บทที่ 311 เจ้าเข้าใจอะไรเกี่ยวกับข้าบ้าง ?
ที่ตีนภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์
น้ำทะเลสีคราม . แสงสีแดงสาดส่องลุกโชติช่วง มีเมฆสีชมพู และทะเลสีน้ำเงิน กลุ่มเมฆมากมายลอยอยู่รอบๆ ฉากที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ดูสงบและผ่อนคลาย ชายหนุ่มสองคนต่อสู้กันอย่างรุนแรงและฉากที่สวยงามนี้ก็ได้ถูกทำลาย
ในตอนนี้ ในพื้นที่อาบน้ำรูปวงรี , เศษหินกระจัดกระจายไปทั่วอากาศ พื้นดินที่เว้าแหว่งเป็นหลุมลึก เป็นหลุมอุกาบาตลึกหลายแห่ง พื้นดินแยกออก เกิดเป็นปล่องภูเขาไฟลึก
น้ำทะเลท่วมทะลักเข้าไปยังก้นหลุมลึกนับพันจ้าง สองพลังมหาศาลที่ประทะกันทำให้น้ำขึ้นสูง ราวกับว่ามันจะท่วมทั้งท้องฟ้าและพื้นดิน
ภายในพื้นที่อาบน้ำ , ซากปรักหักพังของร้านสุร่าถูกทิ้งกระจุยกระจายไปทั่ว ; หม้อและกระทะมากมายลอยอยู่ในน้ำ อาหารบางอย่างก็ลอยเกลือนผิวน้ำ
พื้นที่อาบน้ำที่เป็นธรรมชาติได้กลายเป็นราวกับที่ทิ้งขยะและความงดงามในอดีตก็ได้หายไป ทุกอย่างต้องเกิดจากคน 2 คน ที่กำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรงในหลุมลึก
” บูม “
เสียงเหมือนสายฟ้าฟาดก็ดังขึ้นมาจากภายในหลุมปล่องภูเขาไฟทำให้ทั่วพื้นที่อาบน้ำสั่นสะเทือน
ภายในหลุมอุกกาบาต ผนึกที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาลควบแน่นอยู่กลางอากาสส่องแสงแพรวพราว
เจ็ดผลึกที่มีพลังมหาศาลรวมเป็นหนึ่ง กลายเป็ฯเหมือนมือยักษ์ของทูตสวรรค์ที่ปลดปล่อยกลิ่นอายที่สามารถทำให้โลกสลายได้ออกมา
หมานกู่กระเด็นออกมาจากหลุมปล่องภูเขาไฟ ท่ามกลางหยดน้ำที่กระเซ็นลงมา ใบหน้าของหมานกู่ก็กลายเป็นซีดเซียวและกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งบนร่างของเขาก็สั่นไม่หยุด
พละกำลังที่น่ากลัวของเขายังคงอยู๋ แต่ดูเหมือนหมานกู่จะไม่สามารถใช้พลังของเขาได้อีกต่อไป ภายใต้การโจมตีของผนึกที่มีพลังมหาศาล หมานกู่ก็กระเด็นออกไปร้อยจ้างและยังได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากน้ำวนขนาดใหญ่
หมานกู่ร่างที่เหมือนกับกระบือของเขาตอนนี้เป็ฯเหมือนเรือลำเล็กที่อยู่ในกระแสน้ำเชี่ยวที่สามารถจมได้ตลอดเวลา . ในช่วงกลางของน้ำวนที่หมุนอย่างรุนแรง ความแข็งแรงของเขาราวกับตกอยู่ในสถานะ ‘’ จิตวิญญานกล้าแข็งแต่ร่างกายอ่อนแอ . . .
เมล็ดพันธุ์ที่มีพรสวรรค์ของนิกายคนเถื่อน ชายหนุ่มที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับสองของรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่ง ตอนนี้กำลังจะ พ่ายแพ้….
หลายคนในพื้นค้าขายก็ไม่เชื่อสายตาตนเอง ท่ามกลางเสียงสนทนาที่ดัง จากมุมที่ไม่มีใครสนใจ ร่างที่เด่นเป็นสง่าก็ตระโกนออกมา ” พอ “
ฉาวจื่อหลาน ที่หายตัวไปเป็นเวลานาน ก็ปรากฏร่างขึ้น ร่างของนางถูกปกคลุมด้วยม่านแสงที่สวยงาม ขณะที่นางกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำ ใกล้หมานกู่
ไม่มีใครรู้ว่านางซ่อนอยู่ในทะเลสาปตลอดเวลา เมื่อผู้ชายสองคนทะเลาะกัน นางก็หายตัวไปโดยไร้ร่องรอย ทุกคนต่างก็คิดว่านางออกมาจากที่นั่นแล้ว แต่มันก็ไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคิด เมื่อการต่อสู้ก็จบลง นางก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา
ดูเหมือนว่านางได้มองดูการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างชายสองคนอยู่ในที่มืด และหัวเราะกับตัวเอง บางทีนี่อาจคือความเป็นจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ฉื่อหยานเคืองนางเป็นอย่างมากเมื่มองไป ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ นางไม่ได้มาเพื่อป้องกันหรือหยุดม่านกู่เลย
หลายคนรู้ว่า หมานกู่ ของนิกายคนเถื่อนจะต้องฟังคำพูดของนางแน่นอน แต่ทำไมนางถึงไม่ห้ามเขาตั้งแต่แรก
ไม่มีใครรู้ได้ นางนั้นต้องการจะเยาะเย้ยฉื่อหยาน หรือรอให้หมานกู่ตกอยู่ในอันตรายเสียก่อน ตลอดเวลานางเอาแต่หลบซ่อนตัวอยู่เงียบๆ
ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของนางเลย
แต่ ณ จุดนี้และช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ในที่สุดนางก็ปรากฏตัวออกมา
ทันทีที่นางปรากฏตัว ร่างที่บอบบางของนางก็กระโดดขึ้นมาเหมือนนกฟีนิกซ์ ประกายแสงเคลื่อนไหวไปรอบๆครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของนาง
ร่างของฉาวจื่อหลาน ซึ่งเป็นเหมือนสายรุ้งก็เคลื่อนไหวไปที่หมานกู่ หลังจากนั้น เมื่อนางยกมือที่งดงามราวกับหยกของนางขึ้น , ก็เกิดเส้นแสงนับพันขึ้นในอากาศ เป็นแสงสีเงินบริสุทธิ์ผูกมัดหมานกู่ในพริบตา หนึ่งในมือของนางก็ถือแหสีเงินในมือ ในขณะที่อีกมือของนางยื่นมือมือรองน้ำฝน ,นางดึงหมานกู่มาและวางลงบนพื้น
” ปล่อยข้า ข้าจะฆ่ามัน . ” ขณะที่ถูกมัดด้วยแหสีเงิน หมานกู่ก็ดิ้นรน และตะโกนออกมาด้วยความโกรธ กลิ่นอายจิตสังหารกระจายอยู่ทั่วใบหน้า
ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าพละกำลังของหมานกู่ยังคงเหมือนเดิม ดังนั้น เขาจึงอยากที่จะเสี่ยงชีวิตของเขาในการต่อสู้ฉื่อหยาน และตื้บฉื่อหยานต่อหน้าฉาวจื่อหลาน
” เจ้าควรสงบสติเสียก่อน ” ฉาวจื่อหลานขมวดคิ้วของนาง และหยิบเม็ดยาจากขวดหยก ” กินยานี่ก่อนเร็วเข้า ร่างกายของเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าไม่มีจิตวิญญานอมตะเช่นเขา หากเจ้าสู้ต่อเจ้าได้ตายแน่ย . “
” ข้าไม่สน ” หมานกู่ร้องออกมาเสียงดัง ใบหน้าของเขาก็โกรธจนเป็นสีแดง ” ข้าจะฆ่ามันให้ได้ ปล่อยข้าไป ! ข้าจะฆ่ามัน . “
หมานกู่ตะโกนออกมาพร้อมกับพลังที่รุนแรงเช่นเดิม เมื่อคนรอบๆได้ยินพวกเขาก็แสดงออกอย่างหวาดหวั่น . . . . . . .
” เจ้าโง่ ” ฉาวจื่อหลาน ก็ก่นดาเขาภายใต้ลมหายใจของนางก่อนที่จะใช้นาง มือหยกของนางลูบไปที่หัวของหมานกู่เหมือนกับสุนัข เส้นแสงสีฟ้าเข้มเหมือนหนวดปลาหมุกก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังหัวของหมานกู่ หนวดนั่นประคองหัวหมานกู่ และกระแสพลังก็ไหลผ่านหนวดนั่นเข้าไปยังหัวของหมานกู่
ความหยิ่งยโสในดวงตาของหมานกู่ก็ค่อยๆ หายไป เขารู้สึกว่าเปลือกตาของเขาเริ่มหนักและไม่สามารถลืมตาได้อีกต่อไป เมื่อเขาหลับตาลง ร่างกายของเขาก็ผ่อนคลาย แลกล้ามเนื้อที่แข็งตรึงก็ผ่อนคลายลง
เลือดสีแดงค่อยๆไหลทะลักออกมาจากกล้ามเนื้อบนร่างกายของเขา หลังจากที่สั่นสะท้านสักครู่ ร่างกายของหมานกู่ก็เต็มไปด้วยเลือด
กลายเป็นว่าร่างกายของหมานกู่ก็หดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อกล้ามเนื้อทหดลง อาการเหล่านั้นก็ได้หายไปแม้แต่เลือดสักหยดก็ไม่มีไกลออกมาจากผิวที่ทนทานและกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของเขา อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เอง เมื่อจิตวิญญาณของเขาได้ผ่อนคลายลง และกล้ามเนื้อบนร่างกายของเขาก็ไม่ได้บูดโปนอีกต่อไป บาดแผล ก็เริ่มปรากฏขึ้นมา
สายตาของฉาวจื่อหลานก็ส่องประกายสำนึกผิดออกมา นางแอบออกถอนหายใจ หลังจากนั้น นางก็รีบนั่งลง และหยิบขวดมากมายออกมา และใช้ผงยาทาลงร่างกายของหมานกู่ .
ต่อหน้าผู้คนมากมาย ฉื่อหยานได้ปฏิเสธ และทำตัวหยิ่งยโสและทำให้นางโกรธเคืองต่อหน้าผู้อื่น
ดังนั้น คนที่สงบเยือกเย็นเช่นนางจึงไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เมื่อเห็นหมานกู่ ท้าทายฉื่อหยาน นางก็เลือกที่จะไม่หยุดเขา นางเคยคิดว่าควรจะให้หมานกู่สั่งสอนบทเรียนฉื่อหยานเสียบ้าง
จริงๆแล้วนางรู้ลึกถึงความสามารถของฉื่อหยานอยู่แล้ว แล้วนางก็รู้ตั้งแต่ที่ทะเลตูต้าแล้วด้วยว่าพละกำลังแห่งพระเจ้าของหมานกูjนั้นเป็นเช่นไร
ในทะเลตูต้า หมานกู่ได้แสดงพลังอันยิ่งใหญ่ที่เหนือกว่าคนทั่วไปออกมา นางรู้จักพลังของหมานกู่ดี . เมื่อหมานกู่บ้าคลั่ง เขาจะสามารถปลดปล่อยพลังที่สามารถกำหราบได้แม้กระทั่งนักรบระดับรู้แจ้ง
นั่นคือเหตุผลที่นางรู้สึกว่าฉื่อหยานต้องแพ้หมานกู่ และทำให้เขาเสียชื่อเสียงของเขาต่อหน้านักรบในทะเลไม่มีสิ้นสุด แต่น่าเสียดาย นางกลับมองฉื่อหยานผิดไป
” บ้าจริง ! ” ฉาวจื่อหลานขบฟันของนางในขณะที่ตรวจสอบบาแผลของหมานกู่เงียบๆ
” วุช ” .
น้ำกระจายไปทั่วท้องฟ้า ท่ามกลางหยดน้ำ ก็ปรากฏร่างฉื่อหยานที่หน้าซีดเซียว เขาผิวและเนื้อหนังของถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เขาดูน่าสมเพชยิ่งกว่าหมานกู่เสียอีก
แต่สายตาของเขายังคงแสดงความเย็นชาเหมือนเดิม
ประกายแสงแห่งเทพปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขายังคงมีพลังเหลืออยู่ ถึงแม้ว่าภายนอกเขาจะดูบาดเจ็บ แต่นั่นก็เป็นเพียงบาดแผลภายนอก เขาสามารถต่อสู้ได้อีกครั้ง ถ้ามันจำเป็น
เพียงแค่มองอย่างรวดเร็ว ทุกคนก็เห็นชัดเจนแล้วว่าหมานกู่บาดเจ็บมากกว่า หมานที่อยู่ในอันดับสองของรายชื่อผู้แข็งแกร่ง กลับพ่ายแพ้เด็กไร้ชื่อเสียงคนหนึ่ง จนถึงตอนนี้ คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของ ฉื่อหยาน .
” เขาเป็นใครกันแน่ ? “
” แข็งแกร่งยิ่งนัก หมานกู่เป็นอันดับ 2 ในรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่ง แต่กลับได้รับความพ่ายแพ้ หรือว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่า จงหลี่ต้วนจากราชวงศ์สงครามศักดิ์สิทธิ์ ? “
” เป็นไปไม่ได้ จงหลี่ต้วนได้ก้าวผ่านเข้าสู่ระดับรู้แจ้งมานานแล้ว และกำลังจะบรรลุเข้าสู่ระดับนภาจากระดับรู้แจ้ง ในโลกนี้ , มีเพียงราชวงศ์สงครามศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่และลึกลับเท่านั้นที่สามารถให้กำเนิดสัปประหลาดเช่นนี้ได้ . “
” ใช่แล้ว ช่องว่างระหว่างระดับของพวกเขานั้นกว้างใหญ่เกินไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเอาชนะจงหลี่ต้วนได้แน่นอน ” .
” แล้วถ้าเขาบรรลุเข้าสู่ระดับรู้แจ้งหละ ? “
” อ่า ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็ยากที่จะพูด . “
” ใช่ ” .
” . . . . . . . “
ทุกคนในพื้นที่การค้าก็เริ่มพูดคุยกันและ แอบเปรียบเทียบฉื่อหยาน กับคนที่เป็นอันดับหนึ่งในรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่ง จงหลี่ต้วน เพียงแค่ความพ่ายแพ้ของหมานกู่ ฉื่อหยานก็ได้กลายเป็นดาวส่องแสงดวงใหม่ในรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่ง . อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าฉื่อหยานจริงๆแล้วเป็นใคร . . .
” . . . “
ฉื่อหยาน ก็เหมือนนกยักษ์ ที่เดินไปบนน้ำแล้วกระโจนอยู่ตลอดเวลา ในเวลาเพียงไม่นาน เขาก็ขึ้นมาบนพื้นดินและเดินมาที่ฉาวจื่อหลาน
บาดแผลบนร่างกายของฉื่อหยานตอนนี้เลือดได้หยุดไหล และท่ามกลางสายตาของคนอื่น , แผลเหล่านั้นก็เริ่มประสานตัวกันอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัด
” จิตวิญญานอมตะ ! “
” สัปประหลาดจากตระกูลหยาง !”
” พระเจ้า สัปประหลาดจากตระกูลหยาง มิน่า . . . . . . . “
” ข้าจะบอกเจ้า มีเพียงสัปประหลาดจากตระกูลหยางเท่านั้นที่แข็งแกร่งเช่นนี้ “
ทุกคนต่างก็พูดออกมา และแสดงความตื่นเต้นบนใบหน้าของพวกเขา บางส่วนพวกเขาเริ่มที่จะหวาดกลัวและกังวลเกี่ยวกับขุมพลังที่อยู่เบื้องหลังของตัวเอง
มันไม่ใช่ว่าตระกูลหยางได้ถูกขับไล่ออกไปจากทะเลไม่มีสิ้นสุดแล้วรึ ?
หลายคนสงสัย ด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่รู้ว่าฉื่อหยานนั้นมาจากไหน แต่ยังไงก็ตาม การต่อสู้นี้ก็ทำให้ทุกคนตะตะลึงเป็นอย่างมาก ข่าวการกลับมาของตระกูลหยางในทะเลไม่มีสิ้นสุดทันทีก็กระจายไปทั่วทุกเกาะ
” เจ้ามาทำไม ? ” ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของฉาวจื่อหลานก็ซีดลง . นางรู้อยู่แล้วว่าฉื่อหยานโหดร้ายเป็นอย่างมาก นางจึงช่วยไม่ได้ที่จะผลักหมานกู่ที่หมดได้สติออกไปและพูดเสียงเบาๆ ” ฉื่อหยาน เจ้าและเขาไม่ใช่ศัตรูหรือมีแค้นต่อกัน หยุดได้หรือไม่ ข้าขอร้อง”
ฉื่อหยานดวงตายังคงเย็นยะเยือก ; หน้าของเขาก็เย็นเหมือนกับน้ำแข็ง เขามองดูฉาวจื่อหลาน และกล่าวว่า ” ข้ามาที่เพราะเจ้าไม่ใช่หมานกู่ “
” เพราะข้ารึ ? ” ฉาวจื่อหลาน ตกใจเป็นอย่างมาก ดวงตาที่สวยงามของนางก็ส่องประกายแปลกประหลาดออกมา
” เจ้ารู้อยู่แล้ว่าเซี่ยซินหยานมาถึงแล้ว แต่ก็ยังพูดยั่วยวนข้าในทะเลสาป ถ้าข้าไม่มั่นคง ก็คงติดกับดักเจ้าไปแล้ว ” ฉื่อหยานขทวดคิ้วของเขาแล้วยิ้มอย่างเย็นชา ” ข้าไม่ชอบ้ลอเล่น ข้าขอเตือนเจ้า ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง อย่าได้โทษข้าว่าไม่มีเมตา”
” เจ้าตั้งใจสู้กับหมานกู่ เพราะอยากให้คนอื่นสนใจที่เจ้าเอาชนะหมานกู่ได้ใช่หรือไม่ ? มิเช่นนั้นเจ้าทำไปเพื่ออะไร ? ” ฉาวจื่อหลาน ไม่ได้หวาดกลัว นางยังคงยิ้มแล้วค่อย ๆลดเสียงของนาง ” เราสองคนเป็นคนประเภทเดียวกัน เจ้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าข้าหลอก เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของเจ้า เจ้าก็ไม่เกี่ยงวิธีการใดๆ มันเป็นนิสัยของพวกเราที่ต้องการทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย ฉื่อหยาน หญิงสาวคนนั้นนางซื่อตรงเกินไป นางไม่เกาะกับเจ้าหลอก .”
” แล้วเจ้าหละเหมาะกับข้างั้นรึ ? ” ฉื่อหยานก็พูดล้อเลียน
” แน่นอน ข้าสามารถช่วยให้เจ้าบรรลุเป้าหมายของเจ้าได้ “
” เป้าหมาย ? ” ฉื่อหยาน ส่ายหน้า ” เจ้าเข้าใจอะไรเกี่ยวกับข้าบ้าง ? ? “
หลังจากพูดเสร็จสิ้น ทันทีที่เขาก็หันศีรษะของเขาไปไม่สนใจฉาวจื่อหลาน และเดินตรงเข้าไปหาเซี่ยซินหยาน ดวงตาที่เย็นชาของเขาค่อยๆจางหายไป
___________________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 23 แล้ว มีถึงตอนที่ 1052 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <