บทที่ 486 แย่งชิง
ทั้งจิตำสนึกและวิญญาณของชิหยานถูกทำลาย โปวชุนเหลือเพียงเศษเสี้ยววิญญานที่่อ่อนแอแอบเข้าไปในรอยแยกมิติ,เมื่อสองราชาอสูรได้หายไป เผ่าอสูรในทะเลไม่มีสิ้นสุดกํ็กำลังจะเผชิญกับโศกนาฏกรรมที่กำลังจะไปเยือน
เผ่าปีกที่ได้เข้าร่วมกับเผ่าอสูรและพวกก็ได้เป็นกองกำลังของเผ่าอสูณ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะกลายเป็นเป้าหมาย ชัดเจน ถ้าฉื่อหยานไม่ปกป้องพวกเขาไว้ พวกเขาจะต้องสูญพันธ์
เผ่าอสูรถูกจัดการสร็จเรียบร้อย และเหลือเพียงเผ่าทมิฬ เผ่าทมิฬเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัติครั้งนี้ แลพเผ่าเสียงอสูรก็อาจจะถูกนำมายุ่งเกี่ยวกับหายนะในครั้งนี้ได้
ไม่ว่าจะเป็นเผ่าปีกหรือเผ่าเสียงอสูร เขาก็ได้ช่วยชีวิตพวกเขามาจากหุบเหวสนามรบ เขาไม่ได้มี ความแค้นอะไรกับตี่ฉานและอีเทียนโหมว ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งตระกูลถูกควบคุม ตี่ฉานและอีเทียนโหมว ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมเข้าร่วมกับเผ่าอสูรและเผ่าทมิฬ . นี้ก็เพื่อการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์ของพวกเขาและไม่มีอะไรที่พวกเขาจะต้องละอายใจ
นักรบของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดกำลังใช้โอกาสนี้กวาดล้างในครั้งเดียว ด้วยการบุกลุกของเผ่าอสูรและเผ่าทมิฬ ถ้าฉื่อหยานไม่ได้ปกป้องพวกเขาเผ่าของ ตี่ฉาน และอี้เทียนโหมวจะต้องหายไปจากโลก
เพราะความสัมพันธ์เก่า เขาถึงได้พูดเพื่อผลประโยชน์ของตนได้
” เผ่าปีกและเผ่าเสียงอสูรเป็นผู้ติดตามเจ้ารึ?” จักพรรดิหยางเทียนดวงตาตกตะลึง
” ถูกต้อง ” .
จักพรรดิหยางเทียนสแยะยิ้มและพยักหน้า ” ไป ข้าได้คิดไว้แล้ว ” .
” พ่ี่ชาย เราจะไปไหนรึ ? ” หยางอี้เทียนกระตุ้น .
จักพรรดิหยางเทียนยิ้มมองไปยังทะเลเคีย่รา” มันถึงเวลาที่จะทวงดินแดนของตระกูลหยางกลับมาแล้ว ” จักพรรดิหยางเทียย ฉาวเชี่ยวเต้า และหยางอี้เทียน ก็มองหน้ากันและมุ่งไปยังทะเลเคียร่า
นั่นคือที่อยู่อาศัยของเผ่าทมิฬในปัจจุบัน
นักรบคนอื่น ๆของทะเลไม่มีที่สิ้นที่เหลืออยู่บนเกาะสุริยันก็จ้องมองด้วยความตกใจ . พวกเขาจ้องฉื่อหยาน แล้วจ้องไปยังทิศทางที่จักพรรดิหยางเทียนและอีกสองคนหายไป ความรู้สึกขมขื่นกัดกินหัวใจของพวกเขา
พวกเขาทั้งสองคนนั้นได้หลอกใช้นักรบจากทะเลไม่มีสิ้นสุด ราวกับพวกเขาอยู่ในกำมือ แผนการกำจัดเผ่าอสูรนั้นมีมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็จัดการกับราชาอสูรทั้งสองได้
เมื่อสงครามจบลง เผ่าอสูรจะต้องทุกข์ทรมานจากการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ และ เหล่าอสูรที่เข้ามายังทะเลไม่มีสิ้นสุดก็จะถูกกวาดล้าง
เมื่อราชาอสูรผู้เป็นนายถูกจัดการ ดินแดนสี่อสูรก็กลายเป็นร้างลา คนจากตระกูลหยางที่บุกไปยังดินแดนอสูรก็ฉวยโอกาสนี้ยึดครองอำนาจของดินแดนสี่อสูร
ในประวัติศาสตร์ของแผ่นดินรุ่งเรือง มีบางครั้งมนุษย์สามารถยึดดินแดนอสูรได้ อย่างไรก็ตาม , สิ่งที่เกิดขึ้นก็นับได้ว่าพิเศษ ซึ่งเกิดขึ้นๆไม่บ่อยนัก
ตระกูลหยางต้องอดทนต่อความอัปยศและต้องใช้ทุกความยากลำบากถึงสามารถสร้างรากฐานที่มั่งคลั่มากมายได้
” พวกเจ้ายังต้องการที่จะจัดการข้าอยู่อีกหรือไม่ ? ” ฉื่อหยานใบหน้ามืด . เขายิ้มจนเห็นฟันมองไปที่กลุ่มของกู่ฉาว ” หึ เราค่อยมาจัดการเรื่องของเรา แต่ข้าว่าตอนนี้ยังไม่เหมาะ พวกเจ้าเห็นด้วยไหม ? “
กลุ่มของชิงหมิง กู่ฉาว คงฟางก้วยสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไป
ด้วยปีศาจสงคราม นู่หลาง หยินหุ้ย โอหยางลู่ซวง ถังหยวนหนาน และศพราชันย์ทั้งสองที่ยืนอยู๋ข้างๆฉื่อหยาน
ถ้ากองกำลังนี้ต้องการจะก่อสงครามในทะเลไม่มีสิ้นสุด แม้แต่ฉาวเชี่ยวเต้าจากตระกูลฉาวและหยางอี้เทียนจากพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ก็ไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ แล้วนับอะไรกับกลุ่มของฉิงหมิง
เมื่อได้ยินฉื่อหยานพูดเช่นนั้น กู่ฉาวก็กลัวและมองหน้านักรบคนอื่นๆพร้อมกับหนีไปอย่างน่าสังเวช
” ออกมาเจ้าร่างกระดูกขาว !
รอจนกระทั่งคนอื่นจากไป ฉื่อหยานก็ตะโกนออกมาเล็กน้อย ดวงตาของเขาจ้องไปที่ร่างกระดูกเขาที่อยู่ในหุบเขาบนเกาะสุริยัน
ร่างกระดูกขาวนี้เป็นของโปวชุน มันมาจากเกาะมังกรเหมัน แต่เมื่อมันมาถึงสถานที่แห่งนี้มันก็ถูกซัดกระจายหายไป มันแอบฟื้นฟูอย่างลับๆ แต่เมื่อมันฟื้นฟูเสร็จร่างของโปวชุนก็ถูกทำลานและวิญญานก็หลบหนีไปแล้ว
เมื่อเจ้านายของมันหายไป พลังวิญญานของโปวชุนที่อยู่ในร่างกระดูกขาวก็หายไปด้วย
ร่างกระดูกขาวกลายเป็นไร้ซึ่งเจ้านาย
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในประกายแสงพลังปราณก็กลายเป็นลำแสงพุ่งไปยังร่างกระดูกขาว
เมื่อเขาอยู่บนเกาะมังกรเหมันในปีนั้นน เขาได้สัญญากับจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ว่าเขาจะหาร่างที่เหมาะสมกับมันให้ เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และตอนนี้ก็เหมาะสมพอดี
” ยังคงมีเศษเสี้ยววิญญานของโปวชุนอยู่ “
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่เหนือร่างกระดูกขาว มันไม่ได้เข้าไปในร่างทันทีแต่ส่งข้อความออกมา
ฉื่อหยานยิ้มอย่างเย็นชา ” นี้ช่างง่ายดาย”
สายตาของเขาจ้องมองไปที่ร่างกระดูกสีขาว กลุ่มก้อนเปลวไฟสีเงินลุกโชรในดวงตาของเขา และพุ่งไปยังร่างกระดูก
เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน !
เปลวไฟได้พุ่งไปที่ร่างกระดูก เคลื่อนไหวไปรอยๆและเผาเศษเสี้ยววิญญานที่เหลืออยู่ของโปวชุนเป็นเถ้าถ่านแล้วจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้แทรกเข้าไปยังช่องว่างระหว่างร่างกระดูกขาวพร้อมกับส่องประกายแสงเย็นยะเยือกออกมา
แกร๊กก !
ร่างกระดูกสีขาวก็ขยับช้าๆ เกิดเป็นเสียงข้อต่อดังออกมา , เป็นจิตวิญญานพระเจ้าสักดิ์สิทธิ์ ที่กำลังพยายามควบคุมร่างใหม่
” รู้สึกยังไงบ้าง ? “ฉื่่อหยานยิ้ม
” ไม่เลว ” จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์กล่าว ” ข้าไม่ได้มีร่างจริงมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ดังนั้นข้าจึงไม่อาจสัมพัสได้ถึงร่ายกายอย่างสมบูรณ์ ใช่ ข้าต้องการเวลาเพื่อปรับตัว และดูเหมือนว่าการมีร่างกายนั้นมันดีเป็นอย่างมาก ยอดเยี่ยมจริงๆ ! ข้าขอบคุณเจ้ามาก มันคุ้มค่ายิ่งนักที่ได้อยู่กับเจ้า “
ฉื่อหยานพยักหน้าอย่างพอใจ
” นี่ . . . . . . . . “
นู๋ลางขมวดคิ้ว แล้วรำพึง . มันดูเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด หยินหุ้ยก็ยิ้มออกมา ” . ข้ามาสาย และไม่ได้ช่วยอะไรมาก เช่นนั้น ข้อตกลงของเรา . . . “
พวกเขาต้องการวารีแรกเริ่มชีวิต
” ไม่ต้องเป็นห่วง รอจนกว่าสถานการร์ในทะเลไม่มีสิ้นสุดจะเสร็จสิ้นเสียก่อน . ข้าจะให้มันกับท่าน ข้ารักษาคำพูดของข้า . ” ฉื่อหยานสีหน้าก็เคร่งขรึม ” ประมุขนู่หลาง , สถานการณ์ของทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั้นได้เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา ข้าคิดว่าเราควรจะแก้ไขความตกลงระหว่าง เรา”
” ยังไง ? “
” ข้าต้องการเวลาเพิ่มเติ่ม . ” ฉื่อหยานรำพึงแล้วพูด ทันใดนั้น เขาก็ขมวดคิ้วของเขา ลำแสงพุ่งออกจากดวงตาของเขามุ่งไป ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุริยัน
กลิ่นอายที่คุ้นเคยลอยมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุริยัน
มันคืออสูรล่าวิญญาน [TL. น่าจะเป็นไอ่สัตว์อสูรลูกผสม ที่ื่ฉื่อหยานเอาไปเก็บไว้ ก่อนไปหุบเหวสนามรบ ผู้แปลลืมชื่อเก่ามันไปแล้ว และตอนนี้ผู้แปลอิ้งปัจจุบันก็แปลว่ามันคือ Ghost Hunter ]
สัตว์อสูรแปลกประหลาดนี้มีการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณกับเขา ตอนที่พวกเขามายังเกาะสุริยัน ไม่รู้ว่าทำไมสัตว์อสูรนี่ถึงไปกับชิหยานแลพโปวชุน เมื่อโปวชุนตาย อสูรล่าวิญญานนี้ก็ปลดปล่อยกลิ่นอายของตนออกมา นี่ทำให้เขาแปลกใจ
เขาลังเลอยู่สักพัก จากนั้นก็กลายเป็นเส้นแสงมุ่งไปยังอสูรล่าวิญญาน
ปีศาจสงครามก็ตามเขาไป
นู่หลาง หยินหุ้ย ถังหยวนหนาน และคนอื่นๆ ก็สงสัย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมฉื่อหยานถึงได้รีบไป.
พวกเขาคิดสักพักแล้วตามเขาไป
ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุริยันกลิ่นอายทมิฬที่ชั่วร้ายก็ลอยออกมาจากใต้แนวปะการัง น้ำทะเลก็เดือดพล่านในขณะที่มีหมอกควันลอยออกมาหนาแน่น . . สิ่งมีชีวิตที่มีหนามขึ้นหนาแน่นกำลังกอดบางสิ่งอยู่ใต้ทะเล พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อนที่จะจัดการสิ่งนั้น
อสูรระฆัง
สมบัติลับแปลกประหลาดของโปวชุนได้ตกลงมาทะเลตรงนี้ ตอนนี้ อสูรล่าวิญญานกอดมันไว้อย่างแน่น เสียงกระดิ่งดังเป็นระลอกคลื่นพร้อมกับแสงอสูร ดิ้นรนในอ้อมกอดของอสูรล่าวิญญาน พลังของมันแข็งแกร่งเป็นอย่างมากทำให้อสูรล่าวิญญานสั่นสะท้าน
อสูรล่าวิญญานดวงตาทั้งสองข้างก็เปิดออก ด้วยจิตสังหารที่รุนแรงมันก็จ้องไปที่ฉื่อหยาน
” ไม่เจอกันนานนะ ” ฉื่อหยานขมวดคิ้ว และสูดลมหายใจเข้่ “ทำไมคุณถึงออกไปกับชิหยานและโปวชุน ? ตอนที่เราอยู่ในภูเขาอสูรพิโรธ ข้าขอให้คุณรอข้าอยู่ที่นั่น ทำไมเจ้าไม่ทำตามคำพูดของข้า “
ภายในดวงตาของอสูรล่าวิญญาน เขาก็เห็นผลึกแปลกประหลาดมันส่องกระกายระยิบระยับชั่วร้าง ผนึก นี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของมัน
ในทันที่ อสูรล่าวิญญานดูเหมือนกำลังต่อสู้อย่างหนักกับผนึกในดสงตา ใบหน้าของมันมืดมนอย่างเจ็บปวด
” โปวชุน และ ชิหยานผนึกวิญญานของเจ้าไว้รึ ข้าเห็นตราประทับแบบนี้ตอนที่ข้าตอนที่ข้าต่อสู้กับพวกเขา ตรานี้มีอำนาจผูกวิญญาณอย่างชั่วร้าย ” นู่หลางยืนอยู่ไกลจากที่นั่น เขาขมวดคิ้วมองอสูรล่าวิญญาน” นี่เป็นสัตว์อสูรที่แปลกนัก มันมีทั้งพลังปราณอสูรและพลังปราณทมิฬ ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน มันคืออะไร ? ”
หยินหุ้ยและคนอื่น ๆก็สงสัยเช่นกัน
ฉื่อหยานไม่ได้อธิบาย เขาเพียงแค่มองอสูรล่าวิญญานในขณะที่ปล่อยจิตวิสำญญาณของเขาออกไปที่สัตว์อสูรนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อจิตสำวิญญาณของเขาเข้าหาสัตว์อสูรกลิ่อนายพลังหยินที่รุนแรงก็พุ่งออกมาพยายามทำลายจิตสำนึกวิญญานของเขา ยิงออกไป พยายามที่จะทำลายจิตวิญญาณของเขา
” อะไรกัน ! “
ฉื่อหยานยิ้มจนเห็นฟัน ในขณะที่ดวงตาของเขามีเปลวไฟสีเงินลุกโชน , ปกคลุมทั่งร่าวของอสูณล่าวิญญาน
เมื่อแสงเข้าไปใกล้มากขึ้น อารมณ์หงุดหงิดของอสูรล่าวิญญานก็ราวกับถูกสะกด มันหยุดเคลื่อนไหว และแม้แต่ดวงตาของมันก็กลับกลายเป็นว่างเปล่า
” แผดเผา ! “
ฉื่อหยานาตะโกนออกมา เขาใช้เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานอย่างรอบคอบ เขาหาผนึกวิญญานที่อยู่ในสมองของอสูณล่าวิญญาน และเผามันอย่างระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เปลวไฟสัมพัสกับวิญญานของอสูรล่าวิญญาน
ระว่างฉื่อหยานและอสูรล่าวิญญานนี้มีการเชื่อมต่อกัน เป็นอสูรวิญญานที่อยู่จริงๆเพื่อให้เขาจัดการกับการผนึกในหัวของมัน จิตใจของมันเปิดกุย ปล่อยให้จิตสำนึกวิญญานของฉื่อหยานเข้าไป
หลังจากนั้นไม่นาน เปลวไฟที่เข้าไปในวิญญานของอสูรล่าวิญญานก็เจอผนึกที่ฝังอยู่
หลังจากที่โปวชุนและชิหยานตาย พลังของอุปสรรคของพวกเขาถูกลดลงอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่อสูรล่าวิญญานมีความแข็งแรงที่จะต้านทานมันได้ พลังของมันก็อ่อนแอลง มิฉะนั้นภายใต้ผนึกนี้ วิญญานของมันยังคงต้องถูกควบคุมอยู่ , อสูรล่าวิญญานนี้จะไม่สามารถแม้แต่จะกระดิกนิ้วได้
ชู่ววว ชู่วว !
เป็นผนึกวิญญานที่ถูกเผา , ความเจ็บปวดก็หายไป , อสูรล่าวิญญานที่รู้สึกหงุดหงิดก็กลายเป็นสงบ
ฉื่อหยานลักษณะก็เปลี่ยนไปเมื่อมองอสูรระฆัง เปลวไฟสีเงินลอยออกมาจากดวงตาของเขา ทันใดนั้น ผนึกที่อยู่ในอสูรระฆังของโปวชุนก็ถูกทำลาย
เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานนั้น น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก มันสามารถทำลายผนึกหรือรูปแบบที่ผูกมัดวิญญานอยู่ได้ราวกับหงายฝ่ามือ
เมื่อผนึกของโปวชุนหายไป ระฆังก็ไร้ซึ่งเจ้านาย. มันไม่ได้ดินรนภายใต้ร่างของอสูรล่าวิญญานอีกต่อไป ตอนนี้ อสูรล่าวิญญานจ้องมองมาที่เขาอย่างสงบ จากนั้นมันก็ส่งข้อความ ” นายท่าน !
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1404 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <