บทที่ 483 ฉาวเชี่ยวเต้า
ทะเลเหิงลั่ว ที่เกาะสุริยัน . . . . . . .
การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ ที่คุ้มค่าพอจะถูกเขียนลงในประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น ดินแดนกำลังจะลึกเป็นไฟ ยอดฝีมือระดับสูงของทะเลไม่มีสิ้นสุดทั้งหมดกำลังจะมารวมกัน
โปวชุนชุน ชิหยาน นู่หลาง ศพราชันย์ เทพสุริยัน เทพจันทราของพรรสามเทพ และผู้มาเยือนทะเลไม่มีสิ้นสุดคนใหม่ ฉื่อหยาน
นักรบที่อยู่บนจุดสูงสุดต่างก็อยู่ที่นี่ ไม่เพียงเท่านั้น , นักรบที่แข็งแกร่งอีกนำนวนมากจากทะเลไม่มีสิ้นสุดและใต้ทะเลต่างก็กำลังมุ่งมาที่นี่ด้วยความเร็วสูงสุด หลังจากที่พวกเขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลวงของกลิ่นอายธรรมชาติ
หลายคนรู้ดีว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นทางสิ่งที่ทำให้ทะเลไม่มีสิ้นสุดผลิกคว่ำ บางทีหลังจากการต่อสู้นี้อาจจะเป็นสิ่งตัดสินโชคชะตาของทะเลไม่มีสิ้นสุด
บนเกาะ ฉื่อหยาน กำลังฟื้นพลังของเขาอย่างเงียบๆในขณะที่ถือดาบยักษ์ลึกลับในมือ เขาจ้องมองดูการต่อสู้ของราชาอสูรทั้งสอง เขาจ้องมองด้วยควมมระมัดระวัง
ฉาวเชี่ยวเต้ากำลังจะมาถึงในไม่ช้า
จากทะเลตูต้า เกาะของตระกูลฉาว อยู่ไกลกว่านิกายซากศพเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ฉาวเชี่ยวเต้ามาช้ากว่าศพราชันย์ทั้งสอง อย่างไรก็ตาม ฉาวเชี่ยวเต้าก็อยู่บนจุดสูงสุดของทะเลไม่มีสิ้นสุด ถ้าเค้าบินมาด้วยความเร็วสูงสุดของเขา เขาจะมาถึงเกาะสุริยันอีกไม่นาน
ฉื่อหยานยังคงเรื่อยเปื่อย และไม่ได้ลงมือทำอะไร เพราะฉาวเชี่ยวเต้ายังมาไม่ถึง เขายังคงรอคอยยอดฝีมือปรมจารย์ฉาวคนนี้มาถึง เขานั้นมีชื่อเสียงในทะเลกว้างใหญ่มานานหลายปี
เขาได้ฆ่าจั่วเยว่เฟิงไม่นานก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ ถ้าฉาวเชี่ยวเต้าเตอเขา แนานอนว่าเขาต้องไม่ไว้ชีวิตเขาแน่ ถ้าเขาซ่อนตัวอยู่และ รอโอกาสที่จะโจมตีเขา เขากลัวว่าเขาจะต้องตกตายก่อนที่จะได้ทำอะไรแน่
ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าไปร่วมต่อสู้และทำเพียงระวังตลอดเวลา
” เขามาแล้ว”
เทพจันทราก็ถอนหายใจ มองในทิศทางทะเลตูต้า แสงจันทร์ในร่างกายของนางก็หดลง
ถังหยวนหนาน ราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ
ชื่อของฉาวเชี่ยวเต้านั้นมีชื่อเสียงมาอย่างเนินนานในทะเลไม่มีสิ้นสุด ; อำนาจของตระกูลฉาวในทะเลไม่มีสิ้นสุดนั้นเรื่องรือเป็นอย่างมาก ไม่มีใครในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดกล้าดูถูกฉาวเชี่ยวเต้า หรือรู้ว่าจะรับมือกับวิชาต่อสู้ของเขาอย่างไร
แสงรำไรก็ปรากฏจากระยะไกล ตอนแรกมันเหมือนแสงของหิ่งห้อย ไม่สดใส แต่ต่อมาก็เริ่มส่องประกายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจาก 3 วินาที แสงที่บางเบาก็ บานเหมือนเปลวไฟ วินาทีต่อมา แสงนั่นก็ปกคลุมทั่วท้องฟ้าและผินดิน ทำให้พลังปราณทมิฬที่ปกคลุมเกาะสุริยันกระจายออกไป
ภายในรัศมีส่องแสงสุกใส , ชายชราที่มีใบหน้ามิดมนก็ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
เขาสวมชุดนักรบสีเขียวอ่อน ข้าสีเทาของเขาถูกมัดเป็นมวย และดวงตาของเขาก็สดใส เขาดูไม่ใช่คนที่หน้าตาดีนักน ด้วยแผลเป็นที่ฉูดฉาดและดุร้าย และเครื่องประดับที่มีค่า ลักษณะของเขาไม่มีอะไรน่าเกรงขามเหมาะกับชื่อของฉาวเชี่ยวเต้าเลย
ตรงกันข้าม เขากลับดูชราเป็นอย่างมาก มีเพียงดวงตาของเขาที่สดใส หลายคนไม่สามารถจินตนาการได้ว่านี่เป็นลักษณะของคนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในทะเลไม่มีสิ้นสุด ฉาวเชี่ยวเต้า
สีหน้าถังหยวนหนานเคร่งขรึม เขากุมกำปั้นของเขาทักทายฉาวเชี่ยวเต้า ก่อนที่ชายชราจะลงมาบนเกาะ ” ท่านฉาว “
โอหยางลู่ซวง ยืนอยู่บนอากาศ ก็ไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวใดๆ นางกำลังจ้องไปยังฉาวเชี่ยวเต้าอย่างจริงจัง. นางนั้นถูกผนึกอยู่ในอุกกาบาตมานานนับพันปี นางอายุมากกว่าเขา ถึงแม้ว่าความสามารถของนางปัจจุบันจะไม่แข็งแกร่งเท่าเขาก็ตาม สถานะของนางก็ไม่ได้ต่ำต้อยพอจะต้องเคารพเขา . .
” ว่าไง ประมุขถัง ” ฉาวเชี่ยวเต้าพยักหน้า ใบหน้าของเขานิ่ง ในขณะที่แววตาของเขาจางลง .
หลังจากการแลกเปลี่ยนทักทายกับถังหยวนหนาน ทันทีเขาก็ขยับเข้าไปยังเกาะสุริยันที่กำลังสั่นสะท้านด้วยสีหน้ามุ่ย
ตาของเขาจับจ้องไปที่ปีศาจสงคราม เขาไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจของเขาไว่ได้ เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก สักพักก่อนที่เขาจะเริ่มต้นหาเป้าหมาย สายตาของเขาก็หยุดที่ฉื่อหยาน ” เจ้าได้นำหุ่นเหล็กสีดำนั่นออกมาจากสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ และฆ่า จั่วเยว่เฟิงใช่หรือไม่ ? “
ฉื่อหยานก็สวมใส่ใบหน้าเย็นชาและพยักหน้า “ถูกต้อง ”
” ไม่เลวนี่ไอ้หนู ” ฉาวเชี่ยวเต้าพยักหน้า ” ตอนข้าอายุเท่าเจ้า ข้ามีระดับการบ่มเพาะเพียงระดับปฐพีเท่านั้น แจาเจ้ากลับสามารถเข้าสู่ระดับนภาได้ และยังสามารถยืมพลังจากภายนอกทำให้มีพลังเทียบเท่าระดับพระเจ้าได้ ไม่เลวจริงๆ จักพรรดิหยางเทียนช่างโชคดีนัก ในด้านนี้ข้าต้องชมเขาเลย”
ฉื่อหยาน สีหน้ายังคงมืดมน เลือกที่จะไม่ตอบเขา เขายังไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของฉาวเชี่ยวเต้า . อย่างไรก็ตาม ด้วยนู่หลาง ศพราชันย์ ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงทั้งหมดที่นี่ ร่วมถึงราชาแมลงอสูณกลืนกินสัตว์อสูรระดับแปดและตัวไหมทองคำที่อยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของเขา ถ้าเขาต้องการที่จะต่อสู้กับชายชรา หากเขาไม่ซุ่มโจมตี ฉื่อหยานก็ไม่จำเป็นต้องกังวล
ขณะที่พวกเขาเห็นฉาวเชี่ยวเต้ามาถึง ฉื่อหยาน โปวชุนชุนและ นู่หลางก็กลายเป็นระมัดระวังมากขึ้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กันอยู่ก็ตาม
ทุกคนรู้ถึงความสามารถของฉาวเชี่ยวเต้าดี ถ้าเขาเอนเอี่ยงช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายจะต้องลำบากแน่นอน การปรากฏตัวของเขาจะสมดุลทั้งหมด ดังนั้น ทุกคนจึงต้องการรักษาจุดแข็งของพวกเขาไว้และเตรียมรับมือกับเขาตลอดเวลา ถ้าเขาตัดสินใจที่จะเข้าร่วมฝ่ายใด
ชิหยานเองก็ยังคงระวัง ภายใต้การระเบิดการโจมตีที่ป่าเถื่อนปีศาจสงคราม เขาก็ยังคงระมัดระวังตลอดเวลา
แตกต่างจากโปวชุนและ นู่หลาง หุ่นนั้นไม่สนใจใคร ต่อให้ฉาวเชี่ยวเต้ามาถึง แต่ฉื่อหยานได้สั่งให้มันจัดการกับชิหยานได้พลังทั้งหมดที่มี มันจึงทำตามเพียงคำสั่ง โดยไม่สนใจอันตรายอื่นๆหากยังทำตามคำสั่งไม่เสน็๗สิ้น การโจมตีของมันรุนแรงเป็นอย่างมากทุกอย่างโจมตีมุ่งที่จะฆ่าชิหยาน , บีบบังคับกดดันชิหยานให้ต่อสู้อย่างไม่ลดละ
” ท่านฉาว ศัตรูหลักของทะเลไม่มีที่สิ้นสุด แน่นอนว่าคือเผ่าอสุรและเผ่าทมิฬ . ถ้าเรายังไม่อาจลบสอง
เผ่าพันธ์ที่ชั่วร้ายนี้จะต้องมีคนมากมายตกตายหรือกลายเป็นทาส ท่านฉาว หากพิจารณาดีๆ ข้าคิดว่าท่านเองก็คงจะรู้ อย่าได้ฝังอนาคตของทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เพราะความแค้นส่วนตัว “
ถังหยวนหนาน ค่อนข้างรีบ พยายามชักชวน . โอหยางลู่ซวงยังคงเงียบ แต่นางก็ระวังอย่างลับและเตรียมซุ่มโจมตีพวกเขา
” แน่นอน ข้ารู้ว่าใครคือศัตรูหลัก “ภายใต้การจ้องมองของฉื่อหยาน และอีกสองคน ฉาวเชี่ยวเต้าก็ขมวดคิ้ว เขารำพึงมองราชาอสูรโปวชุน
โปวชุนทำได้เพียงป้องกันภายใต้การล้อมของนู่หลางและศพราชันย์ทั้งสอง เมื่อดวงตาของเขาได้ประสบกับฉาวเชี่ยวเต้า สีหน้าของเขาก็กลายเป็เคร่งเครียดและสูดลมหายใจเข้าและพูดว่า ” ฉาวเชี่ยวเต้า คนของเจ้าถูกฆ่าตาย เจ้าไม่คิดจะแก้แค้นงั้นรึ ? เจ้าจะช่วยศัตรูของเจ้าจัดการกับข้ารึ ? เจ้าควรรู้ไว้ว่าที่ข้ามานี่ก็เพื่อฉื่อหยาน เจ้าและข้ามีเป้าหมายเดียวกัน มันจะดีกว่าไม่ใช่รึหากเราจะร่วมมือกันฆ่าเจ้านั้นก่อน แล้วเราค่อยมาเคลียร์ปัญหาระหว่างเราที่หลัง”
ฉาวเชี่ยวเต้าก็เงียบและไม่พูดอะไร
” ถ้าฉื่อหยาน ไม่ตายวันนี้ ในอนาคต แม้ว่าทะเลไม่มีสิ้นสุดจะไม่มีเผ่าอสูรอยู่ , สถานการณ์ทั้งหมดของทะเลจะไม่ก็จะไม่เป็นไปตามที่เจ้าหวังแน่ เจ้าเด็กนั่นจะไม่สนใจสิ่งใด เขาไม่สนใจทุกฏกเกณ จากนั้นเมื่อเขาเข้าสู้ระดับพระเจ้าได้ ด้วยศักยภาพของเขา เขาจะแทนที่เจ้าและหยางอี้เทียน . . . “
โปวชุนยังคงพูดยุยง . ” ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของเจ้าและหยางอี้เทียน “
” ข้าไม่คิดว่าเรื่องนี้จะต้องให้อสูรมาแนะนำหลอกนะ ” ฉาวเชี่ยวเต้าขมวดคิ้วยังคงเฉย ” เผ่าอสูรและเผ่าทมิฬกล้าที่จะบุกมายังทะเลไม่มีสิ้นสุด, เจ้าคงไม่คิดว่าวันหนึ่งพวกเจ้าจะพ่ายแพ้สินะ และมันก็จะเป็นวันนี้ วันนี้เผ่าพวกเจ้าทั้งสองจะต้องสิ้นสุดลง เจ้าไม่น่านำร่างกายที่แท้จริงของเจ้ามาที่นี่เลย ถ้าเจ้ายังอยู่ในดินแดนอสูร , แม้ว่าเจ้าจะถูกล้อม , เจ้าก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จากดินแดนอสูรได้หรือไม่ก็หลบหนี แต่มันก็ไม่ง่ายอีกต่อไป เมื่อเจ้ามาที่ทะเลไม่มีสิ้นสุดด้วยตัวเอง”
ตอนนั้นเอง ดาบสีม่วงก็ลอยออกมาจากแขนเสื้อของฉาวเชี่ยวเต้า กลายเป็นลำแสงสีม่วงส่องไปทั่วทุกทิศทาง กระทบไปทั่วท้องฟ้าดูน่าหวาดกลัว
ก้อนเมฆสีดำที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้ายก็มีแสงสีม่วงส่องอยู่ตรงกลาง พร้อมกับมีภาพลวงตาที่งดงามปรากฏขึ้น เป็นภูติสวรรค์ปรากฏร่ายรำอยู่ในนั้น ภาพลวงตานี้ทำให้จิตใจของคนเงียบสงบ กลิ่นอายที่ดูเป็นมิตรก็ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างประหลาด
หล่นลงมา ใบไม้สีเหลืองตกลงมาที่ละใบตรงก้อนเมฆสีม่วงคล้ายกับฝักบัว พวกมันหลอมรวมกันเป็นพลังที่หนาแน่นซึ่งแหลมคมเหมือนดาบ
พลังปราณทมิฬที่รุนแรงเหนือเกาะสุริยันก็เจือจางลงไปอย่างมาก เมื่อใบไม้เหล่านี้ล่วงหล่นลงมา พวกมันค่อยๆหายไปจากท้องฟ้าเหนือเกาะสุริยันด้วยความเร็วที่เห็นได้ชัดเจน.
ดาบสีม่วงก็ขยับช้าๆ ในประกายแสงสีม่วง ตอนนี้มันก็ค่อยๆเข้าไปใกล้กับโปวชุน
อย่างหนักหน่วง กลิ่นอายที่รุนแรงก็ปกคลุมทั่วทะเลไม่มีสิ้นสุด . กลิ่นอายของเขาเยือกเย็นไปถึงขั่วกระดูก นอกจากนี้ มันยังน่าหวาดกลัวขึ้นตลอดเวลา
บูมบูม
สายฟ้าก็ปรากฏเกิดขึ้นในความว่างเปล่า และสายฟ้าก็ฟาดไปมา เกิดเป็นประกายแสงสีม่วงที่ถูกสร้างขึ้นจากดาบสีม่วง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปทั่วท้องฟ้าและผืนดิน ในสายฟ้าเหล่านั้น ตัวตนของฉาวเชี่ยวเต้ากำลังค่อยๆหายไป ต่อมาเขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์
กลิ่นอายในร่างของเขาก็ไม่อาจสัมพัสได้อีก ดูราวกับว่าเขาไม่เคยปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ไม่มีใครสามารถใช้จิตสำนึกวิญญานหาเขาได้พบเลย
ฉื่อหยาน ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงก็เป็นกังวลอย่างมาก หลังจากชายชราหายตัวไป พวกเขาปลดปล่อยม่านพลังป้องกันออกมาและระวังตัวอย่างสุขุม
เทียบกับพวกเขาแล้วโปวชุนนั้นยิ่งกว่า
หนทางไร้เงา ของฉาวเชี่ยวเต้านั้นเรื่องชื่อไปทั่วทะเลไม่มีสิ้นสุด เมื่อเขาหายไปจากสายตาผู้คน มันคือช่วงเวลาที่เขาจะลงมือ ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี
หนทางไร้เงาเป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่ลึกซึ้งของฉาวเชี่ยวเต้า . เมื่อเขาใช้มัน พลังปราณ จิตสำนึกและวิญญานของเขาจะถูกซ่อนไว้ ทำให้เขาหายไปอย่างไร้ตัวตนโดยสมบูรณ์ ไม่มีใครสามารถสัมพัสได้ถึงตัวตนของเขา บางครั้งฝ่ายตรงข้ามก็ถูกเขาฆ่าตายก่อนที่พวกเขาจะรู้ด้วยว่าเขาลงมือตอนไหน
คุณสมบัติที่น่ากลัวที่สุดของ หนทางไร้เงา ก็คือการฆ่า มันน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ศัตรูของตระกูลฉาวหลายคนต่างก็ตกตายไปโดยที่ยังไม่รู้ตัว ในบางกรณีพวกเขาก็ยังถูกฆ่าตายขณะที่นั่งฝึกบ่มเพาะ จนกระทั่งพวกเขาตาย พวกเขาก็ยังไม่อาจรู้ว่าฉาวเชี่ยวเต้าอยู่ที่นั่นและเป็นคนฆ่าพวกเขา
หนทางไร้เงา ของฉาสเชี่ยวเต้านั้นทำให้ร่างของเขาหายไปจากทะเลไม่มีสิ้นสุดโดยสมบูรณ์ เขาคือตันตนที่ผู้ฝึกบ่มเพาะทุกคนหวาดกลัว ศัตรูของตระกูลฉาวทุกคนจะตกอยู่ในความหวาดกลัว ทุกๆวัน โดยไม่รู้ว่าเมื่อไรและตอนไหนที่พวกเขาจะถูกฆ่า บางที มันอาจจะเกิดขึ้นขณะที่พวกเขากำลังกินอาหารกลางวัน หรือกระทั่งเมื่อพวกเขาหลับอยู่ หรือไม่เว้นแม้แต่ตอนที่กำลังพูดคุยกับผู้อื่น พวกเขาจะต้องตกตายโดยไม่รู้สาเหตุ .
” ระวังด้วย “
ถังหยวนหนานเตือนฉื่อหยานด้วยเสียงต้ำ ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม เขากลัวว่าฉาวเชี่ยวเต้าจะมีเป้าหมายหลักเป็นฉื่อหยาน
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1402 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <