บทที่ 43 ตระกูลเป่ยหมิง
ในป่าศิลา
โม่หยานหยู่พิงร่างที่อวบอึ้มของนางกับก้อนหินอยู่ภายใต้แสงแดด นางหน้ามุ่ยเล็กน้อย ดูเหมือนนางกำลังคิดอะไรบางอย่าง
นักรบตระกูลโม่ที่ยืนคุ้มกันนางอยู่มีใบหน้าที่ธรรมดาและเต็มไปด้วยสิว มันยืนอยู่ข้างๆและจ้องไปที่ร่างกายของนางเหมือนกำลังคิดบางอย่างอยู่เช่นกัน
เสียงเท้าหนักก้าวเข้ามาหาจากระยะไม่ไกล
โม่หยานหยู่ลืมตาขึ้นและขนตาของนางกระสั่น นางเหลือบมองไปที่ จอห์นสัน ที่กำลังวิ่งมาหานางอย่างรวดเร็ว และก่นด่าอย่างเย็นชา ” เหตุใดเจ้าถึงรีบร้อนเช่นนั้น ? “
” เราเจอพวกมันแล้ว ! ” จอห์นสันพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว ” เราพบหญิงสาวสองคน ! เป็นหญิงสาวที่พวกนักฆ่าต้องการตัว “
โม่หยานหยู่ที่น่ารัก ดวงตาก็สว่างขึ้นในขณะที่การแสดงออกของนางดูสงบ ” เจ้าเด็กนั้นอยู่กับพวกนางหรือไม่ ? “
” ดูเหมือนจะไม่ . . . . . . . ” หลังจากที่พูดสั้น ๆแล้วก็หยุด ต่อมาจอห์นสันกล่าวอย่างใจเย็น ” หากเราอยากรู้เจ้าเด็กนั่นอยู่ไหน เราก็จับพวกนางทั้งสองมาถามก็ได้”
” แล้วท่านลุงสามทราบเรื่องนี้หรือยัง ? “
” หนึ่งในตัวแทนนักฆ่าของเราได้ไปบอกท่านแล้ว “
” ไปทางไหน ? ” โม่หยานหยู่ยืดร่างกายสวยงามของนางตัวตรงและยืดแขนขาของนางช้าๆ ” พวกเราอยู่ไกลจากลุงสามหรือไม่ ? “
” ไม่ไกลนัก ถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี อาจารย์สาม และคนของเขาอาจจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า ” จอห์นสัน กล่าว
” งั้นก็อย่าได้กังวลไป ” โม่หยานหยู่ขมวดคิ้ว และหันไปคุยกับคนคุ้มกันจากตระกูลโม่ที่อยู่ข้างๆ ” ลุงหลี่ พวกเราจะไปที่นั่นเพื่อเจอกับพวกมันดีหรือไม่ ? “
” ไม่ต้องรีบ เป้าหมายของเรายังไม่โผล่ออกมา ” หลี่ฮั่นยิ้มและส่ายหัวของเขา ” อาจารย์ 3 และคนจากโลกทมิฬก็ยังอยู่ ดังนั้นสบายใจได้ เส้นทางนี้ก็สำคัญเช่นกัน เราควรจะอยู่ที่นี่และระวังไว้ เป้าหมายของเราคือเจ้าเด็กคนนั้น ความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมดจะสูญเปล่า ถ้าเจ้าเด็กนั่นหลุดรอดออกไปได้ .
” ที่ท่านพูดก็มีเหตุผล ! ” โม่หยานหยู่พยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก
. . . . . . .
” วูวววววูวูวววว ! วูวววววูวูวววว ! “
ขณะที่หยุดอยู่ตรงก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายงู มู่หยู่เตี๋ยก็เอาแตรสีเงินออกมาและเริ่มที่จะเป่ามัน
เสียงแตรเป็นระลอกคลื่นดังลอยออกไปที่ห่างไกล
คนที่ซ่อนอยู่ทุกมุมของป่าศิลาเมื่อได้ยินเสียงทุกคนจึงเริ่มเคลื่อนไหว และรีบวิ่งไปทิศทางที่มู่หยู่เตี๋ยยืนอยู่
” พี่สาวหลาน อย่าได้กังวล จะมีคนมาช่วยเหลือพวกเราแน่นอน . ” มู่หยู่เตี๋ยยิ้มเบาๆ ” เมื่อมาถึงที่นี่ได้เราต้องปลอดภัยแน่นอน อย่าได้กังวลคนจากโลกทมิฬเลย “
” ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น . . . . . . . ” ตี่ย่าหลาน แทบจะไม่ยิ้ม นางไม่สามารถโล่งใจได้ นางเป็นห่วง ฉื่อหยานยิ่งนัก และนางก็ถอนหายใจออกมา ” ข้าหวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไรนะ . . . . . . . “
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาตามมาด้วยเงาร่างอื่น ๆ พวกมันปรากฏออกมาจากที่ห่างไกล แต่คนที่ปรากฏตัวออกมากลับกลายเป็นนักฆ่าจันทร์เสี้ยวจากโลกทมิฬ และข้างๆมันก็มี โม่ช่าวเกอ และเบอร์นาร์ด ยืนอยู่ เช่นเดียวกับคนในตระกูลโม่และนักฆ่าคนอื่นๆ .
” แม่นางมู่ ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง ” นักฆ่าจันทร์เสี้ยวใช้สายตามองไปที่มู่หยู่เตี๋ยเหมือนงูที่เจ้าเล่ห์ เสียงของมันเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง ” เจ้าเกือบจะหนีรอดแล้ว ! แต่แย่หน่อย สำหรับเจ้าหนะ จะไม่ได้ไปที่สมาคมการค้าหลอก แต่เจ้าต้องมากับข้าแทน “.
” จริงงั้นรึ ? ” มู่หยู่เตี๋ยยิ้มอย่างสงบและไม่แสดงความกลัวออกมา
นักฆ่าจันมร์เสี้ยวขมวดคิ้ว และสับสนเป็นอย่างมาก มู่หยู่เตี๋ยนั้นดูสงบเกินไปในเวลานี้ นี่มันต้องมีอะเรื่องผิดปกติแน่นอน
” แล้วเจ้าหนุ่มที่อยู่กับพวกเจ้าหละ “
โม่ช่าวเกอ มองไปที่นางและ กล่าวอย่างเย็นชา ” บอกข้ามาว่า เจ้าเด็กนั่นอยู่ไหน ! หรือจะให้ข้าต้องฆ่านางก่อน “
โม่ช่าวเกอ ชี้ไปที่ ตี่ย่าหลาน .
” นางเป็นของข้า ! ” เบอร์นาร์ด เกรี้ยวกราดและจ้องไปที่โม่ช่าวเกอ ที่ชี้ไปทางตี่ย่าหลาน
” ตริ่งงง ! “
ในตอนนั้น เสียงบรรเลงของพิณดังขึ้นทันที เป็นเสียงที่แหลมคมเหมือนใบมีด ๆ เพียงแค่ได้ยินเบาๆก็สามารถตัดเส้นประสาทของคนๆหนึ่งได้ .
เบอร์นาร์ด ร่างของมันสั่นและใบหน้าของมันก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด มันก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วและจ้องไปที่มู่หยู่เตี๋ยด้วยความประหลาดใจ
มู่หยู่เตี๋ย นางถือพิณอยู่ในมือ แล้วนางก็นั่งลง นางมองไปที่เบอร์นาร์ด ด้วยสีหน้าเย็นชาบนใบหน้าของนาง ” เจ้าอยากจะลองดีอีกหรือไม่ ? “
เบอร์นาร์ด รู้สึกเหมือนกับว่าสมองของมันกำลังโดนเจาะด้วยเข็ม และมันก็รู้สึกเหมือนกำลังมีดาบผ่าลงมาที่กลางหัว เมื่อได้ยินเสียงบรรเลงนั้น ใบหน้าของมันยิ่งบิดเบี้ยว และมันก็ไม่กล้าก้าวเข้าไปอีก
” เป็นไปไม่ได้ ! ! ! ! “
นักฆ่าจันทร์เสี้ยวใบหน้ากลายเป็นบิดเบี้ยวและนักฆ่าคนอื่นๆก็ตื่นตระหนก ” นี่ผ่านมาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ,จิตวิญญานแห่งเสียงเพลงไม่น่าฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ ! “
หลังจากหยุดอยู่กับที่ ดูเหมือนมันจะจดจำบางสิ่งบางอย่างได้ และพูดเยาะเย้ย ” ฮ่าฮ่า ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังฝืนบรรเลงทั้งๆที่เส้นเลือดของเจ้ายังฉีกขาดอยู่ อยู่เหมือนว่าต้องการจะรนหาที่ตายนะ ! “
” โอ้ ” มู่หยู่เตี๋ยตอบกลับอย่างราบเรียบ ” บางทีเจ้าอาจจะอยากทดสอบมัน ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ในระดับหายนะ แต่ถ้าเจ้าจำได้ละก็ เจ้าก็น่าจะรู้นี่ว่าข้าสังหารนักฆ่าจันทร์เสี้ยวที่อยู่ในระดับเดียวกับเจ้าด้วยจิตวิญญานแห่งเสียงเพลงมาแล้วในป่าทมิฬ “
นี้ไม่เพียงแต่ จะทำให้นักฆ่าจันทร์เสี้ยวลังเล แต่ยังทำให้ทั้ง เบอร์นาร์ด และ โม่ช่าวเกอ ถึงกลับตื่นตระหนก เช่นกัน. พวกมันจ้องมองไปที่นางด้วยสาตาเหลือเชื่อ
” ท่านนักฆ่าจันทร์เสี้ยว . . . . . . จริงงั้นรึ ? ” โม่ช่าวเกอ ตอนนี้ริมฝีปากของมันแห้งกรังและมันก็ได้ส่งสัญญานให้นักรบตระกูลถอยล่นไป
” นางสามารถทำเช่นนั้นได้ ในสภาพปกติหละนะ . . . แต่ตอนนี้ มันย่อมไม่ใช่แน่นอน ! . ” นักฆ่าจันทร์เสี้ยวคำรามออกมา .
” ฮ่าๆ ท่านนักฆ่า เช่นนั้นมันก็เป็นเรื่องของเจ้าแล้ว . ” โม่ช่าวเกอ ถอยไปยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มนักรบตระกูลโม่ และเริ่มที่จะคิดอะไรบางอย่าง
” หากใครอยากตายเป็นคนแรก ก็เข้ามา ” มู่หยู่เตี๋ยพูดอย่างเย็นชาแล้วหันหน้าไป โดยไม่สนใจที่จะพูดอะไรอีก
ตี่ย่าหลาน ก็ยืนอยู่ข้างๆนางด้วยความระมัดระวังอยู่บนก้อนหิน .
ทุกอย่างอยู่ในความเงียบงีน
มันน่าแปลกใจ ที่นักฆ่าจันทร์เสี้ยวไม่ได้พลีพลามจู่โจมเข้าไป
ในเวลาเดียวกัน เบอร์นาร์ด และ โม่ช่าวเกอ ก็สงบลงหลังจากที่พวกมันได้ยินว่ามู่หยู่เตี๋ยเคยฆ่านักรบในระดับหายนะมาก่อน มันสบตากับนักฆ่าจันทร์เสี้ยว เพื่อกระตุ้นให้มันเข้าไปทดสอบมู่หยู่เตี๋ย
ในช่วงเวลานั้น ก็ปรากฏเงาหลายร่างพุ่งผ่านหินขึ้นมา
และก็มีผู้ชายตัวสูงก็มายืนอยู่ข้างๆ มู่หยู่เตี๋ยและพูดเบาๆ ” แม่นางมู่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ? “
ทุกคนในพื้นที่ รวมถึงนักฆ่าจันทร์เสี้ยว โม่ช่าวเกอ และเบอร์นาร์ด ที่เป็นนักรบในระดับความหายะทั้งหมด ต่างก็ไม่สามารถสัมพัสได้ถึงชายที่ปรากฏตัวขึ้นมาได้
จู่ๆชายคนนั้นก็ปรากฏขึ้นมาข้างๆมู่หยู่เตี๋ยเหมือนกับภูติผี
” จิตวิญญานย่นระยะ(TL.บ้านผมเรียกเทเลพอต อ่ะ 5555) ! ของตระกูลเป่ยหมิง ! “
โม่ช่าวเกอร้องออกมาอย่างตกใจ
” ดูสิเราเจอใครกัน . . . . . . . คนจากตระกูลโม่มิใช่หรือ ? ” หนุ่มหล่อที่ยืนข้างๆมู่หยู่เตี๋ยมันก็มองไปรอบๆ อย่างหยิ่งพยองและ พูดอย่างเย็นชา ” เช่นนั้น ? เจ้าต้องการลองดีกับตระกูลเป่ยหมิงของข้ารึ ? “
” เรามิกล้า “
โม่ช่าวเกอ สูดเอาลมหายใจเข้าลึกๆและสงบลง เขาพูดกับชายหนุ่มอย่างสุภาพว่า ” ท่านสมควรเป็นคุณชายสาม ไม่แปลกใจเลยที่แม่นางมู่ดูมีความมั่นใจมากเพียงนั้น . คุณชายสาม ข้าไม่ทราบมาก่อนว่าแม่นางมู่ได้รับการคุ้มครองจากตระกูลเป่ยหมิง ถ้าข้ารู้มาก่อน ข้าคงไม่คิดจะมาที่นี่ โปรดอภัยให้ข้าด้วย , คุณชายสาม . . . . . . . “
เป่ยหมิงเช้อ โบกมือและกล่าวอย่างหงุดหงิด ” ถ้าไม่ใช่เรื่องของตระกูลเจ้า เจ้ากับคนในตระกูลก็ออกไปสะ อย่าได้มายุ่ง ข้ากำลังจะกวาดล้างคนจากโลกทมิฬ “
เมื่อพูดเสร็จ นักรบที่สวมชุดของตระกูลเป่ยหมิงคนอื่นๆก็ปรากฏขึ้น
ชายชรา 2 คน คนหนึ่งผอม คนหนึ่งอ้วน และคนอื่นๆก็ยืนอยู่ข้างๆมันอย่างเงียบๆ พวกมันมองไปที่โม่ช่าวเกอและนักฆ่าจันทร์เสี้ยวอย่างเย็นชา
” งั้นข้าขอลา ” โม่ช่าวเกอ ยิ้มอย่างสุภาพและจากไปทันที
นักรบตระกูลโม่หันไปมองเป่ยหมิงเช้ออย่างเงียบๆ , และก็จากไปทันทีพร้อมกับโม่ช่าวเกอ .
ขณะเดียวกัน เบอร์นาร์ด มันก็ก้าวถอยหลังและกำลังจะวิ่งหนีเข้าไปในป่าศิลา
แต่ในตอนนั้นเอง มู่หยู่เตี๋ยสัมผัสไปที่พิณของนางเบาๆ แล้วพูดว่า ” คุณชายสาม ข้าต้องขอสังหารชายผู้นั้นก่อน! .
” ตริ๊ง ! “
เสียงของพิณดังออกมา
ร่างกายของ เบอร์นาร์ด สั่นอย่างหนัก และมันก็เกือบล้มลง มันไปที่ด้านหลังก้อนหินและรีบวิ่งอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่ามันกำลังอยู่ในนรก
” ผู้เฒ่าหยิน ข้าต้องรบกวนท่านแล้ว ” เป่ยหมิงเช้อ สั่งเบาๆ
ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังมันก็พุ่งออกไปเหมือนวิญญาน และ หลังจากนั้น ก็ได้หายตัวไป
สามวินาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวและทรมานของเบอร์นาร์ด ดังออกมาจากภายในป่าศิลา
ห้านาทีต่อมา ชายชราร่างผอม ก็พุ่งกลับมาที่เดิมเหมือนผีและยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ เป่ยหมิงเช้อ โดยไม่พูดอะไรสักคำ
––––––––––––––––––––––––
ปล.ลงอีกทีวันที่ 18/3/2560 จ้า… ตอนนี้ในกลุ่มลับของเราลงถึงตอนที่ 118 แล้วนะครับ หากสนใจอยากเข้าร่วมกลุ่มลับ สามารถอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยจ้า
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ