บทที่ 455 สุนัขยอดกตัญญู
เขาสามารถสร้างแหวนรวมวิญญาณได้สำเร็จ ฉื่อหยานในที่สุดเขาก็ได้รับประสบการณ์การหลอมครั้งแรก เขาเอาวัสดุบางอย่างสำหรับกระบวนการกลั่นจากนั้นเขาก็ออกมาจากห้องหิน
มันเป็นเรื่องยากสำหรับตระกูลหยางที่จะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
หยางจั่วและคนอื่น ๆ เห็นเขาเดินออกมาพวกเขาก็เดินมาหา และไม่สามารถช่วยได้ พี่จะถามสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2 เดือนขณะที่เค้าอยู่ในห้องหิน เขาตอบไปว่าเขาได้พักอยู่ที่นั่นและกำลังทำความเข้าใจเกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะของเขา แต่เขาไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับการกลั่น
นี่ก็ผ่านมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว นักรบในเมืองที่เคยมีพฤติกรรมแย่ๆก่อนหน้านี้นั้นตอนนี้ภายในเมืองใต้บาดาลพวกเขาก็ไม่กล้าประพฤติตัวเช่นนั้นอีก และไม่กล้าริเริ่มทำตัวยโสโอหัง . นักรบจากกลุ่มของหมิงไห่นั้นถูกสังหารไปมากมาย นักรบในเมืองใต้บาดาลจึงตระหนักว่าถึงแม้ว่าจักรพรรดิหยางเทียนถูกขังไว้ ตระกูลหยางก็ยังไม่ได้ไร้ซึ่งอำนาจที่พวกเขาจะทำตามต้องการได้ ตอนนี้หากพวกเขาลงมือทำอะไร ภายใต้ความโหดเหี้ยมของฉื่อหยาน พวกเขาจะต้องรู้สึกทรมานราวกับตายทั้งเป็นแน่นอน คนเหล่านี้จึงไม่กล้าที่จะทำตัวมีปัญหาอีก พวกเขากลับมามีมารยาทและเคารพตระกูลอย่างเช่นเดิม
ส่วนเผ่ามังกรสมุทรดำนั้นไม่ได้ส่งข้อความใดๆมาเลย พวกเขาเป็นเผ่าที่มีความสามัคคีกันเป็นอย่างมาก นี่จึงทำให้พวกเขาเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดใต้ทะเล พวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตระกูลหยางในเมืองใต้บาดาลเลย ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีผลอะไรต่อพวกเขาเลยสักนิด
สามผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเผ่าฉลามเงิน เผ่าเงือก และเผาแมงป่องน้ำ ได้แสดงทัศนคติที่สงบต่อตระกูลหยาง ดังนั้น , แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับปฏิกิริยาที่ดีจากเผ่ามังกรสมุทรดำ พวกเขาก็ยังรู้สึกดี
” ท่านลุงมีอะไรเกิดขึ้นในเมืองใต้บาดาลหรือไม่? ”
ในห้องโถงใหญ่ของตระกูลหยาง ฉื่อหยานขมวดคิ้ว ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสองเดือน .” คนที่ท่านได้ส่งไปตระกูลเซี่ยที่พื้นที่ทะเลสวรรค์นั้นให้คำตอบเราเช่นใด ? “
” ตระกูลเซี่ยได้ตอบกลับมาว่า พวกเราสามารถออกจากเมืองใต้บาดาลและไปอยู่ที่พื้นที่ทะเลสวรรค์ได้ ” หยางจั่วยิ้ม ” เซี่ยซิงฮั้วได้เก็บมิตรภาพเก่าของเราในใจ เขาบอกว่า ถ้าตระกูลหยางย้ายไปยังเพดานของพื้นที่ทะเลสวรรค์ เขาจะให้เราสามเกาะเพื่อให้เราสามารถอยู่ และ ฝึกฝน มี .
” ดูเหมือนว่า เซี่ยซิงฮั้ว จะเป็นคนดีพอสมควรสินะ ” ฉื่อหยานพยักหน้า ” แล้วท่านตอบเขาว่าเช่นไร ? “
” ถ้าเจ้าไม่ได้มาที่เมืองใต้บาดาลแห่งนี้ บางทีเราอาจจะต้องไปจากที่นี่ และไปอยู่ที่พื้นที่ทะเลสวรรค์ตามที่ เซี่ยซิงฮั้วบอกเรา . ” ใบหน้าของหยางจั่ว ก็เครียด ” อย่างไรก็ตาม ถ้าเราต้องการที่จะย้ายไปยังพื้นที่ทะเลสวรรค์ ข้าไม่แน่ใจว่าตระกูลอื่นในทะเลไม่มีสิ้นสุดจะติดตามเราไปหรือไม่ และนั่นจะทำให้เรายากลำบากเป็นอย่างมาก เรานั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์และพระราชวังจิตวิญญาณต่อสู้ แต่ถ้าเรายังอยู่ที่เมืองใต้บาดาล พวกเขาก็ไม่อาจวุ่นวายกับเราได้ , และพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับเราได้ แต่ถ้าเราเข้าไปยังดินแดนของพวกเขา ไม่อาจรู้ได้เลยว่าพวกเขาจะทำเช่นไรกับเรา ข้าตอบเขาไปว่า เราได้แก้ไขปัญหาที่เมืองใต้บาดาลแล้ว ดังนั้น เราไม่มีความตั้งใจจะขึ้นไปบนทะเลอีก “
” นั่นก็ดี ” ฉื่อหยานรำพึงสักครู่ จึงพูดขึ้นอีก ” ท่านลุง ถ้าอยากไปยังถ้ำมังกรสมุดดำ ค่าไม่สามารถผ่อนคลายจิตใจของถ้าได้ถ้าได้ตราบใดที่นู่หลาง เอาแต่เงียบ เมื่อเราสามารถจัดการเหยี่ยวกับพวกมังกรสมุทรดำและทำให้นู่หลางเห็นด้วยกับการที่ให้เราปกครองเทืองใข้ยาดาลเราก็สามรถอยู่ที่เมืองใต้บาดาลได้อย่างสบายใจ”
” นู่หลางนั้นเป็นคนหัวแข็ง การรับมือกับเขานั้นยากมาก ” หยางจั๋วสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล้กน้อย ” เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถึงแม้ว่าพวกมังกรสมุทรดำจะไม่มายุ่งกับเราตระกูลหยางแต่ ทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อเรา ไม่ใช่เป็นกันเองเท่าไหร่นัก ถ้าตระกูลหยางยังไม่ไม่อาจทำประโยชน์ให้กับชนเผ่าทะเลได้ ข้าคิดว่านู่หลางก็ยังคงไม่พอใจ เรานั้นอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ พร้อมยังมีปัญหากับตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่านู่หลางจะคิดเช่นไร”
” เพราะเราไม่รู้ว่าทัศนคติของเขาที่มีต่อเรา ข้าจึงต้องการที่จะไปเยี่ยมพวกเผ่ามังกรสมุทรดำเพื่อแก้ไขปัญหานี้ “
” เจ้าแน่ใจรึ ? ” หยางมู่ใบหน้าก็เคร่งขรึมและพูดอย่างจริงจัง ” หยานเอ๋อ เจ้ามีวิธีอะไรรึถึงได้มั่นใจว่าจะเกลี่ยกล่อมนู่หลางได้ ” หยางจั่ว หยางซู่ และ คนอื่น ก็ยังสงสัย
ในช่วงสองเดือน ฉื่อหยานอยู่ในห้องหินตลอดเวลา กลุ่มของหยางมู่เห็นดังนั้นก็เลยถามออกไป พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมฉื่อหยานถึงได้มั่นใจมากนัก
พวกเขากังวลว่าถ้าฉื่อหยานไปยังเผ่ามังกรสมุทรดำและมีข้อพิพาทกับพวกเขา มันจะสร้างปัญหาหใ้กับตระกูลหยาง
ถึงแม้ว่า ฉื่อหยาน จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาแข็งแกร่งแต่การที่จะรับมือกับนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้าได้เพียงใช้เวลาแค่สองเดือนนั้นเป็นไปได้ยากเป็นอย่างมาก เหล่าสมาชิกตระกุลหยางก็เป็นกังวล ไม่ว่ายังไง นู่หลางก็เป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในชนเผ่าทะเล ด้วยระดับการบ่มเพาะนภาที่สามระดับพระเจ้า ถ้าเขาอยู่ในทะไม่มีสิ้นสุด ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขา ทุกคนจะต้องหวาดกลัวเขาอย่างแน่นอน
ฉาวเชี่ยวเต้าและหยางอี้เทียนนั้นมีวิชาที่แข็งแกร่งเพราะความบังเอิญ ระดับการบ่มเพาะของเขานั้นไม่สูงเท่ากับนู่หลสง นี้คือเหตุผลว่าทำไมนักรบจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุดถึงไม่กล้ายุ่งกับชนเผ่าทะเล ด้วยระดับการบ่มเพาะนภาที่สามระดับพระเจ้าของนู่หลางเขาได้จัดการกับนักรบของมนุษย์มากมายที่ต้องการบุกรุกเผ่าทะเลของเขา
โดยไม่มีนู่หลาง ฉาวเชี่ยวเต้า และ หยางอี้เทียน คนอื่นจะต้องบุกรุกมายังใต้ทะเลแน่นอน
นู่หลาง ไม่ใช่คนที่เป็นมิตรเท่าใดนัก ด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีและบุคลิกภาพที่โหดร้าย ตลอดปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยแสดงความเมตตาแก่มนุษย์ที่กล้าผยองในก้นทะเล
เมื่อมีคนที่ทำให้ศักดิ์ศรีของชนเผ่าทะเลสูญเสีย นู่หลางจะลงมืออย่างโหดเหี้ยสเพื่อสั่งสอนให้นักรยมนุษย์รู้จักความโหดร้ายของชนเผ่าใต้ทะเล
” หยานเอ๋อ ถ้าเจ้าต้องการไปเจอกับนู่หลาง เจ้าต้องแน่ใจว่าเจ้าพร้อม ” หยางจั๋วไตร่ตรอง แล้วพูดเสียงขรึม ” ถ้าเจ้าไม่มั่นใจเต็มสิบส่วน ข้าอยากจะให้เจ้ารอก่อน รอจนกว่าท่านปู่ใหญ่ของเจ้าจะกลับมาจากดินแดนอสูร มันจะดีกว่าถ้าเจ้าจะไปหานู่หลางตอนนั้น “
” เราไม่อาจรอได้ ” ฉื่อหยานยิ้ม” ข้ามั่นใจ เพราะข้ามีสิ่งที่นู่หลางต้องการมากที่สุด “
กลุ่มของหยางจั่วก็แปลกใจ
” เปลวไฟนภา “
ฉื่อหยานก็พูดขึ่น และเปลวเพลิงก็ออกมาจากฝ่ามือของเขาพร้อมกับเปลวไฟที่ร้อนระอุ เพียงพริบตาเดียว หยางจั่วและคนอื่น ๆเหงื่อในร่างกายของพวกเขาก็ไหลออกมา
สายตาของกลุ่มหยางจั่วก็ส่องประกาย
” เปลวไฟนภา !” หยางจั่วก็อึ้ง เขาสั่นสะท้าน .” ที่ข้าได้ยิน ไม่ใช่ว่าเจ้ามีเพียงเปลวเหมันเยือกแข็งหลอกรึ ? เปลวไฟนั้นคืออะไรกัร หยานเอ๋อ นั้นเป็นเปลวไฟนภาจริงรึ ? ” เขารู้เกี่ยวกับเปลวเหมันเยือกแข็งในตัวฉื่อหยาน อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งเปลวเหมันเยือกแข็งมีธาตุเป็นหยินเย็น เจ้าสมบัติที่ไม่เหมาะสมสำหลอมสมบัติ เขานั้นรู้ว่านู่หลางกำลังหมดหวังเรื่องของเปลวไฟ แต่เขาก็คิดว่าเรื่องนี้เปลวเหมันเยือกแข็งของฉื่อหยานคงไม่สามารถช่วยอะไรได้
หยางจั่ว เมื่อเห็นเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูงกว่าเปลวไฟปฐพีที่ฉื่อหยานเพิ่งปล่อยออกมา ดวงตาของเขาก็สดใสขึ้นทันที ตอนนี้ เขารู้ว่านอกจากเปลวเหมันเยือกแข็ง ฉื่อหยานยังมีเปลวไฟที่น่าอัศจรร์อีกหนึ่งดวงที่เหมาะแก่การหอม
” หยานเอ๋อ . . . . . . .เจ้ามีมันได้อย่างไร ”หยางมู่ใบหน้าก็กลายเป็นตื่นเต้นเขากล่าวอย่างสนุก” ทำไมเจ้ามักจะได้สิ่งที่ทุกคนต่างก็ปรารถนาเสมอเลย? ตำนานเกี่ยวกับเปลวไฟนภาได้ถูกกระจายออกไปในทะเลไม่มีสิ้นสุดเป็นเวลาหลายยปีแล้ว แต่เราไม่ค่อยได้พบเห็นมันนัก แต่แล้วทำไมเจ้าถึงได้มีรูปแบบชีวิตแปลกประหลาดพวกนี้กัน ? “
” ข้าคงโชคดีหนะ ” ฉื่อหยานยิ้ม
หยางซู่ หลี่เฟิงก็ตกตะลึงและแสงก็ส่องประกายออกมาจากดวงตาสวยของพวกนาง พวกนางมองไปที่ฉื่อหยานด้วยความยินดีและตื่นเต้น
” นี่ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ! “
หยางจั่วหัวเราะ ตบบนไหล่ของเขา แล้วกล่าวอย่างมีความสุข ” ด้วยเปลวไฟนภานี่ ไม่ว่าอย่างไร เจ้าคนหัวรั้นนู่หลาง จะต้องพิจรารณาเจ้าอย่างดีแน่ๆ ฮ่าฮ่า . . . . . . . ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าไม่เกรงกลัวสิ่งใด ปรากฏว่า นอกจากเปลวเหมันเยือกแข็งแล้ว เจ้ายังมีเปลวไฟอีกชนิด”
” พวกท่านหายกังวลแล้วใช่หรือไม่ ” ฉื่อหยานยิ้ม
ทุกคนพยักหน้าด้วยสีหน้าสดใส
” พวกมังกรสมุทรดำอยู่ที่ใดรึ ? “
” มา หลี่เฟิงเคยไปที่นั้นอยู่ครั้งหนึ่ง นางรู้จักที่อยู่ของเผ่ามังกรสมุทรไม่มีสิ้นสุด นางสามารถนำทางเจ้าได้ ” หยางจั๋วก็หลี่ตาลง และให้คำแนะนำเขา
ร่องรอยประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาที่งดงามของหลี่เฟิง ใบหน้าที่สง่างามของนางก็ส่องประกายออกมา นางตอบตกลงด้วยความสุข” ข้าเคยไปที่เผามังกรสมุทรดำมาก่อน ถ้าเจ้าต้องการไปที่นั่น ข้าสามารถนำทางให้เจ้าได้ ฮ่าฮ่า . . . . . . . ข้าอยากตะรู้นัก จากทัศนคติที่พวกมังกรสมุทรดำมีต่อเรา ถ้าพวกเขารู้ว่าเจ้ามีสิ่งที่นู่หลาง ต้องการ พวกเขาจะแสดงออกเช่นไร”
” ดีเลย “
” แล้วเจ้าจะไปคอนไหนรึ ?” หยางจั่วยิ้ม
” อืม ข้าก็ว่างอยู่แล้ว งั้นเราก็ไปกันเลย ตอนนี้ ข้าคิดว่ามันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเมืองใต้บาดาลแล้ว ท่านคิดเช่นไร ? “
” ไม่มีปัญหา “
หยางจั่วพยักหน้า ขยับสายของเขา ไปมองหลี่เฟิง แล้วพูดอีกครั้งด้วยสีหน้าแปลก ๆ ” เฟิงเอ๋อ ข้าฝากฉื่อหยานด้วย เจ้าอย่าได้รังแกเขาหละ “
” ข้ารึจะกล้า ?” หลี่เฟิงหัวเราะคิกคัก ใบหน้าของนางส่องประกาย นางรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก” มันจะดีที่สุดถ้าเขาไม่รังแกข้า เขานั้นอันตรายกว่าข้านัก ต่อให้ข้าต้องการจะแกล้งเขา ข้าก็ไม่ สามารถทำได้ “
” ก็ดี เช่นนั้น เจ้าก็ทำตัวดีๆหละ ” หยางจั๋วโก่งคิ้ว เขาหัวเราะ
“เราควรจะไปได้แล้ว ” ฉื่อหยาน ไม่รีรอ เขาคำนับหยางจั่วและจากไปพร้อมกัยหลี่เฟิง หลังจากที่พวกเขาแยก คนจากตระกูลหยาง พวกเขาก็ไม่ได้ออกจากเมืองทันที แต่พวกเขาเดินทางไปโรงเตี้ยมในเมืองใต้บาดาลด้วยกัน
” เจ้าหนุ่ม เจ้ามาดื่มอีกแล้วรึ ? คราวที่แล้วเจ้าบอกว่าเจ้าเป็นสมาชิกของตระกูลหยาง เจ้าโกหกเราไช่หรือไม่ ?” เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อก็จำเขาได้และ ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม” ข้าได้ยินว่าเหรอว่าพวกตระกูลหยาง มียอดสุนับกตัญญูที่สามารถฆ่าหมิงไห่ หยานเฟิงและอีกสองคนได้ หากเจ้าเป็นหนึ่งในคนตระกูลหยางจริงเจ้าก็ต้องรู้สิ เจ้ารู้จักเขาหรือไม่ หือ ? ฮ่าๆ ถ้าเขามาที่ร้านของเรา เราจะให้เขาดื่มสุราฟรีๆเลย”
” อะไรนะ ? ” ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ ยิ้ม ” ท่านจะให้เขาดื่มสุราฟรีั้นรึ ?
” เมืองใต้บาดาลกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งแล้ว ” เสี่ยวเอ้อก็หัวเราะ ” ถ้าหมิงไห่ และคนของเขาไม่จกจายไป เราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าในอนาคตเมืองใต้บาดาลจะเป็นเช่นไร โชคดีของเราที่พวกเขาตาย เราสามารถอยู่กันได้อย่างสงบสุขแล้ว ใช่ มันเป็นการดีที่สุดถ้าตระกูลหยางได้ปกครองเมืองใต้บาดาลอีกครั้ง หมิงไห่ เจ้าบ้านี่เพียงแค่แสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น พวกมันไม่รู้วิธีการปกครองเมืองด้วยซ้ำ “
” เอาสุราให้ข้าสิบไห ”
” เชิญตามสบาย ” เสี่ยวเอ้อก็พูดกับเขาอย่างร่าเริง .
” ฉื่อหยาน เจ้าพึ่งดื่มสุราร้านนี้ไปเมื่อไม่นานนี้รึ “? หลี่เฟิงหัวเราะขณะที่นางส่องสายตามองไปรอบๆร้านสุรา
” ใช่ ” .
หลังจากที่เสี่ยวเอ้อนำสุรามาให้สิบไหแล้ว ฉื่อหยานก็เก็บมันใส่แหวนกระเป๋าของเขา แต่เขาก็ไม่ได้จ่ายเงิน เขากลับยิ้มและกล่าวว่า “ครั้งนี้ข้าไม่จ่าย แต่หลังจากนี้ พวกท่านไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมภาษีของเมืองใต้บาดาลอีก ถ้ามีใครมาเก็บค่าธรรมเนียม บอกพวกเขาว่า ข้าเป็นคนบอกให้พวกท่านไม่ต้องจ่าย ” .
” อ๊ะ ! “
เจ้าของร้าน และเสี่ยวเอ๋อก็ไม่มั่นใจ
ฉื่อหยานโบกมือและกลายเป็นแสงลอยออกไปนอกเมืองใต้บาดาล ” ข้าสุนัขยอดกตัญญูเป็นคนพูดเอง !”
เจ้าของร้าน และเสี่ยวเอ้อก็สั่นสะท้านดวงตาของพวกเขาก็ส่องประกาย
_________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1378 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <