เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 60: สถาบันวิจัย 1

 
“อาจารย์ ไม่ต้องกังวล เขาคงไม่ผิดสัญญา เขาดูไม่เหมือนคนประเภทที่พูดแล้วไม่น่าเชื่อถือ”
“พูดยาก ฉันกลัวว่าจะมีคนมาแย่งเขาไปจากพวกเรา” ศาสตราจารย์ชราคิดว่าระมัดระวังไว้จะดีกว่า
อัจฉริยะแบบนี้ไม่ใช่เพียงแต่สถาบันวิจัยที่ต้องการตัว สถาบันทางการแพทย์อื่นๆที่เกี่ยวข้องก็ต้องการตัวพวกเขาไปเช่นเดียวกัน
ดังนั้นพวกเขาต้องเริ่มก่อน ติดต่อกับอีกฝ่ายให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และถ้าเป็นไปได้เซ็นสัญญากับเขาทันที
นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
“ตกลง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะติดต่อกับเขาตลอดเวลา” ตัวของเฉิงอี้เองก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ Dr.FS คนนี้
เขาได้อ่านงานวิจัยของอีกฝ่ายที่เผยแพร่บน SCI และเขาก็ต้องการที่จะถามอีกฝ่ายสำหรับคำแนะนำอย่างแท้จริง
###
วันจันทร์บ่าย หลังจากที่ทานอาหารเที่ยงแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็ขอครูออกจากห้อง โดยกล่าวว่าเธอปวดท้องและไปยังห้องพยาบาล
แต่หลังจากที่อยู่ที่ห้องพยาบาลไม่นานนัก เธอก็ถือโอกาสเล็ดลอดออกจากห้องพยาบาลและออกไปจากโรงเรียน
เธอขึ้นรถโดยสารประจำทางที่ประตูโรงเรียนและเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางสองคันระหว่างทาง
สถาบันวิจัยฮุ่ยหลิงนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างออกไปจากตัวเมืองเหิงเหย่วนมาก อยู่ที่สถานีปลายทางของรถโดยสารประจำทางสาย 716
เมื่อเหลือป้ายอีกเพียงสองสามป้าย ก็มีคนเหลืออยู่เพียงสองคนบนรถโดยสารประจำทาง คนหนึ่งก็คือเจี่ยนอีหลิง อีกคนเป็นหญิงวัยกลางคน
ดวงตาของผู้หญิงคนนี้แดง ใบหน้าของเธอเคร่งเครียดดูเป็นกังวล
ที่สถานีปลายทาง ทั้งผู้หญิงคนนั้นและเจี่ยนอีหลิงก็ลงจากรถโดยสารประจำทางพร้อมกัน
เมื่อผู้หญิงลงจากรถโดยสารประจำทาง เธอก็รีบตรงไปยังประตูทางเข้าสถาบัน
ประตูทางเข้าหลักเป็นประตูอัลลอยควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีระดับของความปลอดภัยสูง ผู้หญิงคนนั้นยืนลังเลอยู่ที่หน้าประตูเป็นเวลานานแต่ก็ไม่สามารถเปิดประตูได้
จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ทุกประตูอัลลอยพร้อมกับตะโกนดังลั่น
“ฉันขอร้องให้ช่วยฉันหน่อย ฉันขอร้องล่ะ โรงพยาบาลบอกว่าพวกคุณมียาพิเศษที่สามารถใช้รักษาโรคสามีของฉันได้ ฉันขอร้องขอให้พวกคุณให้ยาแก่ฉันเพื่อช่วยชีวิตสามีฉันหน่อย”
เสียงตะโกนของผู้หญิงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ น้ำตาไหลอาบใบหน้าเธอ
ผู้หญิงคนนี้นั้นส่งเสียงดังมากเกินไป และเจ้าหน้าที่รปภ.ในห้องรักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆ ต้องออกมาห้ามปรามเธอ
“คุณผู้หญิงคนนี้โปรดใจเย็นๆ ถ้าคุณมีคำร้องขออะไร คุณควรจะไปลงทะเบียนที่เว็บไซต์ของสถาบัน และกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วย ทางสถาบันก็จะคัดกรองเป็นพิเศษด้วยตัวเอง ถ้าสามีคุณมีคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไข ทางสถาบันของพวกเราก็จะทำการติดต่อกับคุณ”
“อย่าโกหกฉัน ฉันลงทะเบียนไปเป็นเดือนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครให้ความสนใจเลย สามีฉันกำลังจะตาย พวกคุณยังต้องการให้ฉันรออีกเหรอ ให้รอจนกว่าจะตายเหรอ”
“คุณผู้หญิง โปรดใจเย็นๆ ถ้าสามีคุณไม่ได้รับเลือกนั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเงื่อนไขของสามีคุณไม่ตรงกับยาใหม่ที่ทางสถาบันกำลังอยู่ในการทดลองทางคลินิค”
“คุณโกหก มีอะไรที่ไม่ตรง นั่นต้องเป็นเพราะว่าพวกเราไม่มีเงิน ทำให้พวกคุณปฏิเสธที่จะให้ยากับพวกเรา พวกคุณให้ยาแต่กับคนรวย”
หญิงสาวคนนั้นไม่ยอมฟังคำพูดของรปภ. เธอยืนยันว่าสถาบันไม่ให้ยาเพราะว่าพวกเธอไม่มีเงินจ่าย
รปภ.ทำอะไรไม่ถูก “ไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริงๆ สามีของคุณไม่ตรงกับเงื่อนไขและทางสถาบันก็ไม่สามารถที่จะให้ยาเขาได้”
ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะพลันนอนลงไปบนพื้น “ฉันจะไม่ไปไหน ถ้าพวกคุณไม่ให้ยาฉัน ฉันจะตายที่ประตูสถาบันวิจัยสถาบันนี่แหละ ให้คนใหญ่คนโตได้เห็นว่าพวกคุณเป็นนักธุรกิจใจดำ ซึ่งมีแต่เพียงเงินอยู่ในสายตาและปล่อยให้คนตาย”
รปภ.ไม่มีทางเลือกได้แต่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่บนพื้น
เขาเคยเห็นคนจำนวนมากมาที่สถาบันการแพทย์และทำเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่วางเฉย
เจี่ยนอีหลิงเดินอ้อมผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นคนนั้นและเดินตรงไปที่ประตู
รปภ.ก้าวออกมาและหยุดเจี่ยนอีหลิงไว้ “สาวน้อย เธอควรไปโรงเรียน ไม่ควรจะมาวุ่นวายพร้อมกับแม่ของเธอ”
รปภ.เข้าใจผิดในความสัมพันธ์ระหว่างเจี่ยนอีหลิงกับผู้หญิงคนนั้น

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset