เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 30 ภายในโพร่งไม้

บทที่ 30 ภายในโพร่งไม้

 

ฉื่อหยานฟื้นคืนสติมากลางคันขณะที่กำลังทำกับตี่ย่าหลาน

ร่างกายของเขายังคงห่ำหันกับหญิงสาวอยู่พร้อมกับมีคลื่นแห่งความสุขที่พวยพุ่งเข้ามาในร่างของเขา ถึงแม้จะหลับตาเขาก็สามารถรู้ได้ทันทีเลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

มือของเขาข้างหนึ่งอยู่ที่สะโพกของตี่ย่าหลาน ก็ดึงร่างกายอันทรงเสน่ห์ของนางเข้ามากระชั่บแน่นขึ้น และมืออีกข้าง ก็บีบนวดอยู่ที่บนหน้าของนาง .

ร่างกายที่เร่าร้อนของตี่ย่าหลาน อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาลูบคลำโอบรัดไปทั่วทั้งร่างของนางเหมือนกับอสรพิษ แววตาของนางตกอยู่ในห้วงแห่งความสุขพร้อมกับขับเหงื่อรสหวานออกมาบนร่างของนาง นางไม่สามารถทำอะไร ทำได้แต่โยกสะโพกไปตามจังหวะของเขาด้วยความตื่นเต้นและความสุขเท่านั้น

ความคิดมากมายกำลังผ่านเข้ามาในจิตใจของฉื่อหยานขณะที่ดวงตาของเขายังคงปิดอยู่และ มือของเขายังคงลูบคลำอยู่เช่นกัน

ร่างกายส่วนร่างของเขาและนาง ต่างก็กำลังเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมนี้

เมื่อเทียบกับการกระทำที่หยาบกระด้างก่อนหน้านี้ หลังจากที่เขาได้สติฉื่อหยานชะลอการเคลื่อนไหวของเขาลงเล็กน้อยและเขาเริ่มที่จะทำสัมผัสด้วยความนุ่มนวล และด้วยความชำนาญ

มือของเขาเหมือนกับกำลังร่ายอาคม เมื่อเขาขยับมือเหล่านั้นบนร่างกายของตี่ย่าหลาน เขาก็จะรู้ได้ถึงทุกจุดที่ทำให้ตี่ย่าหลางตอบสนองได้เป็นอย่างดี

ทันใดนั้น เขาก็พลิกร่างกายของตี่ย่าหลาน และทำให้หน้าอกที่น่าประทับใจของนางอัดเข้ากับต้นไม้ในขณะที่สะโพกของนางยังถูกแทงอย่างต่อเนื่องโดยฉื่อหยาน นางยกสะโพกอวบของนางขึ้นขยับและควงไปมา นางสับเปลี่ยนตำแหน่งกับฉื่อหยานและเพลิดเพลินต่อไป

มู่หยู่เตี๋ยก็หมดความอดทน นางรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากและหน้าของนางก็แดง . นางโน้มร่างบอบบางของนางลงบนอีกด้านของต้นไม้ ดวงตาคู่สวยของนางยังคงจ้องมองไปที่ พวกเขา ที่กำลังกระทำกันอย่างดุเดือด

ดวงตาของฉื่อหยานยังคงปิดอยู่ เขากำลังเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาเหล่านี้ เขาปลดปล่อยความปรารถนาที่หื่นกระหายที่สุดออกมาจากร่างกายของเขา และดูเหมือนว่ามันจะเร่งกระบวนการกลั่นพลังปราณลึกลับภายในเส้นชีพจรของเขา

ตี่ย่าหลานสติของนางได้หายไปกับคลื่นความสุข นางไม่ได้ทำอะไรเลย ทำแต่เพียงประสานงานกับความเคลื่อนไหวของ ฉื่อหยานเท่านั้น

ไม่นาน ฉื่อหยานรู้สึกได้ถึงคลื่นความสุขที่รุนแรงเอ่อล้นอยู่ในจิตใจของเขาอย่างมันปกคลุทจิตใจของเขาอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เขาไม่สามารถหยุดได้อีกแล้ว ด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ยอดเยี่ยม เริ่มไหลออกจากเส้นชีพจรและวิ่งเข้าไปในร่างกายของเขา

เมื่อพลังแปลกๆนี่ไหลไปถึงท้อง มันแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งไหลร่วมไปที่พลังปราณลึกลับของเขา ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งผสมเข้ากับแก่นแท้ในร่างกายของเขา และเขาก็ได้ปลดปล่อยบางอย่างเข้าไปในภายตี่ย่าหลานพร้อมกับที่นางถึงจุดสุดยอด

ด้วยการที่เห็นชายหนุ่มและหญิงสาวที่อ้าปากขึ้นพร้อมกับขับเหงื่ออกมา มู่หยู่เตี๋ยก็สูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดของนางไป นางล้มลงบนพื้น พร้อมกับลมหายใจที่หนักขึ้น จิตใจทั้งหมดของนางกลายเป็นขาวโพลนอย่างสมบูรณ์

. . . . .

ฉื่อหยานค่อยๆเคลื่อนตัวออกจาก ตี่ย่าหลาน . เขาดึงกางเกงของเขาขึ้นและนั่งอยู่ในความเงียบสงบและเริ่มโคจรพลังปราณลึกลับที่อยู่ภายในร่างกายของเขา

ตี่ย่าหลาน ได้สูญเสียพลังทั้งหมดของนางเช่นกัน นางนอนป้อแป้อยู่บนพื้นดิน ร่างทั้งร่างของนางสะท้อนแสงออกมากลัดกับผิวสีทองแดงที่เซ็กซี่ของนาง จากนั้นไม่นานนางก็ได้สติ นางสวมใส่กระโปรงหนังด้วยใบหน้าที่แดง และค่อยๆ นั่งลง

พวกเขาทั้งสามคนยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ในต้นไม้

มู่หยู่เตี๋ยเป็นคนแรกที่ทำให้จิตใจสงบได้ แม้ว่าใบหน้าของนางก็ยังคงแดงอยู่เล็กน้อย นางใช้ตาที่สวยงามของนางมองไป ระหว่างฉื่อหยาน และ ตี่ย่าหลาน ด้วยความคาดหวังอะไรสักอย่าง

ฉื่อหยาน ภายนอกเขาดูสงบ และเขาก็เอาแต่หลับตา มุ่งเน้นความสนใจไปที่พลังแปลกๆที่อยู่ในพลังปราณลึกลับของเขา และระหว่างที่เขาถึงจุดสุดยอด มันได้โคจรไปหลอมรวมกับพลังปราณลึกลับของเขาอย่างช้าๆผ่านร่างกายของเขา เขานั้นไม่ต้องการที่จะพลาดโอกาสที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาไป

ตี่ย่าหลาน นี่นไม่ได้ลืมตาขึ้นมา แต่นางก็รู้ว่ามู่หยู่เตี๋ยนั้นกำลังจ้องนางอยู่ตลอดเวลา ด้วยความอาย นางตึงไม่กล้าที่จะลืมตาและมองกลับไป นางอายเป็นอย่างมากถึงขนาดอยากจะฝังตัวเองลงพื้นดิน

ฉื่อหยานนั้นได้บังคับและขืนใจนาง ภสยในต้นไม้ต้นนี้ ต่อหน้ามู่หยู่เตี๋ย และนางเองก็ไม่ได้ไม่เห็นด้วย ที่แย่ไปกว่านั้น คือ นางยังสนุกกับมันในระหว่างที่ถูกกระทำอีก นางรู้สึกละอายตัวเองยิ่งนัก แม้นางจะเป็นผู้หญิงสบายๆและไม่ขี้อาย แต่นางก็รู้ว่าความบ้าคลั่งในครั้งนี้ ได้ล้ำเส้นความเป็นตัวนางไปมากนัก นางอายเกินกว่าจะเผชิญหน้ากับมู่หยู่เตี๋ย

ในเวลานั้น , ความตื่นเต้นแปลกๆก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นและแพร่กระจายออกมาจากส่วนที่อ่อนไหวของร่างกายส่วนล่างของนาง ช่วยไม่ได้ที่ตี่ย่าหลาน จะหวั่นไหว และนางก็เกือบจะครางออกมาอีกครั้ง

นางบิดร่างของนางไปมา และแอบเรียกตัวเองเป็นโสเภณี จากนั้นนางก็รีบมุ่งความสนใจของนางไปที่เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกายของนาง

หลังจากที่ตี่ย่าหลานได้สังเกตุถึงความเปลี่ยนแปลง นางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป พลังในตัวของนางได้กลายเป็นสองกระแส หนึ่งกระแสไหลอย่างช้าๆไปที่ท้องของนาง ในขณะที่อีกกระแส ได้ไหลผ่านไปรอบๆหน้าอกและกล้ามเนื้อของนาง ซึ่งดูเหมือนมันจะเปลี่ยนแปลงหน้าอกของนางนางอย่างลับๆ

นางรู้สึกได้ว่ากระดูกและเนื้อ กล้ามเนื้อและหลอดเลือดที่หน้าอกนางจะกำลังเปลี่ยนแปลงบางไปอย่างเหลือเชื่อ และเป็นสิ่งที่นางไม่สามารถอธิบายได้

 

พลังงานแปลกๆได้ผสมกับพลังปราณลึกลับของนาง และไหลลงในช่องท้อง , จากนั้นมันก็ปลดปล่อยคลื่่นพลังจากออกมาภายใน

พลังปราณลึกลับของนางได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก !

ตี่ย่าหลาน ช่วยไม่ได้ที่นางจะอุทานออกมา . นางรีบมุ่งไปที่การโคจรพลังปราณลึกลับของนางที่เปลี่ยนไป ให้มันโคจรไปทั่วๆร่าง

. . . . .

แสงจันทร์สว่างส่องแสงไปในต้นไม้ และพื้นที่เล็กๆภายในก็สว่างขึ้น

ฉื่อหยานค่อยๆตื่นขึ้นมา หายใจอย่างช้าๆและสงบเป็นจังหวะ

ตอนนี้ เขาได้บรรลุถึงนภาที่ 2 ในระดับก่อตั้งแล้ว !

ด้วยความช่วยเหลือของพลังประหลาดนั้น ฉื่อหยานได้ปรับปรุงตัวเองขึ้นไปอีกระดับ และได้ไปถึงนภาที่ 2 ของระดับก่อตั้ง .

หลังจากที่เขาตื่นนอน ฉื่อหยาน พบว่าบาดแผลบนไหล่ของเขาไม่ได้เจ็บปวดอีกต่อไป นี่ย่อมเป็นความช่วยเหลือของจิตวิญญาณอมตะแน่นอน , กระดูกและกล้ามเนื้อของเขาเองก็ค่อยๆฟื้นฟูและกู้คืนด้วยความเร็ว

ด้วยความเร็วเช่นนี้ มันจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เพื่อที่เขาจะหายดี

เมื่อเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ฉื่อหยานก็สังเกตเห็นว่า กำลังมีดวงตาคู่ที่สดใสจ้องมาที่เขา แต่เมื่อเขาหันไปมอง ดวงตาคู่สวยนั้นก็ได้หันกลับไปอย่างรวดเร็ว

” แม่นางมู่ เหตุใดเจ้าจึงยังไม่นอนรึ ? ” ฉื่อหยานกล่าวด้วยเสียงสงบ และเขาก็คิดว่ามีอะไรแปลก ๆติดอยู่บนหน้าของเขา

เห็นฉื่อหยานมองกลับมาที่นาง มู่หยู่เตี๋ยก็อายเกินไปที่จะมองเขาตรงๆ นางรีบหันกลับไปทันที นางเชิดหน้าหนีด้วยความเขินอายและเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับเขา จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ” เจ้าสองคนทำเรื่องอย่างว่าเสียงดังมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะหลับลง “

” เอ่อ… อภัยด้วยที่ข้าไปรบกวนเจ้า ครั้งหน้าข้าจะจดจำไว้ ” ฉื่อหยานหัวเราะด้วยความอับอาย และพูดปกป้องตัวเองออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ” ต้องมีอะไรผิดปกติกับร่างกายของข้าแน่นอนเลย ข้ารู้สึกเหมือนมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับข้า และมันก็ควบคุมจิตใจของข้า ข้าไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย ข้าขออภัยจริงๆ”

” หมายความว่า ระหว่างที่เจ้าทำเรื่องอย่างว่าเจ้าไม่ได้สติงั้นรึ ? ” มู่หยู่เตี๋ยกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของนาง ” เจ้าจะบอกว่าตอนแรกที่เจ้าทำไปเช่นนั้น เพราะไม่ได้สติ แต่หลังจากนั้นหละ . . . . . . . เจ้าจะต้องได้สติแล้วอย่างแน่นอน ! ไม่อย่างนั้น . . . ไม่อย่างนั้นเจ้าคงจะไม่ . . .ไม่ทำเช่นนั้นแน่ . . . “

มู่หยู่เตี๋ยอายเกินไปที่จะพูดต่อประโยคของนาง นางเป็นคนอยู่ตรงนั้น ตอนที่ฉื่อหยานกำลังใช้ทักษะลีลาลับกับตี่ย่าหลาน .

ในจิตใต้สำนึกของพวกเขาในขณะที่ห่ำหันกัน พวกเขาไม่ได้คิดถึงใครเลย ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ทุกลีลาทุกเทคนิคและทุกๆท่าที่แตกต่างกันหรือสลับตำแหน่งระหว่างมีอะไรกันเพื่อหาความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์อย่างบ้าคลั่ง และดังนั้น มู่หยู่เตี๋ยมั่นใจเลยว่า ฉื่อหยานต้องได้สติก่อนที่เขาจะเสร็จในตัวฉื่อหยานเป็นแน่ .

” เอ่อ . . . . . . . ” ฉื่อหยาน อึ้งไปสักพัก และเขานั่งตัวแข็งทื้อ จากนั้นเขาก็ยิ้มแบบเขินๆ ” แม่นางมู่ เจ้ามองเราสองคนมีอะไรกันตลอดเลยงั้นรึ ? เช่นนั้นข้าก็ต้องขออภัยให้กับความหยาบคายของข้าด้วย ข้าไม่รู้เลยว่าท่านจะดูอยู่ “

” เจ้า ! ทำไมเจ้าถึงได้ไร้ยางอายเช่นนี้ ” มู่หยู่เตี๋ยโกรธมากและนางก็ตีไปที่ฉื่อหยานอย่างหนักบนต้นขาของเขาทำให้ฉื่อหยานส่งเสียงร้องออกมาและพูดร้องขอความเมตตา

เมื่อเห็นฉื่อหยานกำลังทรมานและกรีดร้องออกมา มู่หยู่เตี๋ยก็รู้สึกดีขึ้น นางหันไปรอบ ๆและเห็นว่าตี่ย่าหลาน กำลังนั่งอยู่เงียบ ๆและหลับตาลง พร้อมกับใบหน้าของนางที่สะท้อนเงาสีแดงออกมา

มู่หยู่เตี๋ยเองก็รู้สึกโกรธตี่ย่าหลานเช่นกัน . นางจึงกระโดดเข้าข้างๆตี่ย่าหลายแล้วก็ตบที่ต้นขาของนาง

ตี่ย่าหลาน นั้นอายเป็นอย่างมากมาก นางไม่สามารถที่ทำให้ร่างหยุดสั่นได้เลย นางยังคงแกล้งหลับตาอยู่ นางนึกว่านี่ต้องเป็นการแกล้งของฉื่อหยานแน่ และนางก็ก่นด่าเขาอย่างลับๆในใจว่า ไอ้เจ้าโจรราคะ ! หลังจากที่เจ้าทำกับข้าทั้งหมดนี้แล้ว แล้วทำไมเขายังแกล้งข้าเช่นนี้อีก ?

” พี่สาวหลาน เจ้าจะแกล้งหลับตา หลอกเราอีกนานแค่ไหน ใบหน้าของท่านแดงเหมือนแอปเปิ้ลไปหมดแล้ว อีกทั้งท่านยังโคจรพลังปราณลึกลับของท่านอีก ท่านคิดว่าพวกเราโง่งั้นรึ ? ” มู่หยู่เตี๋ย กล่าวว่า ด้วยเสียงรำคาญ

ตี่ย่าหลาน ถอนหายใจออกมาเบาๆลืมตาขึ้นอย่างไม่เต็มใจ . นางตอบพร้อมกับความอับอาย ” ข้า . . . ข้าพึ่งตื่นเอง เจ้ามีอะไรรึ. . . . . . . เจ้าสองคนกำลังคุยเรื่องอะไร ? ข้าไม่รู้เลย .

มู่หยู่เตี๋ยเงียบไปและไม่พูดอะไร แต่นางกลับใช้ตาที่สวยงามของนางมองจิ่กไปที่ตี่ย่าหลานและฉื่อหยาน

พร้อมกับพูดประโยคที่ออกมาเพื่อสื่อเป็นนัยๆอย่างชัดเจนว่า : เจ้าจะแกล้งทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเจ้าทั้งสองงั้นรึ

ภายใต้สายตาที่จ้องมาของหมู่ยูตาย ฉื่อหยานยังคงเงียบสงบ จากนั้นนางก็พูดว่า โลกนี้ไม่มีใครไร้ยางอายไปมากกว่าเขาแล้วจริงๆ แต่เขานั้น ก็ยังคงจะแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขากับตี่ย่าหลานอยู่ดี

และเขาก็เดาว่า จริงๆแล้ว ตี่ย่าหลาน ไม่ได้ไม่รังเกียจเรื่องแบบนี้มากนัก นางออกจะชอบด้วยซ้ำ เพราะตัวนางเองก็โหยหาความรู้สึกแบบนี้อยู่เช่นกัน เขารู้ตัวดีกว่าเขานั้นจะไม่ได้รับปัญหาใดๆจากตี่ย่าหลานเลย เขานั้นไม่ได้กังวลเลย

อย่างไรก็ตาม ภายใต้คำถามของมู่หยู่เตี๋ย ตี่ย่าหลานนั้นก็กระวนกระวาย นางคิดและจึงตัดสินใจว่า นางควรจะแสดงความโกรธออกไปที่ฉื่อหยานบ้าง ไม่อย่างนั้น นางจะกลายเป็นคนไร้ยางอายไปได้ ในสายตาของมู่หยู่เตี๋ย

 

ทุกอย่างนี้ ฉื่อหยานจะได้ช่วยให้นางได้พบกับประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และนางเองก็เต็มไปด้วยความสุขอย่างท่วมท้น ซึ่งแม้แต่คนรักเก่าของนางเองก็ยังไม่สามารถทำให้นางมีประสบการณ์แบบนี่ได้

” เจ้าสารเลว ! ” ตี่ย่าหลาน ก็ลุกขึ้น ตะโกนร้องออกมาด้วยเสียงที่คมชัดและชี้ไปทางฉื่อหยาน ” กล้าดียังไงมาทำกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าดียังไง ? “

” ชู่ว ! เงียบหน่อยสิ ! ท่านอยากจะเรียกสัตว์อสูรมาที่นี่งั้นหรือ นอกจากนี้ ยังมีผู้คนจากโลกทมิฬไล่ตามเราอยู่นะ “ฉื่อหยาน กล่าสเตือนนาง

ตี่ย่าหลาน พยักหน้า และนางก็ได้สูญเสียความกล้าของนางไปอีกครั้ง และพูดด้วยเสียงเบาๆ ” เจ้าโง่ แล้วเจ้าจะทำอย่างนั้นกับข้าทำไม “

ยิ่งเห็นตี่ย่าหลานทำตัวแบบนี้ เขาก็ยิ่งมั่นใจเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขาก่อนหน้านี้ นางนั้นไม่ได้รังเกียจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ที่นางกระโดดออกมากล่าวหาเขาอย่างนี้ย่อมเป็น เพราะแรงกดดันจากมู่หยู่เตี๋ยแน่นอน

ฉื่อหยานกำลังขบขันอยู่ในใจกับการตอบสนองของนาง เขาแกล้งทำเป็นคิดอย่างหนัก และเขาก็ก้มศีรษะลง พร้อมกับทำหน้าเศร้า ทำเป็นว่าเขานั้นได้รู้สึกผิดอย่างจริงจัง และพูดด้วยเสียงที่เที่ยงตรง ” ทั้งหมดมันเป็นความผิดของข้าเอง พี่สาวหลาน ท่านบอกข้าเถิด ท่านจะให้ข้าชดใช้เช่นใด ? “

ตี่ย่าหลาน ประหลาดใจกับคำพูดที่เขาตอบกลับมา นางชะงักไปสักพัก และคิดมากเกี่ยวกับคำถามของเขา นางแค่ต่อว่าเขา เพราะไม่อยากให้มู่หยู่เตี๋ยมองนางเป็นคนไร้ยางอายเท่านั้นเอง จริงๆแล้วนางยังไม่ได้คิดที่จะลงโทษฉื่อหยานด้วยซ้ำ และด้วยคำถามที่น่าประหลาดใจของฉื่อหยาน นางเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

” เกี่ยวกับเรื่องนั้น . . . . . . . ให้ท่านทุบตีเขาเพื่อเอาคืนเป็นอย่างไร ? ” มู่หยู่เตี๋ยพูดด้วยใบหน้าซุกซน และพูดเกี่ยวกับมันอย่างขบขัน แม้นางจะบอกให้พี่สาวหลานกล่าวโทษฉื่อหยาน แต่นางก็ไม่ได้คิดจะให้นางลงโทษเขาจริงๆ อย่างน้อยก็ขอให้ไม่หนักมากเกินไป

” เป็นความคิดที่ดี เขาสมควรได้รับมัน ! ” ตี่ย่าหลาน พยักหน้าและตกลงทันที พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ” รอจนกว่าบาดแผลของเขาจะหายดีเสียก่อน ถึงตอนนั้น ข้าจะเตะก้นเขาเอง ! เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าแน่ใจว่า เจ้าจะต้องพอใจกับการลงโทษของข้าแน่นอน “

มู่หยู่เตี๋ยมองจิ่กไปที่ตี่ย่าหลาน และพูดไม่ออกอะไรออกมา เรื่องทั้งหมดนี่คืออะไรกัน ? ข้าต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุระของพวกเจ้าด้วยรึ ? ท่านลงโทษเขา เพื่อที่จะทำให้ข้าพอใจ เช่นนั้นรึ ?

” ไม่ว่าท่านทั้งสองจะว่าอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าขอนอนก่อนหละ ” มู่หยู่เตี๋ยในที่สุดก็ตระหนักว่านางยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากเกินไป นางสมควรที่จะยุ่งเพียงแค่เรื่องของตัวเองเท่านั้น นางพึมพำขณะที่นางหันหลังกลับ ” ชายเป็นสัตว์ป่า หญิงเป็นโสเภนี . . . . . . . มิน่า . . . . . . . เจ้าทั้งสองคาดหวังให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่แล้วสินะ . . . . . . . ข้าน่าจะรู้ให้เร็วกว่านี้ . . . . . . . นี่มันแย่กับข้านัก จิตวิญญานของข้าได้รับบาดเจ็บและยังต้องมาเห็นเรื่องบัดสีเช่นนี้อีก . . . . . . . “

นางเอาแต่พูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ แต่เนื่องจากระหว่างพวกเขาสามคนมีเพียงพื้นที่แคบ ๆเท่านั้น มันก็ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ทั้งฉื่อหยาน และตี่ย่าหลานจะได้ยินนางพูด

ฉื่อหยานแอบยิ้มจนเห็นฟัน และแกล้งทำเป็นหลับ

อย่างไรก็ตาม ตี่ย่าหลานไม่ได้แกล้งหลับอีก นางหันไปพูกหยอกมู่หยู่เตี๋ยเล็กน้อย ” ยัยบ้า “

มู่หยู่เตี๋ยชำเลืองมองนาง และพึมพำอีกครั้ง ” ท่านทั้งสองเงียบไปเลยนะ สำหรับคืนนี้ที่เหลือ ข้าต้องการที่จะนอนให้เต็มอิ่ม ได้โปรด ควบคุมตัวเองด้วย ข้าไม่สามารถรับการกระทำของพวกท่านได้อีกต่อไป .

ตี่ย่าหลาน ตอบกลับด้วยอายบนใบหน้าของนาง ” ข้ารู้ ข้ารู้ เจ้าก็หลับไปสิ ยัยบ้า “

 

––––––––––––––––––––––––

ปล. ลงอีกทีวันที่ 22/2/2560 จ้า ตอนนี้กลุ่มลับของเราลงถึงตอนที่ 70 แล้วน๊าา ค่าเข้าแค่ 50 บาทเท่านั้น ใครสนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยจ้า

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ กดตรงนี้ https://www.facebook.com/ReadGOS << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset