บทที่ 401 บ้าคลั่ง
“ระวังชายคนนี้ เขากลายเป็นบ้าไปแล้ว อย่าอยู่ใกล้เขามากเกินไป ” นักรบวัยกลางคนที่ใบหน้ามีแผลเป็นก็สูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชาและกล่าวอย่างหงุดหงิด ” ตอนนี้ ถ้ามันอยากตายนักหละก็ ข้าก็ไม่รังเกียจสนองความปรารถนาให้มัน . “
ในขณะที่เขาพูด ดวงตาของเขาเย็นชาเขาสังเกตุไปที่ฉื่อหยาน เขาดูเหมือนเขาอยากจะฆ่าฉื่อหยานทันทีหลังจากที่เห็น
ไม่อาจรู้ได้ว่าการแสดงออกของนักรบคนนี้ฉื่อหยานจะรับรู้หรือไม่ เขาเอาปล่อยเสียงคำรามออกมาดัง และก็มองไปที่ทุกคน ดวงตาที่บ้าคลั่งกระหายเลือดมองไปที่กลุ่มนักรบ
” มองอะไร ? เจ้าอยากตายงั้นรึ ? ” นักรบเปิดเผยรอยยิ้มเย็นชาเหยียดหยัน ” เจ้าคิดว่าตกอยู่ในสภาพนั้นแล้วจะทำอะไรได้งั้นรึ , เจ้านั้นอยู่ในระดับรู้แจ้งเท่านั้น ถ้าเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะสนองให้ “
” ถูเค่อ เด็กคนนี้เป็นสาวกของนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์เรา ถ้าเจ้าแตะต้องเขา ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้า ” จ้าวเฟิงตะโกน
” เขาบ้าไปแล้ว เจ้าต้องการที่จะปกป้องคนบ้างั้นรึ ? นักรบที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าคือ ถูเค่อ เขาเผยสีหน้าเย็นชาเหมือนเขาเหยียดหยันเยาะเย้ย ” คนประเภทนี้ไม่ได้นับว่าแข็งแกร่งนัก. ในเวลาแบบนี้ เขากลับปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ได้t . ข้ากลัวว่าเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาคงจะทำอะไรได้ไม่มาก เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก”
” โฮีกก “
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเอง ฉื่อหยานก็คำรามอีกครั้ง ตอนนี้เขาเหมือนสัตว์ป่าบ้าคลั่ง ทั้งร่างกายของเขาปล่อยหมอกสีขาวปกคลุมออกมาและพึ่งไปที่ ถูเค่อ .
มองด้วยใบหน้าเย็นชาและแสยกยิ้มเขาก็พูด ” อยากตายรึ ! “
” ถูเค่อ อย่าทำอะไรวู่วาม ” จ้าวเฟิงตะโกน ” คนๆนี้เป็นมาจากนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์เรา การสร้างปัญหาให้กับเขา้ท่ากับว่ามีสร้างปัญหาให้กับนิกายเรา ถ้าเจ้ากล้าที่จะฆ่าเขา ข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า . “
” ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ดินแดนพิสุทธิ์ของข้าหวาดกลัวนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ ?” ถูเค่อ หัวเราะแปลกๆ เห็นฉื่อหยานพุ่งเข้ามา ถูเคอก็ดึงศพมาข้างๆเขา ซึ่งเขาได้จับและมัดไว้ นั่นคือศพโบราณที่ได้สูญเสียสมบัติลับไปแล้วและ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และไม่มีอำนาจที่เหลืออยู่ในมัน หลังจากที่ถูกจับโดยภูเค่อลำแสงสีแดงเหมือนเลือดก็ไหลเข้าไปในศพโบรษณ
ศพโบราณพุ่งไปที่ฉื่อหยาน เลือด เนื้อ ร่างกายของศพโบราณก็ตกลงมาเหลือเพียงโครงกระดูก
ภายใต้แรงผลัก กระดูกของศพก็ระเบิดออกมา กระดูกหนัก หนา ยาว ก็กลายเป็นเหมือนกระแสเลือดสาดไปบนร่างกายของฉื่อหยาน
. . . . . . . . .
เสียงของการชนกันของโลหะก็ดังออกมาจากหน้าอกของ ฉื่อหยาน , เลือดกระดูกแทงไปที่ร่างกายของเขา ที่เป็นเหมือนกับก้อนหินที่แข็งแกร่ง เกิดประกายไฟออกแวบออกมา จากอกของฉื่อหยาน เสื้อผ้าของเขาขาดลง แต่ผิวของเขายังคงไม่เสียหาย
ถูเค่อ หลี่ตาลง ในขณะที่ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความหวาดกลัว
จ้าวเฟิง หลี่เยวา และคนอื่น ๆก็ตะลึงจนพูดไม่ออก มองฉื่อหยานด้วยความไม่เชื่อในสายตาของตนเอง
ถูเค่อ นั้นอยู่ในนภาที่สามระดับนภา เคล็ดวิชาลับของดินแดนพิสุทธิ์มีชื่อเสียงเรื่องความพิสดารและรุนแรน ใช้กระดูกของนักรบเปลี่ยนเป็นหอกหอกนี้เรียกว่า หอกกระดูกผันแปร หอกนี้น่ากลัวและอันตรายเป็นอย่างมาก . นักรบหรือสมบัติลับทั่วไปไม่อาจต้านทานมันได้
แม้ว่าฉื่อหยานจะเผชิญหน้าอย่างรุนแรงกับหอกเลือดที่แทงอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย นี่ทำให้คนอื่นรู้สึกหนาวไปถึงขั่วกระดูกและรู้สึกหวาดกลัว
เจ้าเด็กนี่ยังเป็นมนุษย์อยู่งั้นรึ ? ทำไมร่างของมันแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรเสียอีก
ผู้คนไม่สามารถช่วย ที่จะคิดเช่นนี้ในจิตใจของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดมองฉื่อหยานด้วยสายตาตกใจ พวกเขาถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว หวาดกลัวฉื่อหยานในสภาวะ ถูกควบคุมโดนปีศาจ ที่มองพวกเขาราวกับเป็นเหยื่อ
” ฮา ฮา ฮา ถูเค่อดูเหมือนเจ้าจะมีความสามารถไม่พอนะ . ” จ้าวเฟิงกำลังยืื่นมือไปฉื่อหยาน แต่เมื่อเขาเห็นเขายังปลอดภัย เขาก็มีความสุข และไม่ช่วยไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา . ” ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชาจากดินแดนพิสุทธิ์จะไม่สามารถเทียบได้กับนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ . สาวกของเราคนนี้ไม่ได้ใช้สมบัติลับใดๆแต่หอกกระดูกผันแปรของเจ้ากลับไม่สามารถทำอะไรเขาได้ มันเลยทำให้ข้าสงสัยว่า ดินแดนพิสุทธิ์เนี่ยมีชื่อเสียงได้อย่างไรกัน”
หลี่เยว่ ก็ยิ้มดูถูกและกล่าวว่า ” ดี ถึงแม้จะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากแต่ดูเหมือนมันจะเกินจริงไปเสียหน่อย ชื่อเสียงของพวกเขา จากที่ข้าได้เห็นในวันนี้ ปรากฎว่า มันเป็นเพียงสิ่งไร้สารถ “
ใบหน้าของ ถูเค่อ และอื่น ๆที่มาจากดินแดนพิสุทธิ์ก็ซีดลงในขณะที่ดวงตาเริ่มมืดมน
ในเวลานี้ ฉื่อหยานก็คำรามเสียงดังออกมาอีกครั้ง เขาพุ่งไปที่ ถูเค่อ . กลุ่มของจุดแสงดวงดาวประกายออกมาจากหน้าอก ดูเหมือนว่าเขาได้เพิ่มพลังป้องกันของเขา
ราวกับประกายแสงดวงดาว ฉื่อหยานก็เข้ามาใกล้ และทันทีก็ปรากฏต่อหน้า ถูเค่อ . พร้อมกับดวงตาสีแดงดุร้ายของเขา
แค่ดูฉื่อหยาน , ถูเค่อ ห้วงจิตสำนึกก็สั่นสะท้าน เขารู้สึกเหมือนถูกแช่อยู่ในทะเลแห่งเลือดและถูกล้อมด้วยศพโบราณมากมาย
” ดวงตาของเจ้าเด็กนี่สามารถโจมตีวิญญานได้ ระวัง ! ” นักรบนภาที่สามระดับนภาพลันตะโกนออกมาเมื่อเห็น ถูเค่อ เปิดเผยร่องรอยตกอยู่ในภวังค์
เป็น ถูเค่อ ทันทีดวงตาก็กลับมาสู่สภาพปกติข เขารู้สึกว่าเลือดของเขาเย็นลงในขณะร่างกายของเขาบิดเหมือนงู กระดูกของเขาส่งเสียงดักง้องออกมาตลอดเวลาภายในร่างกายของเขา
กระดูกของเขาเกิดเป็นเสียงเหมือน ถั่วทอดสะท้อนจากภายในร่างกายของเขา ร่างของ ถูเค่อ ก็ปล่อยกลิ่นอายสีเขียวเข้ม เป็นของเหลวบางอย่างครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของเขา แสงสีเขียวเข้มนี้ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันมันเป็นเหมือนกับวิญญานร้ายปกคลุมร่างกายของเขา
เมื่อฉื่อหยานพุ่งเข้ามาของเหลวสีเขียวอย่างรวดเร็วก็กลายเป็นปีศาจที่น่ากลัวสามตัวเหยียดกรงเล็บออกมาและกระชากเขา
” ปีศาจหัตถ์เขียว ! ” ถูเค่อ แสยะยิ้ม เย็นชาและอ้าปากคายก้อนแสงออกมา ซึ่งแบ่งออกเป็นสามก้อนเเข้าไปในกรงเล็บ
ปีศาจสามตัวแยกกรงเล็บ ภายใต้แสงจากปากของเขา ปีศาจจากนรกก็แพร่กระจายออกมาพร้อมกับแสงสีเสียวที่แข็งแกร่ง
วิญญานกลืนกินก็แผ่ตรงเข้าไปห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยานผ่านดวงตาสีแดงของเขา
” บังอาจ ! “
จ้าวเฟิง คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว และไม่สามารถช่วยได้ที่จะลงมือ เขาเรียกกลุ่มก้อนแสงเทพสุริยันที่ร้อนระอุออกมาและซัดไปที่ ถูเค่อ . ในแสงเทพ ผู้คนสามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตมากมาได้ในดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นสิ่งที่ล่อเลี้ยงทุกอย่าง สิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่รอดและสืบพันธุ์ได้ด้วยแสงอามิตย์
นักรบจากดินแดนพิสุทธิ์ถอนหายใจ , และกระโดดขึ้นทันทีและปรากฏข้างๆ ถูเค่อ . เรียกกลองบินออกมาจากแขนของเขา ทันทีที่เสียงกลองดังออกมา เป็นเสียงจังหวะ
ภายใต้ผลกระทบจากเสียงกลอง สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏในแสงเทพก็ดูเหมือนกำลังถูกทำลายไปทีละตัวโดยไม่เหลือร่องรอย
แก่นแท้เจตจำนงที่อยู่ในแสงพระอาทิตย์ ก็ลดลง แรงกดดันจากแสงอาทิตย์ก็ลดลงเป็นอย่างมาก นักรบคนนั้นก็ช่วยโอกาสเริ่มลงมือ ห้าแสงที่แตกต่างกันจากกลองก็กระพริบและหาย จากนั้นมันก็พุ่งไปยังแสงอามิตย์ และทำลายพลังของมัน
แกร๊กก แกร๊กก . . . . . . .
ปีศาจกรงเล็บทั้งสามจากถูเค่อก็จับคอฉื่อหยาน กรงเล็บปีศาจที่คมเหมือนมีดก็กดลงไปยังคอของฉื่อหยานเกิดเป็นเสียงน่าขนลุกดังออกมา
ทันทีที่ชิเสี่ยว ไชอี้ และคนอื่นๆเห็นฉื่อหยานพบกับอันตรายพวกเขาก็เคลื่อนไหวทันที พยายามช่วยเขาเผชิญหน้ากับศัตรู
สองพี่น้องเองก็ตะโกนออกมา พวกเขาดูเหมือนจะใช้พลังบางอย่างที่แข็งแกร่ง เป็นถุงมือสวมอยู่ที่มือของพวกเขาปรากฏขึ้น แก่นแท้เจตจำนงที่รุงแรง ก็สั่นสะเทือนไปยังกลุ่มของนักรบดินแดนพิสุทธิ์
ปีศาจกรงเล็บทั้งสามก็บีบคอฉื่อหยานแน่นขึ้น ถึงแม้จะเกิดเป็นเป็นเสียงที่น่ากลัว คอของเขาก็ไม่ฉีกขาดออกจากกันและยังคงเป็นอย่างนั้น
ปีศาจหัตถ์เขียวก็จ้องมองดวงตาสีแดงของฉื่อหยานอย่างเย็นชา พลังของเทพปีศาจที่ชั่วร้ายก็ทะลักเข้าไปในห้วงจิตสำนึกของเขา พยายามทำให้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาหรือสร้างพลังป้องกันที่แข็งแกจ่งได้ . . . . . . .
อ๊าาาาาาาา !
ฉื่อหยานคำรามอย่างบ้าคลั่ง เลือดสีแดงก็ไหลออกมาจากดวงตาสีแดงของเขา ความตั้งใจในการทำลายล้าง ความรุนแรงและความกระหายเลือดทะลวงเข้าไปในวิญญานของปีศาจทั้งสาม
สามปีศาจ ดวงตาก็ระเบิดที่ระข้างและแก่นแท้เจตจำนงในดวงตาของปีศาจทั้งสามที่มาจาก ถูเค่อ ก็แตกกระจาย
หลังจากนั้น ร่างของ ถูเค่อ ก็รับผลกระทบจากแก่นเท้เจตจำนงที่ถูกทำลาย ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปมีเลือดไหลออกมาจากดวงตาของเขา
ฉื่อหยานเหวี่ยงแขนของเขาออกไป ซึ่งขณะนี้มันได้กลายเป็นสีม่วง พลังที่รุนแรงและอุกอาจก็ทะลักออกมาปกคลุมสามปีศาจหัตถ์เขียว
ปัง ปัง ปัง !
สามปีศาจที่มีสีเขียวที่ถูกสร้างโดย ถูเค่อ มือของพวกมันทั้งหมดก็ระเบิดออกกลายเป็นจุดแสงสีเขียวมากมายและจางไปในอากาสและพื้นดิน
” เป็นไปได้ยังไง ? “
ถูเค่อ ด้วยสัญชาตญานก็กรีดร้องออกมาดัง ๆ ” เจ้านั้นอยู่เพียงนภาที่สามระดับรู้แจ้ง เป็นไปได้ยังไงที่เจ้าจะทำลายปีศาจหัตถ์เขียวได้ ? เป็นไปไม่ได้ ! “
ถูเค่อ ตะโกนในขณะที่ใบหน้าของเขาเปิดเผยให้เห็นถึงอาการตกใจสุดขีด เขารีบก้าวถอยหลัง
ร่างของฉื่อหยาน ขยับเล็กน้อย หมัดขนาดใหญ่สีม่วงแดงพลันปรากฏข้าง ถูเค่อ ฝั่งขวา และก็ซัดเข้ามาที่เขา
พลังนี้เป็นเหมือนกับน้ำที่ทะลักท่วมโลก ตามมาด้วยกับเจตจำนงแท้จริงแห่งการทำลายล้าง ความกระหายเลือดและความบ้าคลั่งก็ซัดไปที่ร่างของถูเค่อ
เมื่อพลังงานที่น่ากลัวนี้ประทะเข้ากับร่างกายของเขา ก็กิดเสียงระเบิดดังสั่นมาจากร่างกายของถูเค่อ . ซี่โครงของเขาฉีกขาดออกจากร่าง
ถูเค่อ กรีดร้องอย่างน่าเศร้า เลือดยังไหลออกมาเหมือนสายน้ำจากสะโพกด้านซ้ายของเขา ในเสียงของเขา , ถูเค่อ ราวกับว่ากำลังเจอกับเทพปีศาจ และตกอยู่อยู่ในความหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะเผชิญ ฉื่อหยาน อีกต่อไป
เขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
นักรบสองสามคนที่อยู่รอบตัวก็จ้องมองด้วยสายตาที่หวาดกลัว สายตาของพวกเขาจ้องไปที่ฉื่อหยานด้วยความตกตะลึง
แม้ว่าฉื่อหยานจะอยู่เพียงนภาที่สามระดับรู้แจ้ง ซึ่งมีระดับต่ำกว่าถูเค่อหนึ่งขั้นเต็ม เขากลับสามารถทำร้าย ถูเค่อ ได้อย่างรุนแรงสถานการณ์เช่นนี้คืออะไรกัน ?
” ฉื่อหยาน เจ้านี่ทรงพลังยิ่งนัก”
ลั่วหลี่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา . พลังที่เกรี้ยวกราดก็ทะลักไปทั่วร่างของเขา ร่วมกับน้องชายของเขาลั่วหลัน เขากำลังเผชิญกับนักรบในนภาแรกระดับนภาจากดินแดนพิสุท ที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด ดูเหมือนนักรบนี้ไม่แม้แต่จะจะต่อต้านได้สักนิด
ฉื่อหยานต่อสู้กับนักรบผู้ที่อยู่เหนือกว่าเขาระดับหนึ่งเต็ม และเก็อาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ ดวงตาของซั่วฉือก็ส่องประกายประหลาดออกมา มองฉื่อหยาน ที่ตกอยู่ในสภาวะ ถูกควบคุมโดยปีศาจ นางแสดงออกด้วยความกลัว หัวใจนางหวั่นไหวเล็กน้อยเมื่อนางรู้สึกว่าฉื่อหยานนั้นโหดเหี้ยมเป็นอย่างมากเมื่อตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้
__________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1336 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <