บทที่ 492 จัดการอย่างเหมาะสม
จักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้าก็ถูกกวาดล้างออกไป
ตี่ฉาน ยู่โหลว อี้เทียนโหมว หยาเมิง และ คาป้าพวกเขาทั้งห้าต่างก็เป็นนักรบระดับพระเจ้า จะมีสิ่งใดในดินแดนเมฆาสงบที่สามารถรับมือกับพวกเขาได้ ? ภายใน 5 วัน จักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้าก็ถูกหวาดล้าง พวกเขาไม่เหลือนักรบระดับรู้แจ้งแม้แต่คนเดียว
ภายใต้อำนาจที่เหนือกว่าอย่างสมบูรณ์ เหล่านักรบจากสองอาณาจักรต่างก็รู้แล้วว่าพวกเขาเปราะบางและอ่อนแอเพียงใด ด้วยนักรบระดับพระเจ้าเพียงคนเดียวก็สามารถเผาผลาญอาณาจักรพวกเขาให้เป็นขี้เถ่าได้ และชื่อของพวกเขาก็จะหายไปจากโลกตลอดกาล
การฆ่าล้างนี้ทำให้นักรบทั้งหมดในดินแดนเมฆาสงบรู้ถึงผลของการไปยั่วยุตระกูลฉือ
ดินแดนเมฆาสงบ ตอนนี้ไม่มีกองกำลังใดกล้าคิดร้ายต่อตระกูลฉือ ถึงแม้ว่าตระกูลฉือจะไปยังทะเลไม่มีสิ้นสุด , ชื่อเสียงของพวกเขาก็ได้รับการกระจายไปทั่วดินแดนเมฆาสงบเพราะฉื่อหยาน
ภายใต้การจัดการของตระกูลฉือ คนจากในตระกูลฉือและตระกูลซั่วก็ไม่รอช้า พวกเขามารมตัวกันและออกดินแดนเมฆาสงบพร้อมกับฉื่อหยาน เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลไม่มีสิ้นสุด
ในระหว่างการเดินทางของพวกเขา ฉื่อหยานกลั่นสมบัติลับบางชิ้นให้กับญาติของเขาในหวังว่าพวกมันจะทำให้ตระกูลฉือแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากได้เข้าใจความทรงจำของเคล็ดสุดยอดวิชาหลอม เขาก็ได้ประดิษฐ์ของเล่นบางอย่าง เมื่อเขามีเวลา
ว่างตอนอยู่ทะเลไม่มีสิ้นสุด เขาได้สั่งให้กองกำลังอื่นนำทรัพยากรมาให้พื่อให้เขามีทรัพยากรเพียงพอที่จะหลอมตามที่เขาต้องการ ด้วยจำนวนทรัพยากรที่มากมายเขาก็สามารถกลั่นสิ่งของต่างๆได้มากมาย
สมาชิกของตระกูลฉือก็ตื่นเต้นเมื่อพวกเขาได้รับสมบัติลับ ไม่มีใครคิดว่าหลังจากผ่านไปสิบปี ฉื่อหยานนอกจากจะอยู่ในระดับนภาแล้ว เขายังเป็นนักหลอมอาวุธอีกด้วย พวกเขาประหลาดใจ พวกเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าฉื่อหยานใช้วิธีได้ถึงได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้
หลังจากสองเดือน ฉื่อหยาน และญาติของเขาก็มาถึง ทะเลตูต้า
เขาไม่ได้รีบไปยังเกาะอมตะนัก ฉื่อหยานไปเยี่ยมศพราชันย์ที่เกาะของนิกายซากศพในทะเลตู้ตา และเขาก็ได้มอบหยดโลหิตอมตะให้กับศพราชัน์ทั้งสองสี่หยด พวกให้พวกเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เขาได้สร้างมิตรภาพที่ดีกับศพราชันย์ เขาก็ต้องยอมรับว่าศพราชันย์ทั้งสองตอบแทนเขาทุกเรื่องอย่างดีซึ่งต่างจากมนุษย์ ถ้าพวกเขาไว้ใจหรือติดบุญเจ้าใคร พวกเขาก็จะทำทุกสิ่งเพื่อคนๆนั้นโดยไม่มีแผนร้ายแอบซ่อน ฉื่อหยานมีความสุขมากเมื่อได้รู้เรื่องนี้
หยดโลหิตอมตะนั้นมีพลังที่น่าอัศจรรย์ต่อสัตว์อสูรและสิ่งมีชีวิตที่มีร่างเนื้อ หลังจากศพราชันย์ทั้งสองได้หยดโลหิตอมตะคนละสองหยด เลือดในร่างของเขาก็เชื่อมต่อกับฉื่อหยาน พวกเขาก็ปฏิบัติกับเขาดีมากขึ้นราวกับว่าเขาเป้นครอบครัวเดียวกัน
ขณะที่เขากำลังจะออกจากทะเลไม่มีสิ้นสุด เขาหวังว่าเขาจะจัดการเรื่องทุกอย่างในทะเลไม่มีสิ้นสุดให้เสร็จสิ้น ศพราชันย์มีอำนาจที่สั่นสะเทือนโลก พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งที่น่าหวดากลัวเมื่ออยู่ที่ทะเลแห่งนี้ ถ้าเขาได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา แม้เขาจะไม่ได้อยู่ในทะเลกว้างใหญ่ ตระกูลหยางก็ยังคงอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขาไท่ซาน . ไม่มีสิ่งใดรุกรานพวกเขาได้
หลังจากใช้เวลาสองสามวันในนิกายซากศพ เขาก็ออกเดินทางอีกครั้งไปยังเกาะอมตะ
เขาก็หยุดอีกครั้งเมื่อถึงทะเลเหิงลั่ว
บนเกาะจันทราถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงก็ตั้งใจออกมาต้อนรับ . บรรดาผู้อาวุโสของพรรคสามเทพปัจจุบันที่ทุกคนต่างก็มีใบหน้าที่เคารพ พวกเขาต่างก็นับฉื่อหยานว่าเป็นเทพดวงดาวของพวกเขา
“ข้ามาส่งองค์รักษ์เทพดวงดาวคืนแก่พวกท่าน ” ฉื่อหยานยิ้ม” ข้าต้องการจะออกจากทะเลไม่มีสิ้นสุดและไปเยี่ยมชมดินแดนพระเจ้าที่ยิ่ใหญ่ ข้ามีบางอย่างที่ต้องบอกพวกท่านให้ชัดเจน”
ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวง พวกเขาก็แสดงออกอย่างสนใจ
” ข้าเคยไปที่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬและได้รู้จักกองกำลังที่แข็งแกร่งในดินแดนแห่งนั้น ” ฉื่อหยานรำพึง แล้วพูดสถานการณ์ปัจจุบัน ” . นิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในเจ็ดกลุ่มโบราณของดินแดนพระเจ้า พวกเขามีประวัติศาสตร์เนิ่นนานนับหมื่นปีในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์เองก็มี เทพจันทรา เทพสุริยัน และเทพดวงดาว พวกเขามีจิตวิญญานสุริยัน จิตวิญญานจันมราและจิตวิญญานแห่งดวงดาว พวกเขาใจเกี่ยวกับจิตวิญญานต่อสู้ของพวกเขาลึกซึ้งกว่าพวกท่าน ในนิกายโบรารแห่งนี้มีนักรบระดับพระเจ้าแท้จริง และดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนระหว่างพรรคสามเทพ ข้าสันนิษฐานว่า บรรพบุรุษของพรรคสามเทพจะต้องมาจาก นิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ แน่นอน “
เขาต้องการบอกพวกเขาให้รุ้เรื่องเกี่ยวกับนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์
“ข้ามั่นในจเลยว่านิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ คือต้นกำเนิดของพรรคสามเทพ ตอนนี้ข้าจะไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ข้าจะไปเยี่ยมนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์. ” ฉื่อหยาน สีหน้าสงบ” ถ้าพวกท่านมีอะไรอยากจะบอกกับนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ก็พูดมาได้เลย และไม่ว่าอะไร เพียงพวกท่านพูดมา ข้าจะส่งข้อความของพวกท่านให้ไปถึงพวกเขาอย่างแน่นอน , หรือไม่ก็พวกท่านสามารถไปที่นิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง ข้าคิดว่าพวกเขาเองก็คงจะดีใจ ระดับการบ่มเพาะของพวกเราไม่ถือว่าสูงไม่ใช่น้อย อาณาจักรของเจ ข้าคิดว่าพวกต่างจะต้องมีตำแหน่งที่ดีเมื่อไปที่นั่นแน่ “
นักรบระดับพระเจ้า ถือได้ว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าสองคนนี้ไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และไปยังนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ นักรบเหล่านั้นจะต้องยินดีแน่นอน พวกเขาจะดีเมื่อกองกำลังของพวกเขามีนักรบที่แข็งแกร่งมากขึ้น แน่นอนพวกเขาจะไม่ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น ถังหยวนหนานและโอหยางลู่ซวงก็คงไม่ได้มีอิสระเช่นตอนนี้
ในทะเลกว้างใหญ่ สองคนนี้นับได้ว่าเป็นประมุของพรรคสามเทพ ดังนั้นพวกเขาสามารถทำสิ่งที่พวกเขาต้องการและจัดเทพการพรรคสามเทพได้ตามที่ พวกเขาพอใจ โดยไม่ต้องสนใคร
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเข้าร่วมนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะไม่มีเสรีภาพเช่นนี้อีก ในตอนนั้น บางทีพวกเขาอาจจะกลายเป็นผู้อาวุโสของนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกเขาจะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งก็จะมีหน้าที่ที่ต้องทำ
การต่อสู้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นรุนแรงกว่ากว่าในทะเลไม่มีสิ้นสุดมาก ถ้าเป็นนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะต้องมีศัตรูที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกเขาอาจจะตกตายได้
แต่พวกเขาก็ได้รับประโยชน์ที่มากมาย
เมื่อพวกเขาเข้าร่วมนิกายแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะได้ปลูกทรัพยากรที่ช่วยบ่มเพาะในระดับพระเจ้าของพวกเขา นี้สามารถช่วยลดระยะเวลาในการทะล่วงขั้นของพวกเขาได้มาก ถ้าพวกเขาสามารถก้าวหน้าได้ดี บางทีพวกเขาอาจจะได้ตำแหน่งที่เหนือกว่า ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขามีอำนาจยิ่งกว่าในทะเลไม่มีสิ้นสุด
มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
หลังจากที่เขาได้พูดเสร็จสิ้น โอหยางลู่ซวงและถังหยวนหนาน ก็ไม่ได้รีบร้อนตอบกลับอะไร ฉื่อหยานเองก็ไม่อยากให้พวกเขาทำตัดสินใจทันที ดังนั้นเขาจึงไม่กระตุ้นหรือเร่งเร้าพวกเขา
หลังจากนั้น ถังหยวนหนาน ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ” เราต้องคิดให้รอบคอบสินะ ? หากไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แล้วพลังของเรายังแข็งแกร่งไม่เพียงพอ มันก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ ใช่ เราต้องการเวลาที่จะพิจารณาเรื่องนี้สักหน่อย “
” มันก็ขึ้นอยู่กับพวกท่านเอง ” ฉื่อหยานพยักหน้า ทันใดนั้น เขาก็กระพริบตาไปที่ถังหยวนหยานและเขาก็ได้สั่งเหล่าผู้อาวุโสให้ออกไป
ถังหยวนหนานก็ทำตามเขา
ในพริบตา , เหล่าคนของพรรคสามเทพที่ชุมนุมก็อยู่ก็หายไป เหลือไว้เพียง โอหยางลู่ซวง ฉื่อหยาน และ ถังหยวนหนาน
” นี่เป็นวารีแรกเริ่มชีวิตสองหยด ข้าหวังว่ามันอาจช่วยพวกท่านได้ พวกท่านนำมันไปใช้เถิด . ” ฉื่อหยานมอบวารีแรกเริ่มชีวิตสองหยดให้กับ ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงตามลำดับ ” ข้ารู้ว่าพวกท่านก็คงแปลกใจเหตุใดนู่หลางและหยินหุ่ยถึงได้ทำตามข้า และวารีแรกเริ่มชีวิตนี้ก็คือคำตอบ “
ตึกตัก . . . . . . .
เสียงหัวใจเต้นก็ดังขึ้นมาจากวารีแรกเริ่มชีวิตทั้งสองหยด ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงก็แปลกใจ
“วารีแรกเริ่มชีวิตนั้นมีค่าเป็นอย่างมากสำหรับนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้า มัน เพิ่มโอกาสที่จะทะลวงขั้นเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริง และลดอุปสรรคคอขวดได้มากมาย “
ฉื่อหยานบอกพวกเขาถึงพลังของวารีแรกเริ่มชีวิต
ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงดวงตาก็ส่องประกายและไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจของพวกเขาได้
” มันช่างมีค่านัก ” ถังหบวนหนานก็ถูมือของเขาอย่างเขินอาย” . เรารับมันได้รึ ? เราไม่ได้ช่วยอะไรเจ้ามากมายนัก “
” พวกท่านไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ที่พวกท่านเป็นมิตรต่อข้า สิ่งนี้พวท่านก็รับเถอะ. ” ฉื่อหยานยิ้ม” รับสิ่งนี้ไป มันจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบ่มเพาะของพวกท่านในอนาคต ข้าหวังว่าพวกท่านจะสามารถเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงได้ในวันหนึ่ง และหวังว่า วันนี้พวกท่านจะจดจำสิ่งที่ข้าช่วยเหลือพวกท่านได้ “
ถังหยวนหนาน และ โอหยางลู่ซวงพยักหน้าเคร่งขรึม เขาหยิวารีแรกเริ่มชีวิตมา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่การแสดงออกก็ทำให้รู้หลายสิ่ง
” ใช่ ข้ามีคำขอร้องครั้งสุดท้าย ” ฉื่อหยานยิ้ม มองไปที่เทพจันทราโอหยางลู่ซวง และกล่าวอย่างอายๆ ” ตั้งแต่ข้าที่เมืองดาวตกนภา ท่านก็ได้ใช้แสงจันทร์ปกคลุมร่างตลอดเวลา ข้าไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของท่านเลย ขออภัยด้วย แต่ข้าขอเห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่านตอนนี้ได้หรือไม่ “
โอหยางลู่ซวงร่างกายที่ละเอียดอ่อนก็สั่นสะท้าน ภายใต้หมอกหมอกแสงจันทร์ที่ดูสดใส
“อ่ะแหม เอ่ออ ข้านึกขึ้นได้ว่ามีบางสิ่งต้องไปทำ ” ถังหยานหนานถูจมูกและพูดอย่างเป็นนัย
เมื่อมีแค่พวกเขาสองคน เทพจันทราก็ถามขึ้น ” ทำไมเจ้าถึงอยากเห็นใบหน้าของข้ากัน” เสียงที่ชัดเจนและเย็นชาก็ดังออกมาจากร่างที่ละเอียดอ่อน
” ข้าแค่สงสัย ไม่มีเหตุผลอะไร . “
” เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร “
แสงจันทร์ค่อยๆหายไป ความงามที่สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้มลงได้ ก็เผยออกมาจากหมอกควันช้าๆ นางเหมือนกับหยกคริสตัลโปร่งแสง เช่นเดียวกับแสงจันทร์ที่ได้รับการขัดเกลามานานหลายปี อยู่นอกเหนือจินตนการเป็นราวกับเทพธิดานางฟ้า หรือไม่ก็ปีศาจสาวผู้ทนงเสน่ห์ ความงามของนางสั่นสะท้านไปทัั่วหัวใจ
ฉื่อหยานก็ตกตะลึงเป็นไก่ตาแตก
ใบหน้าที่ปรากฏให้เห็นนั้นราวกับเป็นฝัน ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด . นับได้ว่างดงามอย่างที่สุด .
“ท่านควรจะเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของท่านบางนะ บางครั้งหนะ . ” หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถอนหายใจเล็กน้อย ” ข้าเกรงว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ทานทดไหว ด้วยใบหน้าของท่าน สามารถสัี่นสะเทือนโลกได้ทั้งใบ และนับได้ว่าหายากเป็นอย่างมากบนโลกใบนัเ วันนี้ข้าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว.
” ข้างดงามงั้นรึ ? ” เทพจันทราก็ขดริมฝีปาก เผยรอยยิ้มแปลกๆ ” เจ้าไม่ได้สับสนอะไรใช่หรือไม่ ?”
” แน่นอน ” ฉื่อหยานพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง ” ข้าคิดว่าผู้ชายทุกคนในโลกนี้จะต้องอิจฉาคนที่ท่านหลงนักจนเจียนตายแน่ .
” หึ ! ไม่เห็นมีผู้ชายที่ดีเลยสักนิด ! ” เทพจันทราสูดลมหายใจเข้าและพูดก่นด่าออกมา
ฉื่อหยาน ปิดปากเงียบ และฝืนยิ้ม ” ถ้าชายใดที่ปรารถนาในความงดงามของท่านถูกนับว่าเป็นคนเลว , ข้าคิดว่าผู้ชายทุกคนบนโลกนี้คงจะเลวทุกคนแน่นอน “
” เจ้าดูพอแล้วหรือยัง ? ” เทพจันทราสีหน้าก็แข็งตรึง ใบหน้าของนาง แสงจันทร์ก็กลับมาปกคลุมอีกครั้ง นางพูดด้วยท่าทีเย็นชา ” ถ้าเจ้าพูดจบแล้ว ก็ไปเสียเถอะ บางทีเราอาจจะได้พบกันอีกในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าหวังว่าเจ้าจะมีระดับการบ่มเพาะระดับพระเจ้า อย่างแท้จริงโดยปราศจากพลังจากภายนอก ข้าบอกได้เลยว่าเจ้าจะต้องเข้าสู่นภาที่สองระดับพระเจ้าโดยใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนนับจากนี้ ข้าคาดหวังว่าในฐานะเทพแห่งดวงดาวเจ้าจะไม่เกียจคร้าน ไม่งั้นจิตวิญญานแห่งดวงดาวในตัวเจ้าคงจะผิดหวัง”
ฉื่อหยาน ก็ตกตะลึง .
________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1407 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <
