บทที่ 286 แข็งแกร่ง
ตี่ฉาน ดูสงบมาก เขายืนอยู่ด้านหน้า ฉื่อหยาน พร้อมกับปีกสำดำด้วยความสงบ พลังที่เป็นเหมือนกับพายุไซโคลนสามารถเห็นได้อย่างชัดเขน มันปรากฏอย่างต่อเนื่องจากปีกของเขาคและครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดรอบๆฉื่อหยาน
แสงสีดำเหมือนกับหมึกวงกลมปรากฏที่ละวงข้างๆ ฉื่อหยานแล้วมันก็ค่อยๆกระจายกันออกไป
กลิ่นอายผิดปกติที่ดูอึมครึม เป็นเหมือนกับมหาสมุทรกระแสน้ำวน หมุนอยู่รอบๆฉื่อหยาน กลิ่นอายนี้ดูราวกับว่าแม้แต่ดาบที่โจมตีมาของนักรบระดับพระเจ้าก็มิอาจทำอะไรได้
กู่เฉาดวงตาส่องประกายออกมา ใบหน้าของเขากลายเป็นจริงจังและพูดอย่างเย็นชา ” คนเผ่ารึ ” ?
ตี่ฉาน เป็นปีกสีดำของเขาที่เด่นสะดุดตา ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นก็สามารถเดาตัวตนของเขาได้ทันที
ในทะเลเคียร่าสถานการณ์ปัจจุบันมันซับซ้อนเป็นอย่างมาก การบุกลุกของเผ่าอสูรนั้นเป็นเรื่องที่วิกฤตเป็นอย่างมาห ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ ตัวตนของตี่ฉานจึงเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ตี่ฉานที่มีระดับการบ่มเพาะที่ระดับพระเจ้า
” แล้วไง ? ” ตี่ฉาน พูดเบาๆอย่างเรียบเฉย เรามาจากหุบเหวสนามรบ และต้องการที่จะกลับมาอาศัยที่พื้นดินอุดมสมบูรณ์แห่งนี้มาเป็นเวลานาน ดังนั้น โลกใบนี้เองก็เคยเป็นของเรามาก่อน ขณะที่เราจากแผ่นดินนี้ไปเป็นเวลานาน พวกเจ้าก็ได้ครอบครองมัน แต่เนื่องจากตอนนี้เราได้กลับมาแล้ว เราก็มีสิทธิที่จะเรียกคืนทรัพยากรส่วนหนึ่งของเราคืน
กู่เฉาสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ยู่ชิงก็ แสดงออกอย่างหวาดหลัว
” พวกเจ้าต้องการจะได้รับแผ่นดินส่วนหนึ่งงั้นรึ ? ” กู่เฉา สูดหายใจเข้าลึกๆ ลักษณะของเขาดูแปลกไป ” ในช่วงเวลาที่วิกฤตเช่นนี้ คำขอของเจ้ายากที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าคนเดียวไม่แข็งแกร่งที่จะได้รับอะไรจากทะเลเคียร่า”
เส้นสายมากมายของกลิ่นอายดาบก็พุ่งออกไปจากร่างกายของกู่เฉา .
กลิ่นอายดาบห้าสีส่องแสงประกาย เป็นเหมือนกับสายฟ้าคำรามที่ยิ่งใหญ่อยู่บนท้องฟ้า , และมันก็พุ่งไปยังตี่ฉาน ด้วยพลังทำลายล้างที่น่ากลัว
เส้นสายกลิ่นอายดาบ เป็นเหมือนกับงูมันเลื้อยไปทั่วท้องฟ้าและพื้นดิน
กลิ่นอายดาบฉีกกระฉากอากาศออกเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางกลิ่นอายเกิดเสียงดังเจาะแก้วหู พื้นที่รอบๆ ตี่ฉาน กลายเป็นฉีกขาด เกิดเป็นรอยแยกห้าสีที่งดงามขึ้น
แรงดึงดูดที่รุนแรงและหน่าแน่นไหลทะลักออกมาจากรอยแยกราวกับว่ามันต้องการจะกลืนกินทุกอย่าง
บ้านไม้จำนวนมากถูกดูดขึ้นไปบนท้องฟ้าจากพื้นดินและลอยตรงเข้าไปยังรอยแยกเหล่านั้น
ที่ตีนภูเขามังกรเหมัน แม้แต่หินขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนกับภูเขาเล็กก็ไม่สามารถคงอยู่ได้ ด้วยแรงดูดที่รุนแรง พวกมันลอยขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง และถูกดึงเข้าไปในรอยแยกห้าสี แล้วพวกมันทั้งหมดก็หายไปในพริบตา
สีหน้าของฉื่อหยานก็เริ่มแสดงออกอย่างหวั่นไหว
การโจมตีของนักรบระดับพระเจ้า สามารถทำให้โลกสั่นสะเทือนได้ มันฉีกอากาศและสร้างเป็นรอยแยกดูดกลืนทุกสิ่ง
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ กลิ่นอายดาบที่สามารถสั่นสะเทือนสวรรค์ได้ ซึ่งมันเกิดขึ้นจากกู่เฉา .
ภายใต้การควบคุมกลิ่นอายดาบที่สั่นสะเทือนสวรรค์เหล่านี้ รอยแยกเหล่านี้ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ มันเปลี่ยนทิศไปตามความต้องการของเขา
นี้เป็นครั้งแรกที่ฉื่อหยานเห็นพลังที่น่ากลัวของนักรบระดับพระเจ้าด้วยตาของเขาเอง ด้วยพลังอำนาจที่กู่เฉาแสดงออกมาทำให้ฉื่อหยานกังวลเป็นอย่างมาก เขารู้สึกเป็นห่วงตี่ฉานเล็กน้อย
ยูโร่ว ตี่ฉาน นั้นเป็นระดับสูงสุดของเผ่าปีกและระดับการบ่มเพาะของพวกเขาแปลกประหลาดและมิอาจคาดเดาได้ แต่มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงท้องฟ้าและพื้นดินได้
อย่างไรก็ตาม ฉื่อหยาน ยังไม่เคยเห็นความสามารถที่แท้จริงของตี่ฉานเลย แม้ว่าฉื่อหยานจะรู้ว่าร่างกายของเผ่าปีกจะแข็งแกร่งและทนทาน ประกอบกับพลังของพวกเขาที่แข็งแกร่งกว่านักรบทั่วไปในระดับเดียวกัน เขาก็ยังกังวลเล็กน้อย เค้ากลัวว่าตี่ฉานจะพ่ายแพ้ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงของกู่เฉา
ตี่ฉานดวงตาก็หลี่ลงเล็กน้อย
ปีกสีดำของเขากระพือเบาๆ และวงกลมแสงสีดำเหมือนหมึกก็ค่อยๆกระจายออกไปทุกที
สงกลมแสงสีดำถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน แต่ละวง ประสานกันที่ละวง ในช่วงกลางของการเชื่อมโยง แสงสีดำเป็นประกายก็ดื้นพล่านไปมาและจากนั้นก็แพร่กระจายออกไปทั่ว
กลิ่นอายจิตสังการทั้ชั่วร้ายค่อยๆกระจายออกมาอย่างเงียบๆ .
วงกลมแสงสีดำค่อยๆเข้าไปใกล้กับรอยแยกและครอบคลุมกลิ่นอายดาบ
ตี่ฉาน ควบคุมมันอย่างช้าๆและเบาๆเหมือนกับก้อนเมฆและสายลมที่อ่อนโยน ลักษณะของเขาสุขุมเป็นอย่างมากโดยไม่แสดงออกถึงความกลัวใดๆออกมา
กลับกัน กู่เฉากลายเป็นตกตะลึง
ที่วงกลมของแสงสีดำ ดูเหมือนพวกมันตะครอบคลุมกลิ่นอายดาบทั้งหมดของกู่เฉา และปิดกั้นพลังของมันด้วยเวลาเพียงสั้นๆ
” แกร๊กก “
เสียงแตกร้าวของอากาศดังขึ้น . กลิ่นอายดาบที่ถูกครอบคลุมกลายเป็นจุดแสง แล้วหายตัวไปพร้อมกับรอยแยกที่เกิดขึ้น
เพียงครู่เดียวต่อมา รอยแยกทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็หายไป
วงกลมของแสงสีดำหมุนวนอยู่ที่รอยแนกเหล่านั้นจากนั้นก็พองตัวแล้วก็เกิดระเบิดแสงสีดำขึ้นนับไม่ถ้วน
ร่างกายกู่เฉาก็สั่นเทาเล็กน้อย สายตาของเขามองออกไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความกลัว เขาก้าวถอยหลังเล็กน้อยด้วยความกลัวและกลับไปยืนอยู่ข้างๆ ยู่ชิง.
ตี่ฉานยังคงยื่นนื่งอย่างโอ่อ่า . ปีกสีดำทั้งหมดของเขาก็หยุดก็พรือ . เขามองไปที่กู่เฉาเงียบๆ แล้วกวาดมองไปที่ยู่ชิงด้วยความดูถูก
” อะไร ? เจ้าสองคนจะร่วมมือกันสู้กับข้ารึ ? “
กู่เฉาไม่ตอบ ใบหน้าของเขาดูไม่รื่นรมย์ ยู่ชิงตะโกนออกมาเล็กน้อย รอยบ่นบนใบหน้าของนางกลายเป็นแข็งตรึง . แสงสีขาวประหลาดเป็นเหมือนระลอกคลื่นบนใบหน้าที่เหี่ยวย่นของนาง
ร่างกายของนางที่งออยู่ตอนนี้ก็ค่อยๆเหยียดตรงขึ้นพร้อมกัยชุดของนางที่โบกสะบัดไปมา
ภายใต้การพิจารณาของฉื่อหยานพิจารณาริ้วรอยบนใบหน้าของนางที่ดูเหมือนหญิงชรา 80 ก็ค่อยๆหายไป
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นเรียบเนียนและขาวดูงดงาม . คอและหูของนางเองก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วผิวของนางกลายเป็นนุ่มนวลเหมือนกำมะหยี่ ยืดหยุ่น และเต่งตรึ่ง
ความสูงของนางก็เพิ่มขึ้น 5-6 เซนติเมตร
ในเวลาอันสั้น จักพรรดินีศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิด นางกลายเป็นสาวงามยสามสิบปี ความงดงามของนางสามารถกำหราบใจชายได้ทุกคน
ผิวของนางตอนนี้ สีครีมขาว ดวงตาคู่สวยของนางเต็มไปด้วยคลื่นพลังและร่างกายของนางเต็มไปด้วยพลัง
” จักพรรดินีศักดิ์สิทธิ์กำลังจะลงมือแล้ว” ในบ้าไม้สี่ชั้น ใบหน้าที่งดงามของซูหยานซิงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อยและดวงตาก็เต็มไปด้วยความสับสน
” ตำนานกลับกลายเป็นความจริง . . . . . . . ” ฉาวจื่อหลานพึมพำกับตัวเอง ” ถ้านางจะลงมือ นางจะกลับมาสู่วัยเยาว์ และเข้าสู่ร่างที่แข็งแกร่งที่สุด เคล็ดวิชาอาคมของดินแดนทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์นั้นน่ากลัวยิ่งนัก เท่าที่ข้าเห็นราวกับว่ามันเป็นพรจากพระเจ้า แต่ก็น่าเศร้า ที่นางจะต้องไม่สามารถทำอะไรในการต่อสู้นี้ได้เลย “
พานโจวคอตกอย่างเงียบๆ เขาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอย่างน่าสังเวช ” ข้าหวังส่า สถารการณ์จะไม่แย่ไปกว่านี้นะ “
” ข้าเกรงว่าคงจะไม่ทันแล้วหละ ” ฉาวจื่อหลาน ส่ายหน้า ราวกับนางรู้บางสิ่ง และช่วยไม่ได้ที่พูดออกมาเบาๆด้วยสีหน้าประหลาด
นักรบทั้งสามที่นั่งอยู่ข้างๆพานโจว ที่มาจากดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์และตระกูลกู่ .ก็กลายเป็นมีลักษณะเดียวกับพานโจว พวกเขารู้สึกโชคดีที่รอดจากการทดลองวิญญานของฉื่อหยาน
ในเวลานี้ นักรบทั้งสามดูเหมือนกับว่สเรี่ยวแนงถูกดึงออกไป ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว
ร่างกายของเขาก็ค่อยๆ บินไปในอากาศอย่างรวดเร็วลอยออกจากรูปแบบป้องกัน แล้วปรากฏข้างหน้าฉื่อหยาน
ภายใต้การจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อของฉาวจื่อหลาน กูหลิงหลง พานโจว และฮั่วเมิง ฉื่อหยานยิ้มบางๆและชี้ไปที่นักรบที่ถูกคุมอยู่ ด้วยพลังบางอย่าง เขาก็ตะโกนออกมา ” ระเบิด “
” ตูม ตูม ตูม “
หัวของนักรบทั้งสามทันทีก็ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ
สามนักรบ ที่กำลังหวาดกลัวและตื่นตระหนก ก็ถูกฆ่าตายในพริบตา หัวของพวกเขาระเบิดออก และเลือดสดๆก็ไหลทะลักมาจากด้านบนหัวของพวกเขา พวกเขาตกตายทันที
กู่เฉา และยู่ชิงใบหน้าก็กลายเป็นสีม่วงคล้ำด้วยความเดือดดาล
” นี่เป็นแค่เริ่มต้น ” ฉื่อหยาน หันหัวกลับไปมองที่กลุ่มของกู่หลินหลง และ ฮั่วเมิง ที่อยู่ไกลออกมา เขาแสยะยิ้มชั่วร้ายและชี้ไปยังคนเหล่านั้น
จู่ๆ กูู่หลินหลงและซูหยานซิงสองสาวก็ถูกควบคุมด้วยพลังบางอย่าง จากนั้นก็ลอยขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ฉาวจื่อหลาน ฮั่วเมิง ฮวางหน่าน และ เหอซิงเหมินทุกคนก็สั่นสะท้านพร้อมกับใบหน้าที่หวาดกลัว และจ้องมองไปยังสองสาวที่ค่อยๆลอยขึ้น
หลังจากการตายของสามนักรบ ฉาวจื่อหลาน ก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องมีการตายเกิดขึ้น ขณะที่นางมองฉื่อหยานที่กำลังยิ้มอย่างโหดร้าย นางก็รู้สึกอ่อนแรง และหวาดกลัว
” ไม่ ! ” เหอซิงเหมินพูดขอร้องออกมา ” ฉื่อหยาน ได้โปรดอย่า ถือว่าเห็นแก่ข้า ปล่อยพวกนางไปเถอะ อย่าฆ่าพวกนางเลย !
ฉื่อหยานไม่เคลื่อนไหวใดๆ ดวงตาของเขาแสดงออกอย่างไม่แยแส
ร่างบอบบางของกู่หลินหลงและซูหยานซิงก็สั่นสะท้านและพวกนางก็ช่วยไม่ได้ที่จะแสดงออกด้วยความหวาดกลัว พวกนางจ้องฉื่อหยานที่ปรากฏเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้พวกนางเริ่มที่จะรู้สึกสิ้นหวัง .
” หลินหลงเอ๋อ ! ”
” ซิงเอ๋อ “
กู่เฉาและยู่ชิง ก็กลายเป็นตกใจ และช่วยไม่ได้ที่จะร้องออกมา
ตำแหน่งของนักรบทั้งสามก่อนหน้านี้อาจไม่สำคัญพอ แต่ข้าคิดว่านางทั้งสองก็น่าจะพอนะ ” หน้าของฉื่อหยาน ก็สงบ เสียงของเขาดูเย็นชา เขามองไปที่กู่หลินหลงและซูหยานซิง แล้วส่ายหัวแล้วพูดว่า ” น่าเสียดายนัก ที่ข้ายังไม่ได้คุยกับพวกเจ้าจริงๆเลย . . . . . . . “
” เจ้าเด็กน้อย เจ้าชนะแล้ว “! กู่เฉาถอนหายใจ กลิ่นอายดาบที่แหลมคมทั้งหมดบนร่างกายของเขาก็หายไปในพริบตา
ใบหน้าขาวเนียนของยู่ชิงก็สั่นสะท้านเล็กน้อย ริ้วรอยก็ปรากฏบนใบหน้าของนางเพียงเวลาไม่นาน นางกลับมามีรูปลักษณ์ของหญิงชราวัย 80
ยู่ชิงมองไปที่ฉื่อหยานด้วยความโกรธ และตะโกน ” เจ้าต้องการอะไรกัน ? “
” ข้าต้องการอะไรรึ ? ” ฉื่อหยานก็คิดสักพักก่อนจะสั่นศีรษะของเขา ” ข้ายังคิดไม่ออก แต่ ถ้าพวกท่านเชื่อฟัง พวกนางก็ยังคงมีชีวิตอยู่ “
สายตาของกู่เฉา และยู่ชิงก็เต็มไปด้วยความโกรธ แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากจะช่วยกู่หลินหลง และ ซูหยานซิง แต่จาดสิ่งที่เกิดขึ้น ฉื่อหยานนั้นยังไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ และ ตี่ฉานเองก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร
นี้หมายว่าคนที่พาซูหยานซิงและกู่หลินหลงออกมาไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นคนอื่น
กู่เฉาและยู่ชิงเป็นนักรบระดับพระเจ้า พวกเขาค่อยๆสัมผัสไปรอบๆ แต่ก็ไม่สามารถระบุตัวตนลึกลับคนนั้นได้
นี่ทำให้พวกเขาทั้งสองกังวลเป็นอย่าง พวกเขาไม่รู้ว่าคนที่ซ่อนตัวอยู่นั้นได้วางรูปแบบวิญญานไว้ในกู่หลินหลงและซูหยานซิงหรือไม่ พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง และทำได้เพียงยอมรับอย่างไม่สบอารมณ์ .
” เราจะไม่มีลงมือทำอะไรอีก ” กู่เฉายืนยันด้วยสีหน้าแปลกๆ
ยู่ชิงพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ .
” ไม่เป็นไร ” ฉื่อหยานเผยรอยยิ้ม แต่ภายในจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาโบกมือมือของเขาออกไปและสองสาวก็ลอยกลับไป
ภายใต้การจ้องมองของกู่เฉาและยู่ชิง กู่หลินหลงและซูหยานซิงก็ลอยกลับเข้าไปในบ้านไม้ ร่างของพวกนางค่อยๆลอยถอยหลังแล้วหายตัวไปอย่างผิดปกติ
สีหน้าของกู่เฉา แลยู่ชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง แววตาของพวกเขากลายเป็นระวังมากขึ้น
” เอาหละ ตอนนี้เราเหมาะที่จะพูดคุยกันหรือยัง ?” หลังจากที่สองสาวได้กลับไปยังบ้านไม้ ฉื่อหยานก็ป้องมือเข้ากัน ด้วยลักษณะที่เคารพเหมือนก่อนหน้านี้” ท่านผู้อาวุโส เชิญนั่ง ” .
แม้ว่าฉื่อหยาน จะได้พูดเชิญนั่ง แต่กลับไม่มีเก้าอี้
กู่เฉาและยู่ชิงกระแอมออกมาและนั่งขัดสมาธ บนพื้นที่แข็งกระด้างและเปรอะเปลื้อน พวกเขามองฉื่อหยาน และสงสัยว่าเขาต้องอะไรกันแน่
” เราจะคุยกันเรื่องค่าชดเชยก่อน ” ฉื่อหยานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 22 แล้ว มีถึงตอนที่ 976 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <