เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 446 ขมวดคิ้ว

บทที่ 446 ขมวดคิ้ว

 

ที่ศูนย์กลางเมืองใต้บาดาล . . . . . . .

ชนเผ่าทะเลหลายคนรวมตัวกัน รวมถึงนักรบมนุษย์ด้วย พวกเขาทั้งหมดดูการต่อสู้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

เกือบสองในสามของนักรบในเมืองใต้บาดาลต่างก็มาที่นี่ พวกเขามาดูการต่อสู้หลังจากได้ยินข่าว พวกเขาทั้งหมดรวมกันอยู่ที่นอกกำแพงตระกูลหยางจ้องมองไปที่ชายหนุ่มอย่างแปลกประหลาด

ชายหนุ่มยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจบนอาคารอย่างสงบ ภายใต้ความสนใจของฝูงชน เขาไม่กังวลและรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก เขาปล่อยแมลงอสูรขัดขวาง เปาเหวิน แห่งเผ่าแมงป่องน้ำ องกันเปาเหวินที่กำลังเข้รมาใกล้กับเขา

นักรบระดับรู้แจ้งถูกขัดขวางโดยสัตว์อสูรระดับแปด เขาไม่สามารถโจมตีแมลงอสูรได้ ในทางตรงกันข้าม เขาต้องล่าถอย ในที่สุดเปาเหวินก็แสดงออกว่า เขาไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ชนเผ่าทะเลหลายคนหวาดกลัว พวกเขาเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตระกูลหยาง

แม้ว่าพลังของพวกเขาจะลดลง แต่อำนาจของพวกเขาจะยังอยู่ตลอดชีวิต

พวกเขาคิดว่าหากจักพรรดิหยางเทียนได้ถูกคุมขังอยู่ในดินแดนสี่อสูรแล้ว จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับครอบครัวหยาง อย่างไรก็ตาม ในเวลาที่ยากลำบากที่สุด ชายหนุ่มกลับปรากฏตัว ไม่รู้ว่าเขามาจากที่ใด ทันทีที่เขาก็เริ่มจัดการทุกสิ่ง เขาเป็นสาเหตุการตายที่น่าเศร้าของหมิงไห่ หยานเฟิง และฟู่ฮาว นอกจากนี้ เขายังมีสัตว์อสูรระดับแปดที่ทำให้เปาเหวินทุกข์ทรมาน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เหล่าบรรดานักรบหวาดกลัว พวกเขานั้นต่างก็คิดว่าตระกูลหยางจะถูกกวาดล้างออกจากเมืองใต้บาดาลในวันนี้

พวกเขาหลบซ่อนอยู่ในวันนี้เพื่อรอฉกฉวยส่วนแบ่งทรัพยากรที่ได้จากตระกูลหยาง พวกเขาหลบซ่อนและปกปิดกลิ่นอายของคนตน รอดูสถานการณ์ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจทำอะไร

” อย่างที่บอก ใครก็ตามที่มาในวันนี้ จะต้องตาย!”

บนอาคาร ฉื่อหยานก็ตะโกนออกมาอย่างกราดเกรี้ยวด้วยดวงตาที่เย็นชา

จิ่วหลันซิน ร่างที่งดงามของนางก็สั่นสะท้าน อยู่ๆนางก็เกิดความรู้สึกที่หวาดกลัวและหนีไปโดยสัญชาตญานเพื่อเอาตัวรอด

น่าเสียดายที่แม้แต่เปาเหวินก็ถูกขัดขวางจากราชาแมลงอสูร ก่อนหน้านี้นางนั้นไม่ได้หวาดกลัวหรือป้องกันใดๆ แต่การตะโกนของฉื่อหยานเมื่อครู่ กลับเป็นครั้งแรกที่ทำให้นางรู้สึกกลัว

ความแข็งแกร่งของฉื่อหยานนั้นเกินความคาดหมายของนาง นางไม่คิดเลยว่า ฉื่อหยานจะมีราชาแมลงอสูรที่สามารถรับมือกับเปาเหิวนได้ !

” อย่าได้บังอาจทำอะไรข้า มิฉะนั้นเจ้าจะเสียใจภายหลัง ” จิ่วหลันซิน หลี่ตาลง และตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พยายามแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งซึ่งขัดกับความจริงในใจของนาง

” เจ้าก็พูดเช่นนี้ก่อนหน้านี้ ” ฉื่อหยานพูด ” เหตุผลที่ข้ารอคอยไม่ฆ่าเจ้าก็เพราะต้องการให้เปาเหวินปรากฏตัว ข้าจะทำให้รู้ว่า ไม่ว่าใครที่ทรยศตระกูลหยาง , แม้ว่คนๆนั้นจะได้รับการสนับจากใคร มันก็ต้องตาย !” หลังจากที่หยุดไปชั่วขณะ ฉื่อหยานก็ยิ้ม ” ตอนนี้ ก็ได้เวลาตายแล้ว”

หลังจากฉื่อหยานพูดจบ หลุมแรงโน้มถ่วงที่โฉบเหนือหัวจิ่วหลันซินก็ทำงาน

ร่างของจิ่วหลันซินก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ หลุมแรงโน้มถ่วงปิดกันพลังปราณลึกลับของนางทำให้นางไม่สมารถโคจรพลังมาใช้ป้องกันได้

เมื่อเห็นว่านางตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกับนักรบก่อนหน้านี้ นางก็ร้องออกมาด้วยความกลัว ” ช่วยข้าด้วย ! ช่วยข้าด้วย ! “

นางร้องเรียกเปาเหวิน

เปาเหวินนั้นได้ยิน แต่เขาไม่สามารถช่วยนางได้ ราชาแมลงอสูรได้โจมตีเขาด้วยแสงสีเงินมากมาย บังคับให้เขาต้องรับมือกับมันสุดกำลัง แต่ละเส้นแสงที่ราชาแมลงอสูรโจมตีมานั้นเต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่งและพลังวิญญานที่น่ากลัว ดังนั้น แม้ว่าเปาเหวินจะเห็นจิ่วหลันซินร้องให้ช่วย เขาก็ไม่แข็งแกร่งพอจะยื่นมือไปช่วยนาง

” นี่คือจุดจบของเจ้า . ” ฉื่อหยาน ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เผยให้เห็นใบหน้าที่เปี่ยมสุข” ตายซะ ! ” .

เส้นสายสีทองบางๆพุ่งออกไปรอบๆจิ่วหลันซิน ช่วงเวลาที่เส้นสายสีทองปรากฏทันทีพวกมันก็ตัดร่างบางของจิ่วหลันซิน

ไม่เกินความคาดหมาย ร่างของจิ่วหลันซินก็ถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆด้วยเส้นไหมสีทองนับไม่ถ้วนและ ตกลงมาจากหลุมแรงโน้มถ่วง

จิ่วหลันซินร่างถูกแยกเป็นชิ้นๆ

ชนเผ่าทะเลและนักรบมนุษย์ต่างก็รู้สึกเย็นยะเยี่ยบไปถึงขั้วกระดูก พวกเขากลายเป็นใบ้ไปทันที

ชนเผ่าทะเลก็ตะโกนร้องออกมาดังสุดขวด พวกเขากลัวที่จะตาย พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองฉื่อหยาน พวกเขากลัวว่าฉื่อหยานจะลงมือกับพวกเขาและตัดพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ

” อย่างที่บอก ไม่ว่าใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ” ฉื่อหยาน ส่ายหัวเบาๆ ราวกับเขาเพิ่งทำเรื่องไม่สำคัญลงไป เขายังคงสงบ

 

” เปาเหวินนั้น . . . . . . . ” หยางจั่วพึมพำด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ” ยังไงก็ตาม เขาเป็นน้องชายของเปาเค่อ ด้วยชื่อเสียงและสถานะที่สูงส่งของเขาในเผ่าแทงป่องน่ำ ถ้าเจ้าทำให้เปาเหวินขุ่นมัว , ประมุขของเผ่าแมงป่องน้ำจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ๆ คนในตระกูลหยาง ในเมืองใต้บาดาลนั้นไม่เพียงพอที่จะรับมือกับเผ่าแมงป่องน้ำ ฉื่อหยาน , ทำเช่นนี้มันไม่เกินไปหน่อยรึ ? “

” ถ้าประมุขของแมงป่องน้ำจะมาสู้กับเราเพียงเพราะนางโสเภณีนี่ ข้าคิดว่าเขาควรจะก้าวลงจากตำแหน่งของเขาซะ . ” ฉื่อหยานยิ้มอย่างมั่นใจ” . . ท่านลุงไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่า พวกเผ่าทะเลนั้นดูถูกตระกูลหยาง และแอบกดดันเราเมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ข้าทำแบบนี้เพราะต้องการให้พวกมันรู้ว่า แม้ว่าท่านปู่ใหญ่ของพวกเราจะไม่อยู่ พวกเราก็สามารถเสนอหายนะให้กับพวกมันได้ “

หยางจั่วก็จ้องมองอย่างตกใจ

หยางมู่ หยางซู่ และ คนอื่น ๆก็รู้สึกถูกกระตุ้น ทุกคนกำมือของตนเอง และรู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่พวกเขาไม่ได้รู้สึกมาพักใหญ่แล้ว

” ผู้ชายคนนี้ช่างเป็นยอดคนจริงๆ . . . . . . . ” หลี่เฟิง ตาเป็นประกายมองฉื่อหยาน นางหัวเราะ นางรู้สึกว่าฉื่อหยานมีเสน่ห์ยิ่งนักจากก้นบึ้งหัวใจ

ผู้ชายในยามที่พวกเขาได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา ตามธรรมชาติแล้วเสน่ห์ของพวกเขาจะปรากฏออกมา หลี่เฟิงได้อาศัยอยู่ในตระกูลหยางเป็นเวลานาน นางมักจะคอยสนับสนุนคนในตระกูลหยางและการทำงานอย่างหนัก

ประสิทธิภาพของฉื่อหยานในวันนี้ได้ประทับลึกไปในจิตใจของนาง ทำให้นางตระหนักได้ถึงเสน่ห์ของฉื่อหยาน

” เฟิงเอ๋อ หัวใจของเจ้าเปี่ยมไปด้วยความรักแล้วสินะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” หยางซู่ ก็หัวเราะ และพูดเบา ๆ “หยานเอ๋อนั้นเป็นของตระกูลหยาง ถ้าเจ้าสนใจเขา ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถช่วยเจ้าได้ หึหึ ด้วยเสน่ห์ของเขา เขาสามารถสะกดจิต สาวๆในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดในอนาคตได้ทุกคน เจ้าต้องพยายามอย่างหนักแล้วหละ อย่าได้ให้คนนอกยั่วเขาได้เด็ดขาด ” .

” ไร้สาระ ” หลี่เฟิงก็หน้าแดง นางมองไปที่สหายของนางและพูดเบาๆ ” ถ้าเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระ ข้าจะไม่เมตตากับเจ้าแล้วนะ”

หยางซู่ก็ยิ้ม นางไม่เกรงกลัวคำขู่ของหลี่เฟิงและหยอกล้อนางต่อ

หน้าฉื่อหยานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาแค่ยิ้ม และทำเป็นไม่ได้ยินการสนทนาของหญิงสาวทั้งสอง เขามองและแอบปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขาสังเกตรอบ ๆ

” ไม่เพียง แต่เปาเหวินที่มาในวันนี้ ” ฉื่อหยานหันไปมองหยางจั่วกล่าวว่า ” ดูเหมือนว่า ข้าไม่ต้องไปที่อิื่นแล้วินะ สำหรับตระกูลหยางการหากปกครองเมืองใต้บาดาล เราต้องดูว่าคนเหล่านั้นมีความกล้าหาญและพลังเช่นไร .”

หยางจั่วดวงตาสว่างขึ้น เขากล่าวอย่างพอใจ ” เจ้าหมายถึงอะไร ?

” ข้าคิดว่า หลานชนเผ่าทะเลได้ใช้วิธีการลับบางอย่างสังเกตเรา บางที ประมุขของเผ่าแมงป่องน้ำอาจจะอยู่ในหมู่พวกเขาด้วย ” .

” ถ้าคนเหล่านี้คือศัตรู และลงมือพร้อมกัน เราก็ . . . . . . . ” หยางจั่วก็เป็นกังวล

” ข้าคิดว่าพวกเขาคงไมทำ ” ฉื่อหยานขมวดคิ้ว .

” มีโอกาศน้อยมาก “

” แต่หากว่าโอกาศนั้ยเกิดขึ้น อย่างมองเราก็แค่ไปจากเมืองใต้บาดาล”

” เจ้ากล้าฆ่าผู้หญิงของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า !” เห็นจิ่วหลันวิฯตาย เปาเหวินก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ

” นางก็แค่โสเภณี. แล้วข้าก็ฆ่านางไปแล้ ดังนั้น เจ้าจะทำอะไรได้ ? “ฉื่อหยานก็เลิกคุยกับหยางจั่วเขายิ้มและยกมือเรียกราชาแมลงอสูร” กลับมานี่ “

ราชาแมลงอสูรกลายเป็นแสงสีเงินพุ่งห่างออกจากเปาเหวิน แล้วปรากฏอยู่บนอาคารตระกูลหยาง .

ในเวลาเดียวกัน ฉื่อหยาน ก็ไม่ได้ทำอะไร เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ในขณะที่ตาของเขาเริ่มกลายเป็นสีแดง มองชนเผ่าทะเลและนักรบมนุษย์ที่อยู่ด้านล่าง สายของสายตาเปลี่ยนเปาเหวิน ” แม้ว่าข้าจะไม่ใช้ราชาแมลงอสูร และสู้กับเจ้าด้วยตัวเอง เจ้าคิดว่าจะทำอะไรข้าได้งั้นรึ ?

คำพูดของเขานั้นหยิ่งพยองเป็นอย่างมาก

ชนเผ่าทะเลและนักรบมนุษย์ทั้งหมดก็กลายเป็นงุนงง ใบหน้าของพวกเขาเต็มด้วยความสงสัยและคิดว่า เจ้าเด็กนี่จู่ๆก็เป็นบ้าอะไรขึ้นมา

เค้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วงั้นรึ

เขาอยู่เพียงนภาแรกระดับนภา แต่กล้าพูดอวดดีต้องการที่จะท้าทายเปาเหวิน ?

เขาบ้าไปแล้วรึ

ทุกคนก็คิดเช่นเดียวกัน

” หากไม่มีราชาแมลงอสูร เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะสกิดข้าด้วยซ้ำ ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือของข้าเอง “

เปาเหวิน ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาแทบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดด้วยความโกรธ ” เด็กน้อย มาสิ มาดูกันว่าข้าจะฆ่าเจ้าอย่างไร”

” ข้ามาแล้ว ! “

ฉื่อหยานก็พุ่งลงไปจากบนอาคารตระกูลหยางและจากนั้นก็เดินไปอยู่ต่อหน้าเปาเหวิน

” ฉื่อหยาน ห้ามประมาทเด็ดขาด ! “

คนจากตระกูลหยางทั้งหมดไม่สามารถช่วยได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความกลัว พวกเขาไม่เชื่อว่าเขาจะสู้ตัวต่อตัวกับเหวินเป่าได้โดยไร้ซึ่งราชาแมลงอสูร

นักรบระดับนภากับระดับพระเจ้าสู้กัน ?

เขาจะชนะงั้นรึ ?

เขาช่างทำอะไรเกินตัวนัก

 

” อย่าได้กังวลไป ” ฉื่อหยานหันศีรษะของเขา และยิ้มด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม “ท่านลุง ข้าจะแสดงให้ท่านเห็นว่าความสามารถในการต่อสู้ของตระกูลหยางนั้นสูงส่งและแข็งแกร่งเพียงใด”

หยางจั่วมองด้วยแววตาหมองคล้ำ

หยางมู่ และคนอื่น ๆก็งุนงง

” หึ ” เปาเหวินสแยะยิ้มและตะโกน , ” ถ้าเจ้าสามารถใช้พลังของเจ้าในระดับนภาโจมตีข้าได้แม้แต่ทีเดียว ผมจะละเว้นความเกลียดชังที่เจ้าได้ฆ่าผู้หญิงของข้าไป นอกจากนี้ ข้าจะยังยอมรับอำนาจของตระกูลหยาง ในเมืองใต้บาดาลในเมือง ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ข้ามั่นใจเลยว่าชนเผ่าทะเลทั้งหมดจะต้องทำตามข้า “

” เจ้าพูดจริงรึ ? “

” ใช่ ” .

” เช่นนั้นก็ตกลง “

_________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1374 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset