บทที่ 32 หมาป่าอัศนีขนเงิน
เสียงหอนของสัตว์อสูรดังออกมาจากป่าที่อยู่ห่างไกลออกไป
” แต๊กแต๊ก! แต๊กแต๊ก ! “
เสียงเท้าดังขึ้นในค้ำคืนที่มืดมิด ดูจากเสียงฝีเท้าเหล่านี้แล้ว สามารถบอกได้อย่างหนึ่งเลยว่า มันต้องเป็นเสียงเท้าของมนุษย์ที่อยู่ในป่าแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ฉื่อหยานบอกไม่ได้ว่า มันเป็นนักรบที่ไล่ล่าสัตว์อสูร หรือ สัตว์อสูรที่กำลังไล่ล่ามนุษย์อยู่ และเขาเองไม่อยากจะยุ่งด้วยนัก จึงหันพูดกับ ตี่ย่าหลาน ” ซ่อนตัวกันเถอะ อย่าได้หาปัญหาใส่ตัวเลย จำบทเรียนที่ได้จากพวกทหารรับจ้างครั้งสุดท้ายได้หรือไม่ ?”
ตี่ย่าหลาน พยักหน้าและพึมพำกับมู่หยู่เตี๋ยบนต้นไม้กลวง ” อย่าได้ส่งเสียง และไปซ่อนอยู่ในใบไม้หนาบนต้นไม้สะ”
หลังจากที่มู่หยู่เตี๋ยเข้าไปหลบซ่อนในพุ่มไมhหนาบ้นต้นไม้แล้ว ฉื่อหยานก็คิดบางอย่างได้ เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไปยังต้นไม้เก่าแก่อีกต้นที่ยังมีชีวิตสมบูรณ์อยู่ และย่อตัวลงในใบไม้หนาทันที
ทันทีที่เขาทำอย่างนั้น ตี่ย่าหลาน ก็ตามเขาไป และซ่อนตัวอยู่กับเขา
พวกเขามองอย่างระมัดรพวัง ขณะที่พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในใบไม้ที่หนาแน่น นอกจากนี้พวกเขายังลบกลิ่นอายของพวกเขาจากสิ่งแวดล้อมรอบๆด้วย เพื่อหลบซ่อนตัวตนของพวกเขา .
ไม่นานนัก , ก็มีทหารรับจ้างห้าคนปรากฏตัวขึ้นไกลออกไป ใบหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พวกมันทั้งหมดบาดเจ็บสาหัส . หัวหน้าของพวกมันเป็นนักรบในระดับมนุษย์ ส่วนทหารคนอื่นล้วนอยู่ในระดับก่อตั้ง .
ทหารเหล่านั้นวิ่งผ่านป่าไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด เมื่อมองผ่านไหล่ของพวกมันไปด้านหลัง ก็จะพบว่าพวกมันกำลังถูกไล่ตามโดยสัตว์อสูรอยู่
และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น
เวลาเดียวกับที่พวกเขาปรากฏขึ้น ฉื่อหยานเขาเห็นอสรพิษอัคคีและกิ้งก่าเหมันต์สองตัวปรากฏขึ้นในสายตา และกำลังเคลื่อนที่ในป่าอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน , ก็มีแมงป่องเกราะเงินเป็นสิบๆตัวก็ปรากฏขึ้น , ซึ่งมันใช้ขาที่ใหญ่โตของมันเคลื่อนที่เข้ามาจากด้านซ้ายเพื่อล้อมรอบพวกเขา
ทหารห้าคนตกอยู่ในความหวาดกลัวและวิ่งหนีเข้าไปในป่า
ใบหน้าเริ่มของฉื่อหยานก็เริ่มซัด เมื่อเขาตระหนักได้ว่าทหารรับจ้างเหล่านั้นกำลังหนีจากอะไรมา . . .
ในตอนนั้นเอง ฉื่อหยานก็สังเกตุเห็นหมาป่าที่มีขนสีเงินได้อย่างชัดเจน มันดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และมันก็กำลังมุ่งหน้าไปทางพวกทหาร มันเป็นหมาป่ามีขนาดยาว 4 เมตร ที่กำลังเคลื่อรไหวอย่างรวด จนพวกเขากลับไม่สามารถเห็นมันได้ !
หมาป่าขนเงินนั้นมีปีกที่ดูประหลาดและลึกลับอยู่สองข้าง มันมีขนาดยาว 5 เมตร ประดับด้วยลวดลายที่ละเอียดอ่อน
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ฉื่อหยานได้เห็นตัวเป็นๆ แต่เขาก็เคยได้ยินเรื่องราวของมันนานแล้ว นี่ย่อมเป็น หมาป่าอัศนีขนเงิน ระดับ 7 แน่นอน —-และมันก็เป็นสัตว์อสูรที่อยู่จุดสูงสุดในป่าทมิฬ
แล้วเขาก็แน่ใจแล้วว่า สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่การฆ่าฟันระหว่างนักรบและสัตว์อสูรแน่ , แต่มันเป็น . . . . . . . มันเป็นการล่าสังหารอยู่ฝ่ายเดียวต่างหาก
และการล่าสังหารก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ในตอนที่นักรบห้าคนวิ่งเข้าไปในป่าและพวกมันก็ได้พบกับหมาป่าอัศนีขนเงิน พวกมันก็กรีดร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง
หมาป่าอัศนีขนเงิน นั้นไม่เปิดโอกาสให้พวกมันได้ต่อสู้กลับเลย มันปล่อยกระแสไฟฟ้าไปรอบๆปีกของมัน และไม่นานกระแสไฟฟ้านั่นก็ระเบิดออกมา แรงระเบิดนั้นได้สังหารนักรบเหล่านั้นไปสามคน ตัดพวกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา
หมาป่าอัศนีขนเงิน ยื่นอยู่กับที่ด้วยความหยิ่งพยอง —- และมันไม่ได้โจมตีอีก
สัตว์อสูรที่ไล่ตามก่อนหน้านี้ได้ตามมาถึงอย่างรวดเร็ว และพวกมันก็ล้อมไปรอบๆนักรบที่เหลืออีกสองคนในเวลาไม่นาน
อสรพิษอัคคีและกิ้งก่าเหมันต์ร่วมกันโจมตีไปที่นักรบ ไม่นานนัก หนึ่งในพวกเขาก็ถูกพิษของแมงป่องเกราะเงินตาย และคนที่เหลืออยู่ก็ถูกสังหารโดยกิ้งก่าเหมันต์
” แคร๊ก ! ” แคร๊ก ! “
เกิดเสียงที่ฟังดูน่ากลัวทำลายความเงียบสงบในป่าลึก
นอกเหนือจากหมาป่าอัศนีขนเงินแล้ว สัตว์อสูรตัวอื่นๆกำลังลุมกินศพของนักรบทั้ง 5 พวกมันเริ่มกัดแทะไปที่กระดูกของพวกเขา
ตี่ย่าหลาน รู้สึกกลัวเป็นอย่างมากเมื่อมองไป
นางไม่ได้กลัวเรื่องที่พวกมันถูกฆ่าตาย แต่นางกลัวเรื่องที่ พวกปีศาจสัตว์เหล่านั้นกำลังลุมกินเนื้อมนุษย์ เมื่อนางเห็นอย่างนั้น มันทำให้นางรู้สึกอยากอาเจียนออกมาเป็นอย่างมาก . . . . . . .
ฉื่อหยานที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มใบไม้หนา ก็มองไปที่พวกสัตว์ปีศาตนั้นอย่างใจเย็น ในขณะที่กำลังคิดบางอย่างในจิตใจของเขา
เขาเห็นพลังปราณลึกลับของนักรบห้าคนที่ตายไปกำลังลั่วไหลออกมาในอากาศ และก็ในที่สุดมันก็สลายหายไป
ถ้าเขาจะได้รับพลังปราณลึกลับเหล่านั้นมาก่อนที่มันจะสลายไป เขาคงจะได้รับประโยชน์อย่างมากเป็นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม , เพราะว่ามีสัตว์อสูรหลายตัวกำลังลุมกินศพเหล่านั้นอยู่ เขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่หวังว่าพวกมันจะจากไปเร็วๆ
” อ๊ากกกกกก . . . . . . . “
ในตอนนั้นเง ก็เกิดเสียงคนร้องออกมาอย่างอนาถ มันดังมาจากที่ห่างไกล ซึ่งเสียงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง
และหมาป่าอัศนีขนเงินส่งเสียงหอนดังออกมา
เสียงหอนนั่น ทำให้สัตว์อสูรที่กำลังลุมกินศพทั้งห้าอยู่ ก็หยุดกินทันที จากนั้นพวกมันก็รีบติดตามหมาป่าอัศนีขนเงินไป ดูเหมือนพวกมันกำลังจะไปไล่ตามล่ามนุษย์อื่นอีก
ในตอนนั้น ฉื่อหยานก็กระโดดลงต้นไม้หนาทึบทันทีในตอนนี้พวกมันได้จากไปแล้ว เขามุ่งหน้าไปยังร่างที่ถูกกัดกิน
ตี่ย่าหลาน ตกใจเป็นอยย่างมากและนางก็ร้องออกมาจากต้นไม้ด้วยเสียงเบาๆ ” เจ้ากำลังจะทำอะไร ? “
” ข้ากำลังจะไปตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น เด๋วข้ากลับมา อย่าได้ลงจากต้นไม่เชียวหละ ” ฉื่อหยาน ไม่แม้แต่จะมองย้อนกลับไปและเขาก็เคลื่อนที่ไปยังศพเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเขามาถึงใกล้ศพ เขาหลับตาลงและเริ่มที่จะสัมพัสถึงพลังปราณลึกลับของพวกมัน
โชคยังดีพอ , เขาไม่ได้มาช้าเกินไปนัก นักรบระดับมนุษย์มีพลังปราณลึกลับมากกว่าคนอื่น ๆ , ร่างของมันยังคงเหลือพลังอยู่ประมาณ 20 เปอเซนต์
และในตอนนั้นเองพลังปราณลึกลับที่มองไม่เห็นก็ได้เข้าไปในรูขุมขนของเขา มันเหมือนกำลังถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็ก แล้วมันก็พุ่งเข้าไปในเส้นชีพจรของเขาทันที . . . . . . .
เมื่อรู้สึกได้พลังปราณลึกลับจากที่อื่นกำลังไหลเข้ามา ฉื่อหยานยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ไม่นาน พลังปราณลึกลับทั้งหมดนั้นก็ได้หายไปแต่มันนั้นไม่ได้สลายไปในอากาศ มันกลับไหลเข้าไปในร่างของฉื่อหยานแทน
เขามองไปที่ ดวงตา แขน ขา และเครื่องในที่กระจายอยู่เต็มพื้น ฉื่อหยานก้มลงและขมวดคิ้ว . อย่างไรก็ตาม เขาต้องอดทนกับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากชิ้นส่วนเหล่านั้น และเขาก็เริ่มที่จะตรวจสอบกระเป๋าของพวกมัน
มันมีเลือดมากมายกระเด็นไปที่อาหารพวกนั้น และนั้นมันอาจจะผสมกับพิษจากแมงป่องเกราะเงินก็ได้ —- นั่นต้องไม่สามารถกินได้อย่างแน่นอน ในป่าแห่งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เหรียญคริสตัลมากมายนักและมันยากเกินไปที่จะปกป้องหรือขนย้ายเหรีนญเหล่านั้น ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้พกเหรียญคริสตัลมากมายนัก
เมื่อค้นหาไปสักพัก ฉื่อหยานก็พบว่า เขาปล้นได้เพียงชิ้นส่วนสัตว์อสูรไม่กี่ชิ้น และ เม็ดยาอีกน้อยนิดเท่านั้น . . .
น่าเศร้านัก !
ฉื่อหยานพึมพำขณะที่เขากำลังทำความสะอาดมือของเขากับกระเป๋าใบหนึ่ง แล้วเขาก็เดินไปทางที่ตี่ย่าหลานซ่อนตัวอยู่
” หูวววว ! ” หูววว ! “
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงสัตว์อสูรหอนดังขึ้นในป่าทมิฬ ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ในยามเช้า แต่พวกมันกลับเคลื่อนไหวไปรอบๆ ๆและเริ่มไล่ล่าเหล่านักรบ
เมื่อได้ยินเสียงหอนที่น่ากลัวดังขึ้น ฉื่อหยานนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวเลย ในทางตรงกันข้าม เขากลับมีความสุขเล็กน้อยเสียมากกว่า
ด้วยการกระทำของสัตว์อสูรเหล่านั้น ‘จะต้องส่งผลต่อพวกที่กำลังไล่ตามเขาอย่างแน่นอน พวกมันจะต้องเจอกับสัตว์อสูรเหล่านั้นแน่หากพวกมันยังไล่ตามเขาตลอดคืน และยิ่งพวกมันเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่พวกมันก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเจอกับพวกสัตว์อสูรมากเท่านั้น คนจากโลกมืด ตระกูลโม่และสมาคมทหารรับจ้างจะต้องสูญเสียมากมายอย่างแน่นอนในคืนนี้ พวกมันจะต้องถูกสัตว์อสูรเหล่านั้นก็จะกัดกินพวกมันอย่างหน่ำใจ
และคำพูดของเขาก็เป็นจริง . . . . . . .
ในคืนนี้เอง โม่ช่าวเกอ และคนของพวกมันก็ได้รับการดูแลจากสัตว์อสูรเหล่านั้น
ขณะที่พวกมันกำลังตามหาฉื่อหยานและมู่หยู่เตี๋ยอย่างสิ้นหวัง กองกำลังของมันไม่ได้หลับนอนในตอนกลางคืนเลย หลังจากที่หู้หลงได้ฆ่าตัวตายไป พวกมันยังคงค้นหาฉื่อหยาน และคนอื่น ๆ ในป่าทมิฬแห่งนี้ต่อไป ดังนั้น เมื่อพวกมันสังเกตุเห็นสัตว์อสูรเหล่านั้นได้ ต้องขอบคุณนักรบห้าคนที่ตกตายไปก่อนหน้านี้ พวกมันจึงรู้ดีว่าควรทำอะไรต่อ พวกมันไม่ได้ไล่ตามต่อและจึงซ่อนตัวอยู่ในต้นไม้เก่าแก่อย่างเงียบๆ
” เจ้าไปทำอะไรมา ? ” ตี่ย่าหลาน ขมวดคิ้ว ” เจ้าคิดว่าเงินทองพวกนั้นคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่เจ้าจะได้รับงั้นรึ ? ถ้าสัตว์อสูรพวกนั้นกลับมา และมันสังเกตเห็นเจ้า เจ้าจะต้องไม่รอดอย่างแน่นอน ! “
” ดูนี่ ไม่ใช่ว่าข้ากลับมาอย่างปลอดภัยงั้นหรือ ? “
เป็นฉื่อหยานที่ปีนขึ้นมาบนต้นไม้ เขาตอบเช่นนั้นออกไป จากนั้นก็ไม่อธิบายอะไร เขาตอบสนองอย่างแข็งกระด้าง , เขากล่าวว่า , “ทำไมพวกสัตว์อสูรจึงไล่ล่าพวกนักรบและทหารรับจ้างอย่างบ้าคลั่งกัน ? ข้าว่าต้องมีใครบางคนไปยั่วโมโหพวกมันแน่ ไม่งั้นพวกมันคงไม่เป็นเช่นนี้ “
” เช่นนั้นพวกเราจะทำอย่างไรดี ? ” ตี่ย่าหลาน คิดไม่ออกว่าควรทำอย่างไร ” เรานั้นจำเป็นจะต้องเดินทางไปข้างหน้าต่อนะ “
” รอไปสักครู่ก่อน หลังจากที่พวกมันได้ใช้เวลาไล่ล่ากันตลอดทั้งคืน พวกสัตว์อสูรเหล่านั้นสมควรจะอ่อนแรงลงในเวลากลางวันแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราค่อยเดินทางต่อ “
” ตกลง ”
––––––––––––––––––––––––
ปล. ลงอีกที วันที่ 26/2/2560 จ้าา ตอนนี้ในกลุ่มลับของเราลงถึงตอนที่ 78 แล้วนะ หากต้องการเข้าร่วม ติดตามรายละเอียดได้ที่ปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ