เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 342 สุริยัน จันทรา ดวงดาว ทั้งหมดปรากฏตัวพร้อมกัน

บทที่ 342 สุริยัน จันทรา ดวงดาว ทั้งหมดปรากฏตัวพร้อมกัน

 

หลังจากผู้อาวุโสระดับนภาเรียกใช้ม่านแสงศักดิ์สิทธิ์ของพรรคสามเทพ ร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกใช้เพื่อรับมือกับการโจมตีจากภายนอก

ม่านแสงศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่กี่ชิ้นของพรรคสามเทพ มันหลอมรวมเข้ากับพลังปราณลึกลับและจิตวิญญานต่อสู้ จากนั้นก็จะกลายเป็นม่านแสงปกคลุม

ด้วยม่านแสงนี้ แม้แต่เหล่านักรบในระดับเดียวกันทุ่มพลังทั้งหมดโจมตีมา มันก็ยังยากที่จะทำลายม่านแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ปกคลุมอยู่นี้ได้

หลังจากที่ผู้อาวุโสใช้ม่านแสงศักดิ์สิทธิ์มาปกคลุม เขาเตรียมลงมือขั้นต่อไป

โดยใช้ความแข็งแกร่งของเขาตอบโต้การโจมตีของฉื่อหยาน , เพื้อต้องการสลาย ความหยิ่งพยองของฉื่อหยานด้วยการโจมตีครั้งเดียว

โดยไม่คาดคิด ถึงแม้ว่า ฉื่อหยาน จะพึ่งบรรลุเข้าสู่ระดับรู้แจ้ง เขากลับสามารถใช้พลังความเย็นที่น่ากลัวเช่นนี้ได้

ไม่เพียงแต่มันจะหนาวเย็นไปถึงขั่วกระดูก , แต่ยังสามารถแช่แข็งม่านแสงศักดิ์สิทธิ์ได้อีกด้วย

เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น ทุกคนอยู่ในอาการตกตะลึงด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ,

พวกเขามองฉื่อหยานอย่างหวาดระแวง .

ความหนาวเย็นค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้น เป็นผู้อาวุโสของพรรคสามเทพที่ทั้งร่างถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขากลายเป็นน้ำก้อรแข็งขนาดใหญ่ ร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่ลึกลับและเขาก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้

ฉื่อหยานเองก็ถูกแช่แข็งเช่นกัน แต่มันไม่เหมือนกับผู้อาวุโสที่อยู่ในน้ำแข็ง , ไม่เพียง แต่เขาจะสามารถทำทุกอย่างได้อย่างอิสระ แต่เขาก็ยังคงสามารถเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายเขาได้อีกด้ว.

หลังจากท่านติดอยู่ในน้ำแข็ง กระดูกของเขาก็ถูกล็อคและความแข็งแรงของร่างกายของเขาเริ่มอ่อนแอลง

ม่านแสงที่สร้างขึ้นจากม่านแสงศักดิ์สิทธิ์ก็หดลงแน่นกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เกิดเป็นเสียง แกร๊กก แกร๊กก ดังออกมา ไม่มีแม้เส้นแสงใดส่องมาได้ ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะทำอะไรฉื่อหยานได้เลย .

ถังหยวนหนาน ยังแปลกใจด้วยความกลัวเป็นแสงประหลาดที่ส่องประกายจากดวงตาของเขา ในที่สุดเขาก็เชื่อว่าการที่ฉื่อหยานสู้กับหม่าฉีเตี้ยนนั้นเป็นเรื่องจริง .

เขายังรู้สึกได้ว่าพลังที่มหาศาล ทันทีได้ระเบิดออกจากร่างกายฉื่อหยาน มันไม่น่าเชื่อ และอยู่ห่างไกลจากระดับการบ่มเพาะของฉื่อหยานมาก ไม่มีนักรบในระดับเดียวกันที่สามารถมีพลังเช่นนี้ได้ .

ดังนั้น หลังจากที่ร่างกายทั้งหมดของผู้อาวุโสระดับนภาถูกแช่แข็ง เขาก็กลายเป็นตกตะลุงและผู้อาวุโสส่วนใหญ่ของพรรคสามเทพก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ

” แกร๊กก แกร๊กก”

เสียงแปลก ๆก็ดังจากกระดูกภายในร่างของผู้อาวุโส ร่างของเขาแข็งตรึง เป็นครั้งแรกที่ความกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาขยับดวงตาของเขาไปที่ถังหยวนหนานราวกับขอทานที่กำลังร้องขอเงิน

ถังหยวนหนาน ก็ได้สติของเขาหลังจากที่เขาตกใจและพูดว่า ” ฉื่อหยาน , หยุด ! “

โดยหัวเราะอย่างไม่เกรงกลัว ฉื่อหยาน ก็มองถังหยวนหนาน แล้วโผงผางพูดว่า ” เขาเป็นคนเริ่มก่อน เขาต้องการสอนบทเรียนให้กับข้าโดยอาศัยเพียงแค่ระดับการบ่มเพาะระดับนภา . ตาแก่นั่น บังคับให้ข้าทำเอง “

ถังหยวนหนาน ตะลึง ; เขาฝืนยิ้ม พยักหน้าและกล่าวว่า ” ข้าไม่คิดว่าเขาจะกล้าลงมืออะไรอีกแล้ว จากความคิดของข้า ละลายน้ำแข็งบนร่างของเขาเสียเถอะ มิเช่นนั้นมันจะมีผลกระทบต่อการบ่มเพาะถ้าเขาอยู่ในสภาพนี้นานก็ไป ไม่มีใครมีเจตนาร้ายต่อเจ้า เจ้าควรมีเมตตาและปล่อยพวกเขาไป”

หลังจากพูดประโยคเหล่านั้น ถังหยวนหนาน ก็ไม่สามารถช่วย ที่จะเดินมาข้างหน้าผู้อาวุโสและรวบรวมพลังแสงอาทิตย์ ถ้าฉื่อหยานต้องการที่จะฆ่าเขาจริงๆ ถังหยวนหนานก็จะใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อช่วยผู้อาวุโสออกมา

ฉื่อหยาน ยังคงเย็นชาและไม่ตอบใดๆ เขาเอาแต่เงียบ มองไปที่ผู้อาวุโสระดับนภาที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งของพรรคสามเทพ

จ้องมองอย่างละเอียด สายตาของผู้เฒ่าก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่เขาสูญเสียความกราดเกรี้ยมไปหมดสิ้น และ เต็มไปด้วยความกลัว

ฉื่อหยานก็หัวเราะอย่างเย็นชาภายในหัวใจของเขา เขาพอใจมากกับสีหน้าของผู้อาวุโสในตอนนี้ จากนั้นเขาก็ค่อย ๆปลดปล่อยพลังจากแกนเพลิงให้ไหลออกมา เขาค่อยๆดึงพลังความเย็นกลับมาและค่อยๆเพิ่มความร้อนในเวลาเดียวกัน เขาค่อยๆ ละลายน้ำแข็งที่น่าหวาดกลัว

เขาควบคุมพลังได้อย่างชำนาญ และรอบคอบ ถ้าพลังของแกนเพลิงรุนแรงเกินไป ร่างกายของผู้อาวุโสอาจจะได้รับบาดเจ็บและหลอมละลายแน่ แต่ถ้ามันช้าไป มันก็ไม่สามารถละลายน้ำแข็งได้

เมื่อเห็นว่า ฉื่อหยาน หยุดการกระทำ ถังหยวนหนานก็แอบถอนหายใจและค่อยๆดึงพลังดวงอาทิตย์ที่ถูกรวบรวมก่อนหน้านี้

ไม่นานหลังจากนั้น ภายใต้ความร้อนของแกนเพลิง ผู้อาวุโสแห่งพรรคสามเทพ ในที่สุดก็ถูกปล่อยออกมาจากน้ำแข็ง . ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาเดินไปอยู่ที่เดียวกันกับผู้อาุวโสคนอื่น ๆจากพรรคสามเทพ ไม่กล้าที่จะออกความเห็นใดอีก

สาวกพรรคสามเทพที่ตอนแรกไม่พอใจใน ฉื่อหยาน , ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าง่าย หลังจากเห็นพลังของเขาและความโหดเหี้ยมของเขา ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงความเป็นปรปักษ์แม้แต่นิดเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยให้ถังหยวนหนานจัดการทุกอย่างไป

 

ฝูงชนที่อยู่รอบๆฉื่อหยานก็ค่อยๆถอยห่างออกไป

ด้วยการลงมือของ ฉื่อหยาน , พสาวกรรคสามเทพสาวกทุกคนก็ตระหนักได้ถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของเขา ในโลกนี้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้เป็นผู้ปกครอง หลังจาก ฉื่อหยาน พบว่าเขาสามารถจะฆ่าใครก็ได้ ยกเว้น ถังหยวนหนาน ก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำอะไรอีก

ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมหวาดกลัวคนที่แข็งแกร่งกว่าและกล้าทำร้ายคนอื่น มันเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนเรื่อ

นี้ได้ ดังนั้น สาวกเหล่านี้จึงเชื่อฟัง และเข้าใจสถานการณ์ เพราะพวกเขาก็กลัวตายเช่นกัน

เห็นสาวกพรรคสามเทพกล่าถอย พร้อมกับเผยให้เห็นสีหน้าของทั้งตกใจและกลัว และไม่กล้าแสดงความเห็นหรือเจตนาร้ายๆของพวกเขา , ฉื่อหยาน มีแอบมีความสุขอย่างลับๆ

เขาตระหนักได้ว่า มีเพียงความแข็งแรงของเขาเองเท่านั้นที่จะปกป้องแลพทำให้เขาสามารถอยู่เหนือโลกใบนี้ได้ ถ้าเขาแข็งแกร่งเขาก็จะอยู่เหนือกฏ เขาสามารถทำในสิ่งที่เขาชอบบนโลกนี้บ้าโดยไม่ต้องสนใจผู้ใด แต่นั่นก็ทำให้ตกเป็นเป้าสายตา

แม้ว่าปัจจุบันเขาจะยืมพลังจากเปลวเหมันเยือกแข็ง , แกนเพลิง , และจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ , ความรู้สึกของการมีอำนาจอันยิ่งใหญ่นี้เป็นแค่ชั่วคราว แต่เขาก็ดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ในช่วงเวลานี้ เขามั่นใจแล้วว่า เขาต้องใช้ความพยายามทั้งหมดของเขาเพิ่อทุ่มเทให้กับการบ่มเพาะ เขาต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาให้เร็วที่สุดเพื่อตัของเขาเอง นั่นคือสิ่งสําคัญที่สุด ที่เขาควรทำ นั่นคือหนึ่งในเป้าหมายในชีวิตของเขา

อำนาจ สถานะ ทรัพยากร . . . . . . . นี้เป็นสิ่งที่เขาต้องการ เมื่อพลังของเขาได้ไปถึงระดับหนึ่ง มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับสิ่งเหล่านี้เพียงแค่เขาพลิกฝ่ามือ

” เปิดสามทะเลสาบ สุริยัน จันทรา ดวงดาว ” ถังหยวนหนาน เงียบมาพักหนึ่งแล้ว ก็ตะโกนขึ้น

ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสพรรคสามเทพก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดก็เงียบแล้วรีบออกไป

ฉื่อหยาน ก็งุนงงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ข้าบอกท่านไปแล้ว ข้าไม่สนใจเป็นเทพดวงดาวของพรรคสามเทพ ถ้าท่านเปิดสามทะเลสาบ สุริยัน จันทรา ดวงดาว เพื่อให้ข้าเรียนรู้ถึงความลับของจิตวิญญานแห่งดสงดาว ข้าก็จะรับมะน แต่ข้าจะไม่แบกความรับผิดชอบและอันตรายของพรรคสามเทพ หรือ

ผูกตัวเองกับมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม “

สาวกส่วนใหญ่ของพรรคสามเทพแอบเคือง แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเปิดเผยความโกรธของพวกเขาออกมา

ก่อนหน้านี้คนเหล่านี้ต่างก็ก็ทำเช่นนั้น แต่เมื่อฉื่อหยานแสดงถึงความแข็งแกร่งของเขาทัศนคติของสาวกเหล่านั้นก่อน และ หลัง นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เมื่อตอนที่เขายังไม่แสดงความแข็งแกร่งของเขา ความเย่อหยิ่งของเขาก็จะกลายเป็นข้ออ้างที่ทุกคนใช้ เพื่อที่จะทำร้ายเขา นักรบระดับนภาแต่ละคนต่างก็ต้องการจะสอนบทเรียนให้เขา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาได้สัมผัสพลังอันยิ่งใหญ่ของเขา แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเปิดเผยร่องรอยความตั้งใจของพวกเขาที่จะจัดการกับเขา ทุกคนยังคงยืนอยู่โดยไม่ทำอะไร

ฉื่อหยาน มองสาวกของพรรคสามเทพอย่างเย็นชาและกำลังยิ้มเยาะภายในหัวใจของเขา ตอนนี้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงทัศนคติที่เปลี่ยนไปของคนเหล่านี้แล้ว

พลัง ! ! !

คืออำนาจชั่วนิรันดร์ ความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อำนาจทำให้เปลี่ยนทัศนคติของคนได้

” ก็ได้ ถ้าเจ้าไม่อยากกลายเป็นเทพดวงดาวของพรรคสามเทพ ข้าก็จะไม่บังคับเจ้าอีก ” ถังหยวนหนาน เงียบสักพักแล้วพูดต่อด้วยใบหน้าที่ยากจะเข้าใจ ” แต่ถ้ามรดกของเทพดวงดาวในมันร่างกายของเจ้าไม่ได้ใช้งาน , จิตวิญญานแห่งดวงดาวเป็นแค่เครื่องประดับ เทพดวงดาวคนสุดท้ายได้เลือกเจ้าแล้ว ดังนั้นแม้เป็นจะเป็นอยู่ในฐานะเพียงคนที่ได้รับสืบทอด เราก็ยังคงให้เจ้าแช่ในสามทะเลสาบ สุริยัน จันทรา ดวงดาว เพื่อที่เจ้าจะได้เรียนรู้ความลับของจิตวิญญานแห่งดวงดาว

” เด๋วก่อน . . . . . . . ” ฉื่อหยานตะลึง เขามองถังหยวนหนาน ด้วยสายตาแปลกๆ และพูดโผงผาง , ” ต่อให้ท่านทำเช่นนั้น ข้าก็ยังคงไม่รับผิดชอบพรรคสามเทพอยู่ดี “

” เข้าใจแล้ว ” ถังหยวนหนาน พยักหน้าและกล่าวว่า ” เจ้าสามารถละเว้นหน้าที่ ของเทพดวงดาวในพรรคสามเทพได้ ตอนนี้เจ้าไปที่สามทะเลสาบ สุริยัน จันทรา ดวงดาว เพียงเพื่อสืบทอดมรดกเทพดวงดาวเท่านั้น ข้าจะไม่บังคับให้เจ้าทำอะไร เจ้าเองก็เลิกปฏิเสธอีกต่อไปแล้ว “

ฉื่อหยานกำลังประหลาดใจ

แม้ว่าหลายสาวกของพรรคสามเทพ จะงุนงง แต่พวกเขาก็รู้ได้ถึงความตั้งใจของถังหยวนหนาน

ถังหยวนหนาน เป็นส่วนหนึ่งของพรรคสามเทพมานานหลายปี ด้วยเกียนติยศอันยิ่งใหญ่ ต้องขอบคุณความพยายามของเขา ที่ทำให้พรรคสามเทพค่อยๆฟื้นตัวและฟื้นกลับมามีอำนาจยิ่งใหญ่อีกครั้งในทะเลไม่มีสิ้นสุด

ในจิตใต้สำนึก บรรดาสาวกทั้งหมดของพรรคสามเทพต่างก็ยอมรับความสามรารถทั้งหมดของถังหยวนหนาน พวกเขารู้ดีว่าเขาไม่ทำอะไรโดยไม่มีเจตนา

 

” ถ้าหากไม่มีข้อผูกมัดใดๆ แล้วหละก็ . . . . . . . ” ฉื่อหยาน คลายคิ้วที่ขมวด และจากนั้นเขาก็พูดอย่างผ่อนคลาย ” เช่นนั้น ข้าก็จะไป “

“สามทะเลสาบ สุริยัน จันทรา ดวงดาว ข้าอยากจะรู้เกี่ยวกับความลับของจิตวิญญานแห่งดวงดาว ข้าต้องการที่จะรู้ว่าสิ่งใดกันที่ข้าจะได้เมื่อได้รู้เกี่ยวกับมัน “

” ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าจะได้รู้ในไม่ช้านี้ ” ถังหยวนหนาน ยิ้มแล้วตะโกน ” เปิดรูปแบบ น้อมรับแสงสุริยัน จันทรา และ เทพแห่งดวงดาว”

หลังจากถังหยวนหนานตะโกน ม่านแสงที่อยู่เหนือหัวทุกคนก็เปลี่ยนไป

ม่านแสงเหนือกลุ่มคนเป็นเหมือนม่านบางๆก็ถูกฉีกขาดออกจากกัน กลายเป็นโปร่งใสและชัดเจน

หลายร้อยล้านประกายแสงเป็นสายฟ้าแลบก็ลอยไปรอบๆม่านแสงและเชื่อมโยงกัน เกิดเป็นสีสันเจิดจ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก

ฉื่อหยาน ยกศีรษะของเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและตระหนักว่าไม่รู้เมื่อไหร่ที่ม่านแสงถึงกลายเป็นโปร่งใสชัดเจน

เป็นกระจกขนาดใหญ่ ในม่านแสงดวงดาวนับไม่ถ้วน ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง ดวงจันทร์ที่อ่อนโยน ก็ปรากฏขึ้น

ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ ดวงดาว ทั้งหมดปรากฏขึ้นพร้อมกัน

_________________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 25 แล้ว มีถึงตอนที่ 1140 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset