บทที่ 374 มาขึ้นฝั่ง
ไชอี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง จ้องมองไปที่ ฉื่อหยานอย่างโหดร้าย . นางไม่พอใจที่นางไม่สามารถฆ่าเขาทันทีเพื่อระบายความโกรธของนาง แต่นางรู้ว่าการฆ่า ฉื่อหยาน ที่ด้านล่างของทะเลสาบเป็นเรื่องที่ยากมากและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำได้ โดยเฉพาะตอนนี้วิญญานหลักของนางอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ตราบใดที่ ฉื่อหยาน เรียกใช้จิตสำนึกวิญญาน เขาก็สามารถควยเมล็ดวิญญานที่ฝังอยู่ในร่าง ไชอี้ และสามารถทำลายวิญญานหลักของนางได้ทันที
ภายในโล่แสงทมิฬ ไชอี้ นางนอนกัดฟันขณะที่หัวใจนางได้กำลังจมไปกับความแค้นและความอับอาย นางไม่ได้พูดอะไร แล้วหยิบชุดเสื้อผ้าและริบบิ้นจากแหวนเก็บอขงและ ครอบคลุมร่างขาวของนาง
ฉื่อหยานจ้องมองอย่างชั่วร้ายไปที่นาง จ้องในขณะที่นางกำลังใส่เสื้อผ้า โดยไม่หันหน้าไปมองที่อื่น
ไชอี้ อับอายเป็นอย่างมาก และเต็มไปด้วยความแค้น แต่นางก็รู้ว่านางไม่สามารถทำอะไรเขาได้
หลังจากนางแต่งตัวเสร็จ ฉื่อหยาน ก็ยิ้มและกล่าวว่าอย่างเย็นชา ” ปลาหมึกก็ตาย และข้าก็ไม่อยากให้คนอื่นๆรู้ว่าการตายของมันเป็นฝีมือข้า ข้าหวังว่าเจ้าจะปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นใต้น้ำหลังที่อายหยาไปแล้ว”
” เจ้าควบคุมวิญญานหลักของข้าแล้ว เจ้าต้องการอะไรอีก ? “
หลังจากแต่งตัวเสร็จ ไชอี้ อารมณ์ก็คงที่ แต่นางก็ยังจำสิ่งที่ ฉื่อหยาน ทำกับนาง คอของนางกลายเป็นสีแดง ตอนนี้นางตระหนักได้ว่า ฉื่อหยาน ไม่ใช่คนนางสามารถควบคุมได้อีกต่อไป และนางก็แอบเสียใจที่นางเสนอให้เขามาด้วย นี้เป็นเหมือนกับนางได้ซื้อเชือกมาผูกกับตัวเอง ไม่เพียงแค่นางล้มเหลวที่จะหลอกใช้ ฉื่อหยาน แต่มันยังจบด้วยการที่มันกลับมาทำร้ายตัวนางเอง
” ข้าไม่ได้รู้เรื่องหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬมากนักดังนั้นข้าหวังว่าเจ้าสามารถอธิบายรายละเอียดให้ข้าฟังได้ ข้ายังสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของพวกเจ้าห้าคน ดังนั้น เจ้าต้องบอกข้าเรื่องนี้เช่นกัน ” ฉื่อหยาน พูดออกมาอย่างเรียบเฉย
” สำหรับเรื่องหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ลั่วหลี่ แน่นอนว่าได้บอกข้าแล้ว สำหรับเรื่องอื่น ข้าคิดว่าเราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับมันในภายหลัง . ” ไชอี้ จ้องมองออกไปที่น้ำด้านนอกด้วยความกังวล” เราควรจะรีบกลับไปได้แล้ว ถ้าเรากลับช้า คนอื่น ๆอาจจะคิดว่าเราตาย และอาจจะไปจากที่แห่งนี้ได้ ถึงแม้อายหยาจะเป็นคนที่น่ารังเกียจ แต่นางก็มีสมบัติลับมากมายอยู่ในมือของนาง อยู่กับนาง เจ้าสามารถตรวจสอบสิ่งที่ไม่คาดคิดและหลีกเลี่ยงปัญหามากมายได้”
“ขอบคุณที่เตือน” ตอนนี้ฉื่อหยาน ก็ตระหนักได้ว่าเวลาที่เขาอยู่ในน้ำนานเกินไป เขาคิดเล็กน้อยแล้วพยักหน้า ” แต่เจ้าควรจำไว้ว่า ข้าได้ฝังเมล็ดวิญญานไปในวิญญานหลักของเจ้าแล้ว ถ้าเจ้ากล้าที่จะมีเจตนาชั่วร้าย อย่าได้โทษข้าไร้ความปราณี ” หน้า ไชอี้ ก็มืดมน นางขบฟันแน่นและพยักหน้า และแอบสาปแช่ง ฉื่อหยาน ว่าเป็นไอ้หน้าด้าน
ฉื่อหยานมองนางด้วยรอยยิ้มอ่อน เขารู้ว่า ไชอี้ เกลียดเขามาก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก อย่างน้อยตราบใดที่เมล็ดวิญญานยังถูกฝังอยู่ในวิญญานหลักของไชอี้เขาก็ไม่ต้องกังวล
” เจ้าฆ่าปลาหมึกพันมือรึ ? “ไชอี้ มองทะเลสาบนอกถ้ำหิน คิดสักพัก แล้วถามเขา
ฉื่อหยาน ลูบคาง แล้วพยักหน้า
ไชอี้ ขมวดคิ้วของนาง และบินออกจากถ้ำหินจมสู่ก้นทะเลสาบหาปลาหมึกพันมือที่ตายแล้ว ฉื่อหยาน ไม่รู้ว่านางต้องการจะทำอะไร เขาจึงตามนางออกจากถ้ำด้วยความสงสัย เขาลอยอยู่ในน้ำ ทำหน้ามุ่ยและมองนางอยู่
ไชอี้ก็ว่ายลงไปยังก้นทะเลสาบด้านล่าง เมื่อนางมาถึงด้านล่าง ร่างบอบบางของนางก็ได้เคลื่อนไหวไปที่ศพปลาหมึกพันมือ นางเอามีดสั้นที่ปราณีตออกมา และเจาะไปที่ดวงตาของปลาหมึกพันมือ
หลังจากนั้นไม่นาน ไชอี้ ก็บินกลับมาที่ ฉื่อหยาน ,พร้อมกับลูกตายักษ์ที่อยู่ในมือนางแล้วพูดกับ ฉื่อหยาน , ” ลูกตาของปลาหมึกพันมือระดับเจ็ดนี้ก่อให้เกิดรูปแบบที่มหัศจรรย์ เราไม่สามารถมองเห็นภาพจริงๆ ใต้ น้ำ ได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากอิทธิพลของดวงตานี้ เจ้าได้ผลึกอสูรแล้ว ดังนั้นดวงตานี้ต้องเป็นของข้า เจ้าเห็นด้วยหรือไม่ ? “
” เจ้าก็เอามันไปสิ ” ฉื่อหยาน พยักหน้า.
ไชอี้ ทันทีก็เก็บลูกตาปลาหมึกาไป นางครุ่นคิดสักพัก ก่อนที่จะมอง ฉื่อหยาน , ” ข้าหวังว่าเจ้าจะเก็บเป็นความลับ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในน้ำ ข้าไม่ต้องการให้ใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากนี้เองก็ระวังตัวไว้ด้วย อายหยา นางเป็นลูกสาวของนายพลผู้ดูแลปราสาทเมืองจักพรรดิขาว ในเมืองจักรพรรดิขาว หญิงสาวนั้นรักนวนสงวนตัวเอง และมักจะรักษาให้ตนเองบริสุทธิ์อยู่เสมอ การที่เจ้าได้เห็นร่างกายของเรา นับได้ว่าฝ่าฝืนข้อบังคับของอายหยา ข้ากลัวว่านางจะไม่ปล่อยเจ้าไป เจ้าควรเอาสิ่งนี้ไปคิดด้วย .
” เมืองจักพรรดิขาว . . . . . . . ” ฉื่อหยาน พึมพำ ไม่ได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเขา แค่พยักหน้าและบอกว่า ” ข้าเข้าใจแล้ว ” .
ไชอี้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ , นางสะกดความเกลียดชังของนางที่มีต่อ ฉื่อหยาน ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อของนางจากนั้นนางก็บินขึ้นสู่พื้นผิวของทะเลสาบ
ฉื่อหยาน ทันทีก็ตามนางไป
ในทะเลสาบ . . . . . . .
เมื่ออายหยาขึ้นมา ประกายแสงสุกใสก็ปกคลุมร่างที่งดงามของนาง นางรีบหาสถานที่ห่างไกลเพื่อใส่เสื้อผ้าใหม่ และหลังจากนั้นนางก็ไปเจอ บอค , ลั่วหลี่ และ ลั่วหลั่น .
พวกเขาทั้งสามที่อดทนรอมาอย่างยาวนาน ทันทีก็เห็นไอ้หยาเดินออกมา เขารีบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อายหยาบอกเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ด้านล่างของทะเลสาบและยังบอกว่า ไชอี้และฉื่อหยานอาจจะไม่กลับมา
หลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับปลาหมึกพันมือสัตว์อสูรระดับเจ็ด ใบหน้าของทั้งสามของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่พวกเขาก็แอบดีใจที่เขาไม่ประมาทลงไปในน้ำ พวกเขากลัวว่าพวกเขาจะได้รับผลเหมือนกับอายหยา ไชอี้และ ฉื่อหยาน.
อายหยาบอกพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์อย่างรายละเอียด และจ้องมองอย่างว่างเปล่าลงไปยังทะเลสาป และคิดว่าจะไม่กลับลงไปอีก
บอค และสองพี่ลั่วหลี่ก็กำลังเหม่อลอยรอด้วยใบหน้ากังวล พวกเขาพร้อมที่จะสละ ฉื่อหยาน และ ไชอี้ . และถ้า ฉื่อหยานกับ ไชอี้ ไม่ออกมาเร็ว ๆ นี้พวกเขาก็จะจากไป
บอค นั้นอยู่กับ ไชอี้ตลอดมา . แต่เมื่อเห็น ไชอี้ ตกอยู่ในอันตราย เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะช่วยนาง เขารู้สึกผิดหวัง เขาคิดว่าเขาควรทำอะไร ถ้าเขาเป็นคนเดียวที่ไปกับอายหยาและคนอื่นๆ
ในขณะที่ทั้งสี่คนกำลังรออยู่อย่างหงุดหงิดและกำลังจะยอมแพ้ ฉื่อหยาน ไชอี้ สองร่างก็ลอยขึ้นมาจากทะเลสาบ
บอร์กก็ดีใจแล้วรีบตะโกนว่า ” พี่สาว ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ? “
หลังจาก ไชอี้ บินออกจากทะเลสาบ หน้าของนางกลับก็กลับมาเป็นปกติ นางมองไปที่ บอค อย่างรวดเร็วและพยักหน้าอย่างเย็นชา ” ข้าสบายดี และข้ากับฉื่อหยานก็ฆ่าปลาหมึกพันมือไปแล้ว ” หลังจากพูด ไชอี้ ก็ช่วยไม่ได้ที่จะมองอายหยาและคำราม
ในช่วงเวลาวิกฤตเมื่อพวกเขาถูกจับอยู่ใต้น้ำ อายหยาไม่เคยเห็นไชอี้เป็นสหายเลย นางไม่ได้ยื่นมือช่วยนางแม้แต่น้อย แต่กลับปล่อยให้นางตกอยู่ในอันตรายแทน ไชอี้เข้าใจดีว่าทำไม แต่นางก็ยังรู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับอายหยา
ร่องรอยของความประหลาดใจแวบขึ้นในดวงตาของอายหยา นางจ้องไปที่ฉื่อหยานด้วยความประหลาดใจ สีหน้าของนางกลายเป็นแปลกประหลาด
นางไม่คิดเลยว่า ฉื่อหยาน จะไม่ถูกฆ่าตายในขณะที่ตกเข้าไปในปากของปลาหมึกพันมือ ตอนที่นางอยู่ที่ก้นทะเลสาบ , ฉื่อหยาน ได้เห็นร่างของนางและก็เป็นส่วนลับของนางอีกด้วย ถ้าฉื่อหยานตายไป นางก็จะสบายใจ อย่างไรก็ตาม , ฉื่อหยาน ก็ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งนี่ทำให้นางไม่สบายใจอย่างมาก
ในสายตาของนาง , ฉื่อหยานดูสงบและดวงตาที่เย็นชาของฉื่อหยานเต็มไปด้วยความปรารถนาราวกับเป็นหนามทิ่มแทงนาง
หลังจากมองไปที่ ฉื่อหยาน อย่างรวดเร็ว อายหยาก็ตกใจเป็นอย่างมาก นางอยากจะลงมือทันที แต่ก็หาข้ออ้างที่เหมาะสมที่จะฆ่าเขาไม่ได้ นางไม่สามารถบอกคนอื่นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทะเลสาบได้เช่นกัน ในสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนี้ นางรู้สึกอึดอัดอย่างไม่มีเหตุผล
” เอาหละ ข้าต้องการที่จะฟื้นฟูพลัง ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงใข้ผลึกอสูรฟื้นฟูพลังของพวกเจ้าไปแล้ว แล้วเจอกัน ” หลังจากพูดเสร็จ อายหยาก็หันหน้าและจากไป นางไม่กล้าที่จะมอง ฉื่อหยาน ด้วยความอายนางจึงรีบพุ่งออกไป
จ้องมองนางจากไป ฉื่อหยาน , ก็แสดงลักษณะเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา เขาแสยะยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
” ใช่ เราต้องการที่จะฟื้นฟูพลัง . ” ไชอี้มอง ฉื่อหยาน ด้วยสีหน้าซับซ้อนดูแล้วพยักหน้าไปทาง บอค และบินออกไปในทิศทางตรงข้ามกับอายหยา
บอค รีบตามนาง เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ห่างไกลและเงียบสงบ บอคก็ถามอย่างรวดเร็ว ” พี่สาว เกิดอะไรขึ้นที่ด้านล่างของทะเลสาบ ทำไมท่านดูเหมือนจะแปลกไป หลังจากที่ออกมาจากทะเลสาบ ? “
” เจ้าจะถามอะไรเยอะแยะนัก” ใบหน้าของ ไชอี้ ก็ดูเย็น ” . เจ้าก็รู้ว่าข้าอยู่ในอันตรายที่ด้านล่างของทะเลสาบ ทำไมเจ้ายังอยู่บนฝั่ง ? บอค เจ้าอยากให้ข้าตายรึ ? “
หน้า บอค ก็แข็งตึง เขาอายมาก แล้วเผยยิ้ม ” พี่สาวนั้นอยู่ในระดับนภา แต่ก็ยังติดอยู่ที่ก้นทะเลสาบ ข้ากลัว . . . . . . . “
ไชอี้ ก็สูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไรต่อไปอีก จากนั้นนางก็เอาผลึกอสูรออกมาและหลับตาเพื่อทำสมาธิ นางไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ด้านล่างทะเลสาบ
แม้ว่า บอค จะอยากรู้ขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อ ไชอี้ ไม่อยากบอกเขา นอกจากนี้ เขารู้สึกอาย เขาจึงไม่กล้าที่จะถามต่อ ทำได้เพียงเฝ้าไชอี้อยู่ข้างๆ
“น้องชาย เจ้าและ ไชอี้ นั้นช่างแข็งแกร่งนัก พวกเจ้าสามารถฆ่าปลาหมึกพันมือได้ ข้าชื่นชมเจ้าจริงๆ ” ลั่วหลี่ หัวเราะออกมา และกล่าวว่า ” ข้าไม่ว่าหลอกนะถ้าเจ้าจะหัวเราะพวกเรา แต่เราไม่กล้าที่จะลงไปในน้ำจริงๆ เรากลัวถูกฆ่าโดยปลาหมึกพันมือ นี่ช่างเป็นความอัปยศยิ่งนัก “ลั่วหลันเปิดเผยรอยยิ้มอายพร้อมกับพยักหน้าหัวและเปิดอกยอมรับว่าเป็นคนขี้ขลาด
อย่างรวดเร็ว ฉื่อหยาน ก็รู้จักนิสัยของสองพี่น้อง เขาไม่ได้บอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นด้านล่างทะเลสาบ เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า ” ข้าก็แค่โชคดี ข้าคิด ถ้าไม่ใช่เพราะอายหยาและไชอี้ ปลาหมึกพันมือก็คงไม่ตาย ” .
หลังจากหยุดสั้นๆ , ฉื่อหยาน ก็พยักหน้าต่อสองพี่น้อง และกล่าวว่า ” ข้าต้องการที่จะหาสถานที่ที่เงียบสงบเพื่อฟื้นฟูในตอนนี้ .
หลังจากที่พูด , ฉื่อหยาน ก็บินออกไปอย่างรวดเร็ว และไม่พูดอะไรอีกกับสองพี่น้อง ลั่วหลี่ และลั่วหลั่น .
ฉื่อหยาน ไปที่เดิม พิงกับต้นไม้โบราณอย่างเงียบๆ รู้สึกการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา
กลิ่นอายพลังจากศพนักรบทั้งสาม แปรสภาพเป็นพลังปราณลึกลับและฟื้นคืนพลังในร่างของเขาทั้งหมด และยังทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกเล็กน้อย
ด้วยความคืบหน้านี้ เขาเกือบจะบรรลุเข้าสู่นภาที่สามระดับรู้แจ้ง
ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี
ฉื่อหยาน พอใจเป็นอย่างมาก ขณะที่เขาก้มศีรษะมองไปพื้นที่ลึกลงไปในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ คาดเดาว่าเขาจะพบกับสิ่งใดหากลงไปยังส่วนที่ลึกที่สุด
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็หดลดลงเล็กน้อยในขณะที่เกิดประกายแสงเย็นชา ท่าทีขี้เกียจทันก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัว แรงกดดันมหาศาลและรุนแรงก็ไหลทะลักออกมาจากร่างของเขา
อย่างรวดเร็วก็มีเงาพุ่งมาจากระยะไกล เสื้อผ้าของนางพริ่วไหวไปมา ทำให้นางเหมือนดอกไม้คริสตัลที่อยู่ในดินแดนหนาว นางคืออายหยา
อายหยาจ้องมองมาอย่างไร้อารมณ์ นางค่อยๆบินผ่านเหมือนต้นหลิวที่บอบบาง
หน้าฉื่อหยานก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เขารู้สึกเย็นยะเยือกในจิตใจและ แอบ ตื่นตัว และพร้อมสำหรับการต่อสู้
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 28 แล้ว มีถึงตอนที่ 1277 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <