เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 470 ออกมาแล้ว

บทที่ 470 ออกมาแล้ว !

 

ด้านนอกสุสานมังกร นักรบระดับพระเจ้าหกครั้ง รวมทั้งเสินตู่เจีย ชิงหมิง และฉาวจื่อหลาน พานโจว ,ก้างหลันและจงหลี่ต้วน , กำลังบางอย่างอยู๋เงียบๆ

หยินหุ้ยยืนอยู่ห่างจากพวกเขาสิบคน เขายืนมองอย่างเย็นชา และไม่แสดงร่องรอยของความกลัว

สถานที่นี้คือใต้ทะเล , ดินแดนของเผ่าฉลามเงิน และ หยินหุ้ยก็มีระดับการบ่มเพาะที่นภาที่สองระดับพระเจ้าซึ่งสูงกว่าพวกเขา ถ้าเขาต้องการจะหนี แม้แต่กลุ่มของเสิ่นตู่เจี่ยทั้งหกคนก็ไม่สามารถหยุดเขาได้

เนื่องจากระดับการบ่มเพาะของเขาสูงกว่า หยิหุ้นจึงผ่อนคลายและ เฝ้ามองกลุ่มนักรบ

” เด็กนั่นเข้าไปในสุสานมังกร บางที เราอาจจะไม่ต้อง . . . . . . . ” เสินตู่เจีย มองอย่างเย็นชาไปทางสุสาน . หลายปีที่ผ่านมา นักรบชนเผ่าทะเลมากมายได้บุกเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้ แต่ไม่มีใครมีชีวิตรอดออกมาเลย ถึงแม้เด็กนั่นจะโชคดีเป็นอย่างมาก ข้าไม่คิดว่าเขาไม่สามารถรอดออกมาได้

จงหลี่ต้วนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ในฐานะที่เป็นคนจากพื้นที่ทะเลสวรรค์ สองคนนี้เคยได้ยินเรื่องที่น่ากลัวของสุสานมามังกรยอดโบราณลึกลับมาบ้าง พวกเขารู้ข่าวลือเกี่ยวกับ พื้นที่แห่งนี้ดี พวกเขาคิดว่าฉื่อหยานคงไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้แน่นอน

” ถ้าเป็นคนอื่น เราก็คงไม่กังวล ” ฉาวจื่อหลาน ขมวดคิ้วเข้าหากัน พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ” แต่ นี่คือแฉื่อหยาน ข้ารู้จักเขามาหลายปี และเขาได้ทำให้ผู้คนแปลกประหลาดใจมามากมาย เขามีบางสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ถ้าไม่เช่นนั้น เขาคงไม่ก้าวหน้าเร็วเช่นนี้ ข้าคิดว่าเขาสามารถรับมือกับมันได้ “

” ข้าเองก็คิดว่าเขาจะต้องมีชีวิตกลับมาแน่ . ” พานโจวยิ้มอย่างขมขื่น ” ไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้ารู้สึกเสมอว่าฉื่อหยาน แตกต่างจากคนอื่น ๆ สิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ฉื่อหยานมักจะทำเสมอ . “

” เจ้าสองคนเป็นนักรบรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลไม่มีสิ้นสุด พวกเจ้ากลัวฉื่อหยานมากขนาดนั้นเลยรึ ? ข้าคิดว่าพวกเจ้าสองคนตาบอดแล้วที่ชื่นชมเจ้านั่น ! “จงหลี่ต้วนก็สูดหายใจเข้าและพูดด้วยสีหน้าบึ้งตรึง ” . ถ้าเข้าแข็งแกร่งจริง เขาก็คงจะยิ่งใหญ่กว่าสารประมุขของชนเผ่าทะเลสิ ? จริงๆข้าไม่ได้รู้ว่าเขามีพลังพิเศษอะไรที่เขาจะรอดและกลับมาจากสุสานนี่ได้”

” ถ้าเขาไม่มั่นใจ เขาจะไม่เข้าไปที่นั่นแน่นอน . ” ฉาวจื่อหลานมองเขาอย่างรวดเร็วและพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่แข็งก้าว” ยกโทษให้ข้าด้วยหากข้าพูดอะไรไม่ถูกใจ แต่ฉื่อหยานนั้นมีวิชาที่อันตรายจนเจ้าคิดไม่ถึงเชียวหละ เจ้าเป็นนักรบที่อยู่ลำดับต้นๆของรายชื่อนักรบที่แข็งแกร่ง และเป็นนักรบหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดของทะเลไม่มีที่สิ้นสุด แต่ตัวตนของฉื่อหยานทำให้เจ้าเสียชื่อเสียง ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ เขาก็แข็งแกร่งกว่าเจ้า ” จงหลี่ต้วนสีหน้าก็มืดมน . แสงประกายในดวงตาของเขาที่เขาไม่ยอมรับคำพูดว่านาง

” ข้ายอมรับว่าข้าดูถูกเจ้า ” ฉาวจื่อหลาน ” ยังคงเสียก็คงไม่แตกต่างกัน ข้าเองก็ไม่ได้อยากดูถูกเจ้า แต่ข้าขอบอกตรงๆเลยว่าเจ้า จงหลี่ต้วน นั้นนับได้ว่าอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับฉื่อหยาน ! จงหลี่ต้วน ถ้าเจ้ามีความสามารถจริง ทำไมเจ้าต้องให้ผู้อาวุโสมาสู้กับฉื่อหยานด้วย ? ข้าคิดว่า ถ้าฉื่อหยานต้องการฆ่าเจ้า เพียงแค่วินาทีเดียวเจ้าก็ตายแล้ว “

จงหลี่ต้วนดวงตาก็เย็นชา ใบหน้าของเขาเริ่มดุร้ายและเป็นอันตรายมากขึ้น

” เอาล่ะ ” เสินตู่เจีย ขมวดคิ้ว” ฉื่อหยานนั้นนับได้ว่าอันตรายจริงๆ ไม่อย่างนั้น เราคงไม่ต้องรวบรวมคนมามากมายเพื่อจับเขาแน่ ยังไงก็ตาม อย่าได้ท้อใจไป . ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด ครั้งนี้เขาจะต้องตายแน่นอน หลายปีมาแล้วที่ทะเลกว้างใหญ่ไม่มีดวงดาวที่โดดเด่น แต่หลายคนที่ปรากฏตัวก็มักจะถูกกำจัดก่อนที่จะได้เติบโต ฉื่อหยานเองก็จะเป็นไปตามนั้น”

” ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น ” ฉาวจื่อหลาน ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจเล็กน้อย หัวใจที่เต็มไปด้วยความเสียใจ

สิ่งที่ทำให้นางเสียใจที่สุดคือวิสัยทัศน์ที่คับแคบของนาง ถ้านางเชื่อ ฉื่อหยานและผูกมัดตระกูลฉาวเข้ากับฉื่อหยาน สถานการณ์ปัจจุบันคงจะแตกต่างจากตอนนี้

นางภูมิใจที่เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดของตระกูล . . นางมีความภาคภูมิใจ แต่ความภาคภูมิใจกลับถูกฉีกขาดออกจากกัน หลังจากที่นางได้รู้จักฉื่อหยาน

การมีตัวตรของฉื่อหยานได้เตือนให้นางว่ารู้ว่ายังมีใครอีกหลานคนที่แข็งแกร่งกว่านางในด้านอื่นๆ นั่นทำนางไม่พอใจ และบางทีนางก็ไม่อยากจะยอมรับมัน ดังนั้น หลังจากนางได้รู้จักเกี่ยวกับชนเผ่าอื่น และความเสื่อมโทรมของตระกูลหยาง นางก็ตัดสินใจที่จะทิ้งฉื่อหยานและหันหลังให้กับตระกูลหยาง

มันกลับกลายเป็นว่านางตัดสินใจผิด

คนเหล่านี้ยังคงรอซุ่มโจมตีอยู่ด้านนอก สุสานมังกร

5 วันผ่านไป ไวเหมือนโกหก

พลังที่วุ่นวายภายในสุสานก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ พลังที่นักรบระดับพระเจ้าต่างก็หวาดกลัวเปลี่ยนไปจนทำให้พวกเขาตกใจ

โดยเฉพาะหยินหุ้ย

 

เขาได้เห็นกับตาว่า สองวันหลังจากที่ฉื่อหยานได้เข้าไปยังสถานที่แห่งนี้ , พลังแปลกประหลาดที่ชั่วร้ายอยู่มานับร้อยปีภายในสุสานได้เปลี่ยนไป เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ พวกมันทั้งหมดก็หายไป

ปรากฏการณ์นี้ไม่เคยเกิดมาก่อน

เขาได้อาศัยอยู่ที่นี่มาเวลาหลายปีที่ใต้ทะเล แต่เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับปรากฏการณ์ประหลาดนี้จากสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับนี่เลย เห็นได้ชัดว่า มันต้องเกี่ยวข้องกับฉื่อหยานแน่นอน

อย่างช้าๆดวงตาของเขาค่อยๆส่องประกาย

ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ตอนนี้ เมื่อมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นภายในสุสาน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับพันปี บางที ฉื่อหยานอาจจะมีชีวิตรอดกลับมาจริงๆก็เป็นได้

อีกวันก็ผ่านพ้นไป

กระแสอากาศมืดมนที่ลอยอบอวลอยู่ในน้ำอย่างรวดเร็วก็กลายเป็นแหว่งและจางลง พลังแปลกประหลาดลอยออกมาจากรอยแหว่งนั้น

เพียงพริบตาเดียว รอยแหว่งหลายพันจุดก็ปรากฏ แล้วอากาศที่มืดมนก็ค่อยๆรวมตัวกันกลายเป็นก้อนยักษ์บวมเป่ง อย่างไรก็ตาม มันก็หายไปในอากาศ ราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิตบางอย่างกลืนกินมันเข้าไป

สักพักต่อมา เงาก็โผล่ออกมาจากสุสาน ค่อยๆ ลอยมายังทิศทางนี้ ด้านหลังเขามีหุ่นสีดำสูงสามเมตรเดินตามมา

หุ่นยักษ์ที่หนีกอึ้งเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคลว จนเกิดเป็นภาพหลอนติดตา

หนึ่งคน และหนึ่ง หุ่นเหล็กสีดำลอบตรงมายังเหล่าคนที่อยู่หน้าสุสาน

หยินหุ้ย ดวงตาก็เปล่งประกาย

นักรบระดับวิญญานหกคนก็สวมใบหน้าเย็ฯชา ดวงตาของพวกเขาส่องประกายออกมา เมื่อมองไปที่ฉื่อหยาน

” เขากลับมาแล้ว . . . . . . . ” หยินหุ้ยพึมพำด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน . เขาอึ้งสักพักก่อนที่จะขยับไปมองกลุ่มของเสิ่นตู่เจียทั้งหกคน เขาทำหน้ามุ่ยพิจารณาวิธีการจัดการกับการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะออกมาจากสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับได้ ” ใบหน้าของจงหลี่ต้วนก็มืดมน . ดวงตาของเขาคมเหมือนกับดาบขณะที่กำลังยิ้มเยาะขึ้นมา ” แต่สุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี “

ชายหนุ่มเดินไป ไม่คิดที่จะหลบเลี่ยงใคร เขาเดินมาที่ด้านหน้าของพวกเขาและจากนั้นขดริมฝีปากของเขา” นี่ช่างเป็นรูปแบบที่ยิ่งใหญ่นัก”

” อืม เพียงไม่ถึงสิบวันเจ้าก็ออกมาจากสุสานมังกรยอดโบราณได้แล้วรึ ? ” หยินหุ้ยฝืนยิ้ม ” ข้ายอมรับเลยว่าข้าดูถูกเจ่าเกินไป แต่ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะทำในสิ่งที่เราชนเผ่าทะเลทำไม่ได้ ฉื่อหยาน ข้าเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าเจ้านั้นมีศักดยภาพไม่มีสิ้นสุดจริงๆ “

ฉื่อหยานยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร

” ใช่ แล้วข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะอยู่อย่างมั่นคงได้ภายใต้แรงกดดันของนักรบระดับพระเจ้าทั้งหกเช่นนี้ ” หน้าหยินหุ้ยเป็นเคร่งขรึม ทันใดนั้น ลำแสงสีขาวก้พุ่งยิงออกมาจากดวงตาของเขา เชื่อต่อไปยังวิญญานของฉื่อหยาน , ข้อความก็ถูกส่งไปยังฉื่อหยาน ” ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เจ้าเพียงต้องพยักหน้ารับ และข้าจะพาเจ้าออกจากการล้อมของพวกเขาทั้งหก “

ระดับการบ่มเพาะของหยินหุ้ยนั้นสูงกว่ากลุ่มของเสิ่นตู่เจี้ย ข้อความนี้ถูกส่งโดยวิญญาณของเขา ติดต่อกับวิญญานฉื่อหยานโดยตรง ทำให้คนอื่นๆไม่ได้ยิน

ภายใต้ดวงตาที่ส่องประกายของหยินหุ้ย ฉื่อหยาก็ยิ้มแล้วส่ายหัว แสดงว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือ . . . หยินหุ้ยก็แปลกใจทั้งสงสัย เขาไม่รู้ว่าทำไมฉื่อหยานถึงมีความมั่นใจและปฏิเสธเขาเช่นนั้น

เด็กคนนี้มีวิธีการหลบหนีแล้วงั้นรึ ?

หยินหุ้ยคิดต่างๆมากมาย เขาอยู่ข้างๆเพื่อสังเกตสิ่งมหัศจรรย์ที่ฉื่อหยานจะทำ เขาไม่กล้าคิดว่า ฉื่อหยาน จะสามารถฆ่านักรบระดับพระเจ้าทั้งหกคนได้

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงนภาแรกระดับพระเจ้า แต่ ถ้าหกของพวกเขาเข้าร่วมมือ แม้แต่หยินหุ้ยก็ยากที่จะเอาชนะ

” เสินตู่เจีย , จั่วเยว่เฟิง กู่ฉาว ชิงหมิง ราชินีนภา และกษัตริย์ปฐพี . . . . . . . ” ฉื่อหยานมองพวกเขาและตะโกนเรียกชื่อของพวกเขา เขาพยักหน้าและยิ้ม ” คนที่สมควรมา ก็มาแล้วดูเหมือนพวกเจ้าจะรีบร้อนอยากฆ่าข้ากันเสียจริง ไม่เลว . . . ไม่เลวเลย มันช่วยประหยัดเวลาของข้าดี “

” ฉื่อหยาน ” ดวงตาคู่สวยของฉาวจื่อหลาน ก็เศร้า นางพูดด้วยเสียงนุ่ม ” ถ้าเจ้ายอมแพ้อย่างเต็มใจและทำลายการบ่มเพาะของตนเอง ข้า . . . ข้าสามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ “

” แม่นางฉาว ! “

ชิงหมิง เสินตู่เจี้ย กู่ฉาวและจางหลี่ต้วนก็ตะโกนออกมา สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยน ” . สิ่งที่เดียวที่เขาจะได้รับคือความตาย ไม่มีทางที่เขาจะรอดจากความตายได้ ข้าคิดว่าเราคุยเรื่องนี้กันอย่างชัดเจนแล้วนะ “

ฉาวจื่อหลาน ขมวดคิ้ว ” . เราจะฆ่าเขาจริงๆหรือ ? ถ้าเขาไม่ได้เป็นภัยต่อเรา เราก็ควรไว้ชีวิตเขา . “

” เจ้าอย่าได้พูดอีก ! เสียงของเสินตู่เจียก็แข็งก้าว” เค้าจะต้องตาย ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ ! “

กลุ่มของชิงหมิงก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

ฉาวจื่อหลาน ถอนหายใจขมวดคิ้ว และปิดปาก

 

“ฮ่าฮ่า . . . . . . . ดูเหมือนพวกเจ้าจะมั่นใจเสียจริงว่าจะฆ่าข้าได้ เอ๋ ? “ปากฉื่อหยานก็ฉีกยิ้ม. ดูเหมือนเขาไม่ได้ร้อนรนใดๆ ” มีเพียงนักรบระดับพระเจ้าหกคน ช่างมั่นใจกันเสียจริง พวกเจ้าคิดว่าจะฆ่าข้าได้จริงๆงั้นรึ ? “

” เจ้าคงจะประหลาดใจหละสิ ?” จงหลี่ต้วนยิ้มเย้ยหยัน

” ข้าว่า . . . . . . . ก็คงเป็นเช่นนั้น ” ฉื่อหยานยิ้ม” ข้าประหลาดใจจริงๆ . . . . . . . บางที สุดท้าย คนที่จะต้องร้องขอชีวิตอาจจะเป็นพวกเจ้า หาใช่ข้าไม่ ! “

ดวงตาที่มืดมนและเย็นชาของเขาก็จ้องมองจงหลี่ต้วนราวกับเป็นดาบน้ำแข็งที่มีจิตสังหารซึมซ่านออกมา

_________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1389 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset