เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 435 การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์

บทที่ 435 การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์

 

หลังจากได้ยินคำพูดของฉื่อหยาน ดวงตาของพวกเขาทั้งหกก็ช่วยไม่ได้ที่จะส่องประกาย เฟยหยามองเขาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

ปลาไหลอัศนีเขาเงินเป็นสัตว์อสูรระดับหก ดังนั้นเขาเงินและผลึกของมันจึงมีค่า ทรัพยาสองชิ้นนี้เป็นที่ต้องการสำหรับเผ่าเงือกเป็นอย่างมาก พวกเขาฆ่าปลาไหลอัศนีเขาเงินเพื่อรวบรวมเงินเขาเงินและผลึกอสูรของมันตลอดเวลา

ผลึกทั้งสองนั้นมีค่าสำหรับพวกเขาเป็นอย่างมาก พวกเขาคิดว่าเมื่อฉื่อหยานฆ่าปลาไหลอัศนีเขาเงิน เขาจะเก็บเกี่ยวทรัพยากรเหล่านั้นไป แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ฉื่อหยานไม่แม้แต่จะสนใจมันเลย

” ถ้าพวกเจ้าอยากได้เขาเงินและผลึกอสูรก็เอาไป แต่ต้องรีบหน่อยหละ มิฉะนั้นเมื่อพวกมันจมลงไปในทะเล พวกเจ้าจะต้องใช้แรงมากขึ้น . ” ฉื่อหยานมองไปรอบ ๆและดูเหมือนจะไม่ได้ต้องการทรัพยากรทั้งสองเลย

หกเผ่าเงือกจ้อง ฉื่อหยานสักพัก หลังจากตรวจสอบว่า ฉื่อหยานไม่ได้ต้องการจริงๆ พวกเขาก็พุ่งไปด้วยความตื่นเต้น

หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าเผ่าเงือกก็กลับมาและสองผลึกอสูนก็อยู่ในมือของพวกเขา พวกเขามองฉื่อหยานด้วยทัศนคติที่เป็นมิตรมากขึ้น

” เขาไม่ได้เป็นคนเลว เราคิดผิดไป ” เฟยย่าคิดสักครู่แล้วตอบว่า ” ยังไงเสีย เราก็ต้องไปที่เมืองใต้บาดาล อยู่แล้วเช่นนั้น เราจะพาเจ้าไปเองดีหรือไม่ ? ”

ฉื่อหยานยิ้มและพยักหน้า ” นั่นดีเลย ”

เฟยยาก็เก็บเขาเงินและผลึกอสูรอย่างระมัดระวัง ในขณะที่แอบคิด ราคาของทรัพยาทั้งสองนี้ตอนไปถึงเมืองใต้บาดาล

เมื่อคำนวณเสร็จ เฟยหยา ก็อยู่ในอารมณ์ที่ดี นางนำทางและส่งสัญญาณให้ฉื่อหยานทันที

เมื่องใต้บาดาลนั้นอยู๋ใต้ทะเล ในทะเลเคียร่า นักรบมนุษย์ที่ไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนเพื่อตามหามัน

เผ่าเงือกนั้นอยู่ใต้ก้นปีตลอดทั้งปี พวกเขารู้อยู่แล้วว่าเมืองใต้บาดาลอยู่ที่ใด ด้วยการที่มีเผ่าเงือกทั้งหกนำทาง ก็ทำให้ฉื่อหยานมีความสุข

พวกเขาทั้งหกคนว่ายนำหน้า และฉื่อหยานก็ตามพวกเขาอย่างสบาย

หลังจากรู้ว่าฉื่อหยานแข็งแกร่ง เผ่าเงือกทั้งหกคนก็ไม่แสดงความยโสของพวกเขาอีกเลย ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร พวกเขาก็ยังคงนับถือนักรบระดับนภา

ที่สำคัญกว่า คือ ฉื่อหยาน อายุยังน้อย แต่กลับมีระดับการบ่มเพาะเช่นนี้

” เจ้ามาจากตระกูลหยางจริงๆรึ ?” เฟยหยา นั้นทนความสงสัยที่มากมายไม่ไหว จู่ๆ นางก็ย่อตัวลง หันหน้ากลับมา ในขณะที่ หลี่ตามองไปที่ฉื่อหยาน และพูดด้วยความสงสัย ” ดูเหมือนบรรพบุรุษของตระกูลหยางจะไม่มีใครมีแซ่ฉื่อนะ เรารู้ว่ามีราชาชูร่าที่อยู่ในระดับนภาสามคน แต่เจ้ายังหนุ่มอยู่มาก ดังนั้น เจ้าจะต้องไม่ใช่หนึ่งในพวกเขาแน่ เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นลูกหลานตระกูลหยาง . ทำไมเราไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้าเลย ? “

ฉื่อหยานก็ยิ้มและตั้งใจอธิบาย ” ข้าพึ่งมาถึงทะเลไม่มีสิ้นสุดได้ เมื่อไม่นานมานี้ ข้าได้อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่นก่อนหน้านี้ นั่นก็ไม่แปลกที่เจ้าจะไม่เคยได้ยินชื่อข้า ถ้าข้าสามารถพบเจอกับผู้คนในตระกูลหยางได้ที่เมืองใต้บาดาล พวกเขาจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นเอง . “

สีหน้าของเฟยหยาก็ดูแปลกประหลาด นางต้องการจะพูดอะไรแต่ก็หยุด

ฉื่อหยานก็ถามว่า ” หยางมู่ และสหายของข้าพบปัญหาใดในที่เมืองใต้บาดาลรึ ? เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ ? .”

เฟยหยาไม่ตอบทันทีแต่ขมวดคิ้ว และคิดบางอย่าง หลังจากนั้น นางค่อยๆ พยักหน้าและกล่าวว่า ” คราวนี้ เหล่าคนจากตระกูลหยางลำบากจริงๆ . . . . . . . “

” เกิดอะไรขึ้น “

” เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับจักรพรรดิหยางเทียนถูกจับหลุดออกไปมั่วทะเลไม่มีที่สิ้นสุด หลายเผ่าพันธ์ในเมืองใต้ทะเลที่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลหยาง ตอนนี้ก็ไม่มีท่าทีเป็นมิตรต่อพวกเขาอีกต่อไป . ” หลังจากหยุดสักพัก เฟยยาก็พูดอย่างต่อเนื่อง” รวมถึง เผ่าเงือกด้วย “

ฉื่อหยาน ก็ตกใจเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ทะเลเคียร่าตอนนี้วุ่นวายเป็นอย่างมาก และก่อนหน้านี้ ตระกูลหยางได้ขนส่งทรัพยากรมายังเมืองใต้ทะเล ผ่านรูปแบบเคลื่อนย้ายในทะเลเคียร่า แต่ตอนนี้ตระกูลหยางได้ตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไม่สามารถนำทรัพยาจากบนดินมาข้างใต้ได้ นั่น ข้าสามารถจินตนาการจุดนั้นได้ “

เฟยหยาลากรอยยิ้มออกมาจากปากนาง คิดว่าสักพักและพูดต่อเนื่อง ” . ไม่เพียงแค่นั้น แต่คนที่อยู่ในเมืองใต้บาดาล ในความเป็นจริง มีนักรบมนุษย์มากมายเช่นกัน พวกเขาหลายคนก่ออาชญากรรมในทะเลไม่มีสิ้นสุดและถูกกองกำลังที่แข็งแกร่งตามล่า ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะอยู่ในทะเลกว้างใหญ่ และเลือกที่จะมายังเมืองใต้บาดาล “

” โอ้ ! “

 

ในเมืองใต้บาดาล มีนักรบที่ชั่วร้ายตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่ง ในปีนั้น เมื่อตระกูลหยางก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ คนเหล่านี้เคารพและปฏิบัติกับตระกูลหยางอย่างอ่อนน้อม ตระกูลหยางมีอำนาจที่สามารถสั่งพวกเขาได้ในเมืองใต้บาดาล “

เฟยยากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ” เมืองใต้บาดาลเหมาะมากสำหรับให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิต เผ่าทะเลเองก็สามารถเข้าไปพักได้ที่นั่นชั่วคราว วัตถุประสงค์เบื้องต้นของการสร้างเมืองใต้บาดาลก็เพื่อเผ่ามนุษย์ ที่นั่นมีบรรยากาศชื้นและมีน้ำและม่านพลังป้องกันอันตรายจากภาบนอก ยังคงมีนักรบมนุษย์ ทำธุรกิจกับเหล่าชนเผ่าทะเล”

” ในทางตรงกันข้าม คนจากเผ่าทะเลไม่สามารถอยู่ในเมืองใต้บาดาลได้นาน ส่วนใหญ่เราจะไปอยู่ที่นั่นชั่วคราวเท่านั้น แม้ว่าเมืองใต้บาดาลจะมีน้ำและความชื้น เราก็อยู่ได้ชั่วคราวเท่านั้น เราไม่ใช้เวลาส่วนมากในเมืองแห่งนั้น เผ่าทะเลส่วนใหญ่ ของเราอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองใต้บาดาลมากกว่า “

ฉื่อหยาน ไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับเมืองใต้บาดาล ตอนนี้ เมื่อเฟยหยาบอกรายละเอียดเกี่ยวกับมัน เขาจึงตั้งใจฟังอย่างดี

” ตระกูลหยางเคยเป็นผู้คุมกฎในที่เมืองใต้บาดาลมาก่อน ส่วนมากมนุษย์ที่อยู่ในที่เมืองใต้บาดาลและมาจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุดล้วนแต่ไม่ใช่คนดี หลังจากเข้ามาอยู่ในเมือง ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น และมักจะเกิดการต่อสู้วุ่นวายมากมาย เหล่าคนจากตระกูลหยางแต่เดิมคอยป้องกันและออกคำสั่งไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นั้น ด้วยพลังอำนาจของพวกเขา พวกเขาสามารถหยุดการกระทำของนักรบเหล่านั้นได้

” แต่ตอนนี้ มันไม่เหมือนเดิม หลังจากตระกูลหยางตกต่ำลง กองกำลังขนาดเล็กต่างๆก็เข้ามาต่อสู่กับตระกูลหยาง เกิดเป็นความวุ่นวายยิ่งขึ้น ตระกูลหยางตอนนี้ไม่สามารถที่จะจัดการกับพวกเขาได้ง่ายนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจตระกูลหยางอีกต่อไป”

” เผ่าทะเลของเรานั้น ไม่สนใจเรื่องของมนุษย หากจะให้มีส่วนร่วม ในการต่อสู้นั้น ก็เพียงมอบทรัพยากรบ่มเพาะให้เราเท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องไปยุ่งเกี่ยว เป็นตระกูลหยางที่สูญเสียอำนาจไป , เมืองใต้บาดาลจึงปั่นป่วนเป็นอย่างมาก และมีการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่นั่น .

เฟยยาขมวดคิ้วเข้าหากันนางดูเหมือนจไม่มีความสุขกับสภาพเมืองใต้บาดาลในตอนนี้เช่นกัน

” แล้วนั่นเกี่ยวอะไรกับตระกูลหยางกัน ? เจ้าบอกว่าตระกูลหยางตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ? “ฉื่อหยานถาม

” ตระกูลหยางนั้นมีทรัพยากรจำนวนมากอยู่ในเมืองใต้บาดาล ข้าไม่แน่ใจว่านั่นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ” เฟยหยาพูด

ฉื่อหยาน ก็ตะลึงครุ่นคิดสักพักแล้วพยักหน้าและพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ” บางทีมันอาจจะจริง “

ปีนั้น เมื่อตระกูลหยางย้ายออกจากเกาะอมตะในทะเลเคียร่า พวกเขาเคลื่อนย้ายทรัพยากรจำนวนมากไปยังดินแดนสี่อสูรและเมืองใต้บาดาลที่อยู่ด้านล่างทะเล

ตระกูลหยางนั้นได้เก็บสะสมทรัพยากรมากมายมาหลายปี แม้จะเป็นส่วนเล็ก ๆ ทรัพยากรเหล่านั้นก็มีจำนวนมหาศาลและเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้

เมื่อนักรบส่วนหนึ่งรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ได้ทำการยั่วยุตระกูลหยาง เพื้อทดสอบการตอบสนองของตระกูลหยาง

เฟยหยา มองเขาอย่างรอบคอบ จากการเปลี่ยนแปลงในสายตาของเขา นางก็รู้แล้วว่าเขาได้เข้าใจอะไรบางอย่าง จากนั้นนางก็พยักหน้าและบอกว่า ” สิ่งที่เจ้าคิดถูกต้องแล้ว นักรบมากมายในเมืองใต้บาดาลนั้นโลภมาก เพื่อให้ได้ทรัพยากรของตระกูลหยางที่อยู่ที่นั่น นักรบเหล่านั้นยังคงยั่วยุตระกูลหยาง ‘ เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของพวกเขาเพื่อดูว่าข่าวนั่นเป็นจริงหรือไม่ และสามารถจัดการกับพวกเขาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ว่าไม่มียอดฝีมือจากตระกูลหยางอยู่ที่เมืองบาดาล พวกเขาก็ไม่สนอะไรอีกต่อไป “

หลังจากหยุดไปชั่วขณะ เฟยหยา ก็กล่าวต่อว่า ” ดังนั้น นักรบเหล่านั้นจึงไม่เห็นตระกูลหยางอยู่ในสายตา และพวกเขาก็หยิ่งพยองมากยิ่งขึ้น เมื่อเร็ว ๆนี้ เราได้รับข่าวว่าคนเหล่านี้ดูเหมือน จะลงมือด้วยแผนการบางอย่างเร็วๆนี้ เพื่อแย่งชิงทรัพยากรบ่มเพาะจากตระกูลหยาง นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าบอกว่า สถานการณ์ของตระกูลหยางตอนนี้ไม่ดีนัก . “

” ตระกูลหยางและเผ่าทะเลนั้นมีความใกล้ชิดกัน เผ่าทะเลสามารถหยุดยั้งเรื่องนี้ได้หรืือไม่ ? ” ฉื่อหยานคิดแล้วหนาวมองเฟยยาด้วยสายตาคมของเขา

เฟยยาพยักหน้าโดยไม่ปิดบังความคิดของนาง ” . ได้ ถ้าเผ่นทะเลออกมาเพื่อหยุดคนเหล่านั้นก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไร”

” แล้วเหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ทำอะไรและรอดูกัน? ” ฉื่อหยานถอนหายใจและพูดโผงผาง , ” ถ้าข้าคิดไม่ผิด คนมากมายในเผ่าทะเลเองก็สนใจทรัพยาของตระกูลหยางใช่หรือไม่ บางที เหล่าพวกนักรบที่หยิ่งพยองเหล่านี้คงได้ตกลงจะมอบทรัพยากรเหล่านั้นให้พวกเจ้าส่วนหนึ่งสินะ ?”

สีหน้าของเฟยหยาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย . นางไม่ปฏิเสธมัน นางพยักหน้าและกล่าวว่า , ” ใช่ ” .

” แล้วทัศนคติของเผ่าเงือกหละเป็นเช่นไร ?

 

ฟัคําถามของฉื่อหยาน สีหน้าเผ่าเงือกอีกห้าคนสีหน้าก็เปลี่ยนไป . พวกเขาดูไม่สบายใจ

” ผู้นำของเราต้องการที่จะปกป้องตระกูลหยาง อย่างไรก็ตาม เผ่าพันธ์ใต้ทะเลเผ่าอื่นได้แอบคุยกับผู้นำของเราเกี่ยวกับอนาคตของชนเผ่าทะเลและได้ชักชวนผู้นำของเรา เวลานี้ ผู้นำของเรายังไม่ได้ตกลงหรืิอปฏิเสธอะไร แต่ท่านก็ไม่ได้ยื่นมือของตนเพื่อช่วยตระกูลหยาง “

เฟยหยาลังเลสักพัก ถอนหายใจและกล่าวว่า , ” ถ้าจักพรรดิหยางเทียนยังคงปกครองทะเลเคียร่า ข้าคิดว่าหลายเผ่าพันธ์ที่อยู่ใต้ทะเลคงจะไม่ทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ของจักพรรดิ์หยางเทียนตอนนี้ยังไม่แน่ชัดและบวกกับตระกูลหยางไม่สามารถปกป้องทะเลเคียร่าไว้ได้ นี่จึงทำให้เผ่าทะเลหมดความศรัทธาในตระกูลหยาง ดังนั้น หลายเผ่าพันธ์ใต้ทะเลจึงยอมแพ้ที่จะขึ้นกับตระกูลหยาง พวกเขาคิดว่าการกระทำนี้จะเป็นการดีที่สุดสำหรับอนาคตของเมืองใต้บาดาล “

ฉื่อหยานแสยะยิ้มอย่างเย็นชา ในขณะที่ใบหน้ากลายเป็นมืดมน

_________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1367 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset