เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 87 เคล็ดทมิฬ

บทที่ 87 เคล็ดทมิฬ

 

ต่อมาซัวฉี คนอื่นๆ และฉื่อหยานก็เดินทางกันอยู่ในหุบเขากันอย่างไม่หยุด

ซัวฉีแสดงความสามารถออกมาเรื่อยๆ โดยการเอาขับไล่พืชพรรณประหลาดรวมถึงสัตว์อสูรออกไป

ซัวฉีกลายเป็นปรมจารย์แห่งบึงมรณะไปทันที เพราะเค้ารู้จักพื้นที่พลังหยินนี้ดีกว่าชิเสียว

ตลอดทาง ซัวฉี สามารถพาผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยการทำเช่นนี้ ชิเสียวและเซี่ยซินหยานจึงสามารถประหยัดพลังไว้สำรหับประมือกับอสรพิษเก้าหัวได้

เมื่อเข้าใกล้กับหุบเขาพลังหยิน พวกเขาก็สัมพัสได้ถึงพลังปราณหยินได้อย่างชัดเจน

ฉื่อหยานรู้สึกว่า พลังปราณลึกลับของเขาค่อยๆโคจรข้าลง ซี่โครงและกระดูกของเขาต้องเผชิญกับความกดดันที่มาจากพลังปราณหยิน

ซั่วฉื่อเองก็เช่นกัน

เมื่อเข้ามาใกล้มาหุบเขาพลังหยิน ใบหน้าของนางก็กลายเป็นยิ่งซีด เห็นได้ชัดว่านางไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศที่แห่งนี้เหมือนกับเขา

” เราพักที่นี่เถอะ ซัวฉี แม่นางเซี่ย เราต้องสำรวจแผนที่เสียก่อน . ” ชิ เสี่ยว รู้สึกเห็นใจเด็กน้อยที่มาด้วย เขาจึงหยุดพักตรงที่สะอาดและพื้นเรียบ จากนั้นก็เอาแผนที่ขุมทรัพย์ออกมาและปรึกษากับ ซัวฉีและเซี่ยซินหยาน

ซัวฉีไม่ได้อยากหยุดพักเลย แต่เพราะชิเสี่ยวเอาแผนที่ออกมา เขาก็กลับเห็นด้วยกับเขาทันที

เขาเดินไปหาชิเสี่ยวอย่างรวดเร็วและหัวเราะคิกคัก ” ฮ่า ฮ่า ข้าคุ้นเคยกับหุบเขาพลังหยินดี มานี่ๆ ขอข้าดูแผนที่หน่อย ข้าจะบอกตำแหน่งของประตูสวรรค์เอง “

เซี่ยซินหยาน ลังเล และนางก็เดินเข้ามา

ชิเสี่ยวได้จดจำแผนที่อยู่ในใจแล้ว เขาจึงยื่นแผนที่ให้เซี่ยซินหยาน และปล่อยให้นางดู และต่อไปก็ส่งให้ ซัวฉี ดู

” เจ้าสองคนเป็นไงบ้าง ? ทนไหวหรือไม่ ? ” ชิ เสี่ยวมองไปที่ซั่วฉื่อและพูดออกมา

ใบหน้าสวยของซั่วฉื่อกลายเป็นซีดเซียว ” อือ ข้าพอรับมือกับมันได้ แต่มันรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง พลังปราณหยินนั้นได้มาหน่วงพลังปราณลึกลับของข้าไว้และดูเหมือนว่าจะกินพลังปราณลึกลับของข้าไปเป็นจำนวนมา ยิ่งเข้าใกล้หุบเขาพลังหยินเท่าใดมันก็ยิงกินมากขึ้นไปอีก .

” นั่นเป็นเรื่องปกติ ” ชิ เสี่ยว พยักหน้า และได้อธิบายว่า ” พลังปราณหยินที่หนักหน่วงนี้จะมีผลต่อร่างกายของเจ้า ดังนั้นพลังปราณลึกลับของเจ้ากำลังปรับตัวให้เข้ากับมันอยู่ มันจึงสูบพลังของเข้าไปอย่างรวดเร็ว เจ้าต้องระวังไว้ นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น พลังปราณหยินจะหนาแน่นขึ้นเมื่อเข้าไปในหุบเขา ถ้าเจ้าทนไม่ไหวจริง คุณจะต้องหยุดก่อนที่จะเข้าไป “

” อาจารย์ [ คัมภีร์หินลาวา ] ดูเหมือนว่าจะสามารถควบคุมพลังปราณหยินได้ ” ซั่วฉื่อพลันกล่าวออกมา

และชิเสี่ยวก็ประหลาดใจเขาคิดสักพักและบ่นออกมา ” แล้วทำไมเจ้าไม่ฝึกมันตั้งแต่แรก นี่มันก็ผ่านมานานแล้วนะ “

” ข้าพึ่งนึกได้ว่า ข้าได้รับมันมา ” ซั่วฉื่อโดยแลบลิ้นของนางออกมาอย่างซุกซนและแสยะยิ้ม” ก็ได้ ข้าจะฝึกฝนมันอย่างจริงจังแล้ว ข้าพบว่าเมื่อข้าเริ่มใช้ [ คัมภีร์หินลาวา ] พลังปราณหยินก็จะไม่สามารถเข้ามาในร่างข้าได้ ” .

” ถ้าเจ้าขยันเสียหน่อย เจ้าก็คงฝึก วิชา [ คัมภีร์หินลาวา ] ได้สำเร็จไปแล้ว ” ชิเสี่ยวส่ายหน้าด้วยความเสียดาย

” ไม่นะ ! มันไม่สายเกินไปเสียหน่อยที่จะเริ่มต้นตอนนี้ ” ซั่วฉื่อพูดสวนกลับมา

ชิ เสี่ยว ถอนหายใจในใจของเขาอีกครั้งและหันไปถามฉื่อหยาน , ” แล้วเจ้าหละรู้สึกเช่นไรบ้าง “

” ข้าสบายดี ข้าสามารถทนมันได้ ” ฉื่อหยานตอบอย่างใจเย็น

” พยายามเข้าหละ ” ชิเสี่ยวพยักหน้า ” เจ้าควรหยุดหากเจ้าทนมันไม่ไหว แล้วข้าจะให้ฮันเฟิงอยู่ปกป้องเจ้าที่นี่เอง ขณะที่กู่หลงจะต้องเข้าไปยังหุบเขากับเรา เราเพียงแค่ดูว่าในประตูสวรรค์มีสิ่งใดบ้างในครั้งนี้ จากนั้นตระกูลของฉื่อของเจ้าก็จะส่งยอดฝีมือมาเพิ่มที่นี่ ดังนั้นอย่าได้กังวลมากเกินไป ถ้าเจ้าไม่สามารถไปที่ประตูได้ .

ฉื่อหยานพยักหน้าและ ไม่พูดอะไรอีก

ชิ เสี่ยว ปลอบเขาและขอให้ซั่วฉื่อฝึกฝนอย่างหนัก จากนั้นก็เดินกลับไปหา ซัวฉีและเซี่ยซินหยาน

” นายน้อย ท่านหัวหน้าตระกูลบอกเราว่าความปลอดภัยของท่านเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าฝืนตัวเองเลยหากท่านไม่สามารถทนมันได้ ท่านผู้นำตระกูลได้ กล่าวว่า เราเพียงแค่ต้องการที่อยู่ของมันและดูว่ามีสิ่งใดอยู่ในนั้นบ้างเท่านั้น . ” กู่หลงพูดด้วยเสียงเบสๆข้างๆเขา

” ข้าจะทำมันเอง ” ชิ ยัน ดูเฉยๆ แล้วเขาก็ขมวดคิ้ว .

ห่างออกไปไม่ไกล ซัวฉี , เซี่ยซินหยาน และ ชิเสี่ยวยังคงตรวจสอบแผนที่อยู่

แม้ว่า ซัวฉี จะถือว่าตัวเองทุกซอกทุกมุมทั้งหมดของหุบเขาพลังหยิน แต่เขาก็ไม่สามารถหาที่อยู่ของมันได้พบ เมื่อเขามองดูแผนที่ จากที่เห็นดูเหมือนว่าเขาจะแสดงอาการสับสนออกมาและกระซิบไปที่ชิ เสี่ยว

ฉื่อหยานมองไปที่พวกเขาและนั่งลงอยู่กับที่ และคิดบางอย่างในใจ

เขาอยากรู้เรื่องของประตูสวรรค์ และเขาก็ต้องการจะเข้าไป

อย่างไรก็ตาม พลังปราณหยินนั้นอยู่ไปทั่วทุกที่ มันทำให้เขาลำบากเป็นอย่างมาก ในเวลาเดียวกัน ยิ่งมันหนาแน่นมากขึ้นเท่าใด ร่างกายของเขาก็ยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น

ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าไปยังหุบเขาพลังหยิน มันจะต้องกลืนกินพลังปราณลึกลับของเขาเพื่อปกป้องร่างกายไปไม่น้อยแน่ เขาไม่สามารถนึกถึงวิธีการที่จะรับมือกับพลังปราณหยินที่อยู่ในหุบเขาได้เลย หากเป็นเช่นนี้อยู่ พลังปราณลึกลับของเขาจะต้องถูกเผาผาญจนหมดและ มันจะเป็นอันตรายมากหากเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นมา”

” ข้าต้องหาบางอย่างเพื่อรับมือกับพลังปราณหยินนี่ ! “

หลังจากคิดเพียงเวลาสั้นๆ สีหน้าของฉื่อหยาน ก็กลายเป็นจริงจัง เขานั่งขัดสมาธิ และพยายามที่จะค้นหาบางอย่างในความทรงจำ

 

แล้วความคิดก็แวบผ่านข้ามจิตใจของเขา

[ เคล็ดทมิฬ ]

ใบหน้าของเขาสว่างขึ้น เขาหยิบกระเป๋าของเขาและหยิบเอาหนังสือวิชาระดับมนุษย์ [ เคล็ดทมิฬ ] เล่มสีดำออกมา

มันเป็นเพียงแค่วิชาของนักรบระดับเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งมันจะต้องฝึกฝนในสภาพที่มันพลังปราณหยิน มันจะดีที่สุดหากฝึกมันในสถานที่ ที่มีพลังปราณหยินหนาแน่น

นับตั้งแต่ที่เขาได้ [ เคล็ดทมิฬ ] จาก การู มา มันเป็นเพียงแค่วิชาระมนุษย์และจะต้องฝึกในสถานที่ ที่มีพลังปราณหยิน

และ หลังจากที่เขาได้เห็นวิชาในตระกูลฉื่อมากมาย เขาก็ได้ลืม [ เคล็ดทมิฬ ] นี้ไปเสียสนิท

ดังนั้น หนังสือเล่มนี่จึงถูกฝังอยู่ในกระเป๋าของเขาตลอด

ที่นี่มีพลังปราณหยินหนาแน่นเป็นอย่างมาก มันเป็นสถานที่ที่ดีที่เพื่อที่จะฝึกฝน [ เคล็ดทมิฬ ]

ถึงแม้ว่า[ เคล็ดทมิฬ ] จะเป็นเพียงวิชาระดับมนุษย์ก็ตาม แต่มันก็สามารถควบคุมพลังปราณหยินได้ หากใครคนหนึ่งปรับตัวเข้ากับสภาพเช่นนี้ได้ เขาก็จะสามารถรวบรวมพลังปราณหยิน และใช้มันเป็นอาวุธได้

ฉื่อหยานไม่สนใจเรื่องของประสิทธิภาพของมันมากนัก มันก็แค่วิชาระดับมนุษย์ , ประสิทธิภาพของมันจึงไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก .

แต่กระนั้น [ เคล็ดทมิฬ ] กลับสามารถดูดซับพลังปราณหยินและช่วยให้เขาปรับตัวเข้ากับมันได้ ซึ่งมันจำเป็นอย่างมากในตอนนี้ !

ดังนั้นเขาจึงหยิบเคล็ดนี้ออกมาทันที

ขณะที่ ชิ เสี่ยว ซัวฉีและเซี่ยซินหยาน ยุ่งอยู่กับการหาตำแหน่งของประตูสวรรค์ ฉื่อหยานก็ตั้งสมาธิไปในขั้นตอนการฝึกของ [ เคล็ดทมิฬ ]

ขณะที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น ฉื่อหยานพลิกเปิดหนังสือ[ เคล็ดทมิฬ ] ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ไม่นานนัก เขาก็อ่านได้เพียงบทแรกเท่านั้น และเขาก็แอบเอาหนังสือเก็บเข้าไปในถุงของเขา พร้อมกับขมวดคิ้ว .

ถึงแม้ว่า[ เคล็ดทมิฬ ] จะเป็นเพียงวิชาระดับมนุษย์ แต่มันช่างดูแปลกประหลาดนัก หากจะฝึกฝนมัน จะต้องควบคุม พลังปราณหยินระหว่างสวรรค์และโลก และจะต้องโคจรพลังหยินไปรอบๆเส้นชีพจรทั้งสามส่วนในหน้าอกของเขา และสร้างเป็นวังวนไปรอบๆทั้งสามจุด ได้แก่จุด เทียนเค้อ , เชินเค้อ กับ หยินตู๋

ตราบใดที่ เขาโคจรไปรอบๆจุดพวกนี้ เขาก็จะสามารถใช้งาน [ เคล็ดทมิฬ ] และดูดซับพลังปราณหยินรอบๆตัวเขาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อโคจรพลังปราณหยินไปรอบๆจุดทั้งสอบอย่างเพียงพอแล้ว , พวกมันก็จะสร้างเป็นไข่มุกพลังหยิน และมันจะประทับลงในเส้นชีพจรทั้งสามจุดของเขา

และหลังจากนั้น วังวนพลังหยินเหล่านั้นก็จะดูดซับพลังปราณหยินได้อย่างไม่รู้จบ

ตราบเท่าที่มีพลังปราณหยินเพียงพอ วงหมุนพลังหยินก็จะสร้างไข่มุกมากขึ้น และประทับลงไปที่เส้นชีพจรของเขา

ยิงมีไข่มึกพลังปราณหยินในเส้นชีพจรมากเท่าใด , พลังของ [ เคล็ดทมิฬ ] ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

คนที่ฝึก[ เคล็ดทมิฬ ] จะสามารถกักเก็บพลังปราณหยินได้โดยเพียงแค่เรียกใช้วิชา [ เคล็ดทมิฬ ] เท่านั้น และมันก็จะดูดพลังปราณหยินเข้าไปยังวังวนพลังหยินทันที

ถึงแม้ว่า [ เคล็ดทมิฬ ] จะเป็นวิชาในระดับมนุษย์ แต่มันก็สามารถดูดซับพลังปราณหยินได้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าพลังปราณหยินนั้นมันสามารถดูดซับ

ดูเหมือนวังวนพลังหยินทั้งสามจะกลืนกินพลังปราณหยินอย่างไม่หยุดหย่อนทราบเท่าที่มัพลังปราณหยินให้กลืนกิน

ฉื่อหยาน ได้เห็นวิชาต่อสู้มามากมายในตำหนักวิญญานของ ตระกูลฉื่อ แต่เขาไม่เคยเห็นวิชาที่แปลกประหลาดเช่นนี้เลย

จุดมุ่งหมายของทุกวิชานั้นเพื้อใข้ในการต่อสู้เท่านั้น แต่วิชา[ เคล็ดทมิฬ ] นั้นสามารถฝึกและสามาระแปลเปลี่ยนได้อย่างไม่มีสิ้นสึด

เขานั่งบนพื้นด้วยสีหน้าจริงจัง ฉื่อหยานเรียบเรียงลำดับขันตอนการฝึกและเข้าใจมันอยู่ในจิตใจของเขา และเขาก็พบว่าวิชา [ เคล็ดทมิฬ ] นั้นเป็นวิชาที่พิเศษอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม เขาไม่เลิกลังเลที่จะเข้าไปยังศูนย์ของหุบเขาพลังหยินทันที เขานั้นได้อ่านกระบวนการฝึกมันอยู่หลายครั้ง และเขาก็ได้เริ่มฝึกมัน ในขณะที่ ชิ เสี่ยว ซัวฉี ยังคงกระซิบกระซาบกันอยู่

ฉื่อหยาน เชื่อมต่อพลังปราณหยินไปที่ ตา จมูก และหัวใจของเขา และเขาก็เริ่มโคจรไปยัง เส้นชีพจร เทียนเค้อ , เฉินเค้อ กับหยินตู๊ เขาโคจรไปยังจุดทั้งสามอย่างหนาแน่น

ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฝึกร่างกายของเขายังคงได้รับแรงกดดันอยู่ เพราะเขานั้นยังไม่ได้ดัดแปลงพลังปราณหยินเหล่านั้น

พลังปราณหยินค่อยๆโคตรเป็นวงกลมรอบเส้นชีพจรทั้งสามของฉื่อหยาน

เขาพบว่าร่างกายของเขาปรากฏเป็นแรงดึงดูดแปลกๆขึ้น พลังปราณหยินเริ่มเข้ามาในร่างเขาหลังจากเขาเริ่มใช้วิชา [ เคล็ดทมิฬ ]

ในขณะที่เขากำลังการกลั่น วังวนพลังหยิน ในร่างของเขา พลังปราณหยินรอบๆตัวเขาก็เริ่มที่จะรวบรวมและไหลผ่านเข้ามาในร่างกายของเขาผ่านทุกๆรูขุมขน ในที่สุดมันก็ไหลมาถึงเส้นชีพจรทั้งสามของเขาและมันก็เริ่มโคจรช้าๆ

––––––––––––––––––––––––

ปล. อภัยที่ลงช้าจ้า ไม่มีอะไรแก้ตัวนอกจาก ลืมมมม ! ลงอีก 3 ตอน ในวันที่ 19/6/2560 ตอนนี้กลุ่มลับของเราเริ่มลงตอนที่ 237 แล้วจ้า สนใจอ่านรายระเอียดได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

 

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset