บทที่ 472 กลุ่มคนที่แข็งแกร่ง
มันเป้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งสามคน จงหลี่ต้วน เสินตู่เจีย และ จั่วเยว่เฟิงก็ถูกทุบตายกลายเป็นเนื้อบด
ฉื่อหยาน ไม่ได้ทำอะไรเลย เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น และมองไปที่ปีศาจสงครามที่แสดงพลังที่น่ากลัวออกมาด้วยความสนใจ , มันฆ่าสองนักรบระดับพระเจ้าและและจงหลี่ต้วนได้อย่างรวดเร็ว มันรวดเร็วมากพอที่เขาก็ยังไม่ทันได้สนองใดๆ และก่อนที่จะรู้สึกได้ จงหลี่ต้วน เสินตู่เจีย และ จั่วเยว่เฟิง ก็ถูกทุบราวกับเป็นแผ่นกระดาษบางๆแล้ว
ชิงหมิง ราชีนีนภา กู่ฉาวและกษัตริย์ปญพี รู้สึหนาวลงลงไปถึงกระดูกสันหลังของพวกเขา พวกเขาหนีไปท่ามกลางความมืดมิด พวกเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และรีบลอยขึ้นสู่ผิวน้ำทะเลด้วยความเร็วสูงสุด
ฉื่อหยาน ไม่ได้รีบ เขารอจนกระทั่งจั่วเยว่เฟิงถูกฆ่า เขายิ้มและมองไปที่พื้นผิวทะเล จากนั้นเขาก็ส่ายหัว พูดอย่างเย็นชา ” พระสงฆ์วิ่งหนีและทิ้งวัดไว้ สุดท้ายถึงแม้ตอนนั้นพวกเขาจะไม่ตาย แต่ในอนาคตความตายก็รอพวกเขาอยู่ “
หลังจากเสินตู่เจีย , จั่วเยว่เฟิงกับจงหลี่ต้วนตาย , แกนพลังปราณก็ออกมาจากร่างกายพวกเขา เป็นไปตามคาด มันลอยไปยังฉื่อหยาน
อย่างไรก็ตาม แกนพลังปราณเสินตู่เจียนั้นอยู่เหนือกว่าที่เขาคิดไว้มาก แกนพลังปราณของนักรบระดับพระเจ้าทำให้จุดชีพจรทั้งเจ็ดร้อยยี่สิบจุดปูดบวม ฉื่อหยานไม่ทันได้ดูดซับแกนแท้พลังปราณจนหมด สัญชาตญานกระหายเลือดก็ถูกกระตุ้นออกมา ก่อให้เกิดความวุ่นวาย
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ต้องการมัน มันก็แค่เขารู้ขอบเขตของเขาดี
แม้ว่าขีดจำกัดของจิตวิญญานต่อสู้ลึกลับของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากหลังจากเขาเข้าสู่ระดับนภา แต่แกนพลังปราณของนักรบระดับพระเจ้านั้นมีมากเกินไป เพียงเสินตู่เจี่ยคนเดียวก็เพียงพอจะทำให้จุดชีพจรเต็มจนบวมเป่ง ถ้าเขาดูดซับแกนพลังปราณของจั่วเยว่เฟิงและจงหลี่จ้วนมาเพิ่ม เค้าเกรงว่าจุดชีพจรของเขาจะระเบิดออก
นั่น ทำให้เขาต้องอยู่ห่าง ๆ และ รอจนกว่าแกนพลังปราณที่ลอยอยู่ในอากาศหายไปเสียก่อน ค่อยเข้าไปอยู่ในบริเวณนั้นอีกที
หยินหุ้ยก็ยืนตกตะลึงอยู่กับที่ ดวงตาของเขาจ้องมองฉื่อหยาน โดยไม่กระพริบตา และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัว
ในที่สุด เขาก็สามารถยืนยันความน่ากลัวของปีศาจสงครามได้
ด้วยการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ เขามันได้ฆ่าเสินตู่เจีย จั่วเยว่เฟิงและจงหลี่ต้วนอย่างโหดเหี้ยม พลังที่น่ากลัวของมันเทียบได้กับนู่หลสง , ที่อยู่นภาที่สามระดับพระเจ้า หยินหุ้ยเองก็ไม่กล้าตอแยหอกที่แหลมคมนี้ และเขาก็ไม่กล้สมีเจตนาที่จะยื่นจมูกของตัวเองเข้าไปในการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมนี้ จากนั้นเขาก็เริ่มที่จะพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าฉลามเงินและตระกุลหยาง
แม้ว่าพลังที่ฉื่อหยานได้ใช้ในเวลานี้จะไม่ได้มาจากร่างกายของเขา แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้หยินหุ้ยหวาดกลัว
สิ่งที่ปีศาจสงครามแสดงออกมาทำให้เขารับรู้ว่าในไม่มีสิ้นสุด มีเพียงฉาวเชี่ยวเต้าและหยางอี้เทียนเท่านั้นที่สามารถเอาตัวรอดจากปีศาจสงครามได้
นอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีของนักรบในทะเลกว้างใหญ่คนได้สามารถรอดชีวิตได้
” ฉื่อหยาน “
หยินหุ้ยลังเลเล็กน้อย เสียงของเขาแหบแห้ง เขาฝืนยิ้มแล้วพูด่า ” หุ่นเหล็กสีดำนี่ออกมาจากสุสานมังกรยอดโบราณใช่หรือไม่ ? เจ้าใช่วิธีใดกันจึงนำสิ่งที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ออกมาจากสุสานได้ ใช่ ข้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่สุสานที่เก่าแก่แห่งนี้เป็นของชนเผ่าทะเล มันเป็นเขตหวงห้าม และเจ้าก็เป็นมนุษย์ เจ้าทำได้อย่างไรกัน ?
” มันคือโชคชะตา ” ฉื่อหยานขดริมฝีปากของเขา เขายกศีรษะของเขามองดูพื้นผิวทะเลแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน .
หยินหุ้ยยืนอยู่ต่อหน้าเขา ก็ยังแปลกใจ . มีคนกำลังมา .
น้ำทะเลโดยรอบถูกก็ไหลอย่างรวดเร็ว คลื่นใต้ทะเลกำลังพล่านเหมือนมีใครบางคนกำลังท่องคลื่นมาที่นี่ ด้วยความเร็ว มันรวดเร็วมากจนน้ำทะเลต้านแรงเสียดทานไม่ไหวจนยกตัวสูงขึ้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ร่างสง่าก็ปรากฏข้างหยินหุ้ย
นู่หลาง ประมุขของเผ่ามังกรสมุทรดำ .
เขาได้ใช้พลังของนภาที่สามระดับพระเจ้ามุ่งมาที่นี่ด้วยความเร็ซสูงสุด เขาใช้เวลาเพียงหลายนาทีก็สามารถมาถึงยังสุสานแห่งนี้ได้
ใบหน้าของนู่หลางก็กลายเป็นมืดมน เขาขมวดคิ้วในขณะที่สังเกตสถานการณ์ แล้วเลื่อนสายตาไปยังปีศาจสงครามด้วยสายตาแปลกๆ
ครึ่งนาทีต่อมา นู่หลางค์ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดกับหยินหุ้ย ” นักรบระดับพระเจ้าถูกฆ่าที่นี่ใช่หรือไม่ ?” เขาจ้องมองหุ่นเหล็กสีดำ
” ถูกต้อง ” หยินหุ้ยตอบ ด้วยสีหน้าจริงจัง เขาพยักหน้า ” มันเป็นเพราะ เจ้าหุ่นเหล็กดำนั่น เขาเป็นนำออกมาจากสุสานมังกรยอดโบราณ “
ของนู่หลาง ตระหง่าน ร่างกายมันสั่นไหว เทพแสงยิงออกมาจากดวงตาของเขา ตามที่เขาจัดฉื่อหยาน
ฉื่อหยานยิ้ม ก้มลงไปทักทายเขา แล้วพูดอย่างมีมารยาท ” ,คารวะประมุขนู่หลาง ฮ่าๆ ข้าไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีกเร็วขนาดนี้ “
” สุสานมังกรยอดโบราณเป็นพื้นที่ต้องห้ามมาเนิ่นนาน หลายปีได้ผ่านพ้นไป นักรบที่แข็งแกร่งมากมายได้ตกตายที่นั่น ไม่มีใครโชคดีพอที่จะกลับมาอย่างมีชีวิตอยู่ ” นู่หลางดวงตาทั้งสองก็ส่องประกาย ” แล้สทำไมเจ้าถึงสามารถรอดจากที่นั่นและนำสิ่งนั้น สิ่งที่น่าหวาดกลัวเช่นหุ่นเหล็กสีดำนั่น ออกมาได้กัน ?”
” ข้าเพียงโชคดี ” ฉื่อหยาน สีหน้าจริงจัง ” สุสานมังกรยอดโบราณและข้ามีความสัมพันธ์กันตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ มันเป็นโชคชะตาของข้าที่จะต้องเข้าไปที่แห่งนี้และนำหุ่นเหล็กสีดำออกมา ทั้งหมดล้วนแต่เป็นโชคชะตาของข้า “
นู่หลาง ก็แปลกใจ หยินหุ้ยก็ส่ายหัวในขณะที่ฝืนยิ้ม เขาทั้งชื่นชมและอิจฉาฉื่อหยาน
นู่หลาง รำพึงสักพักแล้วถอนหายใจ ” . มันเป็นโชคชะตางั้นรึ ? สุสานมังกรยอดโบราณได้ฝังบรรพบุรุษของข้ามานักต่อนัก แต่ตอนนี้ปริศนาของมันกลับถูกทำลายโดยมนุษย์ บางที เจ้าคงจะมีความสัมพันธุ์กับชนเผ่าทะเลใช่หรือไม่ ? “
ฉื่อหยาน ก็ประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย เขาลังเล แล้วส่ายหัว ” ข้าก็ไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม , สุสานมังกรยอดโบราณนี้มีอยู่มาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ ข้าไม่สามารถบอกรายละเอียด ข้าพูดได้เพียง ว่าข้าโชคดีเท่านั้น “
นู่หลาง และหยินหุ้ยก็ขมวดคิ้วอย่างจริงจัง พิจารณาความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเขา
ต่อมา นู่หลางแหงนหน้ามองขึ้นไปบนผิวน้ำ ดวงตาของเขา หลี่ลง . ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ข้าคนเดียวที่รับรู้เหตุการณ์แปลกๆที่นี่ คาดไม่ถึงเลยว่านักรบที่แข็งแกร่งทั้งสองของพื้นทมี่ทะเลสวรรค์จะมาที่นี่ด้วย “
น้ำทะเลถูกแยกออก เป็นสองร่างพุ่งลงมาจากด้านบนที่จะร่าง
ราชีนีนภา จักรพรรดิโลก ชิงหมิง กูเสียว พานโจว และฉาวจื่อหลานที่กำลังหลบหนีด้วยความกลัวก่อนหน้านีี้ก็อยู่ด้านหลังพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า และสังเกตสถานการณ์อยู่ด้านหลังคนที่งสอง
” หยางอี้เทียน เซี่ยชิงโหว ! “
หยินหุ้ยก็จ้องมองแล้วอุทานออกมาด้วยความตกใจ .
ฉื่อหยาดวงตาก็ส่องประกายเขาแหงนหน้ามองขึ้นไป
ชายวัยกลางคนรูปงามเป็นธรรมชาติ สูงศักดฺ์ ก็พุ่งลงมาอย่างเงียบๆสวมชุดสีม่วงที่มีขนสีม่วงพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ยิ้มบางๆ
ห้องโถงหลักของพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ หยางอี้เทียน ที่มีประมุขอีกคนของทะเลไม่มีสิ้นสุดอยู่ที่นั่น
ชายสูงอายุสวมเสื้อผ้าป่านและรองเท้าฟางก็ตามเขาไป ผู้ชายคนนั้นดูชราและมีใบหน้าเหี่ยวย่น แต่เขามีกลินอานที่ลึกล้ำ เขาเป็นประมุขคนเก่าของตระกูลเซี่ย เซี่ยซิงโหว
สองนักรบที่โดดเด่นที่สุดของ ของพื้นที่ทะเลสวรรค์ก็ปรากฏที่ใต้พื้นผิวทะเล หลังจากที่พวกเขามาถึง พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่นู่หลางด้วยดวงตาประหลาดใจ ดูเหมือนพวกเขาจะคิดว่านู่หลางจะเป็นคนริเริ่มสิ่งพวกนี้
” ไม่ใช่ข้า ” นู่หลาง สูดลมหายใจเข้าอย่างเงียบๆแล้วขยับสายตาไปมองที่ฉื่อหยาน
หยางอี้เทียน เซี่ยชิงโหวดวงตาก็หันตาม . จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ฉื่อหยานด้วยความประหลาดใจ
หยางอี้เทียนจ้องมองสักพัก แล้วรอยยิ้มบนหน้าก็หายไป เขาหลับตาลงเพื่อสัมผัสบางอย่างแล้วตะโกนออกมา ” ใครเป็นคนฆ่า เสินตู่เจียและจงหลี่ต้วน ! “
” ข้า ” ฉื่อหยานงอร่างกายของเขาเล็กน้อย ยิ้มและกุมมือ ” . ข้า ผู้เยาว์ ฉื่อหยาน ,คำนับประมุขอย่าง “
เขาหยุดไปสักพัก แล้วยังคงรอยยิ้มของเขามองเซียชิงฮัว . ลักษณะของเขาแสดงออกอย่างจริงใจมากขึ้น ” ในที่สุดเราก็ได้พบกัน ท่านปู่เซี่ย”
ใบหน้าของเซี่ยซิงโหวก็ฉีกยิ้ม ทัศนคติของเขาอ่อนโยนลง เขาเดินไปหาฉื่อหยาน , ดวยดวงตาที่ส่องประกาย ” เจ้าคือฉื่อหยานรึ ?
” ครับ ” .
” ดีมาก ! เด็กดี ! ดียิ่งนัก ! “
เซี่ยชิงหัวก็พูด ‘ ดี ‘ ถึงสามครั้งติดต่อกัน จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ฉื่อหยาน ยืนอยู่ตรงข้ามกับหยางอี้เทียน
ตระกูลเซี่ยและตระกูลหยางนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา เซี่ยวชิงหัวและจักพรรดิหยางเทียนนั้นเป็นสหายสนิทกันมานานนับ ร้อยปี เขาก็รู้จักฉื่อหยานและความสัมพันธ์ของเขากับเซี่ยซินหยานจากรุ่นเยาส์ของตระกูลเซี่ย .
หลังจากที่เขากลับมา เขาก็ให้ความสนใจกับฉื่อหยานเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าในปีที่ผ่านมาฉื่อหยานได้ทำอะไรบ้างในทะเลไม่มีสิ้นสุด
ในสายตาของเขา ฉื่อหยาน นั้นเป็นคนของตระกูลเซีย เขาเป็นคู่หมั้นของเซี่ยซินหยาน . . . . แม้แต่เหตุผลที่เขาสามารถกู้ฟื้นคืนกลับมาได้อย่างรวดเร็วนั้นก็เป็นเพราะฉื่อหยาน แน่นอน ว่าเขาจะต้องอยู่ข้างฉื่อหยาน
” ประมุขน้อยหยาง ” เซี่ยวชิงหัวยิ้ม สีหน้าใคร่ครวญ ” ดูเหมือนว่าพวกเจ้าได้ส่งคนไปฆ่า ฉื่อหยาน แต่เจ้ากลับไม่โชคดีเลยใช่หรือไม่ ใช่สิ อย่างแรกข้าขอบอกก่อนนะว่า ไม่ว่ายังไง ข้าก็อยู่ฝ่ายเดียวกับ ฉื่อหยาน ถ้าเจ้าต้องการที่จะจัดการกับเขา ข้าจะไม่ทำเพียงยืนมองแน่นอน “
” ประมุข ” ฉื่อหยานขดริมฝีปากของเขา” ยกโทษให้กับคำพูดหยิ่งของจากผู้เยาว์เช่นข้าด้วย แต่หากท่านต้องการจะฆ่าข้า มันก็คงจะเป็นเรื่องยากเล็กน้อย
แล้วความคิดของเขาริบหรี่ลง เขาส่งข้อความไปยังปีศาจสงคราม
ปีศาจสงครามยังคงปกปิดกลิ่นอา หลังจากได้รับขข้อความของฉื่อหยาน มันก็เริ่มเคลื่อนไหวไปที่หยางอี้เทียน
จิตสังหาร กลิ่นอายทำลายล้างไม่มีสิ้นสุดก็ทะลักออกมาจากปีศาจสงคราม ทันทีก็ครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของเผ่าฉลามเงิน
ใบหน้าของหยางอี้เทียนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
นู่หลสงขมวดคิ้ว .
เซี่ยวชิงหัวดวงตาก็ส่องประกาย
สามวีรบุรุษที่แข็งแกร่งทั้งบนดินและใต้ทะเลก็ มีสีหน้าที่แตกต่างกัน
” ข้าไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกท่านถึงต้องการที่จะสู้กับข้านัก เพราะเองก็เป็นนักรบของทะเลไม่มีสิ้นสุดเหมือนกัน . ” ใบหน้าของฉื่อหยานก็มืดมน” เมื่อข้าอยู่ที่ทะเลเหิงลั่ว เผ่าก็ได้ต่อสู้กับข้าเพื่อที่จะฆ่าข้า แต่ทำไมพวกท่านถึงอยากข้าฆ่ากัน? มันเกิดขึ้นซ้ำๆหลายครั้ง ทัศนคติของพวกท่านคืออะไร หากข้าไม่ตายพวกท่านก็อยู่ไม่ได้งั้นรึ ? ประมุขหยาง , ท่านอธิบายเหตุผลให้ข้าฟังได้หรือไม่ ?
” คนที่ต้องการฆ่าเจ้า มีทั้ง กู่ฉาว ตงฟางเจี่ย และชิงหมิง ” หยางอี้เทียนสูดลมหายใจเข้าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ” ข้าแค่ดูเฉยๆ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีศักยภาพที่ไม่อาจคาดเดาได้ ข้าไม่ได้เห็นเจ้าอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มันต่างกัน เจ้าได้ฆ่าเสินตู่เจียและจงหลี่ต้วน แม้ว่าข้าจะเป็นคนง่ายๆ ข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ !”
จากนั้น ประกายแสงก็ส่องออกมาจากดวงตาของหยางอี้เทียน กระแสไฟฟ้าหบอมรวมกัน อย่างรวดเร็วมันก็กลายเป็นลำแสงพุ่งไปที่ฉื่อหยาน
” แสงนิพพานเจ็ดสี ! ” เซี่ยชิงหัวdHตะโกนแล้วพูดอย่างเย็นชา ” หยางอี้เทียน เจ้าช่างกล้านัก !”
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1392 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <