เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 400 นอกเหนือการควบคุม

บทที่ 400 นอกเหนือการควบคุม

 

เลือก . . . . . . .

มันมีทางเลือกเสมอ แต่สองตัวเลือกนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉื่อหยานต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอะไรมันก็ดูเหมาะกับโอกาสนี้

ทางเลือกที่ดีที่สุด ก็คือการที่เขาไม่ได้รับผลประกระทบจากอารมณ์เชิงลบเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ฉื่อหยานรู้ว่าทุกครั้งที่อารมณ์เชิงลบพลุ่งพล่าน หนึ่งในด้านความชั่วร้ายของเขาจะเติบโตขึ้น แม้ว่าเขาจะพยายามเช่นไร มันเป็นเรื่องยากที่จะต่อต้านสภาวะถูกควบคุมโดยปีศาจที่เกิดขึ้นในจิตใจของเขา

พลังงานเชิงลบกระหน่ำล้นจากจุดชีพจรในร่างกายของเขา พลังงานเชิงลบเหล่สนี้ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของเขา เจาะเข้าไปเส้นเลือดของเขา กระดูก เลือด และมีผลต่อห้วงจิตสำนึกและส่งผลต่อการคุมสติของเขา

ด้วยตัวเลือกนี้ สติของเขาก็ค่อยๆหายไป เมื่อเขาเริ่มหายใจหนัก ดวงตาของเขาก็ค่อยๆ กลายเป็นสีแดง แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่บ้าคลั่งและรุนแรง

” บูม “

เมื่อเขาก้าวเท้าของเขา พลังที่รุนแรงเป็นอย่างมากก็กระแทกไปที่ศพโบราณใต้เท้า

ศพโบราณที่ถูกเหยียบก็ระเบิดที่ละครั้งภายใต้การก้าวเดิน และกลายเป็นก้อนเนื้อหยดลงในทะเลสาบด้านล่าง

” ตูม ตูม ตูม “

ทุกครั้งที่เขาเหยียบเท้าลงบนสะพานศพ ศพโบราณก็จะถูกเหยียบย่ำแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี และตกลงไป

สะพานศพด้านล่างก็เริ่มแตกออก

ศพโบราณเริ่มฉีกครึ่ง พวกมันไม่ได้มีความแข็งแรงพอและเริ่มพวกมันก็เริ่มที่จะตกลงไป นักรบที่เหลือที่กำลังเหยียบอยู่บนสะพานศพก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับที่พวกเขาตกลงไปพร้อมกัน

ฉื่อหยานเหยียบเท้าลงไป และพวกเขาทั้งหมดก็ตกลงไปในทะเลสาบเล็ก ๆ เสียงกรีดร้องก็ดังมาจากพวกเขาอย่างน่าสยดสยอง

ไชอี้ และคนอื่นๆ ที่ยังอยู่บนซากสะพาน ก็ก้มศีรษะลงเพื่อมองลงไป แล้วพวกเขาก็แสดงออกอย่างหวาดกลัว

ฉื่อหยานทำลายเส้นทางทั้งหมดที่อยู่ด้านหลังเขา

นักรบที่ตกลงไปในทะเลสาบก็ถูกปกคลุมโดยสี่หายนะ พวกเขาทิ้งร่องรอยแห่งความสิ้นหวังบนใบหน้าและความเกลียดชังในดวงตาที่กำลังจ้องมองไปยังฉื่อหยาน

น่าเสียดาย ฉื่อหยาน ที่หลุดออกจากการควบคุมไม่ได้มองลงไปข้างล่างเลย ตาของเขาเป็นสีแดงฉาน ขณะที่เขาหันใบหน้าของเขา เขาไม่สนใจเสียงร้องของนักรบเหล่านั้น และยังคงขยับขึ้นตามซากสะพานไป

เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดอย่างรวดเร็วก็เริ่มเงียบ นักรบที่เหลือทั้งหมดมีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำ มันจึงยากสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใกล้สะพานศพได้ หายนะทั้งสี่ได้ทำลายความแข็งแกร่งของพวกเขา ขณะที่พวกเขาตกลงไปในทะเลสาบอีกครั้ง ความแข็งแกร่งของพวกเขาเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถต้านทานหายนะได้และถูกปกคลุมโดยหายนะเหล่านั้นทันที

หลังจากนั้นไม่นาน เหล่านักรบก็ถูกฆ่าตาย สี่หายนะอย่างรวดเร็วก็กลืนกินพวกเขา ดังนั้น แม้แต่เลือดของพวกเขาก็ไม่มีเหลืออยู่

ฉื่อหยานนั้นไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ด้านล่าง เขายังคงหายใจอย่างหนักและก็ปีนไปด้านบนของสะพานในขณะที่ดวงตาทั้งสองของเขามีเป็นสีแดงเข้ม

ที่จุดจักรวาลทั้งสองบรรจบกัน , ศพโบราณก็กำลังลอย ขึ้นและลง มีรูปแบบโบราณลึกลับปรากฏขึ้นบนหน้าอกของตน ตรงกลางอกของพวกเขามีสมบัติลับอยู่ซึ่งเป็นเหมือนกับแหล่งพลังงาน

ศพโบราณเหล่านี้พร้อมกับสมบัติลับบนทรวงอกของพวกเขามันก็โจมตีนักรยอย่างบ้าคลั่ง

คนของกลุ่มจ้าวฟงและหลี่เยว่ก็กำลังต่อสู้กับสมบัติลับบนศพเหล่านั้น นักรบอื่น ๆก็เริ่มลงมือเพื่อชิงสมบัติล้ำค่า

เมื่อศพถูกฆ่าตาย สมบัติลับบนหน้าอกของมันก็จะแยกออกจากร่างกายฃ ในช่วงเวลานั้น เหล่านักรบทั้งหมดจะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสมบัตินี้

ซั่วฉือยืนนางยืนอยู่อยู่ข้างๆไม่กล้าที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้นี้ นางแค่เห็นนักรบผู้โจมตีและฆ่ากันเพื่อสมบัติ ก็รู้สึกประหลาดใจ

หลังจากได้ขึ้นไปด้านบนและการต่อสู้ที่โหดร้ายนี้ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซั่วชูยืนอยู่ด้วยกันกับซั่วฉือและบอกนางว่าไม่ต้องเสียเวลาลงมือทำอะไรหรือ ดึงดูดความสนใจจากคนอื่น ๆ

ซั่วฉือเข้าใจและเชื่อฟัง นางทำเพียงจ้องมองและไม่ได้ยุ่งเกีย่วอะไกัร

นางดื้นรนทำให้ตัวเองปลอดภัย สถานที่ที่นางยืนอยู่นั้นปลอดภัยเป็นอย่างมาก นักรบทุกคนมาที่นี่เพราะวมบัติลับเหล่านี้ ถ้านางไม่ได้แย่งสมบัติลับเหล่านั้น นักรบก็จะไม่สนใจนางและไม่เห็นนางเป็นศัตรู

หลังจากปีนขึ้นมา ชิ เสี่ยว และสองพี่น้องก็ยังก้าวไปด้านข้างซั่วฉือที่ยืนอยู่ พวกเขานั้นแตกต่างจากซั่วฉือ ใบหน้าของสองพี่น้องได้ปรากฏล่องลอยของความปรารถนา ในขณะที่พวกเขามองสมบัติลับที่อยู่บนศพโบราณเหล่านั้น

 

” แล้ว เจ้าไม่ต้องการพวกมันรึ ?” ลั่วหลี่รอชิเสี่ยวมาใกล้ๆและถามด้วยใบหน้าที่ร่าเริง ” เราควรจะทำเช่นไรดั ?

ชิเสี่ยวเอาสูดลมหายใจเข้าลึก ดูการต่อสู้ที่โหดร้ายนี้ เขาก็ส่ายหัวล็กน้อยแล้วพูดว่า ” รอสักครู่ ฉื่อหยานจะมาถึงอีกไม่นาน ตอนนั้นเราค่อยคุยกัน “

สองพี่น้องต่างพยักหน้าพร้อมกัน

น้ำที่นี่แปลกมากเป็นอย่างมาก มันอยู่หน้าผู้คน แต่กลับไม่มีใครรู้ ทุกคนคิดว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตา และไม่ส่งผลอะไรต่อพวกเขา

มันเป็นเหมือนชั้นหินอยู่ใต้ฝ่าเท้าพวกเขา เป็นเกาะที่เปล่งแสงสีขาวออกมา ซึ่งลอยอยู่ตลอดเวลาเหมือนเรือเล็กๆ

นักรบส่วนมากที่ขึ้นมาที่นี่ส่วนมากเป็นนักรบระดับนภา พวกเขามีประมาณยี่สิบคน นักรบระดับนภาส่วนมากกำลังต่อสู้กันอยู่ ทำให้สถานการณ์ที่อันตรายมาก ถ้าใครประมาท พวกเขาจะลงเอยด้วยชะตากรรมที่น่าเศร้า

ถึงแม้ว่าชิเสี่ยวจะอยู่ในนภาที่สองระดับนภา แต่ก็ไม่ได้นับว่าโดดเด่นในพื้นที่แห่งนี้เลย ที่นี่มีนักรบระนภาที่สามระดับนภาหกคน นักรบนภาที่สองระดับนภาสิบคน และส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ต่างก็อยู่ในนภาแรกระดับนภา นอกเหนือจากสองพี่น้องแล้วคนอื่นต่างก็อยู่ในนภาที่สามระดับรู้แจ้ง ส่วนซั่วฉือก็อยู่ในระดับหายนะ

ไชอี้ ก็ปีนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มองดูสถานการณ์อย่างรวดเร็ว นางก็ค่อยๆเดินไปที่ชิเสี่ยวๆและกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม และเสียงต่ำ ” ข้าคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับฉื่อหยาน “

” อะไรนะ ? “

ชิเสี่ยว ลั่วหลี่ ซั่วฉือ ๆก็ถามพร้อมกัน ” เจ้าหมายความว่าไง ?

” ข้าก็ไม่แน่ใจ ” ไชอี้ส่ายหน้าขณะที่ใบหน้าของนางแปลกไป” ข้ารู้สึกว่า เค้าตกอยู่ในสภาวะถูกควบคุมโดยปีศาจ ‘ ‘ ”

” ถูกควบคุมโดยปีศาจ ? ” ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป

” คลื่นพลังของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังทรมาน เขาเต็มไปด้วยความรุนแรง และจิตสังหาน ราวกับว่าเขาต้องการทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ข้าไม่รู้ว่าทำไมเขาเป็นอย่างนี้ เมื่อข้าอยู่เหนือหัวเขา ข้าจะรู้สึกว่าเขาต้องการที่จะฆ่าข้า . . . . . . . มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก “

หลังจากได้ยินคำพวกนี้ ชิ เสี่ยว และคนอื่น ๆ ทุกคนก็มองไปทางสะพานศพ

พลังที่แข็งแกร่งและกลิ่นอายปีศาจที่รุนแรงก็กระจายออกมา กลิ่นอายปีศาจหนาแน่นเป็นเหมือนกับเลือดทำให้ผู้ที่สัมพัสรู้สึกราวกับจมอยู่ในทะเลเลือด ซึ่งให้ความรู้สึกสุดแสนจะอันตราย

กลิ่นอายพลังปีศาจที่แข็งแกร่งก็มาพร้อมกับฉื่อหยานที่ค่อยๆปรากฏ ดวงตาของเขาเป็นสีแดงเข้ม

มองที่ตาของเขาสักพัก ชิเสี่ยว ซั่วฉือ ไชอี้ และคนอื่นก็กลายเป็นปั่นป่วน ดูเหมือนว่าห้วงจิตสำนึกของพวกเขาจะได้รับผลกระทบที่รุนแรง

มีร่องรอยของความรุนแรง ความบ้าคลั่ง และความกระหายเลือดทะลักออกมาจากฉื่อหยาน ใบหน้าของเชากลายเป็นสีแดงเลือด เวลานี้ ฉื่อหยาน ไม่ปกติอย่างแน่นอน เขาเป็นเหมือนผีที่ดุร้ายหลุดออกมาจากนรกที่อัดอั้นและไม่ได้ทำลายสิ่งมีชีวิตมายาวนาน

ตอนนี้เขาดูน่ากลัวกว่าสัตว์อสูรที่พวกเขาได้พบในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬเป็นอย่างมาก

” ไม่นะ ! ” หน้าชีเสี่ยวเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาตะโกนด้วยความกลัว” ข้าเกรงว่าฉื่อหยานจะตกอยู่ในสภาวะ ‘ ถูกครอบครองโดยปีศาจ ‘ไปแล้ว ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร “

” มาตรวจสอบกันเถอะ” ซั่วฉือตื่นตระหนกเล็กน้อยและโดยจิตใต้สำนึกนางต้องการจะไปอยู่ใกล้ๆฉื่อหยานและถามว่าเกิดอะไรขึ้น

” ฉือเอ๋ออย่าไป ! ” ชิ เสี่ยว รีบจับนางและพูดว่า ” เมื่อฉื่อหยานตกอยู่ในสภาวะนี้ เขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ถ้าเจ้าเข้าใกล้เขามากเกินไป นางอาจจะกลายเป็นเป้าหมายแรกของเขา อย่าไปเด็ดขาด”

” แต่ถ้าเขายังเป็นแบบนี้ มันจะอันตรายนะ ” ซั่วฉือพูดเล็กน้อย แต่ก็รู้ดีว่านางไม่สามารถหลุดออกจากมือของชิเสี่ยวได้ นางช่วยไม่ได้ที่จะตะโกนออกไป ” ฉื่อหยาน , เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? เราสามารถช่วยอะไรเจ้าได้หรือไม่ ? “

ไชอี้ และ ซั่วชู ก็มองไปมราฉื่อหยาน รอให้เขาตอบ

” โฮ๊กกกกกกกกกก “

ฉื่อหยานปลดปล่อยเสียงคำรามที่น่ากลัวออกมาซึ่งไม่เหมือนกับมนุษย์เลย กลิ่นอายทะลักออกมาอย่างไม่มีสิ้นสุดพร้อมและกระจ่ายไปทั่วสนามรบพร้อมกับเสียงำคราม

นักรบ ‘ ทั้งหมดห้วงจิตสำนึกก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง สองพี่น้องร่างกายก็สั่นสะท้าน ร่างของซั่วชูเองก็เหมือนกัน สั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนก เลือดไหลออกมาจากตาของเขาในขณะที่ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความหวาดกลัว

อีกสองนักรบระดับรู้แจ้งที่เป็นเหมือนคู่พี่น้อง ก็มีเลือดที่ไหลออกมาจากดวงตาของพวกเขา และพวกเขาก็นั่งลงบนพื้น

ฉื่อหยานปล่อยเสียงคำรามออกมา ซึ่งเต็มไปด้วยพลังอันรุนแรงและดุร้าย กลิ่นอายปีศาจก็หนาแน่นขึ้นและมันก็ส่งผลกระทบต่อบรรดานักรบ

 

ห้วงจิตสำนึกของนักรบระดับรู้แจ้งแทบจะไม่สามารถควบคุมจิตใจของตน ดังนั้น เมื่อกลิ่นอายปีศาจโจมตีห้วงจิตสำนึกของพวกเขาโดยตรง มันก็กลายเป็นปั่นป่วน และส่งผลให้พวกเขามีเลือดไหลออกมา

ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าหน้าซั่วฉือจะซีด นางก็ยังปลอดภัย

นั้นเป็นเพราะนางยังไม่มีห้วงจิตสำรนึก นางจึงไม่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายปีศาจที่มาจากฉื่อหยาน . นั่นคือเหตุผลที่จิตใจของสองพี่น้อง , ผู้ที่อยู่ในระดับรู้แจ้งเกิดความเสียหาย แต่นางกลับไม่เป็นอะไร

ดวงตาของไชอี้ และ ชิเสี่ยว ที่เป็นนักรบนภาที่สองระดับนภาก็ ยังเปลี่ยนแปลงไป พวกเขารีบยับยั้งความปั่นป่วนในห้วงจิตสำนึกของตร โดยใช้พลังทั้งหมดของพวกเขาเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันได้รับผลกระจบจากฉื่อหยาน

หลังจากฉื่อหยานส่งเสียงคำรามออกมา นักรบจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆก็หยุดต่อสู้กันและมองฉื่อหยาน

” เจ้าหนุ่ม เจ้าทำอะไร ? “

ใบหน้าของจ้าวเฟิงก็มืดมน . จู่ๆ เขาก็ตะโกนออกมาดังๆ ” อย่าได้ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว ตอนนี้เจ้าอยู่ในสภาวะถูกควบคุมโดยปีศาจ เจ้าอยากฆ่าตัวตายงั้นรึ เจ้าเด็กน้อยรีบกลั้นหายใจ และนั่งสมาธิซะ นั่งอยู่ตรงนั้นและอย่าทำอะไร ใช้พลังของเจ้าทั้งหมดเพื่อควบคุมจิตใจของเจ้า และอย่าคิดอะไรให้มากเกินไป”

หลี่เยว่ ตาก็ริบหรี่ลง มองฉื่อหยานจากระยะไกล แล้วนางก็พูด ” จ้าวเฟิง วิธีที่เจ้าพูดมันไม่มีประโยชน์สำหรับเขา การตกอยู่ในสภาวะถูกควบคุมโดยปีศาจนี้ไม่ได้เกิดจากการฝึกบ่มเพาะ แต่เกิดจากความคิดที่ชั่วร้าย ด้วยสภาวะถูกควบคุมโดยปีศาจเช่นนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะกลับมามีสติอีกครั้ง ด้วยการนั่งสมาธิ ข้าเกรงว่าเจ้าเด็กนี้ได้ฝึกบ่มเพาะเคล็ดวิชาบางอย่าง ที่ทำให้จิตใจของเขาได้รับผลกระทบ สถานการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข “

” ห๊ะ ! ” จ้าวเฟิงร้องออกมาและมองฉื่อหยานอย่างว่างเปล่า โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรทำเช่นไร

__________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1334 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

ด่วน!! วันนี้วันสุดท้าย!ตอนนี้มีโปรโมชั่นฟินๆ! ให้ลูกค้า!! เข้า 7 กลุ่ม ในราคา 500 บาทเท่านั้น ตกแค่ตอนละ 1.5 รีบๆ มาใช้โปรกันนะคะ

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset