หัวหน้าฝ่ายการสอนไม่โง่ที่จะเป็นคนเริ่มต้นบอกข่าวอื้อฉาวภายในโรงเรียนให้กับคนภายนอก ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงของเจี่ยนอีหลิง แต่เป็นเพื่อหน้าตาของตนเอง
การเรียนแย่อย่างงั้นเหรอ
เฉิงอี้เพิ่งได้รับการจุดประกายใหม่ๆจากเจี่ยนอีหลิงตลอดทั้งบ่าย
หัวหน้าฝ่ายการสอนถึงกับกล้าบอกเขาว่าเจี่ยนอีหลิงเรียนได้ไม่ดีในโรงเรียนงั้นเหรอ
หรือว่าโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวมี “-10” มากกว่าหนึ่งคน
นามสกุลเจี่ยนไม่ใช่จะพบเห็นได้ทั่วไป และชื่อ เจี่ยนอีหลิง ก็ไม่ควรจะมีเกลื่อนถนนไม่ใช่หรือ
สีหน้าเฉิงอี้ยังคงเรียบเฉย และสอบถามสถานการณ์กับหัวหน้าฝ่ายต่อไปอีกว่า “โอ เกรดไม่ดีเหรอ ฟังดูแย่จริงๆ”
“อา ไม่แย่หรือยังไง เมื่อนับถอยหลังไป เดือนที่แล้วเธอสอบตกหลายวิชา” หัวหน้าฝ่ายส่ายหน้าและถอนหายใจด้วยสีหน้า “เกลียดที่มิอาจตีเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้า*”
เฉิงอี้หรี่ตาเบื้องหลังเลนส์ “หัวหน้าฝ่ายดูเหมือนจะเป็นกังวลเกี่ยวกับผลการเรียนของเด็กนักเรียนคนนี้”
พูดโดยทั่วไปแล้ว ถ้าหากว่าเป็นอาจารย์ประจำชั้นมาอธิบายเกรดของเจี่ยนอีหลิงแบบนี้จะฟังดูเป็นเรื่องปกติ
ในขณะที่หัวหน้าฝ่ายการสอนมีหน้าที่ดูแลทั้งโรงเรียน ไม่ใช่เพียงแค่ผลการเรียนของเด็กเท่านั้น
และถึงแม้ว่าเจี่ยนอีหลิงจะมีผลการเรียนแย่ เธอก็คงไม่ถึงกับทำให้เขาต้องมาเป็นกังวลอยู่คนเดียวใช่ไหม
หัวหน้าฝ่ายการสอนอธิบายว่า “นักเรียนคนนี้ค่อนข้างจะเป็นตัวปัญหามากกว่าคนอื่น ดังนั้นผมจึงต้องให้ความสนใจมากกว่าปกติ”
“รบกวนคนอื่นเหรอ”
“เป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนตัวของเด็กเอง เมื่อพวกเราพบกับเด็กประเภทนี้ โรงเรียนของเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน” หัวหน้าฝ่ายการสอนกล่าวต่อว่า “ว่าแต่ว่า ทำไมด็อกเตอร์เฉิงจึงถามเรื่องเธอล่ะ คุณรู้จักเธอเหรอ”
เฉิงอี้ยิ้มและตอบว่า “ผมไม่รู้จักเจี่ยนอีหลิงที่อาจารย์หลี่พูดถึง แต่อย่างไรก็ตาม ขอบคุณอาจารย์หลี่ที่บอก”
“ด็อกเตอร์เฉิงถ่อมตัวไปแล้ว นี่จะได้อย่างไรกัน เพียงแค่ถามผมว่าด็อกเตอร์เฉิงต้องการรู้อะไร ถ้าผมรู้ผมจะบอก”
“ได้ ขอบคุณ อย่างไรก็ตามผมยังมีสิ่งที่ต้องกลับไปทำที่สถาบัน ผมจะไม่รบกวนอาจารย์หลี่อีกต่อไปแล้ว”
“ตกลง ด็อกเตอร์เฉิงยุ่งอยู่เสมอ ผมไม่รบกวนคุณอีก คุณไปทำธุระเถอะ”
หัวหน้าฝ่ายถอยห่างออกและเฉิงอี้ก็ขับรถจากไป
ในขณะที่ดูรถที่เคลื่อนตัวออกไปนั้น หัวหน้าฝ่ายการสอนก็อดไม่ได้ที่จะหวังให้โรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวมีนักวิจัยที่โดดเด่นอีกสองสามคนเหมือนกับด็อกเตอร์เฉิง
หากเป็นเช่นนั้นหัวหน้าฝ่ายการสอนเองก็จะรู้สึกมีหน้ามีตาไปกับเขาเหมือนกัน
###
ไม่นานนักหลังจากที่เจี่ยนอีหลิงเข้าไปในโรงเรียนก็ถึงเวลาโรงเรียนเลิก เจี่ยนอีหลิงเดินออกจากโรงเรียนเหมือนปกติและขึ้นรถที่ย่าของเธอมารับ
ย่าเจี่ยนสามารถให้คนขับรถทำหน้าที่มารับเธอทุกวันก็ได้ แต่ช่วงระหว่างที่เจี่ยนอีหลิงกลับไปยังบ้านเก่าตระกูลเจี่ยนนี้ ย่าเจี่ยนยืนยันที่จะมาด้วยตัวเองทุกวันเพราะต้องการที่จะใช้เวลากับหลานสาวสุดที่รักของเธอให้มากยิ่งขึ้น
ถ้ามีย่าเจี่ยนอยู่ในรถจะไม่มีการขาดขนมขบเคี้ยว
ตามความเห็นของย่าเจี่ยน นักเรียนจะเรียนที่โรงเรียนตลอดทั้งช่วงเวลาบ่าย ซึ่งต้องใช้พลังความคิดอย่างสูง ใช้พลังงานเยอะ และทำให้หิวได้ง่าย
“ตอนผ่านบ้านตระกูลเจี่ยน จอดสักครู่หนึ่ง”
เป็นเรื่องไม่เกิดขึ้นบ่อยที่เจี่ยนอีหลิงจะร้องขอกับย่าเจี่ยน และคำขอเองกลายเป็นว่าให้ไปยังบ้านตระกูลเจี่ยน ที่ซึ่งพ่อแม่ของเธออาศัยอยู่
กลับไปบ้านเก่าตระกูลเจี่ยนจากโรงเรียน จำเป็นต้องผ่านบ้านตระกูลเจี่ยนจริงๆ
ย่าเจี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็อดกังวลไม่ได้เช่นกัน
ที่ประตูบ้านตระกูลเจี่ยน หญิงชราได้ขอให้คนขับรถหยุดที่ข้างทาง
“หลานรักต้องการให้ย่าเข้าไปเป็นเพื่อนกับหลานไหม” ย่าเจี่ยนกล่าวกับเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่นาน”
ขณะที่พูด เจี่ยนอีหลิงก็หยิบเอากล่องกระดาษที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วจากกระเป๋านักเรียนและวิ่งไปยังบ้านตระกูลเจี่ยน
————————————————————–
恨铁不成钢 เกลียดที่มิอาจตีเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้า * เป็นสำนวนจีน อ่านว่า เฮิ่งเถียปู้เฉิงกัง มีความหมายว่า ไม่พอใจกับคนที่คาดหวังว่าจะดีแต่ก็ไม่ทำตัวให้ดีขึ้น
เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 66: ของขวัญ 1
Posted by ? Views, Released on January 1, 2022
, เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ
เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง
ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป
เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น
เรื่อยๆ
อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ
ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ
Recommended Series
Comment
Facebook Comment