เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 339 ดาบแยกมิติ

บทที่ 339 ดาบแยกมิติ

 

ฉื่อหยาน งอเข่า มองหม่าฉีต้วนที่มีร่างกายสูงหนึ่งร้อยเมตรและดาบอสูรไร้เทียมทานขนาดใหญ่พร้อมกับดวงตาสีแดง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวปรากฏเป็นโหดเหี้ยม กลิ่นอายร่างกายขงอเขาดูเหมือนจะทำให้ท้องฟ้าและผืนดินปั่นป่วน . พายุทอร์นาโดขนาดใหญ่ปรากฏจากทะเลรอบๆเกาะ

เขายืนนิ่งในขณะที่แหวนสายโลหิตส่องแสงสีรุ้งออกมา ดาบยักษ์ลึกลับจากหุบเหวสนามรบ บินวนอยู่รอบๆสิบเมตรเหนือหัวของเขาราวกับว่ามันกำลังรวบรวมพลังทั้งหมด .

“แคว๊กกก แคว๊กกกก แคว๊กกกก” .

โดมสีแดงขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบฉื่อหยาน , ก็ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยดาบอสูร

โดมขนาดใหญ่นี้บางเท่ากับปีกของจักจั่น มันดูเหมือนจะเปราะบางและไม่สามารถทนได้แม้แต่การโจมตีเดียว อย่างไรก็ตาม มันก็ยังยืดหยุ่นและรับการโจมตีของดาบอสูรได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ถูกทำลาย จนกระทั่งตอนนี้

หม่าฉีต้วน คำราม และหอนออกมาตรงๆ . ลำแสงอสูรมากมายพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาแล้วหดลงและรอยลอบๆตัวเขา โดยไม่กระจายกันออกไป .

ดาบอสูรไร้เทียมทาน ซึ่งหนักกว่าหมื่นกิโลกรัม ยังคงปล่อยกลิ่นอายอสูรที่น่ากลัวออกมา ออกมาจากรอยแยกบนเกาะร้าง ; อย่างหนาแน่น กลิ่นอายอสูรที่หนาแน่นก็ทะลักออกมาและค่อยๆไหลเข้าไปในดาบอสูร ทำให้หนึ่งในสามดาบอสูรโบราณกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

การกลายพันธุ์ในห้วงจิตสำนึกของ ฉื่อหยาน ก็ค่อยๆลดลง วิญญานหลักและเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานก็ได้ผสานกันเป็นหนึ่ง เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน นั้นเป็นเปลวไฟอันดับสามในหมู่เปลวไฟนภา มันกลายเป็นวิญญานหลักดวงที่สามและกลายเป็นตาที่สามของเขา ดวงตาสีเงินส่องสว่างกระจ่ายไปทั่วห้วงจิตสำนึก เพื่อความแข็งแกร่งให้กับห้วงจิตสำนึกอย่างต่อเนื่อง

พลังปราณลึกลับที่บรรจบกันบนหน้าท้องของเขา เปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิงแลจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน เป็นรูปแบบปลาหยินหยาง ต้นไม้โบราณพลังปราณลึกลับลากก็หยั่งลึกลงไปยังพื้นที่แปลกประหลาดที่อยู่กลางวงหมุน ดูดซับพลังปราณลึกลับอย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่ดวงตาของคนธรรมดายังสามารถมองเห็นการเติบโตได้อย่างชัดเจน ต้นไม้โบราณพลังปราณลึกลับสุดท้ายก็กลายเป็นสง่างามและยิ่งใหญ่

เนื่องจากพลังที่เพิ่มขึ้นถูกระตุ้น ดาบลึกลับที่บินออกจากแหวนสายโลหิตก็ลอยอยู่เหนือของเขา ดวงตาที่ปิดอยู่บนดาบก็ค่อยๆเปิดออกช้าๆ

ทุกครั้งที่ดวงตาเปิด พลังชั่วร้ายของดาบลึกลับดูเหมือนจะทวีคูณขึ้น

” วุช วุช วุช ” .

ดาบลึกลับที่ลอยอยู่เหนือหัวของเขาพลังของมันสามารถทำให้มิติบิดเบี้ยวได้ แสงแปลกประหลาดทันทีก็ระเบิดออกมาจากพื้นที่ ที่ดาบลอยอยู่รอบๆ แล้วตอนนั้นเอง รอยแยกมิติก็ปรากฏ , ภายในช่องว่างเหล่านี้ผู้คนสามารถมองเห็นลำธารที่มีสีสันมากมายซึ่งมองดูเหมือนกับดวงดาวระยิบระยับกระจายไปทั่วทั้งจักรวาล

กลิ่นอายชั่วร้ายที่ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนก็ค่อยๆไหลออกมาจากดาบ

ฉื่อหยาน ยืนอยู่ภายใต้โดม เขารู้สึกพลังงานมหาศาลของเปลวเหมันเยือกแข็ง จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์และแกนเพลิงบนท้องของเขา เขารู้สึกว่าพลังวิญญาณในห้วงจิดสำนึกของเขาทะลักออกมาและไหลไปที่ดาบลึกลับ

ในขณะที่ร่างกายของเขามีพลังทะลักออกมา ดวงตาทีละดวงบนดาบลึีกลับก็ค่อยๆเปิดออก

หม่าฉีต้วน คำรามออกมากราดเกรี้ยว ดูเหมือนเขาจะรู้สึกได้ถึงการกลายพันธุ์ของฉื่อหยาน และความรู้สึกที่ไม่มั่นคงก็ปรากฏขึ้นในหัวใจของเขา

ตอนนั้นเองเขาก็เลิกที่จะลังเล ท่ามกลางเสียงคำราม . . หม่าฉีต้วยก็รวบรวมพลังในร่างกายของเขา ส่งพลังอสูรไม่มีที่สิ้นสุดลงในดาบอสูรไร้เทียมทาน , ทำให้มันมีพลังที่สามารถฉีกกระฉากท้องฟ้าแยกออกจากกันได้

เนื่องจากหม่าฉีต้วนได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะควบคุมดาบอสูรไร้เทียมทาน ตอนนี้ดูเหมือนร่างกายใหญ่โตของเขาจะไม่สามารถทนไม่ได้อีกต่อไป เป็นลำแสงอสูรจำนวนมากพุ่งออกมา รอยร้าวเริ่มปรากฏบนร่างกายของเขา

” วุช ” .

การฟันครั้งสุดท้ายของดาบอสูรก็หล่นลงไป

โดมสีแดงเรืองแสงที่สร้างขึ้นจากแสงที่ส่องออกมาจากแหวนสายโลหิต ที่รับพลังจากผลึกอสูร ในที่สุดก็ทนไม่ได้อีกต่อไป มันก็แตกออก และเกิดรอยแยกที่น่ากลัวขึ้น

กลิ่นอายอสูรที่หนาแน่นทะลักเข้ามาจากรอยแยก พวกมันจึงไหลเข้ามาทั่วโดม

” ตูม ตูม ตูม “

กลิ่นอายอสูรก็ท่วมไปทั่วโดมและเกิดเป็นเสียงระบัดดังสั่นสะเทือนในทันที

ด้วยเสียงดังที่น่าสะพรึงกลัว, โดมขนาดใหญ่ก็แตกกระจายไปในที่สุด กลายเป็นจุดแสงสว่างนับหมื่นและกลับเข้าไปที่แหวนสายโลหิตบนนิ้วของฉื่อหยาน

 

หม่าฉีต้วนก็หัวเราะอย่างโหดร้าย ทันทีที่เขาเห็นโดมขนาดใหญ่พัง เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เขากวัดแกว่งดาบอสูรอย่างรุนแรงเกิดเป็นแถบสีดำเหมือนกับจักรวาล พื้นที่นอบๆกลายเป็นเหมือนกับโลกสองใบ . เขาฟันอย่างรุนแรงไปที่ฉื่อหยาน พยายามบดขยี้ฉื่อหยานให้เป็นผุยผงและทำลายร่างกายกับวิญญานให้ไม่เหลือซาก

ฉื่อหยาน ทำหน้าบึ้งในขณะที่ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาด้วยความบ้าคลั่ง

” อ๊าาาา ! ” คำรามออกมา เขาไม่คิดอะไรต่ออีก เขาโคจรพลังทั้งหมดในร่างกายของเขาไปที่ดาบลึกลับ

บนดาบยักษ์ ดวงตาที่น่ากลัวก็ได้ปล่อยลำแสงชั่วร้ายนับพันออกมารวมกัน

เส้นสายพลังลึกลับจากอีกโลกหนึ่งก็ไหลแทรกซึมเข้ามาในดาบลึกลับ

ดาบที่ตอนแรกเห็นได้ชัดว่ามันมีขนาดเล็กกว่าดาบอสูรไร้เทียมทอน ตอนนี้ก็ใหญ่ขึ้น กลายเป็นดาบเทพที่ยาวเหยียดเหมือนกลับภูเขาสูงหมื่นจ้างทันที ดวงตาบนดาบ ซึ่งเป็นเหมือนดวงตาของเทพปีศาจก็เต็มไปด้วยพลังที่โหดร้าย , บ้าลั่ง , และความกระหายเลือด

ดาบเทพก็เล็งไปที่ดาบอสูรซึ่งกำลังฟาดลงมาเหนือหัวฉื่อหยาน โดยที่ฉื่อหยานไม่ได้ควบคุมใดๆ

ไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น

เมื่อดาบอสูรไร้เทียมทานและดาบลึกลับก็ประทะกัน ท้องฟ้าและผืนดินก็เงียบสงบอย่างฉับพลัน เงียบมาก มันนเงียบจนทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว

ฉื่อหยาน เงยหน้ามองขึ้นทองฟ้าด้วยแววตาประหลาดใจ

จุดประกายแสงแปลกประหลาดจากดาบอสูรไม่มีสิ้นสุดและดาบลึกลับก็ประทะกันอย่างช้าๆ มันขยายใหญ่ขึ้นและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าที่ใดที่จุดประกายแสงผ่านไป ; ท้องฟ้าก็หดตัวอย่างแปลกประหลาด เกาะที่อยู่ใกล้เคียงก็หายไป และ น้ำทะเลรับร้อยล้านตันก็ซัดทุกอย่างให้จมลงไป

แม้แต่เกาะที่อยู่ใต้เท่าฉื่อหยานก็ถูกซัดจม

ที่ก้นทะเล ฉื่อหยาน , ยังคงมองท้องฟ้า บรรยากาศยังเงียบสงบ หลังจากนั้นหม่าฉีต้วน ร่างสูงร้อยเมตรทันทีก็กลายเป็นประกายแสงอสูรจำนวนมาก .สลายหายไป หลังจากที่แสงอสูรเหล่านั้นหายไป ร่างกายอันโหดเหี้ยมที่แท้จริงของหม่าฉีต้วนก็ปรากฏตัวขึ้น

ไม่รู้ว่าทำไมมือขวาของหม่าฉีต้วนที่ถือดาบอยู่ถึงได้ระเบิดออกมา กระดูกของเขาก็กลายเป็นผุยผง ร่างกายครึ่งหนึ่งซีกขวาของเขามีเลือดและเนื้อทะลักออกมา ดูเหมือนว่ามันจะถูกระเบิดอย่างน่ากลัวและบดขยี้ร่างกายซีกนี้ของเขาอย่างสมบูรณ์

ในน้ำสีน้ำเงินเข้ม มันเป็นครั้งแรกที่หม่าฉีต้วน เปิดเผยความกลัวของเขาออกมา เขากรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่มือซ้ายจับดาบอสูรไร้เทียมทานที่เพิ่งหลุดจากมือข้างขวาของเขา ร่างกายของเขากลายเป็นก้อนแสงสีดำ พุ่งไปยังเกาะสุริยันด้วยความเร็วสูงสุด

เขาหนีไปราวกับเป็นสัตว์ป่าที่กำลังถูกล่า

ดาบยักษ์ยาวหมื่นจ้างเหมือนภูเขาสูงลอยอยู่รอบๆบนท้องฟ้า ดวงตาที่อยู่บนดาบจำนวนหนึ่งในสามก็ิปิดลง และยังคงปิดลงเรื่อยๆ ดาบค่อยๆหดตัวและกลับไปเป็นขนาดปกติ

ในเวลาเดียวกัน , ฉื่อหยาน พลังของเขาก็หยุดไหลเข้าไปในดาบลึกลับ

หลังจากมองท้องฟ้า และมองดาบลึกลับที่ค่อยๆเล็กลง ฉื่อหยาน ก็พยายามรีบใช้ความคิดของเขาเพื่อที่จะเรียกดาบมา

ไม่มีการตอบสนองใดๆ

ดาบลึกลับนี่ดูเหมือนจะหยิ่งเป็นอย่างมาก ราวกับมันไม่สนใจเด็กน้อยที่อยู่ในระดับรู้แจ้งเลย ยังคงจมลงไป ตอนนี้เองเมื่อมันหล่นลงไปในน้ำ ดาบเทพก็กลายเป็นสีรุ้งหายเข้าไปในแหวนสายโลหิต

ฉื่อหยาน ใช้จิตสำนึกของเขาดูภายในแหวนสายโลหิตและตระหนักได้ว่าดาบลึกลับได้กลับไปอยู่ที่มุมอย่างเงียบๆ ไม่มีการตอบสนอง หรือกลิ่นอายใดๆ ทุกสายตาบนดาบถูกปิดลงอีกครั้ง

ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติ เหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นมาก่อน ฉื่อหยาน ยกศีรษะของเขา มองท้องฟ้า เห็นท้องฟ้ายังบิดเบือนและมิติว่างเปล่าเองก็ยังไม่หายสนิท

สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่หายไปก็เป็นได้ ฉากทั้งหมดนี้ทำให้เขานึกถึงสิ่งที่ดาบยักษ์ทำ

ดาบนี่และดาบอสูรไร้เทียมทานได้ประทะกัน เกิดเป็ฌนแรงมหาศาลที่ทำลายร่างของหม่าฉีต้วน บดขยี้มือขวาของเขาซึ่งถือดาบอสูณไร้เทียมทานไว้และระเบิดเลือดเนื้อของเขาครึ่งร่าง ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส

หม่าฉีต้วน นั้นมีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่นภาแรกในระดับพระเจ้าและความแข็งแรงของเขาถูกเสริมด้วยคุณสมบัตของเผ่าอสูน ในดินแดนสี่อสูร เขาถูกจัดให้เป็นนักรบที่แข็งแกร่งรองลงมาจาก โปวชุนและชิหยาน

 

หลังจากมาถึงทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เขาก็ได้ต่อสู้กับดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ บังคับให้พวกเขายอมจำนน และลงมือฆ่าทุกคนในทะเลเคียร่า อีกทั้งในทะเลเหิงลั่ว นักรบระสูงมากมายต่างก็ตกตายในมือของเขา

ด้วยความโหดเหี้ยมและความแข็งแกร่งเช่นนี้พร้อมกับมีดาบอสูรไร่เทียมทานในมือเขา เขากลับได้บาดเจ็บสาหัสครึ่งร่างและมือของเขาก็แหลกละเอียด

ฉื่อหยานรู้สึกตกตะลึงที่หัวใจ จิตสำนึกของเขาก็สังเกตุดาบลึกลับอย่างเงียบๆด้วยความรู้สึกดีใจและกลัวในเวลาเดียวกัน

เขากลัวเพราะเขาไม่สามารถควบคุมดาบลึกลับนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เขาไม่รู้วิธีการควบคุมมัน หรือ เขาไม่รู้ว่าเขาจะควบคุมมันได้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มั่นใจว่าดาบนี้จะสร้างปัญหาอะไรหรือป่าว

” ฉื่อหยาน ! ” ตอนนั้นถังหยวนหนานเสียงของเขาก็ดังเหนือผิวน้ำทะเล บนหัฉื่อหยาน .

เทพสุริยันขี่ยูนิคอร์นอัคคี จ้องมองลงมายังเกาะที่ถูกทำลายด้วยความสับสนไปชั่วขณะหนึ่ง, เขามองคลื่นขนาดใหญ่ที่ซัดอยู่ในท้องทะเลและร้อยแยกของพื้นดินที่กำลังถูกน้ำท่วมอย่างช้าๆ ไม่อาจรู้ได้เลยว่าสิ่งใดกันที่สามารถทำให้พื้นดินเป็นเช่นนี้ได้

เขาไม่แน่ใจว่า ฉื่อหยาน ยังคงรอดอยู่หรือ เพราะเขาไม่สามารถตรวจจับกลิ่นอายของฉื่อหยานได้ แม้ว่าเขาจะส่งจิตสำนึกวิญญานออกไปครอบครุมพื้นที่ทั้งหมดแล้วก็ตาม

ภายใต้ทะเล , ฉื่อหยาน ยกศีรษะของเขาขึ้น มองยูนิคอร์นอัคคีและเมื่อเขามั่นใจว่านั่นเป็นถังหยวนหนานที่อยู่ที่นี่ เขาก็อึ้งไปชั่วขณะ เขาเริ่มลอยขึ้นสู่พื้นผิวน้ำและจากนั้นทันทีร่างกายทั่วทั้งร่างก็รุ้สึกหมดแรง

แหวนสายโหลหิตของเขาหยุดส่องแสงกระพริบและค่อยๆสงบลง

ถังหยวนหนาน ทันทีเมื่อสัมพัสได้ถึงกลิ่นอายของฉื่อหยาน เขาก็พุ่งไปหาทันที

_________________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 25 แล้ว มีถึงตอนที่ 1125 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

 

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset