บทที่ 489 ตำนานบทใหม่ !
ครึ่งเดือนต่อมา
ทะเลไม่มีสิ้นสุด หลังจากสองปีของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดที่นี่ก็กลายเป็นเงียบสงบ
ด้วยกองกำลังที่ ฉื่อหยาน จึงไม่สามารถช่วยที่ทุกกองกำลังที่ทรงอำนาจจะน้อมหัวให้กับชายหนุ่ม พวกเขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นทรัพยากรของพวเขาที่เก็บสั่งสมมานับร้อยปีมาที่เกาะอมตะตามคำสั่ง
ทรัพยากรที่ถูกนำมาให้นั้นนับได้ว่าเป็นสองเท่าจากที่ตระกูลหยางเคยมี
หลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้ มีเพียงตระกูลหยางเท่านั้นที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด ไม่เพียง แต่พวกเขาจะได้รับทรัพยากรบ่มเพาะจากผู้อื่น แต่พวกเขายังบุกไปยังดินแดนอสูรและทำให้เผ่าอสูรตกเป็นทาส และ พวกเขาก็เริ่มที่จะรวบรวมทรัพยากรที่มีค่าและแปลกประหลาดของดินแดนอสูรที่ไม่อาจหาได้ในทะเลไม่มีสิ้นสุด
หลังจากที่โปวชุนและชิหยานถูกจัดการ ดินแดนอสูรก็กลายเป็นวุ่นวาย เผ่าอสูรที่ได้บุกมายังทำสงครามตอนนี้ พวกเขาก็ไม่กลายเป็นภัยคุกคามใดของทะเลไม่มีสิ้นสุดอีก
ตระกูลหยางส่วนหนึ่งที่ย้ายไปอยู่ที่ดินแดนอสูรก็ยังคงอยู่ที่นั่น ในขณะที่ส่วนอื่นๆเริ่มกลับมารวมกันที่ทะเลเคียร่า
ตระกูลหยางได้กวาดล้าง ดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ หนึ่งในผู้ทรยศของพวกเขาจนหมดสิ้น ผู้นำของพวกเขาถูกฆ่าตาย
ตระกูลหยางและตระกูลเซี่ยได้ แบ่งปันเกาะของดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ซึ่งกัน ตระกูลเซี่ยได้กลายเป็นหนึ่งในกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด พวกเขาอยู่เคียงข้าง เคียงบ้าเคียงไหล่กับตระกูหยาง
นู่หลาง และหยินหุ้ยจากชนเผ่าทะเลพวกเขาก็ได้รับวารีแรกเริ่มชีวิตคนละหยด นี่ทำให้พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
นู่หลาง และหยินหุ้ยยังคงรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและฉื่อหยานไว้ ทำให้เมื่องใต้บาดาลกลายเป็นมั่งคังและประสบความสำเร็จเช่นที่พวกเขาไม่เคยมีมาก่อน
ในก้นทะเล ไม่มีชนเผ่าทะเลจากคนใดกล้ายั่วตระกูลหยาง . นู่หลาง และหยินหุ้ยได้เตือนสมาชิกทุกคนของพวกเขา แสดงให้เห็นว่า ตระกูลหยางเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดของพวกเขาในอนาคต
นู่หลางนั้นเป็นนักรบที่แข็งกแกร่งในระดับต้นๆของทะเลไม่มีสิ้นสุด และเผ่ามังกรสมุทรดำเองก็ยังเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดใต้ทะเล
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับตรงๆ ว่า นู่หลางนั้นไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในทะเลไม่มีสิ้นสุด บุคคลอันตรายที่สุดคือฉาวเชี่ยวเต้า จักพรรดิหยางเทียนหรือหยางอี้เทียน และคลื่นลูกใหม่ ฉื่อหยาน
นู่หลาง เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วว่า วันหนึ่ง หากไม่มี ฉื่อหยาน เผ่าทะเลคนไม่ได้มีโอกาสขึ้นไปยังพื้นดิน
การต่อสู้บนเกาะสุริยันได้เปลี่ยนชะตากรรมทั้งหมดของทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุดและแม้แต่ดินแดนอสูรเองก็เปลี่ยนแปลง ประวัติศาสตร์จะต้องจาลึกการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้ และในหน้าประวัติจะมีชื่ิอของฉื่อหยานโดดเด่นที่สุด
มากกว่า จักพรรดิหยางเทียน ฉาวเชี่ยวเต้า และหยางอี้เทียน เขาจะกลายเป็นตำนานบทใหม่ของทะเลไม่มีที่สิ้นสุด
หัวหน้าเผ่าที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่รวมทั้งนู่หลาง หยินหุ้ย เปาเค่อ และลิซ่า ต่างก็ตกลงว่า ในดินแดนใต้ทะเลพวกเขา จะรักษาการค้าและมิตรภาพระหว่างตระกูลหยางไว้ ตราบใดที่ฉื่อหยานยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็จะรักษามันไว้พิจารณาตระกูลหยาง ชนเผ่าทะเลยังคงมอบอำนาจในเมืองใต้บาดาลให้ตระกูลหยางปกครอง และเขาจะไม่นุ่งกับเกี่ยวกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองใต้บาดาลหากไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา
ไม่ใช่เพราะพวกเขาเห็นแก่หน้าจักพรรดิหยางเทียน แต่มันเป็นเพราะฉื่อหยาน
ฉาวเชี่ยวเต้าและหยางอี้เทียนก็ไม่ได้สนใจที่ฉื่อหยานได้ฆ่าจั่วเยว่เฟิงและเสินตู่เจี่ยแม้แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามพวกเขาสรรเสริญชายหนุ่มด้วยซ้ำ ถ้าคนเหล่านั้นไม่จองเวรเขา หรือไม่สั่งให้คนของตนล้างแค้นเขา ทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น
พรรคสามเทพกับตระกูลหยางนั้นกลมเกลียวกันเป็นอย่างมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ถังหยวนหนาน มักจะมาเกาะอมตะเพื่อหารือกับฉื่อหยาน เกี่ยวกับสถานการณ์ของไม่มีที่สิ้นสุดในทะเล มารยาทของเขาอ่อนโยนและถ่อมตนมากขึ้น ไม่ถือว่าตัวเองเป็นประมุข แต่ปฏิบัติราวกับเป็นมิตรสหาย
ภาพรวมทั้งหมดของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดได้เปลี่ยนแปลงไปอย่าตกตะลึงด้วยชายหนุ่มเพียงคนเดียว
เกาะอมตะ
” นี่เป็นบัญญัติอมตะ ความมหัศจรรย์ของจิตวิญญานอมตะและหยดโลหิตอมตะถูกบันทึกไว้ในบัญญัติอมตะนี่ ” จักพรรดิหยางเทียน หัวหน้าตระกูลหยางก็ยิ้มอยู่ในห้องโถงหลักของตระกูลหยาง เขาดึงหนังสือเก่าออกมาจากแขนของเขาและโยนมันให้ ฉื่อหยาน
ฉื่อหยานจับแคนนอน อมตะ มองมันด้วยสีหน้าแปลก ๆ ” เจ้าปู่เยี่ยม ข้าแค่อยากทราบเนื้อหาของ Canon ที่เป็นอมตะ ไม่ต้องเอามาทั้งหมดเลย “
” นายไม่รู้จักความเจ็บปวดในหัวใจของนายหัวของเรา ? ” ชูร่ากษัตริย์โมเดื นส่ายหัว ปั้นหน้ายิ้ม . ศีลเป็นสมบัติล้ำค่าของเหรอว่าพวกตระกูลหยาง . ครูใหญ่ส่งมันให้กับเจ้าแล้ว และเจ้าไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ?
ในหอประชุมใหญ่สองกษัตริย์โมชูร่าด้วนฮุน , ลีมูยืนอยู่ นอกจากนี้ บุคคลสำคัญของตระกูลหยาง และหยางหยางโจวชอบลาวยังปรากฏ เขายิ้มกับ ฉื่อหยาน
ฉื่อหยาน ตกตะลึง . หลังจากนั้น ดวงตาของเขาก็ส่องประกาย ” ท่านปู่ใหญ่ . . . “
” ตระกูลหยางจะเป็นของเจ้าในอนาคต ” จักพรรดิหยางเทียนยกมุมปากของเขา “ข้าพยายามมาทั้งชีวิต แต่ข้าสามารถทำได้เพียง ให้ตระกูลหยางเป็นตระกูลหนึ่งในสามที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลแห่งนี้เท่านั้น แต่เมื่อเจ้ามา เพียงเวลาไม่ถึงสิบปี เจ้าก็สามารถปกครองทะเลไม่มีสิ้นสุดได้ราวกับเป็นประมุข ด้วยคำพูดของข้า ในฐานะหัวหน้าตระกูลหยาง ตอนนี้เจ้ามีสิทธิที่จะเป็นผู้นำตระกูลหยางมากกว่าข้า ข้าจะให้มอบบัญญัติอมตะให้กับเจ้า ซึ่งนั่นหมายความว่า ข้าจะประกาศให้ทุกคนว่าเจ้าจะเป็นหัวหน้าตระกูลหยาง เมื่อข้าต้องปิดด่านฝึกตนเป็นเวลานาน เจ้าจะต้องดูแลตระกูลหยางแทนข้า “
” ท่านปู่ . . . . . . . ” ฉื่อหยาน ฝืนยิ้ม เขาลังเลอยู่สักพัก เขาหยิบบัญญัติมา ” ท่านปู่ ข้าคิดว่าข้าทำให้ท่านผิดหวังแล้ว “
นักรบที่แข็งแกร่งของตระกูลหยางต่างก็กลายเป็นงุนงงเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น
” ทำไมรึ ? ” แม้แต่จักพรรดิหยางเทียน ก็ประหลาดใจ ” การได้เป็นหัวหน้าตระกูลหยาง เท่ากับว่าในทะเลไม่มีสิ้นสุดเจ้านั้นมีอำนาจสูงสุด เจ้าสามารถทำได้ และมันยังเป็นสิ่งเจ้าสมควรได้รับ ทำไมเจ้าถึงปฏิเสธกัน ? “
” ข้าต้องการไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่กวา้างใหญ่ ทะเลไม่มีสิ้นสุดไม่ใช่จุดหมายปลายทางของข้า ข้าจะไม่หยุดเดินทางเพียงแค่นี้ ” ดวงตาของฉื่อหยานก็ส่องประกาย.” ข้าเคยได้ยินเรื่องลึกลับมากมายเกี่บวกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นเรื่องจริง สถานที่แห่งนั้นเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินรุ่งเรือง มีนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด และน่ากลัวที่สุดอยู่ที่นั่น ทั้งเผ่าพันฑ์ลึกลับ และ จิตวิญญานต่อสู้ที่เก่าแก้ที่สุด และที่สำคัญ ซินหยานอยู่ที่นั่น”
จักพรรดิหยางเทียนก็แปลกใจ เขาอึ้งไปครึ่งนาที ก่อนจะถอนหายใจ ” . เช่นนั้น หัวใจของเจ้าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่สินะ ได้ ไม่เป็นไร ด้วยศักยภาพของเจ้า แม้เจ้าจะอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ช้าก็เร็วชื่อเสียงของเจ้าก็จะกระจายลื่อลั่นไปทั่วดินแดนแห่งนี้ บางที ที่นั่นอาจจะเป็นเวทีที่แท้จริงของเจ้า “
” เช่นนั้นข้าขอยื่มอ่านบัญญัติอมตะชั่วคราว ” ฉื่อหยานยิ้ม” ข้าต้องการที่จะเยี่ยมเมืองเมฆาสงบ จากนั้นข้าก็จะพาปู่ฉ่ื่อมายังทะเลไม่มีสิ้นสุด ถึงตอนนั้นข้าค่อยเอาบัญญัติมาคืนท่าน ท่านคงไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่ ? ข้าเป็นคนจากตระกูลหยาง . แม้ข้าจะอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในอนาคตข้าก็ยังเป็นคนของตระกูลหยาง . ถ้าเป็นไปได้ เมื่อข้าตั่งหลักฐานที่มั่นได้ ข้าหวังว่า ท่านปู่ใหญ่และทุกๆคนจะไปอยู่กับข้าที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น “
เหล่าสมาชิกของตระกูลหยางก็สั่นสะท้าน ใบหน้าของพวกเขาตื่นเต้น
” ในความเป็นจริง ในสายตาของคนที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็เห็นนักรบจากทะเลไม่มีสิ้นสุดเป็นคนเถื่อน ” ฉื่อหยานรำพึงและจึงตัดสินใจบอกความจริงกับพวกเขา . ” พวกเขามีนักรบระดับพระเจ้าแท้จริง และรูปแบบโบราณที่มีอายุนับหมื่นปี ยังมีดินแดนลึกลับมากมายที่พวกเขาเหล่านั้นยังไม่ค้นพบ นี่เป็นจุดสูงสุดของเส้นทางการต่อสู้ เราไม่ควรจะนั่งอยู่ในกะลาเช่นเก็บตาบอด “
จักพรรดิหยางเทียนก็กล่าวด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข” หนุ่มน้อย เจ้าช่างแกร่งกว่าข้านัก “
โม่ต้วนหุน กับ หลี่มู่ ก็ตกตะลึงและมองฉื่อหยานด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าเห็นสมบัติมากมายอยู่ในร่างของฉื่อหยาน
” ไม่มีกองกำลังใดในทะเลไม่มีสิ้นสุดสามารถรุกรานตระกูลหยางได้ ในช่วงเวลานี้ ราควรจะมองอนาคตต่อไป “ฉื่อหยายิ้ม
ทุกคนคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
” เจ้าจะไปเมืองเมฆาสงบใช่หรือไม่? “จักพรรดิหยางเทียนครุ่นคิดสักพัก ” ดี เราควรขอบคุณตระกูบฉื่อหยาน ถ้าไม่มีพวกเขา เราก็คงไม่เจ้าในตอนนี้ หรือ มีตระกูลหยางที่แข็งแกร่งเช่นนี้วันนี้ได้ ของบางอย่างเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เจ้าไปจัดการเรื่องของเจ้าเถอะ “
หยุดชั่วคราว จักพรรดิหยางเทียนก็พูดขึ้น” ข้าจะมอบหมายให้องค์รักษ์โลหิตชูร่าไปกับเจ้าด้วย เจ้าต้องนำสัตว์อสูรไปด้วย จึงจะสามารถพาสมาชิกทั้งหมดของตระกูลฉื่อมายังทะเลไม่มีสิ้นสุดได้ทั้งหมด เจ้าคิดอย่างไร ? “
ฉื่อหยานพยักหน้าอย่างร่าเริง ” นั่นเยี่ยมที่สถด “
” ไป ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้ ” จักพรรดิหยางเทียน ขมวดคิ้วหัวเราะ ” ด้วยพลังของเจ้าในตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึง เมืองเมฆาสงบ แม้ว่าจะเป็นดินแดนพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เจ้าก็สามารถสบายใจได้ ! ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรไปมากมายนัก . เตรียมสัตว์อสูรที่จุคนได้มากเดี๋ยวนี้ ! “
” ขอรับ ” .
จักพรรดิหยางเทียนกล่าวว่าคำสั่งของเขา ไม่นานนึ่งองค์รักษ์โลหิตชูร่าร้อยคนก็พร้อมที่จะออกจากเกาะอมตะ
หลังจากบอกลากับตระกูลหยาง ฉื่อหยานไม่ไม่รอช้า ขี่อสูรล่าวิญญาน ซึ่งอยู่ในรูปแบบสัตว์อสูรมุ่งหน้าไปยังเมืองเมฆาสงบ
ระหว่างทางที่พวกเขาผ่านทะเลเหิงลั่ว เมื่อถังหยวนหนาน รู้ว่าเขาจะไปที่เมืองเมฆาสงบ เขาก็ออกไปทักทาย เขาไม่ได้พูดอะไรมากมายนัก แต่ได้มอบหมายให้องค์รักษ์เทพดวงดาวนำแร้งสิงโตเขายักษ์ของพรรคสามเทพไปยังเมืองเมฆาสงบกับเขาด้วย
ฉื่อหยาน อยากจะปฏิเสธ แต่ถังหยวนหนาน ยังคงยืนกราน เขาไม่สามารถปฏิเสธคนคนที่ทำเพื่อเขาได้ เขาจึงทำได้แค่พยักหน้า
ดังนั้นเขาจึงนำงองค์รักษ์โลหิตชูร่าร้อยคนและองค์รักษ์เทพดวงดาวที่ขี่แร้งสิงโตเขายักษ์ไปยังเมืองเมฆาสงบ
ระหว่างทาง นักรบจากกองกำลังต่างๆในทะเลไม่มีสิ้นสุดเมื่อได้ยิ่นข่าว พวกเขาก็ขี่สัตว์อสูรมาพูดคุยและถามว่ามีอะไรให้พวกเขาช่วยหรือไม่
แม้แต่จักพรรดิหยางเทียนในปีนั้นก็ยังไม่ถูกปฏิบัติเช่นนี้เมื่อออกเดินทาง
ในทะเลไม่มีสิ้นสุด เขาไม่เคยทำให้ทุกกองกำลังยอมรับได้
ฉื่อหยานสามารถทำได้ด้วยอายุของเขาเพียงเท่านี้
ค้างคาวโลหิตคราม แร้งสิงโตเขายักษ์ ต่างก็เป็นสัตว์อสูรระดับ ห้า และ หก องค์รักษ์โลหิตชูร่าและองค์รักษ์เทพดวงดาวเองก็มีระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งพวกเขาอย่างน้อยต่างก็อยู่ในระดับรู้แจ้ง
นอกจากนั้น ตี่ฉาน ยู่โหลว อี้เทียนโหมว คาป้า และหยาเมิง – ห้านักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีกและเผ่าเสียงอสูรต่างก็ไปกับเขาด้วย , บวกกับปีศาจสงคราม ราชาแมลงอสูร ,ตัวไหมทองคำและจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในร่างกระดูกขาว
นี้นับได้ว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งพอจะควบคุมทะเลไม่มีสิ้นสุดทั้งหมดได้
แม้แต่ตระกูลฉาวก็ไม่อาจต่อต้าน
ดังนั้น เมื่อพวกเขาผ่านตระกูลฉาว ,ตระกูลฉาวก็ตรึงเครียดและกังวลอย่างพวกเขาจะมีความคิดกำจัดตระกูลฉาว พวกเขาทั้งหมดจึงเตรียมการป้องกันอย่างดีราวกับกำลังรับมือกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่
พวกเขาสามารถหายใจโล่งทันทีเมื่อฉื่อหยานและคนของเขาข้ามผ่านทะเลไป
บนยอดของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหินแปลกประหลาด หญิงสาวที่งดงามกำลังเชิดหน้า มองชายหนุ่มและดวงตาสวยของนางก็จ้องไปตามร่างของเขา ความเสียใจที่ถูกฝังลึกปรากฏบนใบหน้าที่งดงามของนาง ครึ่งวันต่อมา นางก็พึมพำ ” ในชีวิต สิ่งที่ข้าเสียใจมากที่สุดคือยอมแพ้เรื่องเจ้า “
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1404 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <