บทที่ 346 ปีกดารา
เหนือกลุ่มพระราชวังรกร้าง ม่านแสงก็แตกออก ,เกิดเสียงระเบิกสะท้อนไปทั่ว ดวงจันทร์ก็หายไป
ดวงอาทิตย์และดวงดาวยังคงอยู่ แต่ดวงจันทร์กลับหายไปในอากาศ การหายตัวไปของดวงจันทร์ทำให้เกิดช่องว่างในพื้นที่ขึ้น
ถังหยวนหนาน ยกศีรษะมองฉากตรงหน้าด้วยใบหน้าซีดและอุทานว่า ” นี่ไม่ดีแล้ว ! “
ฉื่อหยานไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจับใบหน้าของเขาแหงนหน้ามองม่านแสงและถาม” เกิดอะไรขึ้น ? “
” เกาะจันทราถูกทำลาย . ” ถังหยวนหนาน ขบฟันแน่น และพูดด้วยความโกรธว่า ” น่าจะเป็นเพราะเกาะจันทราถูกทำลาย มิฉะนั้น ม่ายแสงคงจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ เทพจันทรายังอยู่บนเกาะ ข้าไม่รู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของนางเป็นเช่นไร ข้าต้องไปดู สถานการณ์ในทะเลไม่มีสิ้นสุด ตอนนี้ค่อนข้างวุ่นวาย บางทีข้าอาจจะอยู่ที่นี่นานเกินไป “
หลังจากที่เขาพูด , ถังหยวนหนาน ก็หันหน้าและกระโดดขึ้นไป
ฉื่อหยาน ทันทีก็พูดขึ้นก่อนที่ถังหยวนหนานจะไป ” พาข้าไปกับท่านด้วย ข้าเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่เช่นกัน “
ยิ่งทะเลไม่มีสิ้นสุดวุ่นวาย เขาก็ยิ่งมีโอกาสที่เขาอาจจะได้รับประโยชน์ เขาต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อเสริมสร้างระดับการบ่มเพาะของเขา ด้วยการดูดซับพลังจากศพ
หลังจากตื่นมาจากสภาวะที่มหัศจรรย์ เขาก็ได้ตระหนักว่าประกายแสงพลังปราณลึกลับได้หยุดการดูดซับพลังงานจากวงหมุนบนท้องของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นพลังที่ถูกสร้างขึ้นจากการหลอมรวมกันของ เปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิง และ จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็จางหายไปตามกาลเวลา
เขาเข้าใจเหตุผลที่เขาสามารถต่อสู้กับหมาฉีต้วนได้ และตรึงผู้อาวุโสของพรรคสามเทพนได้ นั่นก็เป็นเพราะพลังลึกลังที่เกิดจากวงหมุนที่หลอมรวม เปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิง และ จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์
พลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งสามารถเปลี่ยนเกาะธรรมดาให้เป็นเกาะน้ำแข็งได้ในขณะที่แกนเพลิง
สามารถเผาไหม้ด้วยการหลอมรวมพลังธรรมชาติ . ในขณะเดียวกัน จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ที่หลอมรวมเข้ากับจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถมังกรกระดูกผลึกเยือกแข็งจำนวนมากและโจมตีผู้อาวุโสจากพรรคสามเทพได้
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งนี้ก็ไม่ใช่ของเขา
เขาจำได้ลางๆว่า การรวมตัวกันของรูปแบบทั้งสามอีกไม่นานก็จะคลายและพลังงานของพวกมันก็จะหายไป เมื่อพลังของพวกมันแยกออกจากวงหมุน ความสามารถที่แท้จริงของเขาก็จะถูกเปิดเผย
จะต้องใช้ประโยชน์ในขณะที่วงหมุนทั้งสามรูปแบบยังอยู่ ด้วยความแข็งแกร่งนี้ เขาจำเป็นจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับสถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในทะเลไม่มีสิ้นสุด เขาต้องการฆ่าคนเพื่อให้ได้พลังของพวกเขาด้วยจิตวิญญานต่อสู้ลึกลับ และเมื่ิอเป็นเช่นนั้นการกลายพันธุ์ของจิตวิญญาณรต่อสู้ในร่างกายของเขาก็อาจจะสมบูรณ์
มองแขนข้างขวาของเขาเป็นสีม่วงแดง ฉื่อหยาน ก็รู้สึกตื่นเต้น เขาคิดว่า จิตวิญญานกายาแข็งจะต้องสมบูรณ์แน่นอนในครั้งนี้
” เจ้าจะไปด้วยรึ ?” ถังหยวนหนาน ถามขณะที่เขากำลังจะใช้รูปแบบเคลื่อนย้ายที่อยู่กลางพระราชวังโดดเดี่ยว ” . เมื่อเจ็ดวันก่อน เมื่อเจ้าและหม่าฉีต้วนต่อสู้กัน กลุ่มของ กู่เฉา ยู่ชิง , ฉาวจื่อหลาน และหม่านกู่ก็ได้อยู่บนยอดเขาตระกูลกู่ และเฝ้าดูการต่อสู้ทั้งหมดของเจ้าผ่านผลึก . ความแข็งแกร่งของเจ้าอาจจะทำให้พวกเขาเดือดร้อน ข้ารู้สึกได้ถึงความกลัวจากพวกเขา เจ็ดวันหลังจากที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่ ตระกูลกู่และดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ทุกคนรู้ว่าเหล่าคนเผ่าที่เคยตามเจ้าตอนนี้ได้อยู่ภายใต้
อำนาจของเผ่าอสูร พวกเขา ทันที ก็รวบรวมกองกำลังอื่นในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดตามล่าเจ้า
ฉื่อหยาน หน้าก็มืดมัวไป
” ปัจจุบันในทะเลเคียร่าเผ่าอสูรกำลังต่อสู้อยู่กับขุมกำลังทั่วทะเล ถ้าเจ้าออกไปในเวลาแบบนี้ ข้าคิดว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องตื่นตัวและเห็นเจ้าเป็นเป้าหมายแน่ ตราบเท่าที่พวกเขาหสเจ้าพบ พวกเขาจะส่งยอดฝีมือของพวกเขามาฆ่าเจ้า แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก , แต่ข้าก็รู้ว่ามันไม่ได้เป็นพลังที่แท้จริงของเจ้า ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่สามารถคงสภาพเช่นนี้ได้ตลอดไป และเมื่อความแข็งแกร่งนี้หายไป เจ้าจะตายอย่างรวดเร็ว “
ถังหยวนหนาน ดูเคร่งขรึมและพูดด้วยความจริงจัง ” อยู่นี้ แล้วรอจนกว่าสถานการณ์จะมั่นคง แล้วเจ้าค่อยออกไป นอกจากนี้ หลังจากออกไป มันจะดีที่สุดสำหรับเจ้าที่จะไปจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุด
ให้เร็วที่สุด ตอนนี้, ไม่มีสิ่งใดในทะเลไม่มีสิ้นสุดที่สามารถปกป้องเจ้าได้ “
” ข้าต้องการไปที่สงคราม ” ฉื่อหยาน ไม่อยากอธิบาย
เกี่ยวกับจิตวิญญานลึกลับที่อยู่ในร่างกายของเขา เขาก้าวเข้าไปในรูปแบบเคลื่อนย้าย
ถังหยวนหนาน ก็ประหลาดใจ .
” ข้ามีเหตุผลของข้า . ” หลังจากไตร่ตรองสักพัก ฉื่อหยาน ก็มองถังหยวนหนาน และกล่าวว่า ” ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไม่ยอมตายง่ายๆแน่ ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่อยากจะฆ่าข้ามันจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม ” .
ถังหยวนหนาน ดูเหมือนจะงุนงง เขามอง ฉื่อหยาน . หลังจากนั้น เขาพยักหน้าและบอกว่า ” ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีแผนการของเจ้าเองสินะ ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะไม่ลังเลอีกต่อไป “
โดยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ประกายแสงก็ออกมาจากตัวถังหยวนหนาน . ทุกแสงส่่องไปที่รูปแบบเคลื่อนย้ายเกิดเป็นกลุ่มก้อนแสง
ถังหยวนหนาน ฉื่อหยานก็หายไปจากก้นทะเลและปรากฏอยู่บนเกาะร้าง
ท้องฟ้ามืดมนเต็มไปด้วยดาวระยิบระยับ นับไม่ถ้วน เมื่อดวงดาวแต่ละดวงกระพริบ ดูเหมือนว่าจะมีพลังบางอย่างหล่นลงมาจากท้องฟ้า และแทรกซึมเข้าไปในร่างกาย ฉื่อหยาน .
ในเวลากลางคืน , ฉื่อหยาน ยกศีรษะแหงนมองท้องฟ้า เขารู้สึกได้ถึงการดูดซับพลังจากดวงดาวของจิตวิญญานดวงดาว เขาส่งจิตสำนึกเข้าไปในร่างและตระหนักได้ว่าหลายจุดแสงที่ถูกเคลื่อนไหวอยู่ภายในหัวใจของเขากำลังหลอมรวมกับพลังธรรมชาติ .
” อ๊ะ ! ” หน้า ฉื่อหยาน ก็เปลี่ยนไป เขามองดวงจันทร์ซึ่งเป็นเหมือนจานสีเงินในท้องฟ้า เขาช่วยไม่ได้ที่จะพูดออกมา ” นั่นคือ . . . . . . . “
ในค่ำคืนที่มืดมิด แสงจันทร์สีเงินสีเงินที่ส่องลงมา อย่างรวดเร็วก็รวมกัน เกิดเป็นเส้นแสงและร่างที่งดงามลอยอยู่ในอากาส
ร่างสวยที่ลอยอยู่ถูกล้อมรอบด้วยแสงจันทร์ ร่างกายทรงเสน่ห์บอบบางก็ซ่อนตัวอยู่ในม่านหมอกของแสงดูราวกับว่าเป็นเทพธิดาที่อยู่ในฝัน
ดูเหมือนนางจะสามารถดูดซับพลังของแสงจันทร์ และหลอมรวมเข้ากับมันได้
แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ห่างนับพันไมล์ ฉื่อหยาน ก็ยังรู้สึกได้ถึงความกว้างใหญ่ของสิ่งมหัศจรรย์นี้ มันทำให้รู้สึกราวกับว่าเป็นพระจันทร์จริงๆ
” เทพจันทราคนใหม่มีความสามารถพิเศษที่โดดเด่นจริงๆ” ถังหยวนหนาน ก็สั่นสะท้าน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น ” นางได้บรรลุเข้าสู่ระดับพระเจ้า ด้วยความประหลาดของจิตวิญญานดวงจันทร์ที่ดูดซับแสงจันทร์มานับพันปี เมื่อนางเข้าสู่ระดับพระเจ้า นางก็เปรียบได้กับวีรบุรุษเช่นฉาวเชียวเต้าและหยางอี้เทียนในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด นี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพรรคสามเทพเราจริงๆ “
” ระดับพระเจ้า . . . . . . . ” ฉื่อหยาน ก็มองไปอย่างคลุมคลุมเครือไปที่ร่างสวยงามที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ แล้วพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับลดเสียงก่อนมอง ถังหยวนหนาน อีกครั้งและพูดว่า ” ข้าคิดว่าท่านกั
วลมากไป ถ้านางได้เข้าสู่ระดับพระเจ้าแล้ว นางย่อมปลอดภัยแน่นอน “
” นั่นก็จริง ถ้าฉาวเชียวเต้า และหยางอี้เทียนไม่ทำอะไร ก็ไม่มีใครในทะเลกว้างใหญ่ที่สามารถทำร้ายนางได้ ” ถังหยวนหนาน หัวเราะอย่างสนุกสนาน แล้วหันกลับไปมอง ฉื่อหยาน , ” เจ้าเคยเจอนางมาก่อนใช่มั้ย ? ข้ามั่นใจว่าเจ้าสองคนพบกันมาก่อน เมื่อเจ้ามาถึงที่เกาะสุริยัน , นางก็ต้องการที่จะพบเจ้า แต่หลังจากนั้น . . . . . . . “
” ช่างเถอะ ข้ามีบางอย่างที่ต้องทำ . ” ฉื่อหยาน ขัดจังหวะถังหยวนหนาน หันหัวไปรอบ ๆเพื่อระบุทิศทาง แล้วกล่าวว่า ” ข้าจะไปเกาะมังกรเหมันเพื่อดูสถานการณ์ที่นั่น “
” เจ้าไม่รู้จักวิธีบินไม่ใช่รึ , เจ้าจะทำยังไง ?” ถังหยวนหนานก็ประหลาดใจ .
ฉื่อหยาน บีมยิ้มบางๆ , เขาเปิดใช้งานจิตวิญญานแห่งดวงดาว จุดแสงดวงดาวมารวมตัวกันรอบๆตัวเขา บางๆเป็นแสงวงกลม
ทันทีที่แสงสว่างนั้นถูกสร้างขึ้นด้านหลัง ฉื่อหยาน มันก็แบ่งเป็นสองรูปแบบสองข้างเหมือนกับปีกซึ่งดูคล้ายกับปีกตั๊กแตน . ในเพียงเสี้ยววินาที เขาก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้า และกลายเป็นประกายแสงดวงดาวงดงาม บินจากไป
ปีกดารา !
ต้นกำเนิดของมันคือโล่ดารา เขาเอาประโยชน์จากส่วนของโล่ดารามาทำเป็นปีกและยืมพลังจากดวงดาวเพื่อบินไปด้วยพลังระดับรู้แจ้ง เช่นนี้ก็สามารถบินได้อย่างอิสระ ช่างมหัศจรรย์นัก
ภายใต้ดวงดาวนับไม่ถ้วน เมื่อปีกดาราปรากฏขึ้น ฉื่อหยาน ก็รู้สึกถึงพลังจากดวงดาวมากมายที่เขามาในร่างของเขาก่อนที่จะถ่ายทอดไปที่ปีก
การใช้ปีกดาราจำเป็นจะต้องใช้จิตวิญญานดวงดาว เมื่อปีกดาราถูกอัดแน่นกันและเปลี่ยนรูปร่าง , พวกมันจำเป็ฯจะต้องดูดซับพลังจากดวงดาวบนท้องฟ้าจึงจะช่วยให้ฉื่อหยานบินได้
ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ใช้พลังปราณลึกลับใดๆในการทำให้ปีกดาราบินได้เลย
ความเร็วของปีกดาราขึ้นอยู่กับปริมาณแสงดวงดาวที่บรรจุอยู่ภายใน ยิ่งพลังดวงดาวแข็งแกร่ง , ความเร็วของปีกดาราก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เมื่อแสงดวงดาวในปีกดาราถูกกระตุ้นเขาก็จะกลายเป็นดวงดาวชั่วคราวซึ่งสามารถเคลื่อนไปในหนึ่งพันไมล์ได้ในชั่วพริบตา
ในท้องฟ้ากลางคืน , ฉื่อหยาน กระตุ้นปีกดาราไปเกาะมังกรเหมันเขามองดูท้องฟ้า เขารู้สึกถึงพลังดวงดาวอย่างเงียบๆและเปิดใช้งานดาราผันแปรเพื่อควบคุมปีกดารา
กลุ่มก้อนดวงดาวที่งดงามก็ก่อตัวอย่างต่อเนื่องออกมาจากในมือของเขา ขณะบิน เขายังใช้จิตสำนึกสัมพัสไปที่ดวงดาวดูดซับพลังมหาศาลจากดวงดาวรอบๆและพุ่งไปข้างหน้าแปดร้อยไมล์
เขาผ่อนคลายจิตสำนึกลง ฉื่อหยาน ก็ตื่นขึ้นมา ส่งจิตสำนึกเขาไปที่วิญญานหลักของเขา แล้วเขาก็กระจายจิตสำนึกวิญญานไปทั่ววิญญานหลัก
ความรู้สึกยิ่งใหญ่ก็ปรากฏอยู่ภายในหัวใจของเขาทันที
เขาพบว่าตัวเองราวกับว่ามีสายตานับไม่ถ้วนที่ทำให้เขาเห็นฉากต่างๆอย่างชัดเจน ด้วยจิตสำนึกวิญญานของเขาที่แผ่ออก
ในทุกทิศทาง ท้องฟ้ายังแจ่มใส และทะเลสีน้ำเงิน ไม่ว่าจิตสำนึกวิญญาณจะผ่านไปที่ใด ฉากของที่แห่งนั้นก็จะปรากฏเกิดขึ้นในใจของเขา
มันเป็นสัมพัสที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ เมื่อเขาปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขา เขาก็สัมพัสได้ แต่มันก็เหมือนกับคนตาบอดที่คลำทางไปที่แห่งนั้น ในขณะที่เขาทำได้เพียงรู้สึกถึงมันแต่ไม่อาจเห็นมัน
มันแตกต่างจากตอนนี้ ไม่ว่าจิตสำวิญญาณนี้จะไปที่แห่งใด มันก็เหมือนกับว่าเขาอยู่ตรงนั้น เขาสามารถเห็นความวุ่นวายทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
แต่ละการไหลของจิตสำนึกวิญญานก็เป็นเหมือนอีกดวงตาข้างหนึ่งของเขา ทันทีที่แพร่กระจายจิตสนึกวิญญาณของเขาผ่านพื้นที่ที่คุ้นเคยเขาก็พบกับพลังชีวิตที่เขาคุ้นเคยไม่กี่ชีวิต
_________________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 25 แล้ว มีถึงตอนที่ 1147 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <