เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 325 ความมั่นใจกลับคืนมา

บทที่ 325 ความมั่นใจกลับคืนมา

 

เยว่จางเฟิงและหลินหยาฉี กลับมาที่คฤหาสน์ตอนค่ำ ทั้งคู่ตกใจเห็นหลุมภูเขาไฟขนาดใหญ่

หลุมภูเขาไฟลึกเจ็ดถึงแปดเมตรกับเศษพร้อมกับซากปรักหักพัง ทุกอย่างถูกทุบบดกลายเป็นขี้เถ้าด้วยแรงบางอย่าง

เยว่จางเฟิง หลี่ตาลงอย่างเจ้าเล่ห์ และนึกถึงสิ่งที่เป็นไปได้

” ดูเหมือนกับว่าพึ่งจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นนะ จากที่เห็น แน่นอนมันเป็นผลงานชิ้นเอกที่เกิดขึ้นจากนักรบระดับรู้แจ้งและสมบัติลับแน่ๆ ” หลังจากที่อย่างรวดเร็วหลินยาฉี ผิดหวังเล็กน้อย ” หลังจากมองผ่านเร็วๆ หลินหยาฉีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ถ้าข้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ข้าก็คงจะอยู่ที่นี่แทนที่จะไปอยู่ที่งานประมูลที่น่าเบื่อนั่น ไม่มีอะไรน่าดึงดูดเลยสักนิด

เยว่จางเฟิงรอยยิ้มก็ฉีกออกมาจากมุมปากของเขา พร้อมกับส่ายหัว ” ข้าไม่คิดว่าหลุมภูเขาไฟนี่จะเกิดจากนักรบระดับรู้แจ้งนะ ตามที่ข้าเดา หลุมภูเขานี้สมควรเกิดขึ้นจากฉื่อหยานแน่นอน . แต่น่าแปลกนัก สิ่งต่างๆกลับกลายเป็นแบบนี้ไปหลังจากผ่านไปหนึ่งวัน “

” อะไรนะ ? ” หลินหยาฉี เตะก้อนกรวดบนพื้น ขมวดคิ้วเข้าหากัน และพูดด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ ” แน่ใจนะว่าเขาไม่สามารถรวบรวมพลังปราณลึกลับได้ ? เจ้าบอกว่า แขนข้างขวาของเขานั้นแข็งแกร่งมาก แต่จากสถานการณ์ของเขา ที่ไม่สามารถใช้พลังปราณลึกลับได้ และ เพียงแค่อาศัยแขนขวาที่แข็งแกร่งของเขา , เขาจะทำให้เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ? “

” เจ้าประเมินเขาต่ำเกินไป . . . . . . . ” เยว่จางเฟิงพูดด้วยหน้าตาจริงจัง . ” เขาร้ายกาจกว่าที่เจ้าคิด เขาแปลกประหลาดนักในกลิ่นอายแปลกประหลาดในร่างของเขา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถรวบรวมพลังปราณลึกลับ มันก็ไม่ง่านที่คนธรรมดาจะรับมือกับเขา “

หลินหยาฉี ยังคงสงสัย

เยว่จางเฟิงเดินไปในห้องของฉื่อหบานโดยไม่พูดอะไรอีก

มีเพียง ฉื่อหยาน และ กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนอยู่ในห้อง พวกเขากำลังพูดคุยกันด้วยเสียงต่ำๆ

หลังจากที่เยว่จางเฟิงและหลินหยาฉี เดินเข้ามา ฉื่อหยานทันทีก็หยุดการสนทนากับอีกสามคน ยกศีรษะมองเยว่จางเฟิงแล้วพูดขึ้น ” งานประมูลเป็นเช่นไรบ้าง ? “

” ก็ไม่มีอะไร ” เยว่จางเฟิงถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง ” ตอนแรกข้าเคารพดินแดนจิตวิญญานสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ข้าคิดว่า พวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงสมบัติล้ำค่า แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเลย มันเป็นเพียงขนะสำหรับข้า ข้าอุสาเฝ้ารอและเตรียมตัง . “

” น่าเบื่อนัก . ” หลินหยาฉี ก็ขดริมฝีปากสีแดงของนางขึ้น

” บางทีอาจเป็นความต้องการของพวกเจ้าที่สูงเกินไป สิ่งมีค่าในสายตาคนอื่นอาจไม่มีเจ้าค่าในสายตาของเจ้า “

เยว่จางเฟิงมีเปลวไฟนภา และหลินหยาฉี ก็ครอบครองสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์เมื่อทั้งคู่ออกมาจากหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ , พวกเขานับได้ว่ามั่งคังกว่านักรบทายาทของขุมพลังต่างๆในทะเลไม่มีสิ้นสุดเสียอีก มีเพียงนายท่านของพวกเขาเท่านั้นที่มั่งคังกว่า และดังนั้น สายตาของพวกเขาจึงอยู่เหนือกว่าสายตาคนอื่น และความต้องการของพวกเขาอยู่ในระดับที่สูงมากกว่า

ดังนั้น พวกเขาจึงไม่พบสมบัติที่มีค่าและน่าสนใจในงานประมูลดินแดนวิญญานมหัศจรรย์

เยว่จางเฟิงดูเหมือนจะเข้าใจเหตุผล เขายิ้มจนเห็นฟันพยักหน้าเล็กน้อย , และกล่าวว่า , ” นั่นก็สมเหตุผล ” .

” คฤหาสน์นี้มีหลายห้อง เจ้าสามารถเลือกพวกมันได้ตามสบาย เชิญพวกเจ้าช่วยตัวเองเลย ” ฉื่อหยานคิดสักพักก่อนที่จะพูดกับเยว่จางเฟิง ” เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะร่วมมือกัน เจ้าควรคิดเกี่ยวกับมันอย่างระมัดระวัง ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของข้า ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ .

เยว่จางเฟิงเป็แปลกใจเล็กน้อยแล้วหัวเราะอย่างสบาย ” เจ้าจะบอกว่าเปลวไฟนภาจะไม่เหมือนก่อนหน้านี้เพราะเจ้าใช้พลังปราณลึกลับไม่ได้รึ ? “

ฉื่อหยาน พยักหน้า

” ไม่เป็นไรหรอก ” เยว่จางเฟิงพูดเรียบง่ายโดยไม่ลังเลใด ๆ ” ข้าไม่คิดอย่างนั้น ถ้าคนธรรมดาไม่สามารถรวบรวมพลังปราณลึกลับได้ พวกเขาอาจลำบากมากในการควบคุมเปลวไฟนภา. แต่เจ้านั้นต่างออกไป แม้ว่า เจ้าจะไม่สามารถรวบรวมพลังปราณลึกลับได้ตลอดไป ข้าก็คิดว่าเจ้าสามารถควบคุมเปลวไฟนภาได้อย่างง่ายดาย .”

ดวงตาของหลินหยาฉีก็ส่องประกาย

กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนก็งงงวย

ฉื่อหยาน ขมวดคิ้วของเขา แต่ไม่ได้พูดอะไร

” เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและเปลวไฟนภานั้นไม่ธรรมดา ” เยว่จางเฟิงสีหน้าเคร่งเครียดอย่างต่อเนื่อง ” วิธีที่ข้าสามารถควบคุมเปลวไฟนภาได้คือการที่ข้าใช้จิตสำนึกวิญญานควบคุมมัน ข้าควบคุมมันได้ตามต้องการ แต่ตเแงระมัดระวังกับผลสะท้อนกลับ เมื่อพลังของข้าไม่สามารถควบคุมเหนือมันได้ มันจะมีจิตสำนึกด้วยตัวเองและเผาไหม้จนเป็นเถ้าถ่าน ว่า ” เปลวไฟดี แต่เจ้านายห่วย ” สามารถใช้ได้ในกรณีของข้า ” .

 

ฉื่อหยานพยักหน้าอย่างเงียบๆ เขารู้วิธีในการควบคุมเปลวไฟนภาเหมือนกับเปลวไฟของหัวหน้านิกายซากศพและเยว่จางเฟิง

” เจ้านั้นต่างออกไป แต่ ” เยว่จางเฟิงเผยรอยยิ้มอ่อน ” ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจว่าเจ้าสามารถมีชีวิตอยู่กับเปลวไฟนภาได้อย่างไร ความสัมพันธุ์ระหว่างเปลวไฟนภาและเจ้านั้นเป็นสิ่งจำเป็น เจ้าอาจจะใช้พลังของเปลวไฟนภาได้ไม่เต็มที่ แล้วเจ้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลอะไรต่อเจ้า แม้ว่าเจ้าจะไม่มีพลังปราณลึกลับ , เจ้าก็ยังสามารถใช้เปลวไฟนภาได้ ” หลังจากหยุดสั้นๆ เยว่จางเฟิงก็กล่าวอีกว่า ” สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสารระหว่างเจ้ากับเปลวไฟนภา เปลวไฟนภาโดยธรรมชาติแล้วมีจิตสำนึกและสามารถวิวัฒนาการได้ ซึ่งข้าก็ต้องการเช่นนั้น ถ้าเป็นไปได้ ข้าหวังว่าความสัมพันธุ์ระหว่างเจ้าจะเป็นเช่นเดียวกับพวกข้า “

เยว่จางเฟิงพูดตรงไปตรงม เขาไม่ได้ปิดบังหรือลังเลอะไร

ฉื่อหยาน ประหลาดใจสักพักก่อนพยักหน้าเบาๆ ” ใช่แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเปลวไฟนภาและข้าเป็นเหมือนสิ่งที่เจ้าเพิ่งกล่าวว่า . “

” เรื่องพลังปราณลึกลับของเจ้า ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเจ้ามากนัก ดีจริงๆ ” เยว่จางเฟิงลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะต่อเนื่อง” มันไม่ใช่ว่า จิตวิญญานต่อสู้ที่กลายพันธุ์ของเจ้าจะไม่ดี ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถแก้ไขเรื่องพลังปราณลึกลับได้ เรื่องประเภทนี้มักจะมีอยู่ในการกลายพันธุ์ และมันจะหายไปเมื่อเกิดการกลายพันธุ์อีกขั้น “

ฉื่อหยานก็ขยับ

กลุ่มของอีเทียนโหมวก็ตื่นเต้น

” ทำไมเจ้าไม่บอกข้าก่อนหน้านี้ ? ” ฉื่อหยานถอนหายใจอย่างไม่มีความสุขและถาม

” ข้าลืม ” เยว่จางเฟิงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แล้วเลื่อนสายตาไปทางหลินหยาฉี ,ขยิบตาใส่นาง เขาเดินตรงออกจากห้องโดยไม่รอ ฉื่อหยาน พูดอะไรอีก เสียงของเขาดังก้อง ” อ๋อใช่ เจ้าควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประชุมพรุ่งนี้ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของเจ้า การขึ้นไปบนภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องง่าย “

ฉื่อหยานก็ประหลาดใจ

” นายท่าน ท่านควรพัก ” เขาพูดขณะที่รอยยิ้มปรากฏในดวงตาของอีเทียนโหมว ” เรารู้ดีอยู่แล้วว่า ท่านจะต้องหายดีแน่นอน ด้วยสถานะปัจจุบันของท่าน ท่านจะต้องบรรลุสู่ระดับใหม่ได้แน่นอนด้วยระดับการบ่มเพาะของท่าน “

คาป้า และ หยาเมิงก็พยักหน้าพร้อมกัน

ฉื่อหยาน หัวเราะออกมาดัง ๆว่า ” ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น . “

ก่อนหน้านี้ , ฉื่อหยาน และกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนที่ได้ถกเถียงกันของเกาะมังกรเหมัน เนื่องจากสถานการณ์ การสูญพลังปราณลึกลับทั้งหมดของฉื่อหบาน ดังนั้นเขาจึงสั่งให้กลุ่มของอีเทียนโหมวไม่ให้ทะเลาะกันเองและพวกเขาทันทีก็ควรไปหลังจากการยึดทรัพยากรบนเกาะที่อยู่ในมือของพวกเขาตอนนี้

อย่างไรก็ตาม ทั้งกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนไม่เห็นด้วยกับเขา แต่พวกเขาก็ยืนกรานที่จะอยู่กับเขา ซึ่งอยู่นอกเหนือการคาดหมายของเขา เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าผู้นำทั้งสามจะเคารพเขาเช่นนี้

ฉื่อหยาน รู้สึกไม่มั่นใจมากก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ฟังเยว่จางเฟิงพูด เขาก็ค่อยๆเข้าใจมากขึ้น

ในครั้งนี้เขากลับมาเชื่อมั่น และไม่มีเจตนาละทิ้งพวกอีเทียนโหมวอีก

เมื่อดวงอาทิตย์ตกข้างหลังภูเขา ฉื่อหยาน ก็กล่าวเพิ่มเติมเล็กน้อยกับกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน ก่อนที่จะบอกให้พวกเขากลับไปพักผ่อน จากนั้นเขาก็นั่งไขว้ขา คนเดียวในห้อง

จิตใจของเขาค่อย ๆหลอมรวมกับร่างกายของเขาและจิตวิญญาณของเขาก็เริ่มแพร่กระจายออกไป มันค่อยๆ ป้อน เข้ายังแขนข้างขวาของเขา และเขาก็เพ้งสมาธิทั้งหมดเข้าไปในแขนของเขา

ฉื่อหยาน เส้นใยกล้ามเนื้อของเขาก็ขยายขึ้น สติของเขาอยู่ระหว่างเส้นใยกล้ามเนื้อแข็งแรง เขารู้สึกราวกับว่ากำลังจมอยู่ในห้วงทะเลแห่งพลัง

ที่เป็นพลังใหม่ ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของ พลังปราณลึกลับ และพลังลึกลับ พลังนี้ไหลอยู่ในแขนของเขา มันเต็มด้วยพลังและความแข็งแกร่ง

จิตวิญญานกายาแข็งขั้นสี่จะเปลี่ยนทั้งร่างหรือไม่ ?

ฉื่อหยาน ก็มีความหวังขึ้นมา

ภายในร่างกายของมนุษย์ มีหกร้อยสามสิบเก้ากล้ามเนื้อ ซึ่งประกอบด้วยหกสิบล้านเส้นใยกล้มเนื้อ ระหว่างเส้นใยกล้ามเนื้อเหล่านี้มันมีขนาดยาวสุดคือ 60 เซน และสั้นที่สุด คือประมาณ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น บางเส้นใยกล้ามเนื้อหนักสองร้อยกรัม และเบาหนึ่งเพียงไม่กี่กรัม

สำหรับคนปกติ จะปกคุลมด้วยกล้ามเนื้อประมาณ 35-40 เปอร์เซ็นต์ และความยาวของเส้นเลือดโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1 แสนกิโลเมตร

มีความทรงจำมากมาย พุ่งพล่านออกมาจากจิตใจของเขา ความทรงจำเหล่านี้เป็นของเขาก่อนจะมาอีก

 

ในอีกโลกหนึ่ง เขารักการเล่นกีฬาผาดโผนมากและนั่นก็ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าคนธรรมดาคนหนึ่ง เขายังได้ศึกษาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อของร่างกายมนุษย์อย่างลึกซึ้งและเข้าร่วมหลักสูตรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ความทรงจำเหล่านี้ได้ฝังรากลึกอยู่ในสมองของเขา ตอนนี้ไหลออกมาอย่างกระทันหัน

มีเพียงมือข้างเดียวของที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เขาเกือบจะทำลายพลังปราณลึกลับทั้งหมดและหลอมรวมเข้ากับพลังลึกลับ ดังนั้นถ้าร่างกายทั้งหมดของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงไป มันจะเกิดสิ่งที่น่าหวาดเกรงแค่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้

เพียงแค่มือข้างขวาของเขาเพียงหมัดเดียวก็ทำให้เกิดหลุมภูเขาไฟลึก 30 เมตรแล้ว ดังนั้นถ้าร่างกายทั้งหมดของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงนี้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ พลังในร่างกายของเขาจะอยู่ในระดับไหนกัน ?

ฉื่อหยาน หลี่ตาที่เต็มไปด้วยพลังของเขาลง

_________________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 24 แล้ว มีถึงตอนที่ 1089 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

 

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset