บทที่ 512 เหี่ยวเฉาตาย
“นี่สินะจิตใจของผู้หญิง “! ฉื่อหยานสูดลมหานใจเข้าอย่างเฉยเมย มองไปที่ปิงชิงถง ที่กำลังไล่ล่ายู่หลี่หมิง และพูดข่มขู่ออกมา
ฮันซุยและเหลิงต้านชิงนั้นต้องการที่จะยึดครองเมืองจักพรรดิน้ำแข็งอยู่เสมอ พวกนางยังไปยืมพลังของตระกูลหนิงเพื่อกำจัดปิงชิงถง พวกนางนั้นเจ้าเล่ห์ และโหดร้ายเป็นอย่างมาก
ถ้าเขาเป็นนาง เขาจะจัดการภัยคุกคามทั้งสองนี้อย่างไม่เหลือซาก ไม่คาดคิด , ปิงชิงถงกลับต้องการที่จะช่วยพวกนาง นี้ทำให้เขาพูดดูถูกนาง
” ฝากดูแลพวกนางด้วย ได้โปรด ข้าเองก็จะไปต่อสู้ด้วยเช่นกัน ” ซวงยู่ซูหันไปบอกฉื่อหยาน ก่อนที่จะบินตามหลังพี่สาวของนางไป
ฮันซุยและเหลิงต้านชิงก้มศีรษะของพวกนางลงด้วยความอัปยศ เมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสองไล่ตามเจ้าเฒ่าสารเลวเพื่อพวกนาง นี่ทำให้พวกนางพูดไม่ออก
ฉื่อหยานสั่นศีรษะและเยาะเย้ย “ดี นี่สินะสายใยของพี่น้อง ? ข้าสัมพัสถึงมันได้แต่ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดพวกเจ้าทั้งสองถึงต้องทำให้เรื่องมันวุ่นวายยิ่งขึ้นด้วย ?
ฮันซุยและเหลิงต้านชิงก็ไม่พูดอะไร ใบหน้าของพวกนางกลายเป็นสีแดงและไม่พูดอะไรกับฉื่อหยานอีก
ติ๊ง ! ติ๊ง !
จู่ๆ เสียงระฆังใสก็ดังออกมาจากป่าอย่างชัดเจนพร้อมกับพลังบางอย่าง
ตอนนี้เอง เมื่อตัวไหมทองคำได้ยินเสียงนี้ มันค้างอยู่กลางอากาศและตกอยู่ในความกังวล มันบินไปยังต้นตอของเสียงราวกับว่านั้นเป็นเสียงเรียกของเจ้านายมัน
” ระฆังแมลงของตระกูลหนิง !” เป่ยซื่อขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่สามารถช่วยได้ที่จะมองไปยังทิศทางที่มีเสียงระฆังดังมา” เป็นหนิงฉือซาน หัวหน้าผู้ฝึกฝนตัวไหมทองคำ , เขาอยู่ในนภาแรกระดับพระเจ้า”
ระยะทางระหว่างตระกูลหนิงและตระกูลผู้นำอยู่ห่างกันไม่ไกล เป่ยซื่อจึงคุ้นเคยกับเสียง ติ๊ง นี้ดี . เมื่อเขาได้ยินเสียงระฆัง เขารู้ทันทีว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเสียงนี้ เขาจึงพูดเตือนทุกคนขึ้นทันที
ฉื่อหยานก็สวมใส่ใบหน้าเย็นชา เข้าสูดลมหายใจเข้าและแสยะยิ้ม ” อยากตายนักใช่ไหม ! “
ในขณะที่เสียงของเขาดังขึ้น ทันทีสัตว์อสูรที่มี ลักษณะดุร้าย และมีหนามแหลมคมอยู่ทั่วร่างของก็ปรากฏตัวต่อหน้า ฉื่อหยาน สัตว์อสูรตัวนี้ส่งเสียงคำรามสะท้านแก้วหูออกมา . ต้นไม้ก็ล้มระเนระนาดพร้อมกับใบไม่ที่ปลิวไปทั่ว สัตว์อสูรที่อยู่รอบๆเมื่อได้ยินเสียงนี้พวกมันก็หนีไปทันที
สัตว์อสูรล่าวิญญาน !
สัตว์อสูรล่าวิญญานเป็นสัตว์อสูรระดับ 8 เมื่อมันอยู่ในทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด มันได้กลืนกินสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนซึ่งทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก
สัตว์อสูรล่าวิญญานสูงมากกว่าสิบเมตร เหมือนมังกรที่ดุร้าย มันเต็มไปด้วยพลังที่น่าหวาดกลัว มันสามารถเทียบได้กับพลังวิญญานของนักรบระดับพระเจ้า
ฉื่อหยานก็กระโดดขึ้นไปบนหลังของสัตว์อสูรล่าวิญญานและออกคำสั่ง ” ฆ่ามัน “
สัตว์อสูรล่าวิญญานก็พุ่งออกไปอย่างกราเกรี้ยว คางคกยักษ์ที่ถูกราชาแมลงอสูรกัดกินอวัยวะภายในอยู่ เมื่อมันเจอสัตว์อสูรล่าวิญญาน มันก็กลายเป็นหวาดกลัวยิ่งขึ้น คางคกตกใจเป็นอย่างมาก มันอยากจะวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
กลิ่นอายของสัตว์อสูรล่าวิญญานนั้นทำให้คางคกหวาดกลัว ราวกับว่ามันเจอสัตว์อสูรที่อยู่เหนือห่วงโซ่อาหารของมัน คางคกยักษ์ไม่กล้าที่จะต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ดุร้ายเช่นนี้
เมื่อสัตว์อสูรล่าวิญญานคำรามออกมา พลังปราณอสูรก็ทะลักออกมาจากปากของมัน . . . . . . . กลายเป็นลำแสงอสูรพุ่งไปที่คางคก
ปัง ปัง ปัง !
เมื่อคางคกโดนแสงอสูร ร่างใหญ่โตของมันก็ดื้นไปมาในป่า ต้นไม้รอบๆล้มระเนระนาดราวกับว่าถูกทุบด้วยฆ้อนยักษ์
สัตว์อสูรล่าวิญญานคำรามออกมาและพุ่งไปที่คางคก มันใช้กรงเล็บอันแหลมคมของมันฉีกร่างที่แข็งหนาของคางคก . สัตว์อสูรล่าวิญญานเปิดปาก และเอาปากสีเลือดของมันกัดไปยังสมองของคางคก แล้วเริ่มฉีกร่างและกลืนกินคางคก
มันกำลังกินอยู่ ! ‘ ‘
ด้วยธรรมชาติที่แปลกประหลาดของมังกรที่สัตว์อสูรจากดินแดนใต้พิภพและจากอสูรจากดินแดนอสูร มันฉีกคางคกออกทีละชิ้น แล้วรีบกลืนกินสมองอย่างรวดเร็วและทิ้งเนื้อสดไว้ด้านหลัง
” จับมัน ! ” ฉื่อหยานตะโกนออกมา
สัตว์อสูรล่าวิญญานขยายใบมีดที่คมกริบออกและคำรามอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับพุ่งไปยังทิศทางที่หนิงฉือซานที่กำลังส่งเสียงระฆังอยู่ ในไม่ช้า ฉื่อหยานก็เห็นเป้าหมายของเขา
เชาคือชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างลักษณะทั่วไป เขาสวมผ้าคลุมสีเขียวและมีหงอนเล็ก ๆบนหัวของเขา เขาหมอบหลบอยู่ในพุ่มไม้หนา พยายามตีระฆังในมือของเขา
หลังจากตัวไหมทองคำได้ดูดกลืนโลหิตอมตะของเขาเข้าไป มันก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ตามเสียงระฆังมา ตัวไหมทองคำก็ค่อยๆมาหาชายวัยกลางคน
ในความเป็นจริง , หนิงฉือซานนั้นกังวลเป็นอย่างมาก ตัวไหมทองคำนี้เขาได้เลี้ยงมันมาด้วยตัวเอง เขารู้จักมันดี เมื่อมันได้ยินเสียงระฆัง , ตัวไหมทองคำน่าจะกลับมาหาเขาด้วยความเร็วสูงสุด โดยไม่ลังเลใดๆ แต่นี่ตัวไหมทองคำกลับลังเลอยู่ชั่วครู เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน มันจึงต่อต้านเขา
ถ้าไม่ใช่วาระฆังแมลงนี้เป็นสิ่งที่ตัวไหมทองคำแพ้ทาง บางทีเขาอาจจะไม่สามารถควบคุมมันได้
ระฆังแมลงสั่นไปมา หนิงฉือซานร้อนรนเป็นอย่างมาก ตาของเขากระพริบมา ขณะที่สังเกตอยู่กับทรา
ในขณะเดียวกัน ฉื่อหยานที่ขี่สัตว์อสูรล่าวิญญานก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา ในเวลาเดียวกัน ราชาแมลงอสูรกลืนกินที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าก็โจมตีเขาจากด้านหลัง
” เจ้าหนู เจ้าใช่ไหมที่เป็นคนฆ่าหนิงเซอ ?” ทันทีที่หนิงฉือซานเห็นฉื่อหยาน เขาก็ตะโกนถามออกมา
” ถูกต้อง นั่นเป็นเรื่องนี้ ข้าเป็นคนฆ่าหนิงเซอเอง . . . . . . . และตอนนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าด้วย ” ฉื่อหยานหัวเราะออกมาดัง ๆ , สั่งให้สัตว์อสูรล่าวิญญานราวกับพายุ พร้อมกับกระตุ้นพลังเชิงลบที่อยู่ในร่างของเขา มือของฉื่อหยานก็เคลื่อนไหวไปมาเกิดเป็นผนึกขึ้นมา แก่นแท้เจตจำนงของผนึกแห่งความเป็นและความตายที่เขาเข้าใจก็ทะลักออกมา
ผนึกแห่งความเป็นความตายปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆและแก่นแท้เจตจำนงที่รุนแรงก็ปกคลุมหนิงฉือซาน
” เจ้าเด็กน้อย เจ้าอยู่เพียงระดับนภาแต่กลับกล้าใช้แก่นแท้เจตจำนงโจมตียอดฝีมือเช่นข้ารึ ! อยากตายนักใช่ไหม ! ” ที่หนิงฉือซานหวาดกลัวคือเป่ยซื่อ แต่เมื่อเขาเห็นว่าเป็นฉื่อหยานที่มา เขาก็ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มชั่วร้ายของเขาได้ เขาโบกมือของเขา สัตว์อสูรมากมายก็ปรากฏอยู่เหนือท้องฟ้าอย่างหนาแน่น สัตว์อสูรเหล่านั้นเป็นเหมือนฝูงตั๊กแตนที่รวมกันราวกับเป็นเมฆก้อนใหญ่ มันส่งเสียงคำรามและกรีดร้องออกมา .พวกมันปกคลุมไปทั่วฉื่อหยานในพริบตา
” เคล็ดสัตว์อสูรหมื่นพิษ !
หนิงฉือซานตะโกนออกมา เป็นกลิ่นอายห้าสีก็ลอยออกมาจากร่างขิงเขาไหลเข้าไปในเคล็ดสัตว์อสูรหมื่นพิษที่เขาสร้างขึ้น ตอนแรก มันเป็นแค่ภาพลวงตา แต่หลังจากที่พวกมันได้รับกลิ่นอายห้าสี พวกมันทั้งหมดก็ดูราวกับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ฉื่อหยานสามารถเห็นถึงรายละเอียดเล็กๆของพวกมันได้
นี่เป็นแก่นแท้เจตจำนง ภายในนั้นประกอบไปด้วยแก่นแท้เจตจำนงหลากหลาย พวกมันแต่ละอันถูกสร้างขึ้นจากพลังและพิษ ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่สัตว์อสูรจริงๆ แต่มันก็อันตรายเป็นอย่างมาก
” ตายสะ ! “
ฉื่อหยาน ค่อยๆหลับตาลง สัมพัสเข้าไปในแก่นแท้เจตจำนงแห่งความตาย , จิตใจของเขาเป็นเหมือนกับฝุ่นแห่งความตาย พืชพรรณเหี่ยวเฉา สิ่งมีชีวิตเก่าแก่โบราณที่ตกตายไปแล้วก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตสำนึกของเขา สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบต่างๆของความตายที่มีอยู่บนโลกใบนี้
ในตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นพระเจ้าแห่งความตาย สามารถควบคุมชีวิตขอสิ่งมีชีวิตนับหมื่นได้
ขณะที่เขาแช่จิตใจของเขาจมลึกลงไปในแก่นแท้เจตจำนงนี้เพื่อทำความเข้าใจ เขาก็รู้สึกราวกับว่าสูญเสียตัวตน และรู้สึกว่าเขาเป็นวิญญานที่กลวงโบ๋ จิตสำนึกวิญญาณของเขาเชื่อมต่อกับสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น เมื่อเขาตัดการเชื่อมต่อ วิญญานของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็หายไป
ในแก่นแท้เจตจำนงแห่งความตาย เขาได้ลืมตัวตนของตัวเองไป ทั้ง จิตใจ พลังปราณลึกลับ และวิญญานของเขาจมอยู่ในห้วงจิตสำนึก
จู่ๆสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้นรอบๆเชา . . . . . . .
ภายใต้แก่นแท้เจตจำนงแห่งความตาย ต้นไม้รอบข้างเขากลายเป็นเหี่ยวเฉา สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ดินต่างกลายเป็นตกตาย ภาพมายาสัตว์อสูรที่หนิงฉือซานได้ปล่อยออกมาในอากาศ ก็แตกสลายหลังจากที่โดนบางสิ่งทำลาย ไม่นานพลังของพวกมันทั้งหมดก็สลายหายไปในท้องฟ้าและผืนดิน
ใบหน้าของหนิงฉือซานก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้สึกว่าฉื่อหยานต้องทำอะไรบางอย่างแน่ๆ จู่ๆ เขาก็เกิดภาพหลอนเห็นตัวเองตกตาย ใบหน้าของเขากลายเป็นมืดมนด้วยความกลัว
ราชาแมลงอสูรและสัตว์อสูรล่าวิญญานก็ฉวยโอกาสนี้พุ่งไปที่เขา
ตัวไหมทองคำนั้นมาได้เร็วกว่าราชาแมลงอสูรและสัตว์อสูรล่าวิญญาน มันรีบลงมือก่อนที่ระฆังจะส่งเสียงออกมาอีกครั้ง มันกลายเป็นลำแสงสีทอง หายเข้าไปในร่างของหนิงฉือซาน
ตัวไหมทองคำ สัตว์อสูรล่าวิญญาน และราชาแมลงอสูร ทั้งสามเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก เมื่อพวกมันร่วมมือกัน สิ่งที่หนิงฉือซานที่ได้เห็นภาพที่ตัวเองตกตายจากแก่นแท้เจตจำนง ก็เกิดขึ้นจริง
แกร๊กก แกร๊กก !
เสียงสะท้อนก็ดังออกมาจากผิวหยังของหนิงฉือซาน ในเสี้ยววินาทีก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ร่างเขาก็แยกออกเป็นชิ้นๆ สัตว์อสูรที่โหดเหี้ยมก็ได้ฉีกร่างของเขาออกอย่างน่าสยดสยอง
ฉื่อหยานยังคงยืนนิ่ง เขาแช่ตัวเองในแก่นแท้เจตนำนงแห่งความตาย เขาไม่รู้ถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่รอบๆตัวเอง
เป่ยซื่อที่พุ่งมาด้วยความเร็วอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะได้ทำอะไร ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป ก็อุทานอยู่ในใจ
เขาไม่รู้ว่าฉื่อหยานนั้นทำอะไร แต่พอเขามาถึง เขาก็พบเลือดเนื้อของหนิงฉือซานกระจายอยู่
แกร๊กก แกร๊กก
ฮันซุยและเหลิงต้านชิงก็มาถึง ดวงตาคู่สวยของพวกนางก็จ้องไปที่ฉื่อหยาน และพวกนางก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูกสันหลัง
เขาเป็นคนฆ่างั้นรึ !
วินาทีนี้เอง พวกนางก็รู้แล้วว่าฉื่อหยานนั้นน่าหวาดกลัวเพียงใด . . . การที่พวกนางคิดแผนชั่วซุ่มโจมตีตัวตนเช่นนี้ ทำให้หัวใจของหญิงสาวทั้งสองแข็งตรึง
สัตว์อสูรล่าวิญญาน , ตัวไหมทองคำ และแมลงอสูรก็บินมาที่ฉื่อหยาน สามสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายก็เผยแววตาที่โหดเหี้ยมออกมาและจ้องไปที่เป่ยซื่อและหญิงสาวทั้งสองอย่างดุร้าย
” เราไม่ได้มีเจตนาร้าย . อย่าต้องกังวล !”
เป่ยซื่อก็หวาดกลัว เขาโบกมือของเขาอย่างต่อเนื่องและก้าวถอยหลัง รักษาระยะห่างให้ปลอดภัยจากฉื่อหยาน เขาต้องการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย เขากลัวว่าสิ่งมีชีวิตทั้งสามที่ดุร้ายจะโจมตีเขา
ฮันซุยและเหลิงต้านชิง พวกนางก็ถอยไปไกลกว่าเป่ยซื่อ พวกนางถอยไปจนเห็นร่างของฉื่อหยานเป็นจุดเล็กๆ . .
ตอนนี้หญิงสาวทั้งสองถูกพิษอยู่ , พวกนางไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป ถ้าสัตว์อสูรล่าวิญญาน , ตัวไหมทองคำ และราชาแมลงอสูรต้องการฆ่าพวกนางตอนนี้ มันก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
” เด็กหนุ่มนี่ดูเหมือนกำลังจมอยู่ในแก่นแท้เจตจำนง และดูเหมือนเขาจะเข้าใจแก่นแท้นี่ได้อย่างลึกซึ้ง ” เป่ยซื่อก็แปลกใจ เขาขมวดคิ้วมองฉื่อหยานด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
” บางทีเขาอาจจะกำลังทะลวงระดับขั้นนภา มันเป็นสัญญาณของความก้าวหน้า เมื่อเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากขึ้น เขาก็จะเข้าสู่ขั้นใหม่ทันที ” ฮันซุยพูดอย่างเป็นทุกข์ ” . ชายหนุ่มคนนี้มีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก เฮ้อ สิ่งที่เราทำในครั้งนี้ ได้สร้างความแค้นฝังลึกไว้ในใจของเขา ข้าไม่รู้ว่าเขาจะต้องลงมือกับเราแน่เมื่อเขาตื่นขึ้นมา “
สีหน้าของเหลิงต้านชิงก็เต็มไปด้วยความอับอาย นางไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนี้
เป่ยซือต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆเขาก็พบเจออะไรแปลกประหลาดในร่างของเขา แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ” ผลของหมอกละลายจิตยังมีอยู่อีกรึ ? ? ? ? ? ? ทำไม ข้าถึง . . . . . . . “
ฮันซุยไม่รอให้เขาพูดจบ ใบหน้าของนางก็กลายเป็นตื่นกลัว . ฮันซุยและเหลิงต้านชิงใบหน้าของพวกนางกลายเป็นขาวซีด พวกนางหยักหน้าให้กัน ” เจ้าปีศาจเฒ่านั่นบอกว่า คนที่สูดกลิ่นของหมอกละลายจิตเข้าไป จิตใจของเขาจะค่อยๆถูกกัดเซาะ และหนึ่งในเจ็ดอารมณ์และหกความปรารถนาก็จะถูกกระตุ้นขึ้น พวกเจ้า ข้าคิดว่าพวกเจ้ากำลังถูกปลุกอารมณ์ . . . . . . .
เป่ยซื่อตกใจ เขาถามอย่างรีบร้อน ” แล้วมันจะแก้ได้อย่างไร ? “
” มัน . . . . . . . มันต้องปลดปล่อยออกมา . . . . . . . ” ฮันซุยหน้าก็แดง แล้วนางก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ” เจ้าควรกลับไปยังตระกูลผู้นำให้เร็วที่สุด ‘ เจ้ายังคงมีเวลาพอที่จะกลับไปถึงตระกูล “
เป็นเป่ยซื่อเมื่อได้ยินที่นางพูด เขาไม่กล้าลังเล และพุ่งจากไปโดยไม่พูดสิ่งใด
” พี่สาว เขา . . . . . . . เขาเองก็ได้สูดหมอกละลายจิตเข้าไปเช่นกัน . . . . . . . “เหลิงต้านชิงก็นึกถึงบางสิ่ง ใบหน้านางซีดเผือด มองไปยังทิศทางของฉื่อหยาน ด้วยความกลัว นางก็พูดอย่างตะกุกตะกัก ” เรา . . . . . . . พลังของเราถูกปิดกั้นไว้ เรา . . . . . . . เราควรจะทำยังไงดี ? “
_______________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 31 แล้ว มีถึงตอนที่ 1432 ลูกค้าท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <