บทที่ 98 พัฒนาขึ้น !
ใน [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] มู่ฮุ่ยร่างของมันสั่นเทา และเลือดเนื้อบนร่างกายของมันก็ค่อยๆตกลงมา
ณ จุดนี้ พลังจิตวิญญานของเขาก็กลายเป็นไร้ปประโยชน์อย่างสมบูร์ เขาไม่สามารถปลดปล่อยหรือคำรามออกมาได้อีกต่อไป
และในตอนนี้เอง ฉื่อหยานก็เข้าไปใน [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] และใช้นิ้วมือของเขาที่เหมือนหอกแทงตรงไปที่คอของมู่ฮุ่ย
” ปุ ! “
เป็นสายเลือดที่พุ่งกระฉูดออกจากคอของมู่ฮุ่ยเหมือนกับน้ำพุพร้อมกับกระดูกสันหลังของมันที่หักลง มันได้ตกตายอย่างอนาถในวงหมุน
พลังปราณลึกลับในร่างกายมู่ฮุ่ยทั้งหมดไหลเข้าสู่เส้นชีพจรทั้ง 720 เส้นของฉื่อหยาน
มู่ฮุ่ยนั้นเป็นนักรบในนภาที่สามของระดับมนุษย์ แต่พลังปราณลึกลับของมันนั้นแข็งแกร่งกว่านักรบคนอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันนัก
ฉื่อหยานใช้เวลาสิบสองวินาทีในการดูดซับพลังปราณทั้งหมดเข้าสู่ร่างกายซึ่งใช้เวลานานกว่าที่เขาดูดซับจากคนอื่นนัก
ไม่นาน ศพของมู่ฮุ่ยก็กลายเป็นเหี่ยวแห้งและล่วงหลนตกลงพื้นไป .
สีหน้าของฉื่อหยาน ก็สงบ เขาหลับตาลง รู้สึกไปถึงพลังปราณลึกลับที่มาจากร่างกายของมู่ฮุ่ย รู้สึกไปถึงการเปลี่ยนแปลงในเส้นชีพจรของเขา และเขาค่อยๆนั่งลงบนพื้นดิน
เส้นชีพจรของเขาปูดบวมและรู้สู้ปวด คงเป็นเพราะการดูดซับพลังปราณลึกลับเข้ามายังเส้นชีพจรอย่างต่อเนื่องและมากมาย มันจึงทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด พลังงานเชิงลบที่แตกต่างกันเก็บเริ่มเคลื่อนไหวในร่างกายและเริ่มก่อกวนจิตใจของเขา
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ สภาพในร่างกายของเขากลับไม่ดุร้าย และกลายเป็นบ้าคลั่ง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
เขาสงบลงและสังเกตุไปที่ผลกระทบของ [ บ้าตลั่ง ] , ฉื่อหยานก็พบว่าร่างกายของเขานั้นยังคงเจ็บอยู่ แต่พลังเชิงลบนั้นไม่สามารถควบคุมจิตใจเขาและทำให้เขาตกอยู่ในกระหายเลือดหรือบ้าคลั่งได้
เขาหลับตาและสงบตัวลง เขารู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของพลังงานเชิงลบในเส้นชีพจรของเขา ฉื่อหยานคิดอย่างเงียบๆ และพยามรู้ถึงแก่นแท้ของมัน
ตอนนั้นเอง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในจิตวิญญานของเขา !
หลังจากคิดสักพัก ฉื่อหยานความคิดก็ส่องประกายและคำตอบก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
ในระหว่างการต่อสู้กับ มู่ฮุ่ย มันได้ปลดปล่อยพลังจิตวิญญานออกมาบางครั้งและมันเกิดบางสิ่งแปลกๆขึ้นกับเขา เหมือนกับว่ามันพยายามจะดึงวิญญานของฉื่อหยานเข้าไปในก้นบึ้งของความมืดให้กลายเป็นเชลยภายใต้อำนาจของจิตใจ
เมื่อใดก็ตามที่มันเกิดขึ้น พลังเชิงลบในร่างกายของฉื่อหยานก็จะประทุออกมา
พลังงานเชิงลบเหล่านั้นก็เข้ามาในส่วนลึกของวิญญานเขาทันทีเหมือนกับสายฟ้าฟาดและมันก็ใช้พลังของมันในการดึงสติของเขาให้ออกมาจากขุมนรกที่มืดมิด ปลดปล่อยเขาออกจากพันธนาการของจิตวิญญานของมู่ฮุ่ย
เพราะพลังจิตวิญญานของมู่ฮุ่ย พลังงานเชิงลบเหล่านั้นจึงประทุออกมาอีกครั้งและอีกครั้ง โดยใช้ความกระหายเลือดและความโหดเหี้ยม ลบพลังจิตวิญญานที่ดำมืดของมู่ฮุ่ย ในระหว่างการปะทะ พลังงานเชิงลบควรจะครอบคลุมจิตใจของเขา แต่มันกลับประทุขึ้นและไปต่อต้านกับพลังจิตวิญญานแทน
พลังงานเชิงลบนั้นรุนแรงเกินกว่าที่ฉื่อหยานจะควรคุมได้ แต่เพราะการที่มู่ฮุ่ยใช้พลังจิตวิญญานเข้าไปยังร่างของเขา พลังงานเชิงลบเหล่านั้นจึงไปประทะเข้ากับพลังจิตวิญญานและกลายเป็นช่วยเหลือเขาแทน
นั่นหมายความว่า พลังจิตวิญญานที่มู่ฮุ่ยใช้ ถูกต่อต้านโดยพลังงานเชิงลบของฉื่อหยานและทำให้เขาได้สตินั่นเอง
ความคิดเหล่านี้ที่แวบผ่านจิตใจของฉื่อหยานอย่างรวดเร็ว และเขาก็ยังบอกได้ถึง เหตุผลที่เขาไม่ได้รับผลกระทบจากพลังงานเชิงลบขณะที่ดูดซับพลังปราณลึกลับก็เพราะมันได้ไปประทะกับพลังจิตวิยยานของมู่ฮุ่ยแทน
ลึกลงไปในใจของเขา มีความรุนแรงและความปรารถนาในการฆ่ากำลังเติบโตขึ้น แต่พวกมันก้ไม่ได้มากมายนัก ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งของเขา ฉื่อหยานจึงไม่ตกอยู่ในอาการบ้าคลั่ง
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็นั่งอยู่บนพื้นอย่างสบายและเริ่มโคตรพลังปราณลึกลับของเขา
หลังจากเวลาผ่านไป ความเจ็บปวดในเส้นชีพจรของเขาก็เริ่มที่จะเข้มข้นขึ้น !
ภายใต้ความเจ็บปวด ในที่สุดของพลังที่บริสุทธิ์ ก็ค่อยๆ ไหลออกมาจากเส้นชีพจรของเขา คล้ายกับกระแสของน้ำที่อบอุ่นในร่างกายของเขา
หลังจากพลังปราณลึกลับของเขาได้บรรลุถึงระดับมนุษย์ พลังเหล่านั้นก็ประทุออกมาในทีเดียว พลังส่วนใหญ่ก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างของฉื่อหยาน และหายซึมซับเข้าไปในเนื้อหนัง กระดูก เส้นชีพจรและอวัยวะภายในของเขา มีเพียงพลังส่วนน้อยเท่านั้นที่หลอมรวมกับพลังปราณลึกลับในจุดตันเถียนของเขา และทำให้พลังปราณลึกลับของเขาแข็งแกร่งมากและบริสุทธิ์มากขึ้น
จิตใจของฉื่อหยานสงบนิ่ง เขาไม่ได้สนใจหรือสำรวจไปที่พลังปราณลึกลับของเขาเลย แต่เขากลับสนใจไปที่เนื้อ หนัง กระดูก และเส้นชีพจรในร่างกายของเขา
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังลึกลับที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหมือนกับสารอาหารที่มหัศจรรย์ และเขาเองก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้และ มันก็ค่อยๆบำรุงร่างกายของเขา . . . . . . .
ในระหว่างกระบวนการนี้ ฉื่อหยานรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังอาบน้ำอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน ทุกๆรูขุมขนบนร่างกายของเขากลายเป็นเปิดกว้าง ด้วยสารอาหารที่มหัศจรรย์เหล่านั้น ทำให้ร่างกายของเขาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างเงียบๆ . . . . . . .
พลังที่ลึกลับนี้โคจรไปรอบๆเส้นชีพจรของเขาและหายเข้าไปในกระดูกและเนื้อหนังของเขา มันหยังรากลงไปยังอวัยวะต่างๆของเขา และ ทำให้หัวของเขารู้สึดปลอดโปร่ง . . . . . . .
ในที่สุุดเขาก็เข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้ง !
มันไม่ใช่จิตวิญญานกายาแข็ง !
ฉื่อหยานคิดได้ดังนั้น เขาก็รู้ทันทีว่าพลังลึกลับที่หล่อเลี้ยงร่างกายของเขาอยู่มันไม่สมควรเป็นของจิตวิญญานกายาแข็ง
มันเป็นของจิตวิญญานอมตะ !
ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา และฉื่อหยานก็ลืมตาขึ้น เขารีบมองที่แขนขวา
แขนด้านขวาของเขาก่อนหน้านี้ที่ถูกฟันด้วย [ มีดจิตวิญญานทมิฬ ] เป็นแผลลึก ตอนนี้ กล้ามเนื้อที่อยู่ตรงแผลก็ค่อยๆ ขยับและรักษาด้วยความเร็ว !
กล้ามเนื้อและเส้นชีพจรพวกนี้ขยับเข้าหากันดูเหมือนกับว่าพวกมันมีชีวิตเป็นของตัวเอง !
ภายใต้การจ้องมองอย่างใกล้ชิดของฉื่อหยาน แผลที่มีขนาดลึกสองเซนติเมตรก็ค่อยๆหายไปทีละนิด เซล์หลอมรวมกันกลายเป็นกล้ามเนื้อขึ้นมาและ แผลก็ค่อยๆปิดลงแล้วในที่สุดมันก็ถูกรักษาทั้งหมด
10 นาที !
เพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น , แปลลึกสองเซนติเมตรรักษาหายอย่างสมบูรณ์โดยไม่มีร่องรอบเหลือเลย
จุดที่แขนขวาของเขาถูกทำร้าย ตอนนี้มันกลายเป็นเรียบเนียนเหมือนกับกระจก ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน หรือร่องรอยของเลือดที่ไหลออกมา ! เหมือนกับว่าเขาไม่เคยเป็นแผลมาก่อน
ฉื่อหยานเคลื่อนไหวแขนของเขาและก็สัมพัมได้ว่า มันหลงเหลือความเจ็บปวดอยู่แล้ว แขนข้างขวาของเขาก็ไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ และรู้สึกเช่นเดียวกับแขนซ้ายที่ไม่เคยบาดเจ็บ
ฉื่อหยาน ดวงตาสดใส ใบหน้าของเขากลายเป็นปลาบปลื้มยินดี
ในช่วง 10 นาที บาดแผลลึกได้หายไปเป็นเช่นเดิม และยังไม่มีอาการปวดหรือไม่สบายอีกด้วย เมื่อไหร่กันที่จิตวิญญานอมตะของเขาทำได้เช่นนี้ ?
ฉื่อหยา จำได้อย่างชัดเจนเลยว่าความเร็วในการรักษาบาดแผลของเขาก่อนหน้านี้ไม่เร็วเช่นนี้ !
อีกทั้งหลังจากที่แผลของเขาจะหายแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายและปวดอยู่บาง เขาจะต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งวันแผลนั้นจึงจะหายสนิท
แต่ตอนนี้ , มันกลับใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น !
จิตวิญญาณอมตะได้ก้าวเข้าสู่ขั้นใหม่ หลังจากที่ใช้เวลาคิดเพียงสั้นๆ ฉื่อหยานก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วและตรงประเด็น
การเลื่อนขั้นที่น่าอัศจรรย์นี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับตอนจิตวิญญานกายาแข็ง นั่นทำให้เขาตระหนักได้ว่าหลังจากที่ดูดซับพลังปราณลึกลับมาเป็นจำนวนมาก พลังลึกลับก็จะกระตุ้นไปที่จิตวิญญาณอมตะเช่นเดียวกับจิตวิญญานกายาแข็ง และตอนนี้ในที่สุดจิตวิญญานอมตะก็ได้บรรลุสู่ขั้นใหม่
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมพวกพลังลึกลับส่วนใหญ่ถึงเข้าไปยังเนื้อหนัง ชีพจร กระดูก และอวัยวะของเขา กลายเป็นว่ามันนั้นไปหล่อเลี้ยงจิตวิญญานอมตะนั่นเอง
ตอนนี้ทุกอย่างก็ชัดเจน
สีหน้าของฉื่อหยาน ก็เต็มไปด้วยความสุข เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา หลังจากนั้นเขาก็สงบลงและยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น และโคจรพลังปราณลึกลับของเขา
พลังปราณลึกลับในตันเถียนของเขานั้นยังคงซึมซับพลังลึกลับส่วนหนึ่งอยู่ และตอนนี้ มันก็ค่อยๆโคจรไปตามความคิดของเขา พลังลึกลับที่บริสุทธิ์ก็ไหลไปตามจุดชีพจรทั้งหมดในร่างกายของเขา
ทุกครั้งหลังเสร็จสิ้นการโคจร พลังปราณลึกลับอันเก่าที่อยู่ในตันเถียนของเขาก็ค่อยๆกลั่นตัวมากขึ้น
มันค่อยๆ ปรับปรุงโครงสร้างของพลังปราณลึกลับให้กลายเป็นสิ่งที่ดูเหมือนลูกบอลแสงที่มีสีสดใส ทุกๆการโคจรไปรอบๆ ขนาดของลูกบอลแสงก็จะหดเล็กลง แต่พลังของมันนั้นกลับเข้มข้นขึ้น
ฉื่อหยาน ก็ปิติยินดีอีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพลังปราณลึกลับของเขา เป็นสิ่งที่บอกว่าเขานั้นได้บรรลุจากนภาแรกไปสู่นภาที่สองหรือสามแล้ว
เริ่มจากนภาแรกในระดับมนุษย์ ทุกครั้งที่บรรลุถึงนภาใหม่ ขนาดของลูกบอลลังปราณลึกลับก็จะกลายเป็นเล็กลง แต่พลังปราณลึกลับกลับเข้มข้นและแข็งแกร่งมากขึ้น !
นี้คือกระบวนการของการปรับแต่ง
และเมื่อคุณกลั่นมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า สิ่งสกปรกที่อยู่ในลูกบอลแสงพลังปราณก็จะถูกลบล้างอย่างสมบูรณ์ . และหลังจากนั้นพลังปราณลึกลับก็จะกลายเป็นมากขึ้นและบริสุทธิ์มากกว่าเดิม พร้อมกับเสริมให้มันแข็งแกร่งขึ้น
เขารู้ดีว่า นี่เป็นโอกาสทองที่จะหนีจากนภาแรกไปสู่นภาที่สองของระดับมนุษย์ ฉื่อหยานไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไป เขาจดจ่อไปที่การโคจรพลังปราณลึกลับทั้งหมด
เขาหมุนเวียนและการกลั่นพลังปราณลึกลับของเขาซ้ำๆไปมา สิ่งสกปรกในพลังปราณลึกลับก็จืดจางลง ทำให้พลังปราณลึกลับของเขามีมากขึ้นและบริสุทธิ์มากขึ้น . . . . . . .
ในพื้นที่แปลกประหลาดแห่งนี้ เขาไม่รู้ถึงวันที่และเวลา
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านมานานแค่ไหน ตอนนี้ลูกบอลแสงพลังปราณลึกลับของเขาหดตัวลงจากขนาดเท่ากำปั้น เหลือเท่ากับลูกวอลนัท
อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของพลังปราณลึกลับของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม 30 เปอเซนต์
ไม่เพียงเท่านั้น , พลังปราณลึกลับที่อยู่ในร่างกายของเขาเองก็โคจรเร็วขึ้นเป็นสองเท่าเช่นกัน !
ภายใต้การควบคุม พลังปราณลึกลับก็ไหลออกจากปลายนิ้วของเขา มันเป็นประกายเจิดจ้าแสงสีขาว และกระพริบไปมา เหมือนกับผลึกลึกลับ
ฉื่อหยานใบหน้าของเขาดูมีความสุขเป็นอย่างมาก เขามองไปที่พลังปราณลึกลับที่แวววับอยู่บนมือ และรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาก็ค่อยๆ กว้างขึ้น . . . . . . .
ระดับมนุษย์ในนภาที่สอง !
เวลานี้ตอนขอบคุณนักรบจากโลกมืดจริงๆที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น ไม่เพียง แต่จิตวิญญาณอมตะของเขาจะเข้าสู่ขั้นใหม่ แต่เขายังได้บรรลุระดับขั้นต่อของนักรบ โดยเข้าสู่นภาที่สองของระดับมนุษย์
” ปะดับ ! ปะดับ , ปะดับ ! “
ไข่มุกพลังหยินจากสามเส้นชีพจรของเขา เฉินเค้อ เทียนเค้อ หยินตู๋ และ ก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง ! ชีพจรของไข่มุกพลังหยินในเวลานี้เร็วมากกว่าเดิมนัก พลังที่ดูดซับมาจากส่วนหัวใจของรูปปั้นหินกำลังขยายตัวและแข็งแกร่งขึ้น !
ฉื่อหยานจิตใจของเขาก็กระตุก ช่วยไม่ได้ที่เขาจะจ้องมองไปยังสถานที่ที่แสงดาวมารวมตัวกันอยู่ จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า แสงจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเหล่านี้ดูเหมือนจะต่างออกไป พวกมันเคลื่อนไปอีกที่เหมือนกับหิ่งห้อย แต่มันก็ไม่ได้เคลื่อนไหวไปยังสถานที่ลับอื่น
มันกำลังเปลี่ยนแปลง !
ฉื่อหยานขมวดคิ้ว . จากการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของไข่มุกพลังหยินที่อยู่ในหน้าอกของเขาและปรากฏการณ์ที่ผิดปกติของดวงดาว เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ไม่ดี และมันกำลังจะเกิดขึ้น
” ปะดับ ! ปะดับ , ปะดับ ! “
การสั่นของไข่มุกพลังหยินกลายเป็นมีชีวิตชีวามากขึ้น มันถูกเร่งให้เคลื่อนไหวไปยังสถานที่ที่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะมีบางกำลังรอมันอยู่
” บูม ! บูม ! “
เกิดเสียงฟ้าผ่าดังออกมาจากสถานที่ไกลออกไปพันลี้ มันเสียงดังจนมาถึงที่แห่งนี้
ฉื่อหยาน ชีพจรทั้งสาม เฉินเค้อ เทียนเค้อ และ หยินตู๋ ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกใครบางคนกำลังจู่โจมมาที่เส้นชีพจรของเขา ร่างกายของเขากลายเป็นแปลกประหลาดไป
โดยไม่รีรอ ฉื่อหยานก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และวิ่งออกไปยังสถานที่แห่งหนึ่งด้วยความเร็วสูงสุด