บทที่ 485 กำหนดท้องฟ้าและผืนดิน
โปวชุนหนีไป ในขณะที่ชิหยาน แทบจะไม่สามารถหลีกหนีโชคชะตาของเขาได้
ห้า นักรบที่แข็งแกร่ง , ปีศาจสงคราม จักพรรดิหยางเทียน ฉาวเชี่ยวเต้า นู่หล่าง และศพราชันย์ ก็โจมตีไปที่ชิหยานอย่างรวดเร็ว
พลัง แข็งแกร่งได้ปิดกั้นชิหยานให้อยู๋กับที่ ภายใต้ระเบิดการโจมตี ร่างเนื้อของชิหยานก็ถูกบดราวกับเป็นกระดาศ ในช่วงเวลานี้ นักรบจากทุกที่ได้รวมกันอยู่ที่เกาะสุริยัน
หยินหุ้ยจากเผ่าฉลามเงิน หยางอี้เทียน ยู่ชิง กู่ฉาว ชิงหมิงและคนอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในทะเลไม่มีสิ้นสุด ทั้งหมดก็มารวมกันหลังจากได้รับข่าว ตอนนี้ พวกเขากำลังจ้องไปที่จุดที่ประทะกัน
ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงจากพลังทุกประเภท ชิหยานร่างกายก็ปูดบวมและระเบิดออก ในขณะที่ร่างกายของเขาระเบิดแสงวิญญานของเขาก็บินตามวิญญานของโปวชุนไปยังรอยแยกมิติ
วิญญานของนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้านั้นได้ผ่านการฝึกฝนมาเนิ่นนาน มันยากที่จะลบล้างมัน
เป็นผู้เห็นชิยันวิญญาณบินออกไป พวกเขาต้องการให้มันหยุด แต่ตระหนักว่าไม่มีกองกำลังของพวกเขาทำงาน
” อย่าปล่อยไปให้รอดไปได้ !
เสียงมากมายก็ดังขึ้นเหนือเกาะสุริยัน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครกล้าที่จะส่งวิญญานของเขาออกไปเพื่อหยุดยั้งหการหลยหนี
เมื่อวิญญาณออกจากร่าง การโจมตีทางกายภาพไม่สามารถทำอะไรมันได้ ถ้าพวกเขาอยากทำลายวิญญานของนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้า พวกเขาจะต้องมีนักรบในระดับเดียวกันและใช้พลังวิญญานของตน
ยู่ชิง กู่ฉาว และคนอื่น ๆเป็นเพียงนักรบนภาแรกระดับพระเจ้า แน่นอน พวกเขาไม่กล้าที่จะทำอะไร
นู่หลางการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเรื่องของฉื่อหยาน ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดของเขา การต่อสู้กันด้วยวิญญานนั้นอันตราย ถึงแม้จะหยุดชิหยานได้แต่เขาก็ไม่อยากตกตายไปพร้อมกัน นู่หลางตอนนี้ อยู่ในสถานการ์กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก . เขาไม่ต้องการที่เสี่ยงทำอะไร แม้ว่าฉาวเชี่ยวเต้า และจักพรรดิหยางเทียนจะมีพลังที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ไม่เชี่ยวชาญการต่อสู้ทางวิญญาน ดังนั้น พวกเขาจึงไม่เสี่ยงกับมัน หยางอี้เทียนเป็นคนเดียวที่เชี่ยวชาญ แต่เขาก็กลัวว่า ถ้าเขาทำ ชิหยานจะลากเขาไปด้วย
เหล่าคนที่อยู๋ที่นี่กำลังลังเล วิญญานของชิหยานก็เข้าไปใกล้รอยแยกมิติขึ้นเรื่อยๆ เห็นชิหยานกำลังจะหายเข้าไปในรอยแยก และดูเหมือนจะไม่มีใครต้องการที่จะไล่ตามเขา ฉื่อหยาน ที่ไม่มีใครให้ความสนใจ ตอนนี้เองเขาก็เคลื่อนไหว
วิญญาณหลักของเขาพุ่งออกมาจากห้วงจิตสำนึกของเขา
วิญญานของฉื่อหยานกลายเป็นแสงสีเงินพุ่งไปใกล้กับวิญญานของชิหยาน เพียงกระพริบตา ตอนนั้นเอง ดวงตาที่สามในวิญญานหลักของเขาก็เปิดออก
เปลวไฟสีเงินพุ่งออกมาจากตาที่สามของเขาครอบคลุมท้องฟ้าทั้งหมดในพริบตา
” วิญญานหลักออกจากร่าง !”
จักพรรดิหยางเทียนสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่ลังเล บินลงมาที่ร่างของฉื่อหยานเพื่อปกป้อง
เมื่อวิญญานหลักออกจากร่างกาย ร่างกายจะอยู่ในภาวะหมดสติ ถ้าใครซุ่มโจมตีเขาในช่วงเวลานี้ เขาจะต้องตกตายแน่นอน
ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงก็ระวัง
นู่หลาง หยินหุ้ย เซี่ยซิงโหวและศพราชันย์ก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง . ทุกคนมาใกล้เขา จ้องมองออกไปด้วยความระมัดระวัง
” ปีนั้น เจ้าฆ่าปู่เซี่ยและสหายของข้า ! และ เกือบจะเอาชีวิตของข้าไป ! ” ฉื่อหยานต์จิตสำนึกวิญญานของเขาก็ส่งเสียวออกมา ” วันนี้ ที่เกาะสุริยันแห่งนี้ , ข้าจะทำลายวิญญานของเจ้าให้เจ้าหายไปตลอดกสล !
” เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน! “
หลาย ๆคนไม่สามารถช่วยได้ ได้แต่อุทานออกมาด้วยสีหน้ากหวาดกลัว
พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าไม่มีใครสามารถควบคุมเปลวไฟนภาในตำนวนที่สามารถทำลายวิญญาณทั้งหมดนี้ได้ แต่ตอนนี้ พวกเขาก็ได้เห็นสิ่งประหลาดนี้ปรากฏขึ้นบนโลกแล้ว
สายตาของจักพรรดิหยางเทียนก็ส่องประกายเหมือนไฟฉาย ถังหยวนหนานและคนอื่นๆก็สูดลมหานใจเข้าเขามุ่งเน้นจิตใจของพวกเขามองไปที่ฉื่อหยานด้วยความประหลาดใจ
ชิหยานวิญญานก็สั่นสะท้าน จากนั้นก็กระพริบและหลบเลี่ยงเปวไฟกลืนกินเก้าวิญญานที่ปกคลุม
” เจ้าไม่มีทางหนีข้าพ้น ! เลือดจะต้องล้างด้วยเลือด ! “ฉื่อหยานต์ด้วยจิตสำนึกวิญญานของเขา เขาก็ส่งความคิดออกมาอย่างเย็นชา ” แม้ว่าเจ้าจะเป็นราชาอสูร ข้าจะบอกเจ้าไว้เลยว่า เจาไม่มีทางหนีจากข้าฉื่อหยานคนหนีไปได้ ! “
เปลวไฟสีเงินมากมายทะลักออกมาครอบคลุมวิญญานของชิหยานขณะที่กำลังหนี ภายใต้เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน วิญญานของชิหยานก็ถูกเผาไหม้ทีละน้อย และส่งเสียงร้องที่เศร้าโศกออกมา
ทุกคนรู้สึกหนาวเย็นไปถึงขั่วกระดูกสันหลังเมื่อพวกเขามองไปยังสิ่งที่เกิดขึ้น
ชิหยานเป็นราชาอสูร เป็นนักรบที่มีชื่อเสียงในดินแดนสี่อสูร เขาได้อยู่บนจุดสูงสุดมาเนินนานหลายปี และฝันร้ายของนักรบในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม ภายใต้พลังของเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน ,โลกก็สั่นสะท้านพร้อมกับวิญญานของราชาอสูรกำลังถูกเผาอย่างน่าสังเวช
ฉากนี้ทำให้ใครหลายๆคนตกตะลึง ขณะที่พวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่สมควรไปขัดใจฉื่อหยาน
ขิหยานวิญญานของเขาก็ถูกเผาไหม้อยู่ในเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน และในที่สุดก็เงียบหายไปจากโลกนี้
คนที่โดนเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานแผดเผา วิญญานและจิตสำนึกของพวกเขาจะถูกทำลายและไม่มีทางฟื้นกลับคืนมาได้
พูดอีกอย่างก็คือ ชิหยาน ได้ตกตายหายไปอย่างสมบูรณ์
ปีนั้น เมื่อราชาอสูรปรากฏบนเกาะสุริยัน เขาได้สร้างความหวาดกลัวแก่นักรบจำนวน แต่ในวันนี้ เขากลับถูกทำลายอย่างสมบูรณ์โดยฉื่อหยาน
” กลับสู่ร่างกายของเจ้าเร็วเข้า !” จักพรรดิหยางเทียนตะโกนออกมา
ฉื่อหยานต์วิญญาณก็สั่นสะท้านในอากาศ กลายเป็นแสงสีเงินพุ่งลงมาจากบนฟ้า
ในบรรดานักรบของทะเลไม่มีสิ้นสุดที่เฝ้าดูอยู่ บางคนอยากจะคว้าโอกาสนี้ และแอบเข้าไป แต่ก็หวาดกลัวเมื่อเห็นผู้คนที่ล้อมอยู่รอบๆฉื่อหยาน
นู่หลาง นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าทะเล จักพรรดิหยางเทียนจากตระกูลหยาง โอหยางลู่ซวงนักรบรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่ง เซี่ยซิงโหว สองศพราชันย์ หยินหุ้ยจากเผ่าฉลามเงิน และประมุขถังหยวนหนาน ที่น่าหวาดกลัวที่สุดคือสัตว์อสูรระดับแปด และหุ่นเหล็กสีดำ
กองกำลังนี้นับได้ว่าแข็งแกร่งที่สุด
แวบแรกที่เห็น ก็ไม่มีใครกล้าขยับ เนื่องจากพวกเขากลัวว่า การเคลื่อนไหวของพวกเขาจะถูกตีความผิด ๆและพวกเขาก็จะถูกขยี้ในเสี้ยวพริบตา
ในทะเลกว้างใหญ่ ไม่มีใครเคยรวบรวมนักรบที่น่ากลัวในเช่นนี้มาก่อน และยังทำให้พวกเขาเต็มใจที่จะปกป้อง
แต่ฉื่อหยานทำได้ !
ชายหนุ่มคนนี้ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสิบปีในทะเลกว้างใหญ่ ก็สามารถสั่นคลอนท้องฟ้าและผืนดินได้ ด้วยศักยภาพของเขาและนักรบที่แข็งแกร่งมากมายจากทั่วทะเลไม่มีสิ้นสุดได้เข้าหาเขา
ในช่วงเวลานี้ หลายคนก็เริ่มเสียใจและความกลัวก็เติบโตขึ้นในจิตใจของพวกเขา ราชินีนภา กษัตริย์ปฐพี ชิงหมิง และกู่ฉาวเป็นเหล่านักรบที่เคยต่อสู้กับเขา ทั้งหมดจู่ๆก็รู้สึกสิ้นหวัง
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาอ่อนแอ มันเป็นเพียงแต่ว่าฉื่อหยานนั้นแข็งแกร่งเกินไป ชายหนุ่มผู้นี้กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว พวกเขาก็ทำได้เพียงจ้องมองเท่านั้นแล้ว
ด้วยสายตาที่จ้องมองอย่างสนใจ ฉื่อหยานต์วิญญาณก็กลับมายังร่างเนื้อ แววตาสดใสขณะที่ยิ้มออกมา
” เยี่ยม”
จักพรรดิหยางเทียนหัวเราะอย่างเบิกบานใจ . เสียงหัวเราะของเขาดังก้องไปทั่วโลกราวกับว่าเขาจะประกาศให้โลกรู้ว่าตระกูลหยางได้กลายเป็นตระกูลที่ส่องประกายสดใสที่สุดในทะเลไม่มีสิ้นสุด เหนือกว่ากองกำลังทั้งหมด
” หยางเกอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ” หยางอี้เทียนยิ้มอย่างเย็นชา , สักพักเขาก็พูดต่อ . ” ตามแผนของเรา ตอนนี้เราต้องไปจัดการราชาทมิฬต่อใช่หรือไม่ ?”
เหล่าคนที่มารวมกันอยู่เกาะสุริยันก็ตกตะลึง ราวกับพวกเขาไม่เข้าใจอะไร
ฉื่อหยาน ก็ตกใจ มองอย่างสงสัยไปที่จักพรรดิหยางเทียน” ท่านปู่ใหญ่,ท่าน ฉาวเชี่ยวเต้า และหยางอี้เทียนมีข้อตกลงอะไรกันรึ ?
” หลอกล่อเผ่าอสูรให้มายังทะเลไม่มีสิ้นสุด , และฉวยโอกาสนี้ห่าราชาอสูรทั้งสอง . . . . . . . นั่นเป็นแผนของเรา ” จักพรรดิหยางเทียนขดริมฝีปากของเขา” ตลอดห้าสิบปีที่ผ่านมา , เราต้องการที่จะลบภัยคุกคามจากเผ่าอสูร เรามีแผนที่จะจัดการพวกเขามานานแล้ว . เมื่อราชาอสูรอยู่ที่ดินแดนอสูร ต่อให้เราใช้พลังทั้งหมด มันก็ยากเกินไปที่จะห่าราชาอสูร ในดินแดนอสูร พลังของอสูรจะแข็งแกร่งขึ้นสามในสิบส่วน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถใช้รูปแบบและการป้องกันที่มีมาตลอดหลายร้อยปีได้ ต่อให้พวกเราสามารถชนะพวกเขาได้ พวกเขาก็จะหลบหนีกลับไปยังดินแดนอสูรอยู่ดี ดังนั้น มีเพียงนำพวกเขามายังทะเลไม่มีสิ้นสุด ซึ่งทำให้พวกเขามีข้อจำหัดและไม่สามารถยืมพลังจากดินแดนอสูรได้
จักพรรดิหยางเทียนยิ้มอย่างเย็นชา พูดออกมาด้วยเสียงดังสนั่นจนแผ่นดินสั่นสะเทือนท่ามกลางสายตาของผู้คน
มันกลับกลายเป็นว่า ฉาวเชี่ยวเต้า หยางอี้เทียน และเขาไม่เคยต่อสู้ตกตายกันเลย
การต่อสู้หลายครั้งที่เกิดขึ้นนั่นเพียงแต่หารือกันเกี่ยวกับวิชาต่อสู้เท่านั้น หลังจากการต่อสู้แต่ละครั้ง พวกเขาก็จะไปปิดด่านฝึก นี่ทำให้คนอื่นเชื่อว่าพวกเขาบาดเจ็บ และก็สามารถหลอกราชาอสูรให้บุกมายังทะเลไม่มีสิ้นสุดได้
จักพรรดิหยางเทียนเริ่มบุกรุกดินแดนอสูรและยอมถูกคุมขังโดยราชาอสูร ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพวกเขา
ตระกูลหยางมีร่างกายที่ไม่มีวันสลาย ในช่วงเวลาที่เขาถูกคุมขัง เขาได้ใช้เลือดของเทพเจ้าราชันย์ ฝึกฝนกายเนื้อของเขา เพื่อให้ร่างกายอมตะของเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นต่อไปที่ลึกซึ้งหว่าเดิม ในเวลาเดียวกัน ทุกกองกำลังก็มุ่งเป้าไปที่ตระกูลหยาง ทำให้พวกเขาต้องออกจากทะเลไม่มีสิ้นสุด ต่อมา เมื่อกองกำลังเหล่านั้นช่วยเหลือเผ่าอสูร การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในการคำนวนของทั้งสมคน ขณะที่พวกเขาใช้กองกำลังของตัวเองเคลื่อนไหวในทะเลไม่มีสิ้นสุดอย่างรอบคอบ เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของทะเลไม่มีสิ้นสุดให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้
กู่ฉาว ชิงหมิง ตงฟางก้วย และยู่ชิงก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในแผนของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว ทีละน้อย พวกเขาก็ได้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นวันนี้
เมื่อจักรพรรดิหยางเทียนพูดจบ นักรบก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
“สามราชาทมิฬกำลังมาที่นี่ เราไม่ควรรอช้า เราควรจะลงมือทันที “หยางอี้เทียนพูดกระตุ้น .
ฉาวเชี่ยวเต้าและจักพรรดิหยางเทียนพยักหน้า มองไปยังทะเลเคียร่า
” ท่านปู๋ใหญ่ ” ฉื่อหยานเหมือนจะจำอะไรได้ เขาก็ทักขึ้น
” อะไรรึ ? ” จักพรรดิหยางเทียนยิ้ม ” มีอะไรที่เจ้าไม่เข้าใจ ? ”
” เผ่าปีกและเผ่าอสูรเป็นผู้รับใช้ของข้า พวกเขาได้ไปอยู่กับเผ่าอสูรแลพเผ่าทมิฬชั่วคราว ห้ามทำอะไรพวกเขาเด็ดขาด”ฉื่อหยานพูดด้วยสีหน้ามืดมน
ทุกคนก็งุนงง มองเขาด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ.
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1403 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <