เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 398 ลูกศรดาวเหนือ

บทที่ 398 ลูกศรดาวเหนือ

 

“เด็กน้อย เจ้าเป็นหนึ่งในนิกายเทพงั้นรึ ? ” นักรบวัยกลางคนที่มีใบหน้าแห้งเหลืองก็ มองฉื่อหยาน , ตะโกนเสียงดัง ในขณะที่ดูเหมือนจะตื่นเต้น

ฉื่อหยาน ก็ตกใจ สักพัก ในขณะที่เขาอยู่กำลังคิดหาวิธีรับมือกับหายนะเหล่านี้ เขาก็ไม่เข้าใจว่าชายแก่คนนั้นพูดเรื่องอะไรและเขาก็ถาม ‘ อะไรนะ ? ‘ .

” เจ้าคือหนึ่งในคนที่มีพรสวรรค์ของนิกายเทพใช่ไหม เจ้าสารเลวน้อย ? “

ชายร่างยักษ์ก็โกรธแค้น . ทัศนคติของเขาไม่ได้ดีกว่าเดิมเลยเมื่อเขาได้มองฉื่อหยาน เขาไม่พอใจที่เขาฆ่าไม่สามารถฆ่าเขาได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะสาปแช่งเขาว่าเป็น ‘ สารเลวน้อยแสบ ‘ เขาก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย .

ฉื่อหยาน ก็เข้าใจ

” ข้ามาจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุด , และมีจิตวิญญานแห่งดวงดาว พรรคสามเทพในทะเลไม่มีสิ้นสุดเป็นพรรคสาขาของนิกายเทพ ข้า . . . “

” ข้าเข้าใจแล้ว ” โดยไม่ต้องรอ ฉื่อหยาน ก็ตัดประโยคพูดของเขา แล้วชายคนนั้นก็พูดขึ้น” มานี่ เราต้องการพลังดวงดาวจากเจ้า ตราบใดที่เจ้าหลอมรวมลูกศรดาวเหนือได้แล้ว รวมกับพลังแสงอาทิตย์ของข้าและพลังดวงจันทร์ของหลี่เยวา , เราจะสามารถทำลายตราประทับภูเขาและแม่น้ำได้ “

ข้างๆ เป็นนักรบหญิงที่อยู่ในนภาที่สามระดับนภาก็พยักหน้าหน้า

นักรบคนนี้ชื่อ หลี่เยว่ ของนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ ดูธรรมดา ร่างกายของนางค่อนข้างผอม ใบหน้าของนางซีดเล็กน้อย ราวกับว่านางไม่ได้สัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน

ในตอนที่นางเห็นฉื่อหยานใช้โล่ดารา เธก็สะดุ้งเล็กน้อย หลังจากที่รู้ว่ามันโล่ดารา นางก็นับฉิ่อหยานว่าเป็นครอบครัวของนาง และยังมีทัศนคติที่ดีต่อเขา

ก่อนที่จะเห็นฉื่อหยานแสดงโล่ดารา นางนั้นได้มองฉื่อหยานด้วยสายตาเย็นชาตลอด

” ตนจากนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ ” ไชอี้พึมพำด้วยเสียงต่ำ

ฉื่อหยาน ตะลึง เขาคิดอยู่ซักพัก ก่อนที่เขาจะค่อยๆพยักหน้า เดินมาที่ซั่วฉือ เขาจับมือนางและพานางไปที่ศูนย์กลางของทะเลสาบ

ดวงตาของซั่วฉือก็กลายเป็นตื่นตระหนก ; สีหน้าสับสนขณะที่มองฉื่อหยาน ที่ดึงนางสู่ใจกลางทะเลสาบ

หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น ชิเสี่ยวและ ซั่วชู ก็ดูร่าเริงมากขณะที่มองผ่านฉื่อหยาน

ซั่วฉือเป็นเพียงนักรบระดับหายนะ; นางมีระดับการบ่มเพาะทีี่อ่อนแอที่สุดในที่นี่ ถ้านางยืนอยู่ที่ขอบของทะเลสาบ นางอาจจะไม่สามารถทนต่อหายนะเหล่านั้นได้ แม้ว่าสนามแม่เหล็กรอบทะเลสาบสีเงินชะลอความเร็วขอหงายนะลงได้เ็นอย่างมาก แต่ในที่สุดหายนะนั้นก็จะมาถึงอยู่ดี

ฉื่อหยานก็พาซั่วฉือไปยังศูนย์กลางของทะเลสาบเพื่อที่จะให้นางเป็นคนสุดท้ายที่จะเผชิญกับภัยหายนะเหล่านั้น บางทีเมื่อตอนนั้น อุปสรรคที่อายหยาสร้างขึ้นอาจจะถูกทำลายไปแล้ว แล้วตอนนั้น ก็จะให้นางฉวยโอกาสปีนบันไดขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อ หลีกเลี่ยงหายนะเหล่านั้น

” ผู้หญิงคนนี้คือใคร ?” นักรบกับหน้าเหลืองขมวดคิ้วถามเมื่อเห็นฉื่อหยานพาซั่วฉือมา

” ภรรยาข้าเอง ” ฉื่อหยานเผยรอยยิ้มบางๆ ด้วยใบหน้าปกติของเขาและแอบจับมือซั่วฉือมือไว้แน่น

ซั่วฉือ แต่เดิมที่หวั่นไหวอยู่แล้วก็แอบตำหนิ ฉื่อหยาน อย่างไรก็ตาม เมื่อนางมองไปที่ชิเสี่ยวและ ซั่วชู และเห็นพวกเขาถอนหายใจโล่งอก นางก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ฉื่อหยานต้องการปกป้องนาง

ซั่วฉือขยับเล็กน้อยและหยุดดิ้นรน นางกลายเป็นประพฤติดีและเชื่อฟังฉื่อหยาน

หลังจากได้ยินฉื่อหยานพูดว่าซั่วฉือเป็นภรรยาของเขา นักรบจากนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พวกเขาห้าคนเริ่มขยับไปข้างๆเพื่อเปิดพื้นที่ว่างให้ฉื่อหยานและซั่วฉือเล็กๆ

” เจ้ารู้วิธีใช้ลูกศรดาวเหนือหรือไม่?” หลี่เยว่ถาม

” ไม่ ข้าไม่รู้ ” ฉื่อหยานส่ายหน้า

” แล้ววิธีการใช้ดาราผันแปลสร้างเป็นรูปแบบ เจ้าพอจะรู้หรือไม่ ? หลี่เยว่ถามอีกครั้ง

” รูปแบบดวงดาว ?” ฉื่อหยานดวงตาก็สดใสขึ้น เขาพยักหน้า ” ข้ารู้วิธี “

” ดีมาก ใช้มันออกมาเร็วเข้า จ้าวเฟิง และข้าจะจัดการที่เหลือเอง .

” เร็วเข้า ” นักรบหน้าเหลืองชื่อ จ้าวเฟิงก็รีบกระตุ้น ฉื่อหยาน

ในศูนย์ของทะเลสาบกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดอีกสองกลุ่มก็ ดูเหมือนจะจักเคล็ดวิชาลับของนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้ยินคำว่า ลูกศรดาวเหนือ และรูปแบบดวงดาว พวกเขาดวงตาก็ส่องประกาย และไม่มีใครด่าฉื่อหยานอีกต่อไป พวกเขามองฉื่อหยานด้วยดวงตาที่ตกตะลึง

ภายใต้การพินิจพิเคราะห์ของคนอื่นที่มองฉื่อหยาน ที่กำลังควบคุมจิตใจของเขาเพื่อเปิดใช้งานจิตวิญญาแห่งดวงดาว รวบรวมกลุ่มจุดแสงของดวงดาว เจ็ดกลุ่มแสงดวงดาวก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา และปรากฏเป็นรูปแบบดวงดาวจระเข้ใหญ่

” นี่ใช่หรือมั้ย ?” ฉื่อหยานถามกับความไม่แน่นอน

 

” นั่นมัน . . . ” จ้าวเฟิงแสดงใบหน้าที่ร่าเริงและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา . กระชากพลังเปลวไฟที่รุนแรงให้ไหลออกจากร่างกายของเขาเกิดเป็นแสงส่องสว่าง

แสงแดดเจิดจ้าสาดส้องกระเด็นออกมาและเจาะเข้าไปในจุดดวงดาวทั้งเจ็ด

ในเวลาเดียวกัน แสงจันทร์ก็แผ่ออกมาจากร่างของ หลี่เยว่ แสงที่เป็นเหมือนแสงดวงจันที์นี้ ลอยออกมาจากมือของนางและเข้าไปในจุดดวงดาวทั้งเจ็ด ‘

” ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราจะจัดการที่เหลือเอง . ” หลี่เยว่ พูดกับเขาเพื่อคลายกังวล

ฉื่อหยานพยักหน้า

กลุ่มของแสงอาทิตย์ แสงจันทร์ และเจ็ดกลุ่มแวงดวงดาวก็หลอมรวมกันสร้างเป็นรูปแบบดวงดาว

อยู่ๆก็มีแรงสั่นสะเทือนของพลังกระจายออกมาจากแสงแดดและดวงดาว ความผันผวนนี้ทันทีก็ระเบิดออกมาจากจุดแสงดวงดาวทั้งเจ็กของฉื่อหยาน .

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน การเปลี่ยนแปลง ที่แปลกประหลาดก็ปรากฏในเจ็ดกลุ่มดวงดาวที่ฉื่อหยานสร้างขึ้น มันเปลี่ยนเป็นรูปแบบรูปคันธนูและลูกศร

แสงแดดจากจ้าวเฟิงและแสงจันทร์ของ หลี่เยว่ ผสานเป็นรูปแบบลูกศรที่มีประสิทธิภาพ ที่ธนูมีลูกศรเรืองแสงซึ่งถูกสร้างขึ้นจากการควบแน่นของแสงดวงดาว

คันธนูถูกยืดยาวออกไป ความผันผวนพลังที่รุนแรงก็ไหลออกมาจากคันธนู

แสงดาวทันทีก็รวมกับอยู่ที่ลูกศรแสง ลูกศรแสงนี้ก็ปลดปล่อยลำแสงพุ่งไปยังศพโบรารด้านล่าง

” บูม “

เมื่อลูกศรแสงประทะเข้ากับศพโบราณด้านล่าง แสงสีม่วงที่ห่อศพโบราณก็แตกทันที

ตราประทับภูเขาและแม่น้ำที่ปิดกันอยู่เหนือหัวของทุกคน พลังของมันก็กระจัดกระจายหายไป ตราประทับภูเขาและแม่น้ำ กลายเป็นดำมืดและไม่สามารถรักษาคงสภาพแสงสีม่วงที่เหมือนกับสายน้ำไว้ได้อีกต่อไป

สมบัติลับทุกชนิดก็กระเด็นออกมาและชนกับตราประทับภูเขาและแม่น้ำ ตราประทับภูเขาและแม่น้ำสะบัดเล็กน้อยในอากาศและกลิ่นอายของมันก็กลายเป็นว่างเปล่าและในที่สุดมันก็ตกลงมา

” นี้เป็นฝีมือของพวกเรา ” จ้าวเฟิงหัวเราะออกมาเสียงดังและตะโกน , ” เราเป็นคนทำลายอุปสรรคนี้ิอย่างยากลำยาก ดังนั้นเราต้องไปก่อน “

ใบหน้าของ หลี่เยว่ กลายเป็นเย็นชา นางมองไปที่นักรบข้างๆนางและกล่าวว่า ” ทุกคนคงจะเข้าใจกฏนะ “

” ไปเลย! ” จ้าวเฟิงจ้องไปที่นักรบนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างๆและตะโกนบอก

ภายใต้สายตาของจ้าวเฟิง นักรบนี้ก็สะดุ้งและรีบวิ่งไปที่หินบันได

ฉื่อหยาน ก็ตกใจและรีบผลักซั่วฉือไป นางโซเซ เดินไปที่สะพานศพและพยายามปีนในขณะที่ถูกผลักโดยสาวกของนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์

เมื่อจ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ เห็นฉื่อหยานแล้ว พวกเขาก็ขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ในหัวใจของพวกเขา เนื่องจากฉื่อหยานเป็นคนของนิกายเทพ เขาก็เป็นเหมือนคนในครอบครัว ในฐานะที่ภรรยาของเขามีระดับการบ่มเพาะต่ำ และ นางยังอยู่ในทะเลสาบที่อันตรายเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงไม่ต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

” ฉื่อหยาน พวกเขา . . . . . . . “

เมื่อซั่วฉือปีนไปได้ครึ่งทางบนสะพานศพ จู่ๆนางก็นึกอะไรขึ้นมาได้และไม่สามารถช่วยได้ที่จะตะโกนออกมาในขณะที่กำลังมองหาซั่วชูและชิเสี่ยวที่อยู่ไกลๆ

ในตอนนี้หายนะกำลังเข้ามาใกล้ชิเสี่ยวและซั่วชูขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเขาตอนนี้ส่องแสงประกายในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาทุกข์ทรมาน

ซั่วฉือไม่สามารถทิ้งอาจารย์และปู่ของนาง

” อย่ากังวลมากไป เจ้าขึ้นไปก่อน แล้วเราค่อยคุยกัน ” ฉื่อหยานตะโกน

สาวกจากนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ขมวดคิ้วและกระตุ้นซั่วฉือ จากนั้นนางก็ปีนขึ้นไปข้างบนอย่างอิดออด

หลังจากนั้นไม่นาน นักรบทั้งหมดจากนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ปีนขึ้น จ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ พร้อมกันก็มองฉื่อหยานและตะโกนพร้อมกัน “เจ้าเด็กน้อย ขึ้นไปซะ อย่าได้เสียเวลาคนอื่น ” .

” ข้า . . . “

” อะไร ? คนอื่นรอเจ้าอยู่นะ ” จ้าวเฟิงจ้องมองเขา ” ถ้าเป็นคนอื่น คงจะขึ้นไปแล้ว เจ้ามีโอกาสแต่กลับยังไม่ขึ้นไป เจ้ารออะไร ? “

นักรบของอีกสองกลุ่มก็มาอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของทะเลสาบ

จากระยะไกล ชิ เสี่ยว กับคนอื่นๆ ที่อยู่ในแสงที่ส่องออกมาจากสมบัติลับ เหงือเย็นก็ไหลอกอมาจากหน้าผากพวกเขา พวกเขาดื้นรนกันอย่างลำบาก ถ้าเขาไปตอนนี้ บางทีชีเสี่ยวและ ซั่วชู คงจะถูกฝังอยู่ที่นี่ตลอดไปแน่

” ข้าไม่สามารถทิ้งพวกเขาได้ . ” ฉื่อหยาน แสยะยิ้ม และมุ่งไปข้างหลัง เค้ามองจ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ กล่าวว่า ” พวกท่านตามไปก่อนเถอะ เด๋วข้าตามไปที่หลัง”

จ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ ก็รู้สึกตกตะลึงและทันทีเขาก็ด่าฉื่อหยาน โง่เขลาในใจ ในขณะที่ฉื่อหยานพูด ทั้งสองคนก็ก้าวออกมาแล้วปีนขึ้นไปบนหินบันได

” ท่านทั้งสอง !” ฉื่อหยานตะโกน

” เจ้าต้องการอะไรอีก ? น่ารำคาญชะมัด ” จ้าวเฟิงพูดอย่างโมโห

 

ได้โปรดดูแลภรรยาข้าด้วย พวกเราต่างก็มาจากนิกายเทพ ข้าจะจดบุญคุณของท่านไว้ ” ฉื่อหยาน ขอร้อง

ซั่วฉือ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสิ่งใดกำลังรอพวกเขาอยู่ เขาไม่ได้อยู่กับซั่วฉือ ดังนั้นจึงกลัวว่านางจะพบอันตรายบางอย่างน เขาเลยได้แต่ขอร้องจ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ ช่วยดูแลนาง

จ้าวเฟิงสูดลมหายใจเข้าและแสดงสีหน้าไม่พอใจ ” เจ้าตัวแสบ เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร ถ้าเจ้าไม่มาโดยเร็ว เจ้าก็สมควรตายไปเพราะความโง่ของเจ้า สมบัติลับไม่ได้มีมากมายนัก และถ้าเจ้ามาช้า จะไม่มีอะไรเหลือให้เจ้า”

ในขณะที่พูด จ้าวเฟิงก็เร่ง และค่อยๆ หายเข้าไปในก้อนเมฆ

ในศูนย์ของทะเลสาบกลุ่มนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดอีกสองกลุ่ม ก็หยิบฉวยโอกาสต่อ และมุ่งไปยังสะพารศพและปีนขึ้นไป

ฉื่อหยานก็หันศีรษะของเขาและปล่อยโล่ดาราปกคลุมร่างกายของเขาทั้งหมด ร่างกายของเขากลายเป็สีแดงขึ้น แล้วเขามุ่งไปเข้าไปในศูนย์กลางของหายนะ

สายฟ้า , เปลวไฟ , พายุ , และน้ำแข็งทั้งหมดก็บุกเข้ามาปกคลุม ครอบคลุมทะเลสาบทั้งหมด พลังแปรกประหลาดเหล่านี้มาจากภูเขาทั้งสี่ลูก ดูเหมือนว่าพลังที่น่ากลัวของมันนั้นสามารถทำลายได้ทุกการป้องกัน โล่ดาราเกิดเสียงร้าวดังออกมาภายใต้ผลกระทบจากพลังของหายนะทั้งสี่ราวกับว่าโล่ดาราของเขาจะระเบิดออกได้ตลอดเวลา

ด้วยพลังของหายนะทั้งสี่ ฉื่อหยานเหมือนกับติดอยู่ในบ่อโคลนลึก เคลื่อนไหวอย่างยากลำบาก .

ในเวลานี้ เขารู้ว่าชิ เสี่ยว และคนอื่นๆ กำลังเผชิญหน้ากับมันอยู่

” ฮ๊าาา ! “

เสียงคำรามที่บ้าคลั่งก็ดังขึ้นมาเป็นพลังที่แปลกประหลาดระเบิดออกมาจากร่างของเขา ฉื่อหยานตอนนี้ก็เป็นเหมือนกับเสือพุ่งไปที่ซั่วชูและจับเขาด้วยมือข้างหนึ่ง

__________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1329 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

ด่วน!! ตอนนี้มีโปรโมชั่นฟินๆ ให้ลูกค้า!!?? เข้า 7 กลุ่ม ในราคา 500 บาทเท่านั้น ตกแค่ตอนละ 1.5 รีบๆ มาใช้โปรกันนะคะ

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset