เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 69: ข้อสงสัยของพี่ชายคนโต

 
หลังจากทานอาหารเย็น เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็กล่าวว่าเขาต้องการดื่มกาแฟ และขอให้ป้าอันชงเอาไปให้เขาที่ห้องทำงาน
ไม่เหมือนป้าโม่ ป้าอันอยู่กับบ้านตระกูลเจี่ยนนานกว่า
เมื่อตอนที่เวินน่วนยังเป็นเด็ก ป้าอันดูแลชีวิตประจำวันของตระกูลเวิน
ตอนหลังเวินน่วนแต่งงานกับเจี่ยนชูฉิง เธอก็พาป้าอันมาที่ตระกูลเจี่ยนด้วย
ตั้งแต่แรก บ้านตระกูลเจี่ยนมีเพียงป้าอันที่เป็นคนรับใช้ที่อยู่ยาว ภายหลังป้าอันอายุมากขึ้นและความแข็งแรงทางร่างกายของเธอถดถอยไม่ค่อยมีแรง เวินน่วนจึงจ้างพี่เลี้ยงเด็กที่ค่อนข้างอ่อนวัยกว่ามาช่วยแบ่งเบาภาระป้าอัน
ด้วยวิธีนี้ป้าอันก็จะเพียงดูแลครัวเท่านั้นและปล่อยงานทำความสะอาดอื่นๆไว้กับป้าโม่
จวบจนถึงวัยนี้ป้าอันก็ยังไม่เคยได้แต่งงานและปฏิบัติต่อเวินน่วนกับเด็กๆเป็นเหมือนกับครอบครัวของเธอเอง
เพราะเธอได้ดูแลเด็กๆทั้งสี่คนในตระกูลเจี่ยนมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เจี่ยนหยุ่นเฉิงจึงเชื่อใจเธอ
หลังจากที่ป้าอันมาถึงที่ห้องทำงาน เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ถามเธอว่า “ป้าอัน ป้าโม่เป็นคนแบบไหนกัน”
ป้าโม่มาทำงานที่บ้านตระกูลเจี่ยนหลังจากที่เจี่ยนหยุ่งเฉิงเข้ามหาวิทยาลัย หลังจากนั้นเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ไม่ได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านเท่าไหร่นัก
“นี่…” ป้าอันอธิบายไม่ถูก
“ป้าอัน ผมเชื่อใจป้า ป้าก็เหมือนกับคนในครอบครัวของเรา เพียงแค่บอกผมถ้าป้ามีอะไรอยากบอก”
“ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เธอก็ทำงานดี ฉลาด และก็ไม่ได้ขี้เกียจ ป้าคิดว่าบางเวลาสิ่งที่เธอพูด…”
“อะไรเหรอ”
ป้าอันไม่รู้ว่าจะอธิบายมันได้อย่างไร ดังเธอจึงเล่าให้เจี่ยนหยุ่นเฉิงออกมาตรงๆเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้ยินในช่วงสองวันก่อน “ป้าไปที่ห้องทำงานของนายน้อยสามเมื่อสองวันก่อนเพื่อดูแลนายน้อยสามระหว่างเรียน ในเวลานั้นป้าเห็นสะไภ้โม่นำเอาอาหารไปส่งให้กับนายน้อยสามซึ่งไม่ต้องการที่จะไปชั้นล่าง ป้าได้ยินสะไภ้โม่บอกกับนายน้อยสามว่ามือของเขานั้นหมดหวังแล้ว เขาต้องคิดทำอย่างอื่น เธอยังบอกนายน้อยสามถึงความทุกข์ของนายหญิง และพูดถึงคุณหนูด้วย”
ป้าอันไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่ป้าโม่พูดนั้นผิดหรือไม่ ในเมื่อทุกสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมานั้นล้วนเป็นความจริง
แต่ป้าอันรู้สึกเสมอว่าอีกฝ่ายไม่ควรพูดสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าเด็กที่เพิ่งบอบช้ำ
ป้าอันไม่ใช่คนที่สามารถยุยงให้เกิดความร้าวฉานได้ หากไม่มีหลักฐานแน่ชัดเธอก็จะไม่ฟ้องป้าโม่ อย่างไรก็ตามเพราะว่านายน้อยได้ถามเธอวันนี้ เธอจึงบอกนายน้อยถึงสิ่งที่เธอรู้สึกไม่เหมาะสม
หลังจากที่ฟังคำป้าโม่ ใบหน้าของเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็มืดหม่นลง ดวงตาของเขาก็เย็นชาขึ้น
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ สายตาเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ลดลงไปยังเสื้อกันหนาวไหมพรมและผ้าพันคอที่เจี่ยนนอีหลิงส่งมา
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้น หยิบกุญแจรถบนโต๊ะแล้วก็เดินออกไป
ป้าอันงุนงง นายน้อยคนโตบอกว่ามีประชุมทางวิดีโอคืนนี้ไม่ใช่เหรอ
เจี่ยนหยุ่นเฉิงถอยรถออกจากโรงรถและขับตรงไปยังบ้านเก่าตระกูลเจี่ยน
เป็นเวลาสองทุ่มแล้วในตอนนี้ และปู่กับย่าเจี่ยนก็กำลังดูข่าวค่ำ
การมาเยี่ยมอย่างกระทันหันของเจี่ยนหยุ่นเฉิงทำให้สองผู้เฒ่าประหลาดใจเป็นอันมาก
“ทำไมหลานถึงมาที่นี่ล่ะ” ปู่เจี่ยนถาม บอกได้จากสีหน้าของหลานชายว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ย่าเจี่ยนยิ้ม “ฉันเดาว่าหลานชายของฉันมาเยี่ยมหลานสาว”
ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เพิ่งได้รับของขวัญจากเธอ
เจี่ยนหยุ่นเฉิงพยักหน้า “เด็กน้อยนั่นไปอยู่ไหนแล้ว”
“กำลังทำการบ้านอยู่ในห้องทำงานของเธอ” ย่าเจี่ยนบอกและเตือนเจี่ยนหยุ่นเฉิงว่า “เธอจะต้องไม่ทำรุนแรงกับน้องอีก ฉันรู้ว่าเธอชอบทำรุนแรงกับน้อง ฉันต้องการให้เธอข่มอารมณ์ เธอก็เห็นว่าน้องของเธอได้ยับยั้งชั่งใจได้เป็นอย่างดีก่อนหน้านี้ ถ้าเธอดุน้องของเธอมากเกินไป น้องของเธอก็อาจจะไม่ยอมรับเธอเป็นพี่ชายอีกต่อไปก็ได้”
“ผมเข้าใจ” เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะดุเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนหยุ่นเฉิงเคาะประตูห้องทำงานของเจี่ยนอีหลิงและเปิดประตูหลังจากที่ได้ยินเสียงใสๆพูดว่า “เชิญเข้ามา” จากด้านใน

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset