บทที่ 484 จักพรรดิหยางเทียน
ฉื่อหยาน ไม่กล้าประมาท เขาจ้องมองไปรอบๆอย่างตั้งใจเฝ้ารอการกระทำของฉาวเชีี่ยวเต้า
มันยากที่จะรับมือกับ หนทางไร้เงา. ถ้าไม่สามารถรับมือได้ คนๆก็จะถูกซุ่มโจมตีกลายเป็นศพ
แม้ว่ามันจะดูเหมืองว่าฉาวเชี่ยวเต้ามีเป้าหมายที่โปวชุน แต่ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของเขาได้ ไม่มีใครแน่ใจหรือมั่นใจว่าเขาจะไม่โจมตีตัวพวกเขา หรือลงมือฆ่าฉื่อหยาน
เทพจันทราโอหยางลู่ซวงและถังหยวนหนานยืนเฝ้าอยู่ทั้งสองข้างรอบฉื่อหยาน พวกเขารออยู่อย่างเงียบๆ
โปวชุนเป็นกังวลเล็กน้อย ภายใต้การกดดันของนู่หลางและศพราชันย์ทั้งสอง เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอยู่แล้ว ถ้าฉาวเชี่ยวเต้าเริ่มลงมือหละก็ เพียงเวลาสั้นๆ เขาจะต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน
ปีศาจสงครามก็กำลังพัวพันกับชิหยานไม่มีเวลาพอมาสนใจทางนี้ ชิหยานแทบจะไม่สามารถเหลือบมองมายังโปวชุนได้เลย
ทันใดนั้น ลำแสงก็พุ่งเข้ามาใกล้จากทางทิศตะวันออก ร่างกระดูกสีขาวก็พุ่งมาที่พวกเขาอย่างรวดเร็ว
มันคือร่างกระดูกขาวของโปวชุน
โปวชุนเรียกกระดูกสีขาวมาจากเกาะมังกรเหมันและตอนนี้มันก็มาถึง มันสามารถช่วยให้เขารับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ได้
โปวชุนมีร่างกระดูกทั้งหมดสามร่าง พวกมันทั้งหมดถูกสร้างด้วยวิธีที่น่าอัศจรรย์ พวกมันเป็นส่วนหนึ่งในวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่ลึกลับของโปวชุนและเป็นรูปแบบมหัศจรรย์บางอย่าง
ปีนั้น เมื่อเสี่ยวฮานยี่ก็มาถึงทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ร่างกระดูกสีขาวของโปวชุนก็ได้กระชากตัวเขาและลากเขาไปยังดินแดนอสูร
ฉากที่น่ากลัวนี้ยังคงปรากฏอยู่ในความทรงจำของฉื่อหยาน จนกระทั่งวันนี้
ในเวลานั้น ในสายตาของเขา ร่างกระดูกสีขาวที่ปรากฏขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลก ซึ่งพลังของมันสามารสั่นทะเทือนโลกฉีกกระฉากพื้นที่ระหว่างดินแดนอสูร ราวกับว่าเป็นพระเจ้า มั !
ในตอนนั้น เขาไม่กล้าที่จะประมาณพลังของโปวชุนเลย เซี่ยซินหยาน เคยบอกเขาว่า โปวชุนเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยพรสวรรค์ของเขาที่ไร้สิ้นสุด ตอนนั้น การต่อสู้ที่รุนแรงจะได้ปะทุขึ้นจากเขา เขาฝันอยู่เสมอว่าวันหนึ่งเข้าจะได้เผชิญหน้ากับโปวชุน
วันนี้เขาก็ได้ทำมันในที่สุด
หวือ !
ดาบสีม่วงที่ซ่อนอยู่ในเมฆสีม่วงก็พุ่งออกมา
ในเวลาเดียวกัน , แสงสดใส , ที่แหลมคมก็ปรากฏขึ้นถัดจากร่างกระดูกสีขาว
ตอนนั้นเอง ร่างกระดูกขาวของโปวชุนก็เหมือนจะถูกทิ่มแทงด้วยของมีคม ร่างกระดูกขาวก็สั่นสะท้าน ส่ายไปมาราวกับว่ามันกำลังจะพังทลายลง
นั่นเป็นฝีมือของฉาวเชี่ยวเต้า
ดาบสีม่วงกลับมาสู่มือของเขา เงาแสงดาบเป็นเสี่ยวสายฟ้าสีม่วงนับพัน หนาเหมือนหยดน้ำที่หยดลงมาจากฝีกบัว ก็ปกคลุมร่างกระดูกสีขาว
จุดแสงที่สวยงามก็ประกายออกมาจากร่างกระดูกสีขาว ร่างนั้นเกิดระเบิดขึ้นและชิ้นส่วยของมันก็กระจายไปทั่ว น้ำทะเลรอบเกาะสุริยัน
เส้นแสงนับไม่ถ้วนจางหายไป เหล่าคนที่มองดูอยู่จิตใจก็ตื่นขึ้น สิ่งที่พวกเขาเห็นคือ ฉาวเชี่ยวเต้ายังคงซ่อนตัวอยู่ และจู่ๆร่างกระดูกสีขาวของโปวชุนก็ระเบิดเป็นคานแสงหลากสีและแตกระจายไปทั่วเหมือนน้ำหมึก ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
บูม !
โปวชุนร่างกายก็สั่นสะท้าน เขาถูกโจมตีที่ด้านหลังของเขา พลังปราณทมิฬทะลักออกมาอย่างต่อเนื่องในความว่างเปล่า ฉาวเชี่ยวเต้าก็โผล่มาอีกครั้งที่ด้านหลังโปวชุน , และเจาะตรงกลางหลังของเขา
นู่หลาง เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็ยิ้มกว้าง เขาปล่อย ตรีศูลออกไปโจมตีอสูรระฆังอย่างรุนแรง อสูรระฆังก็กลายเป็นลำแสงสีดำและล่วงหล่นท่ามกลางสายตาของผู้คน
ฉาวเชี่ยวเต้าหายไปอีกครั้ง
หน้าโปวชุนก็มืดมน เปลวไฟในดวงตาของเขาลุกโชรชั่วร้าย ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขาก็กระอักเลือดออกมาก่อนที่จะได้ลงมือทำอะไร สีหน้าของเขาได้กลายเป็นหวาดกลัวครั้งแรก
เขาไม่ได้มองนู่หล่าง หรือศพราชันย์ ดวงตาที่ซับซ้อนของเขาจ้องมองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด พลังปราณทมิฬที่หนาแน่นก็กลายเป็นปั่นป่วน . ในกลุ่มของพลังปราณทมิฬ ก็เกิดระเบิดขึ้น กระดูกใสก็พุ่งออกมาจากพลังปราณทมิฬ
” จักพรรดิหยางเทียน ! “
โปวชุนก็ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ฉื่อหยาน ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก มองอย่างสงสัยไปยังท้องฟ้าท่ามกลางพลังปราณทมิฬที่ถูกแหวนออก มิติก็ถูกเปิดออกอย่างคลุมเครือ, ร่างเงาตระหง่านได้ทำลายร่างกระดูกสีขาวด้วยมือเปล่าจากพื้นที่มิติที่มีสายฟ้าส่องประกาย
นี่เป็นร่างกระดูกขาวที่โปวชุนได้เรียกมาจากดินแดนสี่อสูร
น่าเสียดายที่มันส่งเสียงหวีดหวิวก่อนที่จะข้ามมายังทะเลไม่มีสิ้นสุดจากดินแดนอสูร และชายคนนั้นก็ได้อาศัยความปุ่นวายและพลังของร่างกระดูกขาวแทรกเข้ามิติตามกระดูกมา
กระดูกที่พุ่งออกมาเป็นชิ้นส่วนของร่างกระดูกขาว
จากพื้นที่ ที่มีสายฟ้าส่องประกาย เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก็ดังขึ้น ” โปวชุน ข้าได้ทำลานร่างกระดูกขาวที่เหลือของเจ้าไปแล้ว เจ้าคงจะเรียกมันไม่ได้แล้ว ” จากนั้นชายคนนั้นก็ฉีกพื้นที่ด้วยมือทั้งสองและแหวกออกมา
เขาเป็นหัวหน้าของตระกูลหยาง จักพรรดิหยางเทียน
นักรบที่อยู่บนจุดสูงสุดของทะเลไม่มีสิ้นสุดได้ปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากหายไปนับปี , หลังจากถูกทรมานอยู่ในดินแดนอสูร เขาก็ได้ทำลายร่างกระดูกสีขาวของโปวชุนไปสองร่าง
เหมือนกับมีความรู้บางอย่างระหว่างพวกเขา ในขณะที่จักพรรดิหยางเทียนก้าวออกมาจากมิติที่ถูกแยกออก ฉาวเชี่ยวเต้าก็ลงมืออีกครั้ง
ดาบสีม่วงก็ส่องประกายครอบคลุมทั้งโปวชุนอย่างสมบูรณ์ นู่หลางและศพราชันยก็เริ่มลงมือ พวกเขาร่วมมือกันโจมตีโปวชุนด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขา
หลังจากที่จักพรรดิ์หยางเทียนออกจากรอยแยกมิติ เขาก็ไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ทันที
จักพรรดิหยางเทียนนั้นมีแรงกดดันที่ไม่อาจต้านทานได้ , โดยไม่สนใจม่านพลังของโปวชุน เขาก็พุ่งตรงไปและทำลายม่านพลังมากมาย จนร่างกายที่แท้จริงของโปวชุนถูกเปิดเผยและเขาก็ชกไปที่ร่างนั้นโดยตรง
อย่างหนักหน่วง หมัดที่เด็ดขาดนั้นสามารถทำลายม่านพลังป้องกันและกระแทกเข้าที่หัวของโปวชุนโดยตรง
โปวชุนนั้นต้องรับมือกับศัตรูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขณะที่เขากำลังจะปัดป้องกันด้านหน้า ก็มีแสงสีม่วงที่ราวกับเป็นคมหอกพุ่งมาแทงด้านหลัง
ภายใต้ความเจ็บปวดรุนแรง โปวชุนแทบจะไม่สามารถรวบรวมพลังในร่างได้เลย เขาเพียงมุ่งมั่นที่จะออกจากสถานการณ์เช่นนี้เท่านั้น เขามังกรบนหัวของเขาก็เรืองแสง คลื่นไหลที่ชั่วร้ายก็ไหลทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง ประทะกับกำปั้นของจักพรรดิหยางเทียน
ปัง !
ราวกับแผ่นดินถล่มและพื้นโลกก็สั่นสะเทือน เสียงสะท้านไปทั่วทะเลเหิงลั่ว ทำให้เหล่าคนที่ได้ยินเสียงนี้รู้สึกเจ็บไปถึงแก้วหู
ผิวเนื้อและเลือดของเขาก็ปรากฏออกมาจากรอบแตกบนร่างที่แข็งแกร่งของโปวชุน ภายใต้หมัดนี้ร่างกายของเขากลายเป็นเหมือนกระจกที่มีรอยแตก ซึ่งดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
ฉาวเชี่ยวเต้า นู่หลาง และศพราชันย์ก็ฉวยโอกาสนีี้บุกเข้าไปพร้อมกัน พวกเขากระตุ้นพลังของตัวเองมาและซัดไปที่โปวชุนอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากคลื่นของการโจมตี ร่างกายของโปวชุนก็มีแผลเปิดและเลือดไหลทะลักออกมามากขึ้น กระดูกเขาเริ่มแตกหัก
ฉื่อหยานขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ ” โปวชุนจบสิ้นแล้ว”
ถังหยวนหนานพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ” ฉาวเชี่ยวเต้า นู่หลาง , ศพราชันย์ ,พวกเขาแต่ละคนก็เพียงพอที่จะรับมือกับเขาได้แล้ว แต่นี่ทั้งสามคนกำลังร่วมมือกันเพื่อจัดการกับโปวชุน ซึ่งมันก็เพียงพอในการจัดการเขาแล้ว แต่ตอนนี้มีจักพรรดิหยางเทียนการแทรกกลางคัน มันก็กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะรอดไปได้ “
ขณะที่พวกเขาพูด ร่างของโปวชุน ก็อาบไปด้วยเลือดและปรากฏก้อนเนื้อให้เห็น เขามองขึ้นไปบนฟ้าและ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ร่างกายของเขาเกิดรอยแตกขึ้เน แม้ว่าเผ่าอสูรจะมีร่างการที่ทนทานต่อการโจมตึ แต่ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงเหล่านี้ก็ไม่อาจช่วยเขาได้
ร่างของโปวชุนนั้นแตกสลายไปแล้ว
แสงสีดำก็หตัวลงเป็นจุดๆในอากาศ ในขณะที่ร่างกายของโปวชุนถูกทำลาย จุดแสงนี้ก็พุ่งไปยังรอบแยกมิติและหายไปในพริบตา
” วิญญานหลีกพ้น ! “
ถังหยวนหนานไม่สามารถช่วยได้ที่จะตะโกนออกมา
ฉื่อหยานก็สวมใบหน้าที่น่ากลัว ในขณะร่างของเขาถูกระเบิด โปวชุนก็ได้บีบอัดวิญญานของตนเป็นจุดเล็กๆออกจากร่างกายเนื้อ และแอบเข้าไปในช่องว่างรอยแตกในพริบตา เพื่อรักษาวิญญานอมตะของเขาไว้
แม้ว่าจะมีอันตรายนับไม่ถ้วนภายใต้สายฟ้าที่อยู่ในมิติ ซึ่งอาจจะทำให้วิญญาณของเขาหายไปตลอดกาล แต่มันก็สามารถป้องกันไม่ให้ผู้อื่นไล่ตามเขาได้
ทุกคนรู้ว่าพื้นที่มิตินั่นไม่มั่นคง ใครที่กล้าเข้าไปทั้งร่างกายและวิญญานจะได้รับบาดเต็บ แต่ถ้าวิญญานของเขาบินได้เร็วพอ มันก็อาจไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากสิ่งวุ่นวายในพื้นที่มิติ
อย่างไรก็ตาม หากนำร่างกายไปด้วยความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นสิบเท่า
ดังนั้น , แม้ว่าพวกเขาเห็นโปวชุนส่งวิญญาณของเขาเข้าไปในรอบแยกมิติในวินาทีสุด จักพรรดิหยางเทียนและคนอื่นก็ไม่คิดจะตามเขาไป พวกเขานิ่งมองรอยแตกและส่งจิตสำนึกวิญญานของพวกเขาเข้าไปหา
” หาไม่เจอ “
ฉาวเชี่ยวเต้า หลับตาคิดสักพัก แล้วส่ายหัว ด้วยความเสียใจ ” . พลัในรอบแยกมิติปั่นป่วนเป็นอย่างมาก มีนจะขัดขวางสัมพัสจิตสำนึกวิญญาน . ถ้าเราส่งจิตสำนึกวิญญานไปไกลเกินไป มันจะยากที่จะเรียกกลับมา เราไม่ควรที่จะเสี่ยง .
” ไม่เป็นไร ” จักพรรดิหยานเทียนหัวเราะออกมา “แม้ว่าโปวชุนจะหนีไปได้ทัน ด้วยความสามารถระดับพระเจ้าของเขาก็คงจะหาที่หลบภัยในรอยแยกมิติได้ แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาหลายรอยปีในการฟื้นคืน ตอนนั้นบางทีเจ้าและข้าอาจจะอยู่ในระดับพระเจ้าแท้จริง ถ้าเขากลับมา เขาก็คงทำอะไรเราไม่ได้อยู่ดี ” ฉาวเชี่ยวเต้าก็พยักหน้า
” ยังมีอีกคนที่ยังอยู่ , ” จักพรรดิหยางเทียนมองไปที่ชิหยาน จู่ๆเขาก็พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ ” เจ้าหุ่นเหล็กสีดำนั่นมาจากไหน ทำไมมันถึงมีพลังแข็งแกร่งถึงขนาดกดดันชิยหานได้ ”
“อะแห่ม ” ฉาวเชี่ยวเต้าขมวดคิ้วพูดเกรี้ยวกราด ” ตระกูลหยางของเจ้าช่างโชคดีจริงๆ ! “ได้ยินเช่นนั้น จักพรรดิหยางเทียนก็อึ้งสักพักก่อนที่จะขยับ ดวงตาของเขา มองไปที่ฉื่อหยานและยิ้มอย่างสดใส ” เด็กดี ! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลังจากที่ข้าออกจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เจ้าจะสามารถเป็นคบเพลิงส่องแสงนำทางตระกูลหยางในทะเลไม่มีสิ้นสุดได้!
ฉื่อหยานยกศีรษะของเขายิ้มและก้มลงไปทักทายเขา เขาได้พูดอะไรมาก ” เราควรจะฆ่าชิหยานก่อนจาทกนั้น เราค่อยกันดีกว่า “
” ดี “
จักพรรดิหยางเทียนพยักหน้าอย่างร่าเริง ร่างกายของเขากลายเป็นแสงสีแดงพุ่งไปยังชิหยาน
ฉาวเชี่ยวเต้าเองก็ลงมือเท่านั้น
นู่หลาง และศพราชันย์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
” เจ้าหนู เจ้าต้องการให้ข้ามาช่วยเรื่องนี้จริงๆรึ ?” นู่หลาง สูดลมหายใจเข้าอย่างไม่พอใจ ” ตระกูลหยางช่างมีแผนที่ลึกซึ้งนัก ซ่อนอยู่ภายในดินแดนอสูรเพื่อรอโอกาส เมื่อพวกเจ้าเริ่มลงมือ และทำให้โปวชุนกลายเป็นดวงวิญญานหนีไปยังรอยแยกมิติ ข้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่สำคัญกับข้าเลยสักนิด ใช่หรือไม่ ? “
” ถ้าท่านต้องการบางสิ่ง ท่านจะต้องเอื่อมมือของตนไขว่คว้ามัน เราจะฆ่าชิหยานเมื่อยังมีโอกาส ” ฉื่อหยานขดริมฝีปากของเขา” ถ้าชิหยานไม่ตายวันนี้ เขาจะมาแก้แค้นเผ่าทะเลแน่ในไม่ช้า ข้าคิดว่าท่านคงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเผาทะเล เช่นนั้นท่านก็ไม่ควรปล่อยเขาให้รอดออกจากที่นี่ไปได้ จริงไหม? “
นู่หลาง ปิดปากเงียบ และไม่สามารถช่วยได้ที่จะพยักหน้า.
” พวกเจ้าเองก็ควรไปช่วยด้วย ” ฉื่อหยานมองไปยังศพภูผาและศพสมุทร เมื่อได้รับคำสั่งของฉื่อหยาน สองศพราชันย์หมื่นปีจากนิกายซากศพก็พุ่งไปยังชิยาน
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1403 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <