เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 393 พ่ายแพ้

บทที่ 393 พ่ายแพ้

 

ทันทีที่ฉื่อหยานพูดจบ เขาก็ควบคุมหลุมแรงโน้มถ่วงไปที่กลุ่มของหนิงเซอในทะเลสาป

ในศูนย์กลางของทะเลสาบ เมื่อเห็นหลุมหลุมแรงโน้มถ่วงมา นักรบที่อยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งทั้งสามก็จ้องไปที่ฉื่อหยานด้วยสีหน้าซีดเซียว

ใน หลุมแรงโน้มถ่วง มีพลังที่แตกต่างกันผสมอยู่ ยิ่งมีพลังหลายประเภทมากเท่าใด พลังของหลุมแรงโน้มถ่วงก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

แม้ว่าฉื่อหยานจะมีระดับการบ่มเพาะที่นภาที่สามระดับรู้แจ้ง แต่พลังในหลุมแรงโน้มถ่วงกลับทรงพลังถึงพอที่ทำให้นักรบระดับนภาหวาดกลัว

ฉื่อหยาน ซ่อนตัวอยู่ในหลุมแรงโน้มถ่วงและทันทีก็พุ่งออกมาเมื่อเข้าใกล้กับกลุ่มของหนิงเซอ

เส้นไหมทองที่อยู่หลุมแรงโน้มถ่วงทันทีที่ก็หมุนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีทองบิดเกลียวไปมาและปกคลุมพายุอย่างรวดเร็ว

ใบหน้ากลุ่มของหนิงเซอ ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

นักรบวังสวรรค์รู้ดีพลังของเส้นไหมสีทองดี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้เส้นไหมสีทองในการฝึกบ่มเพาะและสามารถควบคุมเส้นไหมทองของตนเองได้ . แต่ถ้าถูกเส้นไหมสีทองของผู้อื่นโจมตี พวกเขาก็ตายได้เช่นกัน

ดังนั้น เมื่อเห็นหลุมแรงโน้มถ่วงที่มีเส้นไหมสีทองหมุนไปมา กลุ่มของหนิงเซอก็หลบทันที

” นี่…เจ้าจะทำอะไรก็เชิญ แต่อย่ามายุ่งกับเรา ไม่งั้น อย่ามาว่าพวกเราหากเราร่วมมือกันฆ่าเจ้า ” ในศูนย์ของทะเลสาบขนาดเล็ก นักรบนภาที่สามระดับนภาืั้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นก็ลุกขึ้นยืนหลังจากที่เขาเห็นหลุมแรงโน้มถ่วงเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาถอนหายใจ และพูดเตือนฉื่อหยาน

นั่งอยู่บนพื้นดิน นักรบนภาที่สามระดับนภาคนอื่นก็มองไปที่ฉื่อหยานด้วยสีหน้ามืดมน

ทะเลสาบนั้นไม่ใหญ่มาก ในขณะที่หลุมแรงโน้มถ่วงของฉื่อหยานนั้นกินพื้นที่ค่อนข้างมาก เมื่อหลุมแรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่เคลื่อนไปที่ทะเลสาป มันจะต้องส่งผลกระทบรุนแรงและทำร้ายนักรบทุกคนที่อยู่ข้างในแน่นอน

ฉื่อหยานยิ้มอย่างเฉยเมย พยักหน้าและบอกว่า ” ไม่ต้องเป็นห่วง เราเพียงต้องพื้นที่ในทะเลสาป เราจะไม่ยุ่งกับพวกเจ้า “

มีเก้ากลุ่มในทะเลสาบ สามกลุ่มมีนักรบนภาที่สามระดับนภา ถ้าพวกเขาหงุดหงิด เขารู้ดีว่าผลที่ตามมาจะไม่ค่อยดี ดังนั้น เขาจึงควบคุมหลุมแรงโน้มถ่วงให้ดี ให้มันเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

สำหรับกลุ่มเหล่านั้น ตราบใดที่ กลุ่มของฉื่อหยานมีความสามารถในการจัดการกับกลุ่มของหนิงเซอได้ มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพวกเขา พวกเขาจะไม่แทรกแซง พวกเขาไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นต่อให้กลุ่มของหนิงเซอจะเป็นหรือจะตาย

” เจ้าดูถูกเกินไปแล้ว ! ” ใบหน้าของท้องชายวัยกลางคนที่อยู่ในนภาที่สองระดับนภาในกลุ่มของหนิงเซอก็กลายเป็นเย็นชา จู่ๆ เขาก็ถอนหายใจ และขยับเลี่ยงหลุมแรงโน้มถ่วง ซึ่งกำลังเข้ามาใกล้และเขาก็พุ่งออกไปนอกทะเลสาบ

เห็นผู้ชายคนนั้นลงมือ หนิงเซอและคนอื่น ๆ ในกลุ่มของเขาก็รู้ว่าพวกเขาจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเพื่อหลีกเลี่ยงหลุมแรงโน้มถ่วง เพื่อมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับกลุ่มของฉื่อหยานเพื่อรักษาพื้นที่ของตนในทะเลสาบ

ผู้ชายคนนั้นขยับเล็กน้อยในขณะที่คนอื่นๆในกลุ่มหนิงเซอดูลังเล แล้วอยู่ๆพวกเขาก็วิ่งออกไปเช่นกัน จากทะเลสาบพวกเขากลายเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดพุ่งไปยังกลุ่มของฉื่อหยาน ชิเสี่ยวและอายหยา

” ในที่สุดเจ้าก็ออกมา ” ฉื่อหยาน แสยะยิ้ม อย่างเย็นชาในจิตใจของเขา เขารอนั้นรอกลุ่มของหนิงเซออกมาจากทะเลสาบเพื่อที่เขาจะเข้าไปในหลุมแรงโน้มถ่วง อย่างช้าๆหลุมแรงโน้มถ่วงก็กลายเป็นรุนแรงอย่างมาก และความเร็วในการหมุนก็เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก ครอบคลุมสามนักรบจากวังสวรรค์อย่างรวดเร็ว .

สามนักรบที่เพิ่งออกมาจากทะเลสาบ พวกเขาไม่คิดว่าหลุมแรงโน้มถ่วงจะรุนแรงและเร็วขึ้นเช่นนี้ ดังนั้น ด้วยความประมาทของพวกเขา พวกเขาจึงถูกแรงดูดที่รุนแรงดูดเข้าไปยังใจกลางหลุมแรงโน้มถ่วง

เส้นไหมสีทองแต่ละเส้นก็พันพวกเขา ในเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ เสียงกรีดร้องเสียดหูก็ดังขึ้น นักรบนภาที่สามระดับรู้แจ้งสามคนก็ถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ถูกแรงบดของหลุมแรงโน้มถ่วงบดจนกลายเป็นชิ้นเนื้อ

นักรบคนอื่นที่ดูอยู่ใกล้ๆหัวใจก็พลันหนาวเหน็บ พวกเขามองฉื่อหยานด้วยความหวาดกลัว และด้วยสัญชาตญานพวกเขาก็ขยับถอยหลังหนีไปจากหลุมแรงโน้มถ่วง

ชิเสี่ยวปล่อยเสียงร้องดังออกมา ควันที่ฟุ้งกระจายจากร่างของเขา ก็ครอบคลุมสิบเมตรรอบๆตัวเขา ในควันที่หนาทึบนี้ พลังที่ปั่นป่วนก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

 

ชิ เสี่ยว อยู่ในควัน เขายกมือขึ้น และแสงสีเงินก็ส่องออกมา ริบบิ้นพุ่งออกมาในอากาส ส่องแสงเรืองรอง และทันทีก็ห่อหุ้มนักรบจากวังสวรรค์ที่อยู่ในนภาที่สองระดับนภาและ ดึงนักรบคนนั้นเข้ามาในควันหนา

อายหยา และ ไชอี้หน้าก็กลายเป็นเย็นชา แสงสีเงินขนาดใหญ่ก็ลอยออกมาจากแหวนของทั้งสองสาว ครอบคลุมหนิงเซอและอีกสองนักรบจากวังสวรรค์

ฉื่อหยานหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลังเชิงลบกระจ่ายไปทั่วร่างของเขาในขณะที่แรงกดดันทะลักออกมาจากร่างของเขาอย่างรุนแรง ด้วยจุดแสงดาวจำนวนมาก เขก็พุ่งไปทางหนิงเซอ และปล่อยระเบิดผนึกแห่งความเป็นและความตาย .

หนิงเซอกระแอมออกมาอย่างเย็นชา เขาไม่เชื่อว่า ฉื่อหยานที่อยู่ในระดับรู้แจ้งมีพลังที่ต่อสู้กับเขาได้

เขาใช้มือของเขาครอบคลุมแหวนสีเขียวที่อยู่บนนิ้วทั้งสาม ทันที พวกมันสองอันลอยออกมาเป็นพื้นดินที่แข็งแกร่งซ้อนกัน แหวนบนนิ้วมือเหล่านี้ดูเหมือนจะสามารถสร้างกลิ่นอายธรรมชาติ

ในน้ำวนขนาดใหญ่ ,แก่นแท้เจตจำนงแห่งพ้ืนดินก็ออกมาจากสามนิ้วมือของเขา

ผลึกพลังปราณลึกลับจากปลายนิ้วของหนิงเซอ ก็ไหลเข้าไปในแหวนทั้งสามเพื่อเพิ่มพลังของแก่นแท้เจตจำนงแห่งพ้ืนดิน ซึ่งทำให้พวกมันระเบิดออกมาและพุ่งออกไปที่ฉื่อหยานอย่างรุนแรง

สิ่งของทุกอย่างมีจิตวิญญาณ แก่นแท้เจตจำนงผนึกแห่งชีวิตของฉื่อหยาน นั้นเกี่ยวข้องกับจิตวิญญานทั้งหมดบนสวรรค์และพื้นดิน

” ตูม ! “

พลังที่รุนแรงสองชนิด ซึ่งมีแก่นแท้เจตจำนงผสมก็ประทะกัน หลังจากที่ประทะกันมันก็เปิดเป็นแสงสีสวงามสว่างเหมือนดอกไม้ไฟ ทำให้ผู้อื่นประหลาดใจ

ชีวิตที่ปราศจากศีลธรรม . มนุษย์ทุกคนมีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ตราบใดที่สิ่งมีชีวิตที่มีจิตสำนึก ชีวิตก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด

เมื่ิอผนึกแห่งชีวิตถูกปล่อยออกมา สิ่งมีชีวิตบางอย่างเช่นมนุษย์และสัตว์อสูรก็เกิดเป็นภาพลวงตาที่มองเห็นได้ สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันเหล่านี้ปรากฏออกมาจากผนึกแห่งชีวิต จากนั้นก็แยกแก่นแท้เจตจำนงแห่งพ้ืนดินจากแหวนบนนิ้วทั้งสาม พวกมันแยกพลังธาตุจากแหวนบนนิ้วมือทั้งสาม ป้องกันไม่ให้มันใช้พลังจากพื้นดิน

แม้ว่าฉื่อหยาน จะอยู่ในระดับรู้แจ้ง ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับแก่นแท้เจตจำนงของชีวิตดูเหมือนจะลึกซึ้งกว่าความรู้เรื่องพื้นดินของหนิงเซอ ความหมายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับกฏธรรมชาติเหล่านั้นไม่ได้แยกแยะที่ความแข็งแกร่งของระดับนักรบ จะแข็งแกร่งหรือด้อยกว่าล้วนเกิดจากความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสิ่งนั้น

หลังจากฉื่อหยานได้มายังโลกใบนี้ ฉื่อหยาน ก็ได้ต่อสู้ จนอยู่ในจุดวิกฤตของชีวิตและความตาย แม้ว่าเขาจะไม่กลัวตาย เขาก็ยังพยายามที่จะรักษาชีวิตของเขาเอง ความเข้าใจเกี่ยวกับความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของเขานั้นแน่นอนว่าแข็งแกร่ง ซึ่งนั้นก็สอดคล้องกับแก่นแท้เจตจำนงแห่งชีวิตจากผนึกแห่งชีวิต

หลังจากที่เปิดใช้บ้าคลั่ง และการใช้ผนึกแห่งชีวิต ฉื่อหยานก็แข็งแกร่งกว่าหนิงเซอ . ความเข้าใจเกี่ยวกับแก่นแท้เจตจำนงของเขานั้นมีมากกว่าหนิงเซอ . ดังนั้น , กฏเกณธรรมชาติจากผนึกแหง่ชีวิตบนมือของเขาจึงทำลายแก่นแท้เจตจำนงแห่งพ้ืนดินที่ออกมาจากแหวนทั้งสามนิ้วของหนิงเซอ

เมื่อผนึกแห่งชีวิตปิดกั้นแหวนทั้งสาม พลังงานภายในผนึกแห่งชีวิตก็พุ่งต่อไปยังหนิงเซอ . แก่นแท้เจตจำนงแห่งพ้ืนดินของหนิงเซอนั้นด้อยกว่า และความเชื่อมั่นของเขาก็ได้รับความเสียหาย เมื่อผนึกแห่งชีวิตประทะเข้ากับร่างกายของเขามันก็ซัดเขาลอยกระเด็นไป

ในขณะที่เขาอยู่ในอากาศ ร่างกายของเขาก็เกิดเสียงแตกดังแกร๊ก กระดูกร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะทนรับแรงระเบิดนี้ได้จึงเกิดเสียงนี้ขึ้น

ร่างของหนิงเซอ ถูกปกคลุมด้วยเลือดก่อนที่จะตกลงพื้น ใบหน้าของเขาก็ซีดและจิตวิญญาณของเขาก็อ่อนแอลงเป็นอย่างมาก

” แล้ว นี่นะรึผู้ที่อยู่ในระดับนภา? ” ฉื่อหยาน แสยะยิ้ม ที่เย็นชา ” ความเข้าใจของเจ้าเกี่ยวกับแก่นแท้เจตจำนงนั้นตืิ้นเขินเกินไป ไม่งั้นข้าคงไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้ ในขณะที่ข้าอยู่ในระดับรู้แจ้งแน่ ถ้าแก่นแท้เจตจำนงมีมากพอ แหวนบนนิ้วของเจ้าก็ยังคงสามารถใช้พลังจากพื้นดินได้ ดังนั้น มันก็จะไม่ง่ายสำหรับข้าที่จะทำร้ายเจ้า “

” อั๊ก ”

หนิงเซอก็กระเลือดออกมาเต็มคำ จิตวิญญาณของเขาก็พ่ายแพ้

ไม่เพียงแต่ฉื่อหยานใช้ชีวิตผนึกแห่งชีวิตระเบิดไปที่หนิงเซอ แต่เขายังใช้คำพูดทำลายเขา ถ้านักรบต้องการแสดงพลังเต็มที่ ความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อคนอาจไม่เชื่อมะ้นในตัวเอง เขาก็แทบจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดของเขาได้ แม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่เพียงพอก็ตาม

หนิงเซอรู้สึกสงสัยในตนเอง

 

ฉื่อหยาน ใช้คำพูดโจมตี และทำลายความเชื่อมั่นของหนิงเซอ ทำให้เขาคิดว่าตนนั้นด้อยกว่า ฉื่อหยาน

 

เมื่อคิดแบบนี้ไปทั้งจิตใจ สำหรับหนิงเซอ มันคงยากสำหรับเขาที่เขาจะใช้พลังได้อย่างเต็มที่ เขาพยายามที่จะปกป้องตัวเอง แต่ก็ล้มเหลวเพราะพลังปราณลึกลับที่กลายเป็นปั่นป่วน

 

พลังปราณลึกลับของหนิงเซอที่ปั่นป่วนเกิดจากผนึกแห่งชีวิตของ ฉื่อหยาน ที่ทำให้ภายในร่างกายของเขากลายเป็นปั่นป่วนและบดขยี้กระดูกของเขา ตอนนี้ จึงช่วยไม่ได้ที่หนิงเซอจะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่งก่อนที่จะหมดแรงไป

 

เมื่อกระอักเลือดออกมา ก็เท่ากับว่าหนิงเซอไร้ซึ่งความมั่นใจอีกต่อไป การระเบิดครั้งนี้ไม่เพียงแต่ได้รับผลกระทบในการต่อสู้ครั้งนี้เท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อทั้งชีวิตที่เหลือของเขา

 

เห็นหนิงเซอ ล้มลงบนพื้นดิน และกระอักเลือดออกมาคำโตเพราะฉื่อหยาน นักรบนภาที่สามระดับนภาในทะเลสาบทั้งหมดก็สั่นศีรษะของพวกเขา แล้วก็รู้แน่แล้วว่า ชีวิตที่เหลือของหนิงเซอได้พังลงไปแล้ว

 

พวกเขาทั้งหมดมองฉื่อหยานด้วยสีหน้าจริงจัง

 

นักรบส่วนใหญ่สามารถทำลายร่างกายของคนได้ อย่างไรก็ตาม การทำลายความมั่นใจของใครคนหนึ่งนั้นจะต้องใช้ความพยายามและปัญญาที่ลึกซึ้ง และความมั่นคงและจิตใจที่โหดเหี้ยม

 

ฉื่อหยาน เป็นคนที่มีความมั่นใจแน่นอน นอกจากนี้ เขาเชื่อมั่นว่าเขาดีกว่าใครๆ และไม่ยอมคนหรือยอมจำนนต่อปัญหาใดง่ายๆ .

 

นักรบประเภทนี้เป็นนักรบที่น่าหวาดกลัวที่สุด

 

” เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ” ฉื่อหยานก็แสดงใบหน้าที่โหดร้าย เขาเดินเข้าไปหาหนิงเซออย่างใจเย็น . เขาไม่ได้รีบลงมือแต่ยังคงพูดดูถูกต่อไป

 

หนิงเซอใบหน้าก็ดูหวาดกลัว เขานั่งมองอย่างว่างเปล่า ด้วยความสับสน ในขณะที่ความคิดของเขากำลังแตกกระเจิง

 

__________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 28 แล้ว มีถึงตอนที่ 1310 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset