เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 439 ยอดสุรากระตุ้นจิตสังหาร

บทที่ 439 ยอดสุรากระตุ้นจิตสังหาร

 

“ผู้อาวุโส ขอสุราที่ดีที่สุดให้ข้าสองไหที “

เสียงชัดเจนก็เกิดขึ้น จากระยะไกล ร่างใหญ่ของชายหนุ่มดวงตาสดใส ข้ายาวประบ่าสีดำ และเสื้อสีดำก็เดินมาหลังเขา เผ่าเงือกทั้งหกคนก็ก้าวเดินมาทีละก้าวด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

เถ้าแก่สีหน้าก็ประหลาดใจ มองไปรอบๆ ถนนร้างแห่งนี้ไม่มีร้านเปิดยกเว้นร้ายแห่งนี้ ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนนอก และดูเหมือนจะไม่ได้ที่จะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเมืองใต้บาดาลวันนี้

” น้องชาย เจ้าพึ่งมาเมืองใต้บาดาลรึ ?” เถ้าแก่มองไปรอบ ๆและรีบพูดด้วยเสียงต่ำ โดยไม่รอให้เขาเข้ามา ” เจ้าควรไปซะ สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับเรือนตระกูลหยาง เจ้าไม่ควรอยู่นาน “

ด้วยความกลัวเผ่าเงือกทั้งหกเขาจึงพูดเบาๆ เพื่อไม่ให้พวกเขาทั้งหกได้ยินสิ่งที่เขาพูด

ชายหนุ่มยิ้มจนเห็นฟัน และดูเหมือนจะรู้ถึงสิ่งที่เถ้าแก่กลัว . เขามานั่งที่โต๊ะที่หมิงไห่ , ฟู่ฮาว หยานเฟิง , จิ่วหลันซินเคยนั่งก่อนหา้นี้ หลังจากนั่งลง เขาก็โบกมือส่งสัญญาณเผ่าเงือกทั้งหกคนไม่ต้องเข้ามาและเขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม ” ข้าได้ยินท่านพูดถึงตระกูลหยาง ท่านสามารถบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่?

เถ้าแก่หน้าชะงัก เขารีบส่ายหัว ” ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย ท่านฟังผิดแล้ว ” .

” ข้าเป็นหนึ่งในตระกูลหยาง “

” . . . . . . . “

ใบหน้าของเถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อ ทั้งเปลี่ยนเป็นตกใจ ดู

” อย่ากังวลไปเลย ข้าจะไม่บอกใครเรื่องนี้ ” ชายหนุ่มยิ้มและพูดกับเสี่ยวเอ้อ” นำสุรา ที่ดีที่สุดมาให้ข้าสองไห”

เสี่ยวเอ้อมองเถ้าแก่

เถ้าแก่แวบดูลังเล เขาคิดสักพักแล้วพยักหน้ากับเสี่ยวเอ้อ

เขาหันไปรอบ ๆและรีบนำสุราสองไหมาวางไว้บนโต๊ะ เขายังนำอาหารจานเนื้อมาด้วยและกล่าวว่า ” ไม่ว่าใครตอนนี้ต่างก็เห็นใจตระกูลหยาง จานนี้ข้าให้ท่านฟรี เถ้าแก่ท่านคงไม่ว่าข้านะ “

เถ้าแก่ถอนหายใจและพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก

” ดูเหมือนพวกท่านจะไม่ชอบหมิงไห่ และคนอื่น ๆนะ มันเป็นความจริงรึที่หลายคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ปกครองเมืองใต้บาดาลอีก ท่านผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวล แค่บอกสิ่งที่ท่านรู้มา ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ดังนั้นท่านสามารถพูดได้ ” ชายหนุ่มยิ้ม ดึงหินผลึกและโยนมันให้เสี่ยวเอ้อ จากนั้นเขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นรินสุราในไหและดื่มมัน

เถ้าแก่ก็แปลกใจ

เสี่ยวเอ้อก็ตกใจเช่นกัน

” นี้มันมีค่ามากเกินไป . ” เถ้าแก่รีบเดินออกมา หยิบคริสตัลเหล่านั้นจากมือเสี่ยวเอ้อ เขากล่าวอย่างจริงจัง” สุราสองไหนี้ไม่คุ้มค่าของคริสตัลเหล่านี้ น้องชาย เจ้าจะซื้อร้านของข้างั้นรึ ? “

ชายหนุ่มหัวเราะลั่น และโบกมือ ” ผู้อาวุโส ท่านไม่ต้องเป็นกังวล เท่านเพียงแค่บอกข้าเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองใต้บาดาล ข้ามีหินคริสตัลเหล่านี้อยู่มากมาย ท่านสามารถเก็บมันไว้ได้ “

เถ้าแก่มองอย่างแปลกใจ มองเขาสักพัก เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

” เอาล่ะ เอาล่ะ ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นหนึ่งในตระกูลหยาง ข้าก็ให้ความสำคัญกับความเป็นความตาย ” ชายหนุ่มพูดเช่นนี้ก็เพื่อไม่ต้องการให้เถ้าแก่ระวังจนเกินไป.” ท่านบอกว่าเมื่อตระกูลหยางปกครองเมืองใต้บาดาลแห่งนี้ เหล่าคนค้าขายต่างก็เคารพพวกเขาเป็นอย่างมาก พวกเขายังช่วยพวกท่านจัดการคนจากเผ่าทะเล นั่นจริงรึ ? “

เถ้าแก่พยักหน้าและบอกว่า ” ทั้งสี่กองกำลังได้ครอบครองพื้นที่สี่ที่สำคัญของเมือและทำเรื่องโง่ ๆ โดนปล่อยให้คนจากเผ่าทะเลกดขี่พวกเรา พ่อค้าหลายคนไม่พอใจ แต่ไม่กล้าพูดอะไร พวกเขากำลังพิจารณาที่จะออกจากสถานที่นี้ อืม ถ้าไม่ใช่เพราะเรามีศัตรูในโลกภายนอก และไม่ควรอยู่ในทะเลไม่มีสิ้นสุด เราคงไม่อยู่ในเมืองใต้บาดาลแห่งนี้ให้ชีวิตตกต่ำลงหลอก “

เห็นผู้ชายคนนั้นพูดคุยด้วยง่าย เสี่ยวเอ้อก็รีบพูดเกี่ยวกับหมิงไห่ และคนอื่นๆ เขาขบฟันของเขาด้วยความโกรธ เขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถทำให้คนพวกนั้นตายเร็วๆได้

ชายหนุ่มยังคงพยักหน้าในขณะที่ฟังและถามรายละเอียดบางอย่างเพิ่มเติม จากนั้นเขาก็โบกมือส่งสัญญาณให้พวกเขาสองคนไป

,เผ่าเงือกก็เข้ามา

” ถึงแม้เจ้าถามพวกเขาหลายสิ่งหลายอย่าง แล้วเจ้าจะได้ประโยชน์อะไร ? ” เฟยหยาขมวดคิ้วเข้าหากัน ” หมิงไห่ และคนอื่น ๆ นั้นได้ปกป้องผลประโยชน์ของเผ่าทะเล ดังนั้น เผ่าทะเลจึงพอใจอยู่แล้ว หากพวกเขาสามารถเผชิญหน้ากับเรา และไล่เราออกจากเมืองใต้บาดาลได้ เราก็จะไป ชีวิตก็แบบนี้คนที่แข็งแกร่งจะมีอำนาจมากกว่า . “

ฉื่อหยาน ยิ้มในขณะที่เขาเอาแต่ดื่มสุรา เขาไม่ได้ใช้พลังปราณลึกลับของเขาเพื่อกันพิษของสุราเลย จากผลกระทบของแอลกอฮอล์ ใบหน้าของเขาค่อยๆ กลายเป็นสีแดง

 

“กลุ่มของหมิงไห่ ได้เริ่มลงมือแล้ว ท่านไม่อยากช่วยตระกูลหยางรึ ? ดังนั้นทำไมท่านยังอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่ อีก? “

” ไม่ต้องรีบ “

ฉื่อหยานดวงตาแดงขึ้นเล็กน้อย มองไปยังอาคารตระกูลหยางอย่างซับซ้อนและเขาก็กล่าวอย่างใจเย็น ” พวกเขายังไม่ได้เริ่มเลย การต่อสู้ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นข้าไม่ต้องการที่จะออกไปเร็วๆนี้ รอจนกว่าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายตระกูลหยางได้เสียก่อน ตอนนี้ข้าจะปรากฏตัวขึ้นและทำให้พวกมันเสียใจ “

” พวกเขาทั้งสี่คนนั้นล้วนแต่มีระดับการบ่มเพาะที่ระดับนภา . หมิงไห่ นั้นอยู่ในนภาที่สองระดับนภา ส่วนที่เหลืออีกสามคนอยู่ในนภาแรกระดับนภา พวกเขามีจิตวิญญานต่อสู้และสมบัติลับ พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังที่แข็งแกร่งจำนวนมากในเมืองใต้บาดาล เจ้าคิดว่า เจ้าคนเดียวจะสามารถช่วยตระกูลหยางได้งั้นรึ ?”

เฟยหยาเห็นได้ชัดว่ารู้สึกไม่เชื่อในสิ่งที่เขาจะทำ นางนิ่งสักครู่และกล่าวว่า ” เท่าที่ข้ารู้ จิ่วหลันซินมีความสัมพันธ์อันดีกับประมุขของตระกูลแมงป่องน้ำ เปาเหวิน จริงๆแล้ว นางเป็นคนรักของเปาเหวิน และเปาเหวินก็ดูเหมือนจะชอบนางมาก เขาให้การสนับสนุนนางมากมาย นั่นเป็นเหตุผลที่จิ่วหลันซินกล้าที่จะเผชิญหน้ากับหมิงไห่ แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าระดับการบ่มเพาะของเปาเหวินเป็นเช่นไร ” ?

ฉื่อหยานชะงักสักครู่และกล่าวว่า “ทำไมรึ ? คือว่า เปาเหวินแข็งแกร่งมากงั้นรึ ” ?

” นภาแรก ระดับ พระเจ้า ” เฟยหยา พูดออกมาทีละคำด้วยสีหน้าที่จริงจัง ดูเหมือนนางกำลังต่อการตอบสนองของเขา

เกินความคาดหมายของนาง หลังจากที่ฉื่อหยานได้ยินว่าเปาเหวินนั้นอยู่ในนภาแรกระดับพระเจ้า เขากลับพูดแค่คำว่า โอ้ โดยไม่แสดงความหวาดกลัวใด ๆออกมา ราวกับว่าเปาเหวินเป็นเพียงนักรบธรรมดา และไม่สามารถทำอะไรเขาได้

” ระดับพระเจ้านะ ” ! เฟยหยาพูดซ้ำ

ฉื่อหยานกล่าวอย่างหงุดหงิด ” ข้ารู้แล้ว แล้วมันยังไงรึ ? “

” ต่อให้เต้าสามารถจัดการกับจิ่วหลันซินได้ แต่เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถจัดการกับเปาเหวินได้งั้นรึ ? ” เฟยหยา มองเขาอย่างน่าเวทนา ” เปาเหวินนั้นรักนางมาก เหตุกาณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวันนี้ เขาจะต้องสังเกตทุกอย่างจากที่ไหนสักแห่งแน่ ถ้าเจ้ากล้าที่จะจัดการกับจิ่วหลันซิน ข้าคิดว่าเปาเหวินจะต้องปรากฏตัวเป็นแน่ “

” งั้นก็ให้เขาปรากฏตัวออกมาสิ ” ฉื่อหยานยกมือขึ้นดื่มสุรา เขาเช็ดปากแล้วกล่าวอย่างใจเย็น ” ไม่ว่าใครที่กล้าลงมือกับตระกูลหยาง ข้าจะชดใช้ให้มันอย่างสาสม . “

” เจ้าไม่กลัวตายรึไง ” เฟยย่าถอนหายใจอย่างเย็นชา

อีกห้าคนก็ยังเยาะเย้ย พวกเขามองฉื่อหยานด้วยความเหยียดหยาม

” พี่ชาน เอาสุราแรงๆมาให้ข้าอีกาอวงไห เราต้องดื่มมากกว่า เมื่อขณะที่ข้าฆ่าพวกเขาข้าจะได้รู้สึก . ” ฉื่อหยานตะโกนในขณะที่กลิ่นอายที่รุนแรงกระจายออกมาจากร่างของเขา เขานั่งอยู่ตรงเหมือนดาบคมที่กำลังจะพุ่งออกจากฝักเพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงความคมของมัน

. . . . . . .

ด้านนอกอาคารตระกูลหยางที่ซับซ้อน

เสียงคำรามก็ดังขึ้น หมิงไห่ เดินทางไปยังประตูด้านหน้าอาคารตระกูลหยาง นักรบร้อยคนยืนเข้าแถวพร้อมกับมีริบบิ้นสีแดงมัดอยู่ที่แขนของพวกเขา พวกเขามองไปข้างหน้าอย่างเย็นชา

หมิงไห่ ยืนอยู่แถวหน้า ระเบิดหัวเราะ และ ตะโกนเสียงดังออกมา ” พี่ชาย หยางจั่ว ข้าหมิงไห่ มาเยี่ยมท่าน หวังว่าท่านจะมาพบข้านะ “

ประตูใหญ่ยังคงปิดอยู่

เสียงของหยางจั่วก็ดังออกมาจากข้างใน ” หมิงไห่ ตระกูลของข้าได้ดูแลเจ้าอย่างดี ข้าไม่คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่มายืนอยู่หน้าประตูตระกุลข้าจะเป็นเจ้า . “

” พี่หยางจั่ว เพราะตระกูลหยางเคยดูแลข้าเป็นอย่างดี ข้าจึงมาที่นี่เพื่อเจรจา ” หมิงไห่พูด ของมองดูอาคารสูงห้าสิบเมตรที่มีประการังโบราณประดับอยู่ บนระเบียงคนจากตระกูลหยางค่อยๆปรากฏทีละคนรวมถึงหยางจั่วด้วย

” ตราบใดที่ท่านมอบทรัพยากรให้กับข้า ข้าจะรับประกันความปลอดภัยของท่าน อืม ด้วยบุณคุณของพี่ชายเสี่ยวฮานยี่ ข้าจะให้ท่านอยู่ในเมืองใต้บาดาลนี้ต่อ ท่านเพียงแค่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเท่านั้น และ จะไม่มี กองกำลังใดในเมืองใต้ยาดาลรังแกท่าน แน่นอน ท่านต้องยกอาคารหลังนี้ให้ด้วย . “

หมิงไห่มองหยางจั่วจากระยะทางที่ไกล และตะโกน

กลุ่มคนของหยางจั่วก็เปิดเผยใบหน้าที่ดุร้าย พวกเขามองอย่างเย็นชาไปที่หมิงไห่ด้วยความเดือดดาล

อาคารเหล่านี้ที่อยู่ใจกลางเมืองได้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เป็นสัญลักษณ์ว่าตระกูลหยางเป็นผู้ปกครองในเมืองใต้บาดาล ถ้าหากสูญเสียอาคารหลังนี้ไป นั่นก็เท่ากับว่า ชื่อเสียงและทุกสิ่งที่ตระกูลหยางสร้างมาจะถูกทำลาย

อาคารเหล่านี้สำคัญเป็นอย่างมากเกินกว่าจะพูดได้ ดังนั้น ตระกูลหยางไม่มีทางยอมแน่นอน

” หมิงไห่ อย่าเพ้อฝันไป ” หยางจั๋วตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา

หมิงไห่ ไม่ได้โกรธ เขาเหมือนจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เขาส่ายหัว ถอนหายใจและยังคงโน้มน้าวฝ่ายตรงข้ามของเขา” พี่ชายนั้นเป็นคนฉลาด แน่นอนท่านต้องรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันแย่มากแค่ไหนสำหรับตระกูลหยาง ท่านจากทะเลเคียร่ามา ดังนั้น ทำไมท่านไม่เลิกทำเช่นนี้ แล้วคิดว่าชีวิตของพวกท่านนั้นสำคัญกว่าสิ่งใด เพราะพี่ชายเสี่ยวฮานยี่หลอกข้าถึงได้ทำเช่นนี้ ข้าได้หาทางรอดให้กับตระกูลหยางแล้ว . ดังนั้นอย่าทำให้ข้าผิดหวัง “

 

หยางจั่ว แสยะยิ้มอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

” อืม ดูเหมือนว่าท่านจะยืนกรานเช่นเดิมสินะ ” หมิงไห่เผยสีหน้าที่น่ารังเกียจ มองไปข้างหน้า แล้วกล่าวหลังจากคิดสักครู่ ” อีกสิบนาที ถ้าท่านยังทำเรื่องที่ไม่เข้าตาเรา หยางจั่ว ถึงตอนนั้นก็อย่าได้มาโทษข้าแล้วกัน “

หยางจั่วและคนอื่น ๆยังคงเงียบ

หมิงไห่ ไม่ได้พูดอะไรต่อ มองนักรบแล้วพยักหน้าไปที่พวกเขา นักรบเหล่านั้นแล้วขยับก้าวเดินขึ้นมาข้างหน้าประตูใหญ่และ ล้อมรอบบริเวณประตูไว้

บรรยากาศก็กลายเป็นหนักอึ้ง

สิบนาทีต่อมา หมิงไห่ ก็โบก มือ และออกคำสั่ง ” ฆ่าพวกมัน ! “

จากสามทิศทาง เสียงจอแจจากกลุ่มของจิ่วหลันซิน , ฟู่ฮาว และหยานเฟิงทั้งหมดก็ดังขึ้นพร้อมกัน

ด้านนอกกำแพงตระกูลหยาง นักรบมากมายก็พุ่งเข้ามา และประกายแสงทุกชนิดและการโจมตีจากสมบัติลับต่างๆก็พุ่งออกไปที่อาคารตระกูลหยาง

ในเวลาเดียวกัน ฉื่อหยาน ที่นั่งอย่างเรียบเฉยและดื่มสุราอย่างต่อเนื่อง ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่แดง เขาก้าวไปยังอาคารตระกูลหยางด้วยสีหน้าซับซ้อน ไม่พูดอะไรสักคำ

จิตสังหารที่ชั่วร้ายก็ไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างเงียบๆ และค่อยๆกระจายไปในทุกทิศทาง

_________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1370 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset