เมื่อเจี่ยนหยุ่นเฉิงออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยนนั้น โม่ชืออวิ้นกับป้าโม่ก็ได้โต้เถียงกันในบ้านพักของตระกูลเจี่ยน
“แม่ อย่าทำอะไรอย่างนี้อีกในคราวหน้า ในเมื่อหนูสัญญากับแม่ หนูก็จะทำของขวัญให้” โม่ชืออวิ้นขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเธอฟังดูเหมือนว่าทำอะไรไม่ถูก
“ลูกพูดถึงเรื่องอะไร” ป้าโม่ถามโม่ชืออวิ้นอย่างงุนงง
“แม่ไม่ควรจะทำแบบนี้กับของขวัญให้กับคุณชายใหญ่วันนี้”
“อ้าว ไม่ใช่ว่าลูกเป็นคนเตรียมของขวัญวันนี้เหรอ” ป้าโม่ถามกลับ ดูประหลาดใจ
โม่ชืออวิ้นค้นพบจากสีหน้าของแม่ตนเองว่า แม่ของตนเองนั้นไม่รู้เรื่องจริงๆ
“ถ้าไม่ใช่แม่ที่ทำเช่นนั้น แล้วใคร…” โม่ชืออวิ้นพลันรู้สึกประหลาดใจ
“แม่ก็คิดว่าเป็นลูกที่เตรียมของขวัญ ในตระกูลเจี่ยนนี้หากไม่ใช่ลูก แม่ก็นึกไม่ออกว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้… ดังนั้นแม่คิดว่า… นี่… ทำไมถึงไม่ใช่ลูกทำเรื่องนี้” ป้าโม่งงงัน
ทั้งแม่และลูกสาวทั้งคู่ล้วนตื่นตะลึง
ทั้งคู่คิดว่าเป็นอีกฝ่ายที่ทำ แต่ก็พบว่าไม่ใช่
และในเวลานั้น ป้าโม่ก็รู้สึกตื่นตระหนกอยู่บ้าง “พวกเราควรทำอะไรในตอนนี้ นั่นจะถูกค้นพบไหม”
โม่ชืออวิ้นขมวดคิ้ว รู้สึกหนักใจ
เมื่อเห็นสีหน้าผ่าเผยของลูกสาว ป้าโม่ก็เริ่มโทษตัวเอง “ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะว่าลูกมีแม่เลว แม่ไม่ควรที่จะแนะนำลูกให้มอบของขวัญให้กับนายน้อยตั้งแต่แรก ซึ่งทำภาระของลูกเพิ่มขึ้น และตอนนี้มันก็กลายเป็นต้นเหตุของปัญหา”
เมื่อเห็นสีหน้าสำนึกผิดของแม่ของเธอ โม่ชืออวิ้นก็ทนไม่ไหว
“แม่ ลืมมันไปเถอะ อย่าโทษตัวเองเลย แม่ยังไงก็ทำเพื่อให้หนูได้ดี”
โม่ชืออวิ้นปลอบโยนป้าโม่
ป้าโม่เริ่มกลัว “เจ้าของเดิมของถุงนั่นจะแสดงตัวไหม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราถูกพบว่าโกหกเมื่อตอนที่เขามา ถ้าเขาเจอ นายน้อยจะไล่พวกเราออกไหม แม่ยอมเสียไม่ได้ งานนี้ ถ้าแม่เสียงานนี้ไป แม่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายให้ลูกไปโรงเรียนได้อย่างไร…”
โม่ชืออวิ้นปลอบป้าโม่ “แม่ ไม่เป็นไรหรอก หนูจะถักเสื้อกันหนาวให้เสร็จก่อนแล้วก็จะถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นก็ใช้กระดาษเหมือนเดียวกันห่อ แล้วโยนมันทิ้งในพุ่มไม้ในสวน เราก็จะสามารถอธิบายได้”
แม้ว่านี่ไม่ดีเท่าไหร่ สิ่งต่างๆก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วและความผิดก็ก่อขึ้นแล้ว เธอก็ได้แต่หาทางแก้ไขมัน
เธอต้องไม่ยอมให้แม่ของเธอออกจากงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับแม่ของเธอ
เพื่อที่จะดูแลเธอ แม่ก็ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้เธอได้ไปโรงเรียนอยู่แล้ว
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของโม่ชืออวิ้น ป้าโม่ก็มีอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย
ต่อจากนั้นไม่นาน ป้าโม่ก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด “แม่ไม่ดีเอง แม่ไร้ประโยชน์ ทำให้แม่ต้องลากลูกมากังวลเกี่ยวกับแม่ ถ้าแม่มีประโยชน์กว่านี้อีกสักหน่อย ลูกก็คงไม่ต้องผิดหวังอย่างนี้…”
ป้าโม่มักจะรู้สึกว่าตนเองเป็นหนี้ลูกสาวของตนเองเพราะว่าเธอขาดความสามารถจนทำให้ลูกสาวต้องมาทนทุกข์อยู่กับเธอ
โม่ชืออวิ้นมองดูแม่ของตนเอง รู้สึกจิตใจสั่นคลอน
“แม่ไม่ต้องพูดอีก แม่ทำงานหนักมาก มองดูมือแม่สิ…” โม่ชืออวิ้นกล่าว หยิบมืออันหยาบกระด้างของแม่ของเธอขึ้นมา ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ
ในแง่ของอายุ แม่ของเธอนั้นจริงแล้วอ่อนกว่าเวินน่วนเจ็ดถึงแปดปี
แต่ถ้าแม่ของเธอกับเวินน่วนยืนอยู่ด้วยกัน เวินน่วนดูเหมือนจะอ่อนกว่าแม่เธอนับสิบปี
ฐานะครอบครัวของเวินน่วนนั้นดี ไม่ว่าเธอจะแต่งกับใครตอนที่เธอเติบโตขึ้น เธอก็มีแต่ได้รับการปรนเปรอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลไปตลอดชีวิต
ป้าโม่มาจากครอบครัวที่ยากจน และก็ไม่ได้เรียนหนังสือมากนัก ตอนหลังเธอได้แต่งงานกับคนเลวและก็ได้หนีไปอยู่กับเซี่ยวซานหลังจากนั้นไม่กี่ปี ทิ้งแม่และลูกสาวไว้ตามลำพัง
โม่ชืออวิ้นเข้าใจดีว่าเป็นเพราะประสบการณ์ที่น่าเศร้าของแม่เธอเอง ที่ทำให้แม่ของเธอดิ้นรนอย่างสิ้นหวังเพื่อที่จะให้เธอได้ไปโรงเรียนที่ดีและพบกับผู้คนที่โดดเด่นมากขึ้น เพื่อไม่ให้เธอได้เดินตามรอยแม่ของเธอ
เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 73: ความกังวลของสองแม่ลูกสกุลโม่
Posted by ? Views, Released on January 1, 2022
, เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ
เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง
ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป
เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น
เรื่อยๆ
อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ
ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ
Recommended Series
Comment
Facebook Comment