บทที่ 409 เปลวไฟนภาเก้าประเภท
ฉื่อหยาน ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยิ้มและยื่นมือออก . แหวนสายโลหิตก็ส่องแสงสีแดงเลือดออกมาและแกนเพลิงก็หายเข้าไปในแหวนสายโลหิตของเขา
ในเวลาเดียวกัน , เปลวเหมันเยืิอกแข็งก็เข้าไปในแหวนสายโลหิต
” นั่นคือพลังเผาไหม้ของตะวันกลั่นวิญญานไม่ใช่รึ ? ” เป็นจ้าวเฟิง ดวงตาสะท้อนเปลวไฟร้อนแรง มองฉื่อหยานด้วยความประหลาดใจ ” เด็กน้อย สัมพัสของข้าไม่ได้ผิดไปใช่ไหม? “
” ใช่ ท่านคิดถูกแล้ว นี่คืิอพลังเผาไหม้ของตะวันกลั่นวิญญาน” ฉื่อหยานพยักหน้า
” สำหรับผู้ที่ใช้พลังดวงอาทิตย์ เพื่อบ่มเพาะ พลังของตะวันกลั่นวิญญานคือสมบัติอันล้ำค่าที่สุด ถ้าข้าสามารถใช้ตะวันกลั่นวิญญานเพื่บ่มเพาะได้ ข้าคิดว่าวิชาของข้าต้องมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่แน่นอน ” จ้าวเฟิงมองด้วยตาแหลมคมออกไป” ถ้าข้าสามารถใช้ตะวันกลั่นวิญญานได้ ความเข้าใจของข้าจะลึกซึ้งมากขึ้น และบางทีข้าอาจจะสามารถเข้าสู่ระดับพระเจ้าได้
ฉื่อหยานยิ้มเล็กน้อยและส่ายหัวของเขา ” . นี่เป็นของข้า “
” ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็อยากยืมมันเพื่อฝึกบ่มเพาะที่หลัง ข้าไม่ได้ต้องการมัน ข้าต้องการพึ่งเพียงพลังของมันเท่านั้น และข้าก็ต้องการสังเกตมันเล็กน้อยถึงลักษณะพลังของมันที่ถูกปล่อยออกมาจากตะวันกลั่นวิญญาน และเปลวเพลิงเผาไหม้ . ได้หรือไม่ ? จ้าวเฟิงสบตากับฉื่อหยานด้วยใบหน้าถวิลหา
ฉื่อหยานถักคิ้วของเขา ลัเขางเลเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า ” ถ้าเพียงแต่นั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร “
จ้าวเฟิง เป็นปลื้ม และระเบิดเสียงหัวเราะออกมา .
” เจ้าได้ตะวันกลั่นวิญญานนี้มาได้อย่างไร ? ” หลี่เยว่ ไม่สามารถช่วยได้ที่จะถามออกไป
” อืม ที่ท่านพึ่งเห็นนั้นคือเปลวไฟนภาซึ่งมาจากภูเขาไฟหมื่นปี และมันก็โชคดีได้ดูดซับตะวันกลั่นวิญญาน ตอนนั้นข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันใช้วิธีได้ แต่ว่ากันว่าเปลวไฟนภาทุกดวงนั้นล้วนมีจิตสำนึก ” ฉื่อหยาน อธิบาย
” เปลวไฟนภา ” จ้าวเฟิง หลี่เยวา และแม้แต่ไชอี้ก็จ้องมองเขาด้วยความตกตะลึง
” ข้าเคยได้ยินว่า มีเปลวไฟนภาทั้งหมดที่อยู่บนโลกนี้เก้าดวง สงสัยจะต้องเพิ่มเป็นสิบแล้ว ” จ้าวเฟิงถอนหายใจ ” ตำนานเกี่ยวกับเปลวไฟนภาได้หมุนเวียนเรื่อยมาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่มีเปลวไฟนภานั้นหาได้ยากเป็นอย่างมาก เปลวไฟนภาแต่ละประเภทต่างก็มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และพลังของมันเอง นี่คนทั่วไปจะต้องอิจฉาเจ้าแน่ๆ .
” ท่านรู้จักทั้งเก้าประเภทเลยรึ ? ” หัวใจของ ฉื่อหยานก็สั่นเล็กน้อยในขณะที่เขาแกล้งทำเป็นถาม
เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเปลวไฟนภาว่ากันว่า ในโลกนี้มีทั้งหมด 9 ดวง และในหมู่พวกมันก็มีการจัดอันดับอยู๋
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นในสมาคมการค้าหรือทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้ถึงชนิดของเปลวไฟทั้งเก้าเลย .
จ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของนักรบ นักรบที่รู้เรื่องเหล่านี้ต่างก็มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
” เปลวไฟแรกเริ่มหายนะศักดิ์สิทธิ์ , เปลวไฟอัศนีวอดโลกา , เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน , เปลวไฟอสูรโบราณ , เปลวไฟแก่นแท้นรก , เปลวไฟจิตวิญญานภูติหยิน, เปลวไฟแก่นแท้นกอมตะ เปลวเหมันเยือกแข็ง,และเปลวไฟซากศพ . ” จ้าวเฟิงดวงตาก็สดใสขณะที่พูด . ” เปลวไฟทั้งเก้าเหล่านี้เป็นเหล่าเปลวไฟนภาที่ข้ารู้จัก ความลึกลับขอเปลวไฟนภาทั้งเก้านั้นได้แพร่กระจายไปทั่วในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เรายังไม่รู้ว่าผลเปลวไฟทั้งเก้านั้นมีอำนาจเช่นใดบ้าง มีเพียงคนที่ครอบครองเปลวไฟนภาอาจจะรู้ถึงพลังของพวกและสามารถกำหราบพวกมันได้ . “
” เปลวไฟแรกเริ่มหายนะศักดิ์สิทธิ์ , เปลวไฟอัศนีวอดโลกา , เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน , เปลวไฟอสูรโบราณ , เปลวไฟแก่นแท้นรก , เปลวไฟจิตวิญญานภูติหยิน, เปลวไฟแก่นแท้นกอมตะ เปลวเหมันเยือกแข็ง,และเปลวไฟซากศพ ” ฉื่อก็หยานพึมพำในขณะที่สายตาของเขาก็ค่อยๆ สว่างขึ้น
” เปลวไฟแรกเริ่มหายนะศักดิ์สิทธิ์เป็นเปลวไฟนภาอันดับแรก และศเปลวไฟซากศพเป็นอันดับสุดท้าย . เปลวไฟนภาแต่ละชนิดดูเหมือนว่าจะสามารถหลอมรวมกับนักรบได้ เมื่อนักรบสามารถหลอมรวมกับเปลวไฟนภาได้ , พวกเขาก็จะได้รับของพวกมันครึ่งหนึ่ง . ” จ้าวเฟิงมองเขาด้วยตวามอิจฉา .
ก่อนหน้านี้ เปลวเหมันเยือกแข็งได้ฝังในหน้าอกของ ฉื่อหยาน เมื่อตอนที่แกนเพลิงกำลังกลับเข้าไปในแหวนสายโลหิต อำนาจในการเผาไหม้ของมันนั้นรุงแรงเป็นอย่างมากและยังมีข้อเท็จจริงที่ว่าเปลวเหมันเยือกแข็งได้ลดพลังของมันไปอีก ไม่มีใครที่นี่รู้เลยว่าแสงที่ส่องออกมาจากหน้าอกของเขาคือหนึ่งในเปลวเหมันเยือกแข็ง
ถ้าพวกเขารู้ว่าเปลวเหมันเยือกแข็งและเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานทั้งคู่อยู่กับฉื่อหยาน พวกเขาจะต้องตกตะลึงแน่นอน
ฉื่อหยานได้รู้สิ่งที่เขาต้องการแล้ว ดังนั้นเขาจึงหยุดถามเรื่องเปลวไฟนภา เขายิ้มและมองจ้าวเฟิง และคนอื่น ๆ ” การเก็บเกี่ยวของพวกท่านเป็นเช่นไรบ้าง ?
จ้าวเฟิงจับมีใบหน้าที่มีความสุขและพูดอย่างตื่นเต้นว่า ” เราได้สมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์มาทั้งหมดสี่ชิ้น พวกมันสามอันอยู่ในขั้นแรกของระดับศักดิ์สิทธิ์ และอีกหนึ่งอยู่ในขั้นที่สามของระดับศักดิ์ิสิทธิ์ ฮา ฮา ฮา นี้ช่างเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดีจริงๆ แม้แต่ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ สมบัติลับระดับนี้ก็หาได้ยากเป็นอย่างมากมี เพียง ไม่กี่ บุคคลสำคัญของนิกายเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพพอจะได้ครอบครองสมบัติลับขั้นสามระดับศักดิ์สิทธิ์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า “
เมื่อนึกถึงการเดินทางที่เหลือแล้วเขาก็ตื่นเต้น จ้าวเฟิงไม่สามารถช่วยได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
สมบัติลับที่สร้างจากนักหลอมอาวุธฯั้น แบ่งออกเป็น 5 ระดับ – ระมนุษย์ ระดับลึกลับ ระดับลึกซึ้ง ระดับสักดิ์สิทธิ์ และ ระดับพระเจ้า แต่ละระดับแบ่งออกเป็นเจ็ดขั้น ; ขั้นแรกต่ำสุดและขั้นเจ็ดสูงสุด จ้าวเฟิงได้นั้นได้สมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามในครั้งนี้ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
” แล้วพวกท่านหละ ? ” ฉื่อหยานมองชิเสี่ยวและไชอี้
” สมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นแรกสองชิ้น ” ชิเสี่ยวยิ้มแล้วหยิบกริชเงิน และกล่าวว่า ” ข้ามีนี่ “
ถึงแม้ว่าชิเสี่ยวจะดูสงบ แต่ดวงตาของเขาตื่นเต้นมาก เพราะเขาจะได้สมบัติลับในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนี้ เมื่อจิตใจของเขาเชื่อมต่อกับมัน พลังของเขาจะแข็งแกร่งขึ้น
หากมีสมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์นี้ ชิเสี่ยวจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรอัคคี , อาณาจักรพรพระเจ้า และสมาคมการค้า ดังนั้น , เขาถึงมีความสุขเป็นอย่างมาก
” ไม่เลว ” ฉื่อหยาน ” ฉื่อหยานพยักหน้าตลอดเวลาและพูด” แล้วอีกชิ้นอยู่ไหนกัน ? “
” ในมือ ” ไช่อี้ หัวเราะ แต่ไม่ได้เอาสมบัติลับจากแหวนกระเป๋าของนางออกมา อย่างไรก็ตาม นางก็ยังดูพอใจมาก ” ข้าค่อนข้างโชคดี คาดไม่ถึงเลยว่าจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่มีค่าเช่นนี้ได้ในการเดินทางมาหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬครั้งนี้ “
ลั่วหลันและลั่วหลี่ก็เปิดเผยร่องรอยของความอิจฉาและบ่น โชคของพวกเขาไม่ดี พวกเขาเก็บเกี่ยวอะไนไม่ได้เลย
” เจ้าหนุ่ม เราควรออกไปจากที่นี่ได้แล้วมิใช่รึ ? “
จ้าวเฟิงรู้ว่าไม่มีใครในเมืองโบราณแล้ว และนี่ทำให้เขาเป็นกังวลเล็กน้อย . คนอื่นออกไปแล้ว คงต้องไปยังดินแดนแปลกประหลาดแห่งอื่น “พวกเขาก็ควรไปโดยเร็ว เผื่อว่า จะสามารถเก็บเกี่ยวจิตวิญญานพระเจ้าบริสุทธิ์ได้ ถ้าเราช้า เราจะไม่ได้อะไรเลย “
” ท่านรู้ทางไปรึ ?” ฉื่อหยานถามด้วยความประหลาดใจ
จ้าวเฟิงหยิบเข็มทิศที่คล้ายกับอายหยาขึ้นมา ” นิกายจิตวิญญานสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา มันสามารถระบุทิศทางของพื้นที่ต่างๆได้ ดังนั้น เราจะไม่หลงถ้าเรามีมัน”
” ดีเลย . . ” ฉื่อหยานตาสดใสในขณะที่เขามยิ้ม” งั้นตอนนี้เราก็ไปกันเุุถอะ “
” แล้วพวกเจ้าหละ ? ” จ้าวเฟิงมองชิเสี่ยว ไช อี้ และ คนอื่น ๆ , ” พวกเจ้าจะไปกับเราด้วยไหม ? “
เป็นไชอี่้และชิเสี่ยวที่ได้สมบัติลับ ความมั่นใจของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น ดังนั้น พวกเขาพยักหน้าทันที
สองพี่น้องนั้นไม่ได้เก็บเกี่ยวสิ่งใดเลย แต่ก็หวังว่าจะสามารถหาอะไรในดินแดนแปลกประหลาดแห่งไหม่ได้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่ล้มเลิกกลางคันแน่นอน ดังนั้น พวกเขาพยักหน้า เพื่อแสดงออกว่าพวกเขาต้องการไปด้วย
จ้าวเฟิงจริง ๆไม่อยากอยู่กลุ่มเดียวกันกับพวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาุคงฉื่อหยาน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลย เขาเอาเข็มทิศชี้ทิศทาง แล้วพูดกับฉื่อหยาน ” พวกเจ้าตามข้ามา ดินแดนประหลาดอีกแห่งอยูค่อนข้างไกลจากที่นี่ ต้องใช้เวลาอย่างมากสองวันเพื่อไปุถึง ” .
” ดี ” ฉื่อหยานพยักหน้า
จ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ สบตากัน เบื่อบอกให้ส่งนักรบบางส่วนของพวกเขาไว้กับพวกฉื่อหยาน หลังจากนั้น ก็บินนำออกไป
ตั้งแต่ประตูสวรรค์ได้ ระเบิดออก ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติ แม้แต่สายฟ้าที่อยู่รอบๆก็หายไป
ฉื่อหยานเคยกังวลกับสายฟ้าก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม พลังปราณลึกลับของเขานั้นเหลือเพียงครึ่งเดียวและถ้าสายฟ้านี้ยังอยู่ เขาจะต้องใช้พลังของเขาเพื่อผ่านสายฟ้า โดยจะต้องใช้พลังปราณลึกลับที่เหลืออยู่ทั้งหมด และถ้าเขาพบอันตราย มันก็คงยากสำหรับเขา ถึงแม้ว่าชิเสี่ยวและ ไชอี้จะมีการบ่มเพาะที่ลึกซึ่ง พวกเขาไม่ต้องการที่จะเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเพื่อช่วยคนอื่น ดังนั้น เขาจะต้องใช้เวลาบางส่วนเพื่อใช้ผลึกอสูรฟื้นฟูลังปราณลึกลับก่อนออกไป
โดยปราศจากสายฟ้าที่อยู่ด้านนอก เขาก็ไม่ต้องระมัดระวังสิ่งใด เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับชิเสี่ยวและคนอื่นๆพร้อมทั้งกลุ่มของจ้าวเฟิง
ครึ่งวันต่อมากลุ่มของจ้าวเฟิงก็พบกับฝูงสัตว์อสูรระดับหก เหนือภูเขา แต่เขาก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อผ่านสัตว์อสูรเหล่านั้น
เนื่องจากนักรบในกลุ่มของจ้าวเฟิงมีระดับค่อนข้างต่ำ พวกเขาจึงต้องใช้พลังไปเป็นจำนวนมาก จ้าวเฟิงต้องหยุดเพื่อให้พวกเขาพักผ่อนสักพัก ใช้ผลึกอสูรฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของพวกเขา
ฉื่อหยาน ได้โอกาสก็หยิบผลึกอสูรออกมาจากภายในแหวนกระเป๋าของเขาแลฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของเขาพร้อมกับชิเสี่ยว ซั่วชูและซั่วฉือ
กลุ่มของชีเสี่ยวก่อนหน้านี้ค่อนข้างยากจนแต่เมื่อมีฉื่อหยานสนับสนุน ผลึกอสูรก็เพียงพอที่จะฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของพวกเขา
ทั้งสามคน ได้ใช้พลังปราณลึกลับไปเป็นจำนวนมากระหว่างทาง และอยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่มีผลึกอสูรแม้แต่ก้อนเดียว
อย่างไรก็ตาม หลังจากการต่อสู้ในเมืองโบราณ ผลึกอสูรจากนักรบบางคนที่ตกตาย ฉื่อหยานก็ได้มอบพวกมันให้กับพวกเขาอีก ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาจึงมีผลึกอสูรเพียงพอ
เมื่อฉื่อหยานเข้าสู่ระดับ ต้นไม้โบราณพลังปราณลึกลับก็ดูเหมือนจะเติบโตเป็นสองเท่า ดังนั้น ความเร็วในการฟื้นฟูพลังของเขาตอนนี้จึงเห็นได้ชัดว่าช้าลง เมื่อเขาและชิเสี่ยวฟื้นฟูพลังปราณลึกลับพวกเขาก็ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน หลังจากที่นักรบในกลุ่มของจ้าวเฟิงได้ฟื้นฟูพลังปราณลึกลับอย่างสมบูรณ์แล้ว ฉื่อหยานและชิเสี่ยวก็ยังใช้ผลึกอสูรฟื้นฟูพลังปราณของพวกเขาอยู่
เป็นจ้าวเฟิงที่รู้ว่าเขาจะต้องพึ่งฉื่อหยานมากในอนาคต เขาจึงไม่ได้รีบออกเดินทาง เขากับหลี่เยว่ และคนอื่น ๆกลับรอฉื่อหยานและชิเสี่ยวฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ก่่อน แล้วจึงเดินทางไปดินแดนแปลกประหลาดอีกแห่ง .
การเดินทางของพวกเขานั้นง่ายดายเป็นอย่างมาก สัตว์อสูรระหว่างทางไม่เป็นปัญหาเลย
สองวันต่อมา พวกเขาก็มาถึงดินแดนแปลกประหลาดแห่งใหม่
ขอบดินแดนแปลกประหลาดนี้มีหมอกสีเทาหนาผลุบๆโผล่ๆไปมา อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีสายฟ้า
ต่อมากลุ่มของจ้าวเฟิง ฉื่อหยาน , ชิเสี่ยว ไชอี้ และคนอื่นๆก็เข้าไปในดินแดนแปลกประหลาดแห่งใหม่นี้
__________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1342 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <