บทที่ 349 จิตใจที่เปลี่ยนแปลง
ฉื่อหยานตื่นจากสมาธิ
ค่ำคืนที่เงียบสงบยังไม่หายไปอย่างสมบูรณ์ แสงแรกของแดดยามเช้าค่อยๆ โรยบนร่างกายท่อนบนของเขา ที่เปลือยเปล่า
แสงสว่างเป็นเหมือนกับสายน้ำที่ไหลนำพลังที่บางเบาไหลเข้าไปในร่างของเขา จากนั้นก็ไหลต่อไปยังหัวใจ
ยกศีรษะของเขาดูพระอาทิตย์ขึ้น ฉื่อหยานรู้สึกค่อนข้างสงบ และพลังธรรมชาติจากกลุ่มของเฉิงตั้วและตงฟางเหอ ก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพลังลึกลับ จากนั้นพวกมันก้หลอมรวมเข้ากับพลังปราณลึกลับในร่างกายของเขา ไหลไปที่แขนทั้งสองข้างของเขา ช่วยให้แขนขวาของเขากลายพันธ์อย่างสมบูรณ์ และเปลี่ยนแขนซ้ายของเขาให้กลายเป็นสีม่วงแดงหนักกว่าพันกิโลกรัม
ส่วนหนึ่งของพลังประหลาดแทรกซึมเข้าไปในจิตวิญญาณต่อสู้ ทำให้มันลึกลับเป็นอย่างมาก มันสามารถดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์ได้
มองแสงแดดยามเช้า ฉื่อหยานก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหุบเหวสนามรบ
ในทะเลทรายที่แปลกนั้น เขาได้รับตะวันกลั่นวิญญานและดาบลึกลับยักษ์ในแหวนสายโลหิตเองก็มาจากที่นั่น
การกลายพันธุ์นี้ทำให้จิตวิญญาณต่อสู้ของเขาแตกต่างจากแต่ก่อน หลังจากกลับมาที่ทะเลไม่มีที่สิ้นสุดจากหุบเหวสนามรบ เมื่อแสงแดดส่องตอนบ่าย เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาดูดซับพลังจากมัน
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่ยังไม่ค่อยชัดเจนนัก ซึ่งทำให้เขาคิดว่า มันอาจเป็นแค่ภาพลวงตา แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
แสงแดดส่องบนรางกายส่วนบนของเขา พลังแสงอาทิตย์เจาะเข้าไปในร่างกายของเขาและเข้าไปในจิตใจของเขา ทำให้เขาร้อนขึ้น ความรู้สึกนี้เป็นเรื่องจริง มันไม่ใช่แค่ภาพลวงตา
เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้าและ เงียบลงตั้งสมาธิ
หลังจากนั้น เขาก็มั่นใจว่าภายใต้พลังลึกลับ นอกจากความสามารถในการดูดซับพลังจากดวงดาวแล้ส เขายังเริ่มที่จะดูดซับพลังดวงอาทิตย์ได้อีกด้วย .
เห็นได้ชัดว่า ความสามารถในการดูดซับพลังดวงอาทิตย์ยังอยู่ห่างไกลจากถังหยวนหนาน ; มันไม่แม้แต่จะเทียบได้กับสาวกส่วนใหญ่ของพรรคสามเทพด้วยซ้ำ
เขาเข้าใจจุดนี้ดี แต่เขาก็ยังรู้สึกวิเศษและไม่น่าเชื่อ ในพรรคสามเทพ ไม่มีใครเคยดูดซับพลังจากทั้งดวงดาวและพลังดวงอาทิตย์ได้ ในพรรคสามเทพ ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนนี้มาก่อน
ฉื่อหยาน ยืนขึ้นเงียบๆและพยายามที่จะแกว่งแขนซ้ายของเขา เขารู้สึกถึงพลังมหาศาลที่ซ่อนอยู่ข้างใน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น
การกลายพันธุ์ได้แพร่กระจายไปที่แขนของเขา ตราบใดที่เขายังฆ่าและดูดซับพลังมา เขาเชื่อว่า ร่างทั้งร่างของเขาจะต้องกลายพันธ์ได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน เมื่อถึงเวลานี่น ทุกส่วนของร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัวและเขาก็จะแข็งแกร่งกว่าที่เขาเป็นในตอนนี้
ต้นไม้โบราณพลังปราณลึกลับในวงหมุนบนท้องของเขายังคงไม่หายไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเขายืนขึ้น , วงหมุน ,ที่ถูกสร้างขึ้นจากการรวมตัวกันของเปลวเหมันเยือกแข็ง จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ และ แกนเพลิง ก็เริ่มหมุนอีกครั้ง กลิ่นอายธรรมชาติจำนวนมากก็ไหลออกมาและถูกเปลี่ยนเป็นพลังปราณลึกลับ ไหลเข้าไปในพื้นที่แปลกประหลาด
พื้นที่ที่แปลกคือแหล่งที่มาของพลังมหาศาล
ฉื่อหยาน รู้ว่า การที่ใีกลิ่นอายธรรมชาติมากมายขนาดนี้ เกี่ยวข้องกับจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์
เจ้าแปลกประหลาดนี่มีความสามารถในการรวบรวมกลิ่นอายธรรมชาติที่อยู่รอบๆด้วยตัวของมันเอง อาจจะถือว่ามันคือแหล่งกลั่นพลังขนาดหย่อม . ด้วยดารดำรงอยู่ของมัน ฉื่อหยาน ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่ขาดแคลนกลิ่นอายธรรมชาติ
ดวงอาทิตย์กำลังร้อนฉ่า
ฉื่อหยาน ยืนงงสักพัก มองไปยังศพทั้งสองด้วยแววตาไม่แยแส หลังจากนั้นเขาก็เริ่มใช้ปีกดารา และบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
. . .
ใต้เกาะดวงดาว , ในห้องหินสีขาว มีที่ภาพทะเลสาปดวงดาว เทพสุริยันถังหยวนหนาน นั่งงอตัวลงเล็กน้อยในขณะที่พูดกับเทพจันทรา โอหยางลู่ซวง . แสงจันทร์ครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของเทพจันทรา มีหมอกรอยอยู่รอบๆนาง ทำให้ผู้พบเห็นต่างก็คิดว่ามันไม่ใช่ภาพจริงเป็นเพียงภาพในความฝัน
นางมองไปที่ชีวิตที่เหมือนดวงดาวในแผนภาพทะเลดวงดาวอย่างเงียบๆ , ฟังถังหยวนหนาน พูดโดยที่นางไม่ได้ออกความเห็นใดๆ ดูเหมือนนางกำลังคิดอะไรบางอย่าง
เกาะดวงดาวถูกปล่อยร้างมานาน ไม่มีใครบนเกาะ รูปแบบต่างๆบนเกาะก็หายไป ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่อดีต แม้แต่สาวกของพรรคสามเทพก็ไม่กล้าเหยียบไปที่เกาะนี้ อย่างไรก็ตาม เผ่าอสูรกลับไม่สนสิ่งเหล่านี้
วิจิตรเทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่บนท้องฟ้าที่เกาะดวงจันที์ มีเผ่าอสูรที่ขี่สัตว์อสูรบินอยู่รอบๆพวกมันหลายคนได้มาที่เกาะดวงดาว แต่ก็พบว่าไม่มีอะไรเลย และดังนั้น พวกมันจึงได้ออกจากเกาะไป
ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้เกาะดาวเป็นที่ซ่อนของพระราชวังดวงดาว มันซ่อนอยู่ลึกลงมาจากเกาะดวงดาสว และได้รับการป้องกันจากรูปแบบป้องกันท่ีแข็งแกร่ง 12 รูปแบบ ซึ่งสามารถป้องกันสัมพัสจากวิญญานและปิดกั้นไม่ให้สิ่งภายนอกเข้าไได้ . แม้แต่ราชาอสูรชิหยาน ก็ไม่รู้ว่ถึงการมีอยู่ของพระราชวังดวงดาว ดังนั้น เขาจึงไม่รู้เลยว่าเทพสุริยันและเทพจันทรานั้นอยู่ใกล้กับเขาเพียงแค่เอื้อม
พรรคสามเทพนั้นอยู่รอดได้มาเป็นพันๆปีโดยไม่ล่มสลาย พวกเขาได้กลายเป็นหนึ่งขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลไม่มีสิ้นสุด นั่นก็บ่งบอกแล้วว่าภูมิหลังของพวกเขาย่อมไม่ธรรมดา
” รอสักครู่ก่อน ให้สาวกหลักซ่อนในดินแดนลับที่นก้นทะเลไปก่อน อย่าออกไปข้างนอกสักพัก ให้ติดต่อกับผู้นำของหน่วยอื่น ๆในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดและหารือเกี่ยวกับแผนการที่จะจัดการกับเผ่าอสูร “
เสียงของเทพจันทราดังชัดเจน อย่างเย็นชา นางหันหลังไปทาง ถังหยวนหนาน และกล่าวว่า ” สำหรับ ฉื่อหยาน แค่สนใจที่ๆเขาจะไปและอย่าปล่อยให้เขาคลาดสายตา ตอนนี้ทุกคนกำลังตามหาเขาเพื่อฆ่าเขา นี้นับได้ว่าอันตราย แต่มันก็ยังมีโอกาส ถ้าเขารอด เขาก็มีคุณสมบัติพอที่จะครองตำแหน่งเป็นเทพดวงดาว ถ้าเขาตาย เจ้าก็บอกข้าทันที ข้าจะต้องเอาหัวใจของเขามาเพื่อรักษามรดกจิตวิญญานดวงดาว”
ถังหยวนหนาน หน้ากลายเป็นเคร่งขรึม เขาจึงค่อยๆพยักหน้า
” แค่ยืมร่างของนักรบระดับนภา , ชิหยาน มีความแข็งแรงเช่นนี้แล้ว ถ้าเขามาที่นี่ด้วยตัวของเขาเอง มีไม่กี่คนในทะเลกว้างใหญ่แน่ที่สามารถรับมือกับเขาได้ ข้าเพิ่งเข้าสู่ระดับพระเจ้า และข้าต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อทำให้มันสมดุล อย่าได้รบกวนเวลาข้า” เทพจันทราพูดอย่างต่อเนื่อง
ถังหยวนหนาน พยักหน้าเงียบๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก เขาก้มลงและสร้างรูปแบบ จากนั้นก็หายไป
. . .
บนชายหาดของเกาะร้าง , ศพมัมมี่สิบร่าง ลอยอยู่ในทะเล มีทั้งชายและหญิง เผ่าอสูรและมนุษย์
เรื่อยาวยี่สิบเมตรก็ค่อยๆเทียบฝั่ง เรือทั้งหมดว่างเปล่า หัวของอสูรที่เลือดเนื้อแตกกระจายแปลกประหลาดก็อยู่ไปทั่ว
อากาศบางๆ เต็ทไปด้วยกลิ่นเลือด พร้อมกับสายเลือดที่ไหลไปทั่วท้องทะเล
ร่างอันสง่างาม ด้วยสองปีกบนหลังของเขา เขาก็ลอยอยู่ในอากาศสักพักแล้วก็จากไป
สักพักต่อมา
ในเมืองเล็ก ๆที่อยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลตงฟาง คนๆนี้ก็ได้ปรากฏตัวที่เรือนโคมเขียวที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า ‘ เมามายความฝัน ‘ เขาสั่งให้สาวอวบ ส่งหญิงสาวสามคนมาหาเขาเพื่อปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายในร่างของเขา
ตกกลางคืน เขาก็จากไปอย่างเงียบๆและปรากฏในทะเลที่มีเผ่าอสูรและนักรบมนุษย์ต่อสู้กันอยู่ เขาจะไม่ปราณีไม่ว่าพวกมันจะเป็นใคร . เขาจะฆ่าทุกคนที่เขาเห็น
ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้ หากมีหญิงงามเขาจะพาพวกนางไปกับเขา
ล่องลอยเช่นนี้เป็นเวลาครึ่งเดือน
ในเวลาเพียงครึ่งเดือน จำนวนนักรบอสูรและนักรบมนุษญ์ในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดได้ตายด้วยมือของเขานั้นมีมากกว่าหนึ่งร้อยคน เป็นนักรบระดับนภา 7-8 คน นักรบระดับรู้แจ้งอีกมากกว่าสิบคน
นักรบใรทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุดและเผ่าอสูนที่ตายในมือของเขาทุกศพจะกลายเป็นแห้งเหี่ยวเหมือนมัมมี่ บางครั้ง ก็มีศพหรือสองศพ บางครั้ก็มีมากกว่าสิบศพ ทุกๆครั้งจำนวนจะแตกต่างกันออกไป
เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นมัมมี่เหล่านั้น ทั้งกองกำลังทะเลไม่มีที่สิ้นสุดและกองทัพเผ่าอสูรที่ชั่วร้ายก็จะกลายเป็นหวาดกลัว พวกเขาจะสบายใจเป็นอย่างมาก เมื่อมองดูแล้วไม่มีศพแห้งเหี่ยวอยู่และไม่มีคนๆนี้อยู่บริเวณรอบๆ
คนๆนี้โหดเหี้ยมและเย็นชา ชื่อเสียงของเขากระจายออกไปในทะเลสิ้นสุดทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นเผ่าอสูรหรือนักรบจากทะเลไม่มีสิ้นสุด ทุกคนถือว่าเขาเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดซึ่งสุ่มอยู่ในเงามืด
. . .
บนเกาะร้างในถ้ำหินมืดมิด
มีร่างเปลือยท่อนบนอยู่ด้วยตาสีแดงเข้ม ใบหน้าดุร้าย หายใจหอบ ขณะที่หญิงสาวจากเผ่าอสูรมังกรเขาเดียวที่อวบอิ่มนอนอยู่ใต้ร่างของเขา
ในเผ่าอสูรมังกรเขาเดียวผู้ชายจะน่าเกลียดและดุร้าย แต่ผู้หญิงจะน่าสนใจและน่าหลงไหลเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นเผ่าอสูรมังกรเขาเดียวเช่นกัน ,แต่ ลักษณะของเพศชายและหญิง แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นอกจากเขาที่อยู่บนหัวแล้ว ก็ไม่มีใครดูออกได้เลยว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธ์เดียวกัน
ข้างๆเขา มีหญิงสองคนจากเผ่าอสูรมังกรเขาเดียวนอนอยู่ บนพื้นดิน พวกนางยังแสดงออกถึงความพึงพอใจ แต่พวกนางนั้นไม่ได้หายใตอีกต่อไปแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็คำรามเหมือนสัตว์ร้ายในขณะที่ร่างกายอันสง่างามของเขาสั่นสะท้าน
เมื่อร่างกายของเขา สั่นสะท้าน ร่างกายส่วนบนของเขาก็ส่องแสงสีม่วงแดงออกมา แต่ละของเขาก็กลายเป็นแข็งแกร่งและหนักเหมือนกับเหล็ก , มันเต็มไปด้วยพลังมหาศาลที่ทำให้หญิงคนนั้นสั่นสะท้าน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้อง , หญิงสาวเผ่ามังกรเขาเดียวก็ต้องการล้างแค้ง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เล็บแหลมคมของนางแทงไปที่คอของเขาอย่างบ้าคลั่ง
” ป็อก ป็อก ป็อก “
หญิงสาวที่กางเล็บทั้งหมดออก กระดูกมือของนางก็กลายเป็นแตกกระจาย ขณะที่ใบหน้าของนางแสดงออกถึงความกลัว . ร่างกายส่วนล่างของนางก็เป็นเช่นเดียวกับแขนยาวของนาง มันระเบิดออกมา
ในตอนนั้เอง เมื่อพลังถูกกระจายออกไป นางก็ร้องออกมาเป็นภาษาของมนุษย์ , ” ไปลงนรกซะ เจ้าบัดซบ ! !
ชายที่นั่งอยู่บนร่างนางก็เผยรอยยิ้มเยาะเย้น จากนั้นเขาก็อัดแน่นพลัง และซัดมันลงไปยังหญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างของเขา
ร่างกายของหญิงสาวก็กลายเป็นถูกแช่แข็งทันที นางกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งในขณะที่ใบหน้าที่งดงามของนางนั้นยังอยู่
จู่ๆ บางอย่างก็กระตุ้นขึ้นจากจิตใจของเขา เขารีบลุกขึ้นหยิบเสื้อออกจากแหวนที่อยู่ในกระเป๋าที่ถูกผูกไว้รอบเอวของเขาและจากนั้นเขาก็เดินออกมาจากถ้ำมืดด้วยร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าของเขา
เป็นหญิงสาวงดงามในชุดสีขาวราวกับหิมะยืนอยู่นอกถ้ำ ดวงตาของนางดงงามราวกับน้ำค้างในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งส่องเป็นประกายทำให้ดูลึกซึ้งและลึกลับ
บนหลังของนางมีปีกคู่ยาวสีขาว ซึ่งยาวประมาณห้าหรือหกเมตร นางลอยอย่างเงียบๆอยู่เหนือพื้นดิน
_________________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 26 แล้ว มีถึงตอนที่ 1175 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <