้าเด็กน้อย เจ้าเป็นใคร ? คุณหนูของเรากำลังยุ่งกับหลายเรื่อง อย่าได้มาพูดเรื่องไร้สาระ ถ้าเจ้าไม่อยากเสียหน้า “
” เจ้า ช่วยไปบอกคุณหนูของเจ้าทีว่า ฉื่อหยาน มาพบ”
” ค่อยกลับมาในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ คุณหนูของเรากำลังอยู่ในห้องโถงหลักและกำลังหารือกับญาติทั้งสองอยู่. นางย่อมไม่มีเวลาที่จะพูดคุยกับเจ้าในวันนี้ ” ทหารยามขมวดคิ้วและพูดกับ ฉื่อหยาน ” เจ้ามาที่นี่วันพรุ้งนี้ ตอนนั้นข้าจะรายงานคุณหนู ตอนนี้ไม่สามารถทำได้ “
อีเทียนโหมวขมวดคิ้ว และหันไปถามความเห็นของฉื่อหยาน ” จัดการเลยหรือไม่ . . . . . . . ? “
ฉื่อหยานพยักหน้า
การ์ดสองคนก็สับสน ดวงตาของพวกเขาเริ่มพร่ามัว . และร่างของพวกเขาก็ล่วงหล่นบนพื้น
แล้วฉื่อหยานก็เดินเข้าไปด้านใน
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 21 แล้ว มีถึงตอนที่ 926 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <