เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 501 โครงร่างที่สมบูรณ์แบบ

บทที่ 501 โครงร่างที่สมบูรณ์แบบ

 

หลังจากที่เขาตื่นขึ้น ฉื่อหยานก็ พบว่าเส้นเอ็นและเส้นเลือดของเขาได้ถูกฟื้นฟุแล้ว ภายใต้อิทธิพลของจิตวิญญานอมตะ บาดแผลถูกเยียวยาไปกว่า 70% – 80%

แม้ว่าเขาจะได้ใช้พลังแปลกประหลาดในกล้อมเนื้อของเขาไปมากมายในห้องแรงโน้มถ่วง แต่เส้นใยกล้ามเนื้อของเขามีบางอย่างเปลี่ยนไป หลังจากการใช้พลังไปมากมาย เส้นใยกล้ามเนื้อของเขาได้ขยายกว้างขึ้นและมันก็สามารถเก็บพลังแปลกประหลาดได้มากกว่าเดิม

ตราบเท่าที่เขาสามารถดูดซับพลังปราณลึกลับได้จากการต่อสู้โดยจิตวิญญานลึกลับ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พลังที่อยู่ในกล้ามเนื้อของเขาจะต้องฟื้นฟูแน่นอน และนอกจากนี้ มันยังเพิ่มขึ้นถาวร

นี่แสดงให้เห็นถึงความจริงว่าเขาได้ประสบความสำเร็จจากการฝึกฝนในห้องแรงโน้มถ่วง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขารู้วิธีที่จะทำให้พลังในกล้ามเนื้อของเขาสามารถก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือการใช้ห้องแรงโน้มถ่วงเผาผลาญพลังทั้งหมด จากนั้นก็ทำลายกล้ามเนื้อและสร้างขึ้นมาใหม่

ฉื่อหยานลืมตาและค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นเขาก็สังเกตหญิงสาวทั้งสี่ที่ยืนอยู่ สักพักเขาก็เข้าใจสถานการณ์

กลิ่นอายที่หนาวเย็นกระจายออกมาจากพวกนางทั้งสี่ เห็นได้ชัดว่า พวกนางได้ฝึกบ่มเพาะธาตุน้ำแข็ง

กลิ่นอายของหญิงสาวทั้งสี่ที่กระจายออกมานั้นนับได้ว่าคล้ายกัน ถ้าไม่มีเกิดคาด พวกนางสมควรฝึกฝนมาจากอาจารย์คนเดียวกัน

หญิงสาวสองคนเดินเข้ามา พวกนางดูไม่เป็นมิตร อากาศที่หนาเย็นรวมตัวกันและอัดแน่นรอบมือของนาง น้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่เป็นเหมือนงูก็สะบัดลิ้นออกมา

ในห้องแรงโน้มถ่วง x20 นี้แทบจะไส่งผลกระทบนักรบระดับพระเจ้าเลย

สองคนเป็นนักรบนภาที่สองระดับพระเจ้าและสองเป็นนักรบนภาแรกระดับพระเจ้า พวกนางต่างก็เป็นจุดสูงสุดของเมืองจักพรรดิน้ำแข็ง

แต่เมืองแห่งนี้ก็นับได้ว่าเป็นเมืองที่อ่อนแอที่สุดหนึ่งในเจ็ดเมืองของสมาคมนักรบ มันเหลือเชื่อมากที่พวกเขาสามารถมีระดับการบ่มเพาะที่สูงเช่นนี้ได้ ในทะเลกว้างใหญ่ ระหว่างกองกำลังใหญ่ทั้ง 15 นอกจากตระกูลฉาว พระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ และตระกูลหยาง พวกเขาไม่อาจมีนักรบเช่นนี้ได้

” พวกเจ้าต้องการอะไร ? “

ด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขามองไปที่ ฮันซุย และ เหลิงต้านชิง ฉื่อหยานไม่ได้หวาดกลัวเลย เขาหัวเราะแล้วมองไปเปลวเหมันเยือกแข็ง ” นี้รึ ? “

ฮันซุย และ เหลิงต้านชิง ยิ้มและพยักหน้า ไม่ปฏิเสธ

” น้องชาย เปลวเหมันเยือกแข็งเป็นของเจ้า ? ” ฮันซุยยิ้มอย่างเย็นชาแววตาของนางเก็บซ่อนบางสิ่งซ่อนลึกไว้ . เราสามารถต่อรองกันได้หรือไม่ ?”

” เอ๋ ? ” ฉื่อหยาน ไม่ได้รีบ เขาเก็บเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดบนร่างกายของเขาและหยิบชุดสีฟ้าสะอาดออกมาและหันไปมองหญิงสาวทั้งสี่ ” ต่อรองอะไรรึ ? “

ในขณะที่เขากำลังเปลี่ยนชุด ร่างกายที่สมส่วนของเขาก็ถูกเปิดเผย กล้ามเนื้อแต่ละส่วนของเขาดูราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากคอนกรีดเสริมเหล็ก ทำให้รู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและดูน่าเกรงขาม

หญิงสาวทั้งสี่ดวงตาก็ส่องประกาย พวกนางแอบชื่นชมอยู่ในใจลับๆ อยู่ในหัวใจของพวกเขา เด็กคนนี้มีโครงสร้างที่ดีเยี่ยม อาจนับได้ว่าสมบูรณ์แบบ

ดวงตาดั่งนกฟินิกซ์ของเหลิงต้านชิงก็ประกายด้วยความประหลาดใจขณะที่นางยิ้ม ” นี่ หนุ่มน้อย โครงสร้างของเจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก เจ้าสนใจไปเยี่ยมชมพระราชวังสักระยะหนึ่งหรือไม่ ? ฮ่าๆ ข้ามีหญิงงามมากมาย บางทีเจ้าอาจจะอยากสนุกกับพวกนาง . “

นี้เป็นการล่อลวงอย่างแน่นอน !

” ข้าไม่สนใจหญิงสาวทั่วไป ” ฉื่อหยานจ้องมองอย่างก้าวร้าว จ้องมองไปร่างหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่ของเหลิงต้านชิงด้วยแววตาล้ำลึก ” ข้าชอบสาวใหญ่ , และงดงามเช่นเจ้า ถ้าเจ้าเห็นด้วยที่จะยินดีให้ข้าหลับนอนด้วย ข้าก็จัไป ข้าไม่สนใจสาวน้อยบริสุทธิ์”

เหลิงต้านชิงยิ้มดั่งลมพัดผ่าน นางพยักหน้าและพูดกับเขาเบา ๆ , ” ได้ เราจะไปกันเลยไหม ? พี่สาวเองก็ชอบชายหนุ่มที่มีศักยภาพและกล้าหาญเช่นเจ้า เราไปดื่มกันหน่อยเป็นไง ? “

” ฮ่า ฮ่า ” ฉื่อหยานฉีกยิ้มแล้วเลื่อนสายตามองฮันซุย ” ข้าสงสัยว่าเจ้ามีเรื่องอะไรจะต่อรองรึ ?

” เจ้าช่วยยกเปลวเหมันเยือกแข็งให้ข้าได้หรือไม่ ? ” ฮันซุยดวงตาส่องประกาย. นางจ้องไปที่ฉื่อหยานราวกับสนใจเล็กน้อย มันชัดเจนว่าเขามีระดับการบ่มเพาะเพียงระดับนภา แต่กลับไม่หวาดกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับนักรบระดับพระเจ้าทั้งสี่ ราวกับเขาจะแสดงให้พวกนางรู้ว่า เขาเกรงกลัวความตาย

หล่อนนั้นไม่ได้รู้เลยว่าในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ฉื่อหยานนั้นได้เผชิญหน้ากับนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้ามาแล้ว เช่นนู่หลาง โปวชุน และชิหยาน เขามีคุ้มกันที่แข็งแกร่งต่อนักรบระดับนี้ ตอนนี้ เขาไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความกลัว

” ให้เจ้ารึ ?” ฉื่อหยานหัวเราะลั่น ” แล้วข้าจะได้อะไร ? “

เปลวเหมันเยือกแข็งก็กระพริบ อากาศหนาวเย็นก็ถูกปล่อยออกมาจากมัน

เปลวไฟนี้ เข้าใจการสนทนาของพวกเขาดี เห็นได้ชัดว่ามันโกรธเล็กน้อยเมื่อเห็นฉื่อหยานใช้มันตามใจชอบ นี้คือวิธีที่มันแสดงออกว่าโกรธ

 

ฉื่อหยานส่งห้วงจิตสำนึกออกไปบอกให้เปลวเหมันเยือกแข็งใจเย็น แต่เขาก็ยังยิ้มให้ฮันซุย

” แล้วเจ้าต้องการสิ่งใดงั้นรึ ?” ฮันซุย เสียงหัวเราะก็ร่าเริงมากขึ้น นางปิดปากของนางตลอดเวลาที่หัวเราะ ดวงตาของนางส่องแสงระยิบระยับ จ้องมองอย่างยั่วยวน ” สมบัติหายาก , วิชา ,เม็ดยา , ผู้หญิง . . . . . . . เจ้าสามารถเลือกสิ่งที่เจ้าต้องการได้ ตราบใดที่เจ้ามอบเปลวเหมันเยือกแข็งให้ข้า ไม่ว่าสิ่งใดก็พูดออกมาได้เลย “

ในเมืองจักพรรดิน้ำแข็งนักรบทุกคนต่างก็รู้จักพวกนาง อย่างไรก็ตาม เมื่อนักรบระดับนภาเห็นพวกนาง พวกเขาทำนางกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับอสรพิษ หรือ สัตว์อสูณที่น่าหวาดกลัว พวกเขาเพียงต้องการหนีไปให้ไกลที่สุด แต่ตอนนี้ นางกำลังคุยกับเด็กหนุ่ม ซึ่งเขาแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ฮันซุย ก็รู้สึกสนใจในตัวเขา และต้องการที่จะเล่นกับเขาอีกสักพัก

” ข้าต้องการเจ้า ” ฉื่อหยานกล่าวอย่างจริงจัง

” ข้ารึ ? ” ฮันซุย เสียงหัวเราะก็ร่าเริงมากขึ้น” ไม่ใช่ว่าเจ้าพึ่งกล่าวว่าจะไปดื่มกับน้องสามของข้าหลอกรึ ? และตอนนี้เจ้ากลับพูดว่าต้องการข้า ความต้องการของเจ้าช่างมากมายนัก ,เด็กน้อย แต่เจ้าจะอุ้มข้าไหวงั้นรึ ? ฮ่าๆ น้องชายเจ้ายังหนุ่มและแข็งแรงใช่มั้ย ? “

” หึ เพียงคนเดียวนั้นนับได้ว่าน้อยเกินไป สองคนก็ยังไม่พอใจ สามคนก็พอได้ แต่ถ้าเป็นสี่คน นี่ย่อมสมบูรณ์แบบ”

ฉื่อหยานหัวเราะออกมาไม่หยุด เขามองไปยังปิงชิงถงและซวงยู่ซู

” ฮ่า ฮ่า “

ฮันซุย หัวเราะจนต้องนั่งขัดสมาธิ แล้ว นางก็หันไปมองปิงชิงถงและ ฉื่อหยาน , ใบหน้าของนางก็ส่องประกาย ” รวมถึงพี่สาวและน้องสี่ของข้าด้วยงั้นรึ ? เจ้าเองก็ชื่นขอบพวกนางเช่นกันใช่หรือไม่ ? เช่นนั้น ถ้าเขาไม่เกรงกลัว เราทั้งสี่จะปรนนิบัติเขาด้วยกัน นี่พวกท่านเห็นว่าดีหรือไม่ ? ข้านั้นตกลง และข้าก็รู้ว่าน้องสามของเราก็เห็นด้วย แล้วพวกเจ้าหละ?

ปิงชิงถงและซวงยู่ซู มองฉื่อหยานอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าดูถูก

เห็นได้ชัดว่าลักษณะนิสัยของพวกนางไม่เหมือนกับ ฮันซุย และเหลิงต้านชิง พวกนางไม่สนใจที่จะเล่นเช่นเดียวกับสองสาว

” น้องสอง น้องสาม ข้าว่าพวกเจ้าควรใจเย็นก่อน และคิดเกี่ยวกับมันให้ดี นักรบระดับนภาคนนี้พูดจาไม่มีสัมมาคารวะกับนักรบระดับวิญญานทั้งสองคน ราวกับว่าเขาไม่เกรงกลัวสิ่งใด แต่พวกเจ้าก็ยังคงเล่นไปตามเขา นี่คือสิ่งใด บอกข้าได้หรือไม่ ?” ปิงชิงถงขมวดคิ้วและพูดในลักษณะที่รุนแรง ” โดยธรรมชาติเขาดูไม่เกรงกลัวพวกเจ้าเลยสักนิด “

ได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มของฮันซุย และเหลิงต้านชิงก็หยุด และเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่แข็งตรึง

พวกนา่งไม่ได้โง่ หลังจากคิดสักพัก ก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ

เห็นได้ชัดว่า ฉื่อหยานเพิ่งมาถึงเมืองจักพรรดิน้ำแข็ง เขาเป็นคนนอก แต่คนจากดินแดนอื่น แล้วเขาก็ยังมีเปลวเหมันเยือกแข็ง ภายใต้การจ้องมองของเขา มันดูราวกับเขาเป็นเสือทีั่กำลังจ้องมองเหยื่อ การแสดงของเขาดูสงบ และเขายังกล้าที่จะพูดล้อเล่นกับพวกนาง ถ้าเขาไม่ได้เป็นบ้า เช่นนั้นเขาไปเอาความมั่นใจเช่นนี้มาจากไหน

” เปลวเหมันเยือกแข็งนั้นเป็นเปลวไฟนภา สำหรับนักรบที่ฝึกบ่มเพาะธาตุน้ำแข็งเช่นพวกเรา มันนับได้ว่าเป็นสมบัติที่ต้องการมากที่สุด ” ปิงชิงถง รำพึง แล้วตัดสินใจที่จะพูดเปิดใจกับเขา . ” ข้าไม่อยากใช้กำลังแย่งชิงมันมาจากเจ้า ข้าเดาว่าเจ้าคงมีบางสิ่งสนับสนุ่นอยุ่ถึงได้มั่นใจเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้านั้นได้เข้ามายังเมืองจักพรรดิน้ำแข็งและเปิดเผยเปลวเหมันเยือกแข็ง จึงทำให้เราสัมพัสถึงมันได้ เมื่อโอกาสดีๆเช่นนี้มาถึง เราคงไม่สามารถปล่อยเจ้าไปได้ “

หยุดชั่วขณะ , ปิงตงชิง ก็สูดหายใจลึกๆและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาของนาง ” . พูดมา ว่าเจ้าต้องการอะไร ? ตราบใดที่มันไม่เกินความสามารถเรา เราจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง “

” พี่สาว ท่านต้องการ . . . . . . . ” ฮันซุยสีหน้าก็มืดมนและพูดด้วยเสียงแหบแห้ง ” . เจ้าต้องการจะแลกเปลี่ยนกับเขางั้นรึ ? “

” นี่คือสิ่งที่เรียกว่ามารยาท ” ปิงชิงถง พยักหน้า

“เขานั้นเป็นเพียงนักรบระดับนภา ต่อให้เขาจะมีเบื้องหลังสนับสนุนเช่นไร เขาจะทำสิ่งใดได้ ? “เหลิงต้านชิงสูดลมหายใจเข้าและพูดออกมาอย่างร้อนใจ ” . ถ้าเจ้าไม่กล้า ข้าจะทำเอง หึ ! หลังจากแม่บุญธรรมของเราจากไป พวกเจ้าก็มักจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องเล็กๆเสมอ ไม่มีใครที่เด็ดเดี่ยวพอ ถ้าเรายังเป็นอย่างนี้ เมืองจักพรรดิน้ำแข็งก็ยังคงเป็นเมืองอันดับท้ายสุดของหนึ่งในเมืองทั้งเจ็ดจากสมาคมนักรบ ! “

แล้วเหลิงต้านชิงน้ำเสียงของนางก็เปลี่ยนไป ในขณะที่นางรอยยิ้มจืดจางไป นางหลี่ตามองฉื่อหยานและพูดเยาะเย้ย ” มาม๊ะ พี่สาวจะเล่นกับเจ้าเอง เจ้าไม่อย่างลิ้มรองข้างั้นหรือ! ข้าจะเติมเต็มความปรารถนาของเจ้าเอง ! “

” เอาล่ะ ” ฉื่อหยานก็พยักไหล่ ด้วบใบหน้าที่สงบและเป็นธรรมชาติ

ดวงตาคู่สวยของเหลิงต้านชิงตาก็ส่องประกาย นางค่อย ๆแตะพื้นด้วยเท้าซ้ายของนาง และความเย็นมหาศาลก็พุ่งลงไปใต้พื้นดิน

แกร๊กก แกร๊กก !

หินที่อยู่ใกล้ๆฉื่อหยานในห้องแรงโน้มถ่วงก็ส่งเสียงสะท้อนออกมา เส้นสายที่เย็นยะเยือกเคลื่อนไหวอยู่ใต้ดินราวกับหนอน จากนั้นมันก็พุ่งขึ้นมากลายเป็นมังกรที่น่ากลัว พยายามที่จะกลืนกินฉื่อหยาน

ปิงชิงถง ฮันซุยและซวงยู่ซู ดวงตาที่งดงามของพวกนางก็ส่องประกาย มองอย่างตั้งใจไปที่ ฉื่อหยาน พวกนางทั้งสามต้องการที่จะเห็นสิ่งที่ฉื่อหยานเก็บไว้

 

ซู่ ซู่…. !

เส้นสายเย็นยะเยือกของเหลิงต้านชิงเมื่อมันพุ่งออกมาจากพื้นดิน ทันทีที่พวกเขาโผล่ออกมา , พวกมันก็ถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟ

เพียงพริบตาเดียว เส้นสายเย็นยะเยือกมากมายก็ถูกเผากลายเป็นควันสีขาว พลังที่หนาวเย็นของนางหายตัวไปในอากาศ และไม่มีกระแสที่หนาวเย็นอันใด กระทบหรือเข้าไปในร่างของฉื่อหยาน

ภายในเส้นสายเย็นยะเยือกของเหลิงต้านชิงนั้นเต็มไปด้วยพลังปราณลึกลับ ถ้าเป็นเปลวเหมันเยือกแข็งที่ลงมือ จะมีเพียงความเย็นเท่านั้นที่ถูกกำจัดไป แต่พลังปราณของนางยังอยู่ มันจะต่างออกไปถ้าเขาใช้แกนเพลิง

เปลวไฟนั้นถือได้ว่าเป็นธาตุที่เหนือว่าธาตุน้ำแข็ง มันเผาผลาญเส้นสายเย็นยะเยือกมากมายทันทีเมื่อเปลวไฟปรากฏ

“เปลวไฟนภาอีกดวง ! “

ใบหน้างดงามของเหลิงต้านชิงก็กลายเป็นมืดมน นางร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว

ปิงชิงถง ฮันซุย และซวงยู่ซู ร่างกายที่อ่อนฉ้อยของพวกนางก็สั่นสะท้านตกตะลึง ดวงตาของพวกนางส่องประกายด้วยความเหลือเชื่อ

________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1417 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset