เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 481 ศพภูผา ศพสมุทร

บทที่ 481 ศพภูผา ศพสมุทร

นู่หลางที่มาถึง เมื่อเห็นฉื่อหยานไม่เป็นอะไรเขาก็โล่งใจ

ราชาอสูรทั้งสองนั้นต่างก็อยู่ในนภาที่สามระดับพระเจ้า ดังนั้น นู่หลางจึงไม่คิดจะปล่อยให้โปวชุนทำอะไรไปมากกว่านี้ ทันทีที่เขามาถึง เขาก็ทำลายม่านแสงอสูรที่ปล่อยออกมาจากอสูรระฆัง ทำลายแรงกดดันที่กดทับไปยังฉื่อหยาน

ฉื่อหยาน คว้าโอกาสนี้รวบรวมพลังในร่างกายของเขาเพื่อพร้อมที่จะใช้คลอดเวลา

ราชาอสูรโปวชุนก็โกรธ เขาคำรามออกมาเกาะสุริยันสั่นสะท้านไปทั่วทั้งเกาะ

ด้วยการที่พวกเขาต่างก็เป็นคนเผ่าอื่น โปวชุนจึงสันนิษฐานว่านู่หลางเองก็คงมีความคิดเช่นเดียวกับเขา และถือว่ามนุษย์เป็นศัตรูของพวกเขา แต่มันอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา เขาไม่คิด ว่า นู่หลางจะมาช่วยฉื่อหยาน โปวชุนจึงยากที่จะยอมรับ

” มนุษย์มักเป็นศัตรูกับชนเผ่าอื่นอยู่เสมอ เผ่าทะเลเองก็ถูกนับเป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาบีบบังพวกเจ้ามาเป็นเวลาหลายปี ปัจจุบันมนุษย์กำลังอยู่ในช่วงวิกฤต ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตราบใดที่เจ้าอยู่เฉยๆและไม่ยื่นจมูกเข้ามายุ่ง ข้าก็สามารถจัดการกับพวกมนุษย์ได้ จากนั้น , เผ่าทะเลของเจ้าก็ไม่ต้องเกรงกลัวมนุษย์ เจ้าไม่ต้องการเช่นนั้นรึ ? “

หน้าโปวชุนก็เต็มไปด้วยจิตสังหารในขณะที่ดวงตาส่องประกายเย็นชา เขายืนขึ้นและแสดงออกอย่างอึดอัดใจ

นู่หลางแสดงสีหน้า บึ้งตึง และกล่าวอย่างเย็นชา ” ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้ามาที่นี่เพื่อช่วยฉื่อหยาน ไม่ใช่ว่าข้าช่วยเหลือพวกทนุษย์ . “

” เจ้าเด็กนั่นรึ ? ” โปวชุนแสยะยิ้ม” เขาให้อะไรเจ้างั้นรึ เจ้าถึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเช่นนี้ ?

” เขาสามารถให้สิ่งที่เจ้าไม่มีวันได้” ดวงตานู่หลางก็เริ่มลุกโชน

แค่คิดถึงวารีแรกเริ่มชีวิต ที่สามารถทำให้เขาบรรลุเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงได้ เขาก็ไม่อาจเก็บความปรารถและความตื่นเต้นไว้ได้ เขานั้นได้อยู่ในระดับพระเจ้ามาเป็นเวลาเนิ่นนาน จากวันที่เขาได้เข้าสู่ระดับพระเจ้า เขาก็หวังมาตลอดว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ระดับใหม่ได้

หลายร้อยปีที่ผ่านมาเขาได้ตั้งใจและพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะก้ามผ่านจุดนี้ หลังจากที่เขาเข้าสู่นภาที่สามระดับพระเจ้า เค้าก็คิดถึงระดับใหม่ทุกเชื่อวันคืนด้วยความหวังว่ามันอาจจะบรรลุในเวลาอันใกล้

จู่ๆฉื่อหยานที่มีวารีแรกเริ่มชีวิตก็ปรากฏตัว ขณะที่เขากำลังหมดหวัง เมื่อเทียบกับวารีแรกเริ่มชีวิตแล้ว อนาคตของทะเลไม่มีสิ้นสุดนับว่าไร้ค่า

ตราบเท่าที่เขาสามารถบรรลุเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงได้ ตอนนั้นนู่หลางจะไม่เพียงแต่บุกขึ้นมายังทะเลไม่มีสิ้นสุด ในอนาคต ด้วยตัวตนของเขา เขาสามารถนำพาเผ่าทะเลไปยังดินแดนใหม่ที่อยู่สูงกว่านี้ .

การบรรลุเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงสามารถช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายที่ยอดเยี่ยมในอนาคตที่เขาไม่กล้าคิดที่จะฝันมาก่อน

” เขาให้อะไรกับเจ้ากัน ?” หน้าโปวชุนก็เย็นชา” ถ้าเขาหาให้เจ้าได้ ข้าก็ทำได้ “

” เจ้าไม่มีทางทำได้ ” นู๋ลางส่ายหัวและยิ้ม ” หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว หากเจ้าต้องการจะลงมือกับฉื่อหยาน ข้าได้มาโทษแค่ที่ข้าจะไม่แค่ยืนมอง ข้ามาที่นี่จากก้นทะเลเพื่อปกป้องเขา ฉะนั้นเขาจะต้องไม่ได้รับแม้แต่บาดแผลเดียว” .

” เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะปกป้องเขา ?

” ใช่ “

โปวชุนสแยะยิ้มและตะโกนลั่น ” แล้วได้โทษข้าหากข้าไร้ซึ่งความเมตตา ข้าขอดูหน่อยสิว่าชนเผ่าทะเลมีดีแค่ไหนกัน ! “

แล้วโปวชุนก็อ้าปากพ่นแสงอสูรออกมาซึ่งมันก็ถูกถูกดูดซับโดยอสูรระฆังทันที แรงกดดันวิญญานก็สะท้อนเป็นเสียงออกมาจากระฆัง มันดูราวกับมีเทพอสูรคืนชีพขึ้นมาจากโบราณ เกิดเป็นคลื่นที่บ้าคลั่ง เสียงของมันราวกับว่าจะลากคนเข้าไปยังดินแดนอสูร ทำให้ลุ่มหลงและกลายเป็นไม่รู้สึกตัว

ในเวลาเดียวกัน , โปวชุนก็ทะยานขึ้นจากบัลลังก์กระดูกสีขาวของเขา ลำแสงที่แหลมคมก็พุ่งออกมาจากนิ้วทั้งห้าของเขา

ลำแสงเหล่านี้พุ่งออกมาและทะลวงเข้าไปยังมือกระดูกสีขาวยักษ์และกะโหลกยักษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า ซึ่งทำให้พลังของทั้งสองสิ่งนี้กลายเป็นน่าหวาดกลัวนิ่งขึ้น

โปวชุนกระตุ้นพลังทั้งหมดของเขา แต่นู่หลางก็ยังไม่แสดงออกว่าหวาดกลัว

เขาเหวี่ยงสามง่ามในมือของเขา อสูรน้ำนับสิบที่มีรูปลักษณ์ใสก็พุ่งขึ้นมาจากทะเลรอบๆ รูปร่างคล้ายกับงู ถูกควบแน่นจากน้ำทะเล พวกมันเป็นเหมือนกับสูงตระหง่านพุ่งไปยังบนท้องฟ้าปลดปล่อยเจตจำนงแห่งมหาสมุทรออกมา , โอบอ้อมทุกสิ่ง อสูรน้ำนับสิบก็กลายเป็เหมือนแสงเทียนที่กระพริบในสายลม พุ่งจากท้องทะเลไปที่มือกระดูกยักษ์สีขาวและกระโหลกยักษ์

ทันที พลังที่น่าหวาดกลัวก็กลายเป็นเดือดผ่านและเมฆที่อยู่เหนือเกาะสรุิยันก็ถูกทำลาย ม่านพลังที่ปิดกั้นกลิ่นอายธรรมชาติจากท้องฟ้าและผืนดินก็หายไป

สิบอสูรวารีก็ตั่งตระหง่านปกคลุมไปรอบ ต่อสู้กับมือกระดูกสีขาวและหัวกะโหลกยักษ์ นู่หลางพุ่งทะยานไปพร้อมกับคลื่นทะเลที่รุนแรง ถือตรีศูลเพื่อต่อสู้กับโปวชุน

สายลมและเมฆสีดำก็เปลี่ยนไป ในขณะที่โลกและท้องฟ้ากลายเป็นมืดมิด. พลังที่รุนแรงฉีกกระฉากท้องฟ้าและผืนดิน ทำให้กลิ่นอายธรรมชาติเป็นเกาะสุริยันเปลี่ยนแปลง และส่องประกายสดใส

สึนามิสูงพุ่งผ่านปกคลุมทั่วทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อากาศตอนนี้เต็มด้วยแรงกดดันแปลกประหลาด ส่งเสียงหวีดหวิวเสียงดังออกมา ทุกที่เต็มไปด้วยเส้นแสงพุ่งผ่าน จนเกิดเป็นหลุมลึกบนแผ่นดิน ดูรุนแรงเป็นอย่างมาก

เมื่อนู่หลางมาถึงไม่เพียงแต่ทำให้ฉื่อหยานเป็นอิสระ แต่ยังช่วยเหลือถังหยวนหนานและโอหยางลู่ซวงออกจากแรงกดดัน

มือกระดูกสีขาวและกระโหลกยักษ์ก็มุ่งโจมตีมาที่ฉื่อหยานคนเดียว โดยไร้ซึ่งแรงกดดันจากสองสิ่งนี้ ทำให้กลุ่มของฉื่อหยานมีเวลาหายใจและพักฟื้นพลัง

” ทำไมนู่หลางถึงต้องปกป้องเด็กคนนี้กัน ? ” ถังหยวนหนาน สงสัยและเดินไปหาเขาพร้อมกับรอยยิ้ม “. ข้ารู้สึกว่า ข้าไม่มีวันเข้าใจตัวเจ้าได้ทั้งหมดแน่ “

” นู่หลาง ไม่ธรรมดาจริงๆ สมกับชื่อเสียงของเขาในฐานะคนที่แข็งแกร่งที่สุดในชนเผ่าทะเล ” โอหยางลู่ซวงอุทานเล็กน้อยแล้วกล่าวอีกว่า ” โปวชุนนั้นมีพลังลึกลับยิ่งนัก , . ข่าวลือนี่เป็นจริง ข้าเคยคิดว่าเมื่อข้าได้ดูดซับพลังแสงจันทรามาเป็นเวลานับพันปี ข้าจะสามารถรับมือกับโปวชุนได้โดยไม่เสี่ยเปรียบ แต่วันนี้ ข้ารู้แล้วว่า ถ้าโปวชุน ใช้พลังทั้งหมดออกมา ข้าไม่อาจเทียบได้เลย “

” โปวชุนนั้นมีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา ” ถังหยวนหนาน ดูเคร่งขรึม ” ในทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่ฉาวเชี่วเต้ หยางอี้เถียน และจักพรรดิหยางเทียนเท่านั้นที่มีพลังพอที่จะสู้กับพวกเขา นอกจากพวกเขาแล้ว คนอื่นอาจทำเพียงได้แค่ซื้อเวลาชั่วหนึ่ง . มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับมือกับราชาอสูรทั้งสองได้”

” แล้วศพราชันย์หละ ?” ฉื่อหยาน ก็งงไปสักพัก ก่อจะถามขึ้น

” ศพราชันย์ตนเดียวไม่สามารถรับมือกับราชาอสูรได้”

ถังหยวนหนาน รำพึง เขาพิจารณาแล้วพูดว่า ” ถ้าสองศพราชันย์ร่วมมือกัน ก็เพียงพอที่จะจัดการกับราชาอสูรคนเดียว”

ใบหน้าของเขาก็ตกใจ มองไปที่ฉื่อหยาน ” นี่ , ข้าได้ยินว่าหนึ่งในศพราชันย์ได้ฟื้นคืนจิตสำนึกและสติปัญญหากลับมามีชีวิต เจ้าบอกว่าเขากับเจ้าเป็นสหายกัน นั่นจริงรึ? “

ยิ้มและพยักหน้า ฉื่อหยานก็ไม่ไดปิดบัง ” ใช่ ด้วยปัจจัยของอะไรหลายๆอย่าง ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ข้ามีวิธีการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งกับศพราชันย์ ฮ่าๆ มันก็แปลกสำหรับข้าเช่นกัน ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะสัมพัสกลิ่นอายของศพราชันย์ได้ด้วยระยะที่ห่างไกลเช่นนี้ “

” ตั้งแต่ ศพราชันย์ทั้งสองไรับสติปัญญาและจิตสำนึกของมนุษย์ พวกเขาก็น่ากลัวเป็นอย่างมาก พวกเขาปลุกทาสศพทั้งหมดในนิกาย และยึดอำนาจของชิงหมิง ” ถังหยวนหนานก็จริงจังมากขึ้น ” เจ้าควรจะระวังไว้ด้วย อำนาจของศพราชันย์นั้นทุกอย่างได้เปลี่ยนไป หากจะรับมือกับพวกเขาอย่าได้ประมาท “

” หึ เจ้าคิดจริงๆรึว่าพวกข้าจะเป็นเหมือนมนุษย์ ?”

ตอนนั้นเอง เสียงแหลมก็ดังขึ้นมาจากทะเล

โลงศพลอยก็ขึ้นจากน้ำ ศพราชันย์อยู่บนโลงด้วยมือที่แหลมคม เขากำลังมองถังหยวนหนานด้วยดวงตาดุร้าย ตา ภายใต้ดวงตาที่จ้องมา ถังหยวนหนานก็รู้สึกอับอาย เขาป้องมือและพูด ” ขออภัยที่ข้าปากพล่อย ” .

โลงศพอีกโลงก็ปรากฏมาจากก้อนเมฆ ศพราชันย์อีกตนก็ค่อยๆลงมา

ศพราชันย์ สามารถใช้พลังของธาตุทั้งห้ได้า การที่พวกเขาอยู่บนท้องฟ้าหรือใต้พื้นดิน ก็ไม่นับว่าเกินความสามารถของพวกเขา น้ำทะเลในทะเลไม่มีสิ้นสุดเองก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในอาวุธของเขาเช่นกัน

เมื่อสองศพราชันย์มาถึง พวกเขาก็ได้ยิน ที่ ถังหยวนหนานพูด พวกเขาจ้องมองไปที่ถึงหยวนหนานอย่างดุร้าย

ศพราชันย์บนท้องฟ้านั้นดวงตาสงบและดูเหมือนกับมนุษย์เป็นอย่างมาก

เขาเป็นศพราชันย์ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับ ฉื่อหยาน หลังจากที่เขามาถึง เขาก็ยิ้มอย่างเป็นกันเองไปที่ ฉื่อหยาน แม้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าขาวๆของเขาจะดูแย่มาก แต่ทุกคนก็เห็นได้ว่าเขามีทัศนคติที่ดี

” ขอบคุณ ” ฉื่อหยานยิ้มให้พวกเขา และพูดในลักษณะที่เป็นมิตร ” . ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้าแท้ๆ “

” ถ้าไม่มีเจ้า เราก็ยังเป็นทาสของนิกายซากศำ และคงไม่มีโอกาสกลับมาเช่นนี้ ” ศพราชันย์จากท้องฟ้าก็ยิ้ม ” เรานั้นถูกใจเจ้าเป็นอย่างมาก กลิิ่นอายในร่างของเจ้าเองก็เป็นสิ่งที่พวกเราชอบ เมื่อเจ้าได้มอบบางสิ่งให้แก่เรา ดังนั้นเราก็จะตอบแทนบางสิ่งกลับไป นั่นเป็นสิ่งที่เราควรจะทำ”

ศพราชันย์อีกตนไม่ได้มีใบหน้าเหมือนกับมนุษญ์ มันดูดูป่าเถื่อน ดวงตาของมันดำสนิท ราวกับว่ามันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงสงบและมองฉื่อหยานด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดวงตาของมันส่องประกายแปลกประหลาด

“เรียกข้าว่า ศพภูผา และเรียกเขาว่าศพสมุทร ศพสมุทรนั้นยังมีจิตสำนึกทีั่ไม่สมบูรณ์ เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ดีนัก เราสามารถช่วยเจ้าได้แน่นอน “ศพราชันย์อีกร่างก็พูดกับฉื่อหยานและชี้ไปที่ตัวเองแนะนำชื่อของเขาและจากนั้นก็ชี้ไปที่ศพราชันย์อีกร่าง

นี้เป็นครั้งแรกที่ศพราชันย์แนะนำชื่อของพวกเขากับคนอื่น

ฉื่อหยาน ก็อึ้งสักพัก เขาไม่คิดว่าศพราชันย์ทั้งสองจะมีชื่อว่า ศพภูผาและศพสมุทร มันเป็นชื่อที่แปลก แต่ยังไงก็ตาม พวกเขาก็ไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นเมื่อพวกเขามีชื่อแล้ว ก็ไม่ควรไปสอบถามสิ่งใดเพิ่มเติม

” คนนั้นรึ ?” ศพสมุทรก็มองไปที่ฉื่อหยานและขมวดค้ว

ศพภูผาก็พยักหน้า ” ถูกต้อง คนนั้นแหละ”จากนั้น เขาก็เปลี่ยนไปจ้องมองศพสมุทร ” ไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งที่เขาทำทุกอย่างล้วนดีกับเรา เจ้าไม่ต้องกังวล”

เห็นได้ชัดว่า ศพภูผาคือหัวหน้า ภายใต้คำปลอบใจของเขา , ศพสมุทรก็พยักหน้าง่าย ๆ ใบหน้าที่ป่าเถือนและดวงตาที่กระหายเลือดของเขาก็จ้องไปที่ฉื่อหยาน

ฉื่อหยานก็กระตุ้นจิตใจทันทีเมื่อสัมพัสได้ถึงจิตสังหาร

เขาค่อยๆมุ่งไปที่ศพสมุทร และความมืดมิดในจิตใจของศพสมุทรก็ค่อยๆหายไป ฉื่อหยานกระตุ้นพลังในร่างของเขา สร้างผนึกแห่งชีวิตขึ้นมาแลยื่นมันเข้าไปที่หน้าอกของศพสมุทร ม่านแสงเจ็กชั้นก็ปรากฏขึ้น หายเข้าไปในร่างของศพสมุทรในพริบตา แสงแปลกประหลาดก็กระจายไปทั่วร่างของเขา

ความคิดวุ่นวายในสมองของศพสมุทรก็กลายเป็นมั่นคงด้วยความช่วยเหลือจากผลึกแห่งชีวิต ,มัน กลายเป็นสงบอย่างน่าอัศจรรย์

ความกระหายเลือดในดวงตาของศพสมุทรก็ค่อยๆหายไป กลิ่นอายของความตายบนร่างกายของเขาก็กลับกลายเป็นปกติ ทำให้รู้สึกว่าร่างศพนี้เป็นมนุษย์จริงๆ นี่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก

ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงก็จ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความสับสน

” นี่คือวิชาอะไรกัน ?” ถังหยวนหนานถอนหายใจ ” . นี้ไม่ใช่วิชาของพรรคสามเทพหรือตระกูลหยาง เด็กน้อย เจ้าฝึกฝนมาจากที่ใด ? “

ฉื่อหยานก็ยิ้มแต่ไม่ตอบ เอาแต่เงียบ มองไปที่ศพสมุทรที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1401 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <