เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 433-434

บทที่ 433 มอบหุ้นบริษัท

 

ดูเหมือนว่าพี่ชายรองเพียงแค่กําลังทําตามแผนที่วางไว้ในหัวเขาโดยอัตโนมัติ

 

รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกทั้งรักหรือยัง

 

เจี่ยนหยู่โป๋มองไปยังเจี่ยนหยู่หมิน แต่เงียบและไม่ตอบคําถามของพี่ชาย

 

แต่ทว่า เจี่ยนหยู่หมินก็เห็นคําตอบจากสายตาของเจี่ยนหยู่โป๋ นั่นเป็นคําตอบที่เขาไม่อยากเห็น

 

เจี่ยนหยู่โป๋ไม่เห็นพวกเขาเป็นครอบครัวอีกต่อไป

 

เขาไม่ได้เกลียด แต่ทว่าเขาก็ไม่สามารถรักพวกเขาได้เช่นเดียวกัน

 

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพวกเขาไม่อยู่ในช่วงเวลาที่เขาต้องการความรักและห่วงใยมากที่สุด

 

บางทีเขาก็ต้องการที่จะห่วงใยพวกเขาต่อไป แต่ทว่ามันก็ก็เป็นไปไม่ได้สําหรับเขาที่ จะทําเช่นนั้น

 

เมื่อถึงตอนนี้ น้ําตาของเจี่ยนหยู่หมินก็เอ่อล้นออกมา

 

ครอบครัวของเขา… ครอบครัวของเขาแตกแยกแล้วจริงๆ…

 

จากนั้น เจี่ยนหยู่โป๋ก็หันกลับมาคุยกับเจี่ยนหยุ่นเฉิง “ฉันต้องการทําข้อตกลงกับนาย” 

 

“อะไรนะ?” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถูกขอร้อง เขาจึงค่อนข้างสับสน

 

“ฉันต้องการให้นายแทนที่พ่อของนายในฐานะ CEO คนใหม่ ตราบใดที่นายจัดการบริษั ทได้ดี หลังจากผ่านไปสามปี ฉันจะให้นาย 30 เปอร์เซ็นต์ของหุ้นที่ฉันถืออยู่ภายใต้ชื่อของฉัน ส่วนที่เหลือจะมอบให้กับคนอื่นๆในตระกูลเจี่ยนในสัดส่วนที่แน่นอน แน่นอนว่าไม่รวมเจี่ยนชูหง และเหอเยียน”

 

คําพูดของเจี่ยนหยู่โป๋ ทําให้ผู้คนตกใจอีกครั้ง

 

เขาพยายามสุดความสามารถเพื่อบังคับให้เจี่ยนยอมรับคําขอของเขา แต่สุดท้ายเขากลับวางแผนที่จะล้มเลิกยอมมอบอํานาจและหุ้นที่เขาเพิ่งได้รับทิ้งไป?

 

เหอเยี่ยนซึ่งไร้เรี่ยวแรงอยู่บนพื้น ไม่มีแรงเหลือ เธอไม่มีแรงแม้แต่จะตกใจ

 

ลูกชายเธอเป็นคนบ้า เขาเป็นสุดยอดของความบ้า

 

“ทําไม?” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถาม

 

“นายโหดกว่าพ่อนาย”

 

เจี่ยนหยู่โปรู้ว่า เจี่ยนซูฉิงเป็นคนใจอ่อนเมื่อเกี่ยวกับเรื่องของตระกูล เขารู้ว่าถ้าเขาให้หุ้นของตระกูลเจี่ยนแก่เจี่ยนซูฉิง เขาจะมอบบางส่วนให้กับน้องชายของตนเองในที่สุด

 

แต่ทว่า เจี่ยนหยุ่นเฉิงจะไม่ทําแบบนั้น เขาเป็นเหมือนปู่เจี่ยนมากกว่าใครๆในตระกูล

 

“นายก็ทําเองได้ไม่ใช่เหรอ” เจี่ยนหยุ่นเฉิงบอกเขาไม่เข้าใจการกระทําของลูกพี่ลูกน้อง

 

เจี่ยนหยู่โป๊กล่าวอย่างมั่นใจ “นายจะต้องรับเรื่องนี้”

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเจี้ยนหยู่โป๋ ไม่ว่าจะทางไหน มันล้วนเป็นกําไรสําหรับเขา

 

นี่คือสิ่งที่เจี่ยนหยู่โป๋คํานวณไว้แล้ว

 

“ก็ได้ ฉันจะยอมรับข้อเสนอของนาย” เจี่ยนหยุ่นเฉิงตอบกลับ “แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะให้โอกาสนายยกเลิกข้อตกลง นายจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเจี่ยน นายมีสิทธิที่จะถือหุ้นเหล่านี้ ที่จริงแล้วนายสามารถยกเลิกข้อตกลงเมื่อใดก็ได้ในช่วงสามปีนี้”

 

หลังจากการประชุม ทุกคนจากไปด้วยความหนักใจ

 

ไม่มีใครรู้สึกมีความสุข

 

เจี่ยนชูฉิงและเป็นนวนล้วนไม่มีความสุขทั้งคู่ เป็นเรื่องที่ดีที่เหอเยี่ยนได้รับในสิ่งที่เธอสมควร ได้รับ แต่ทว่า การเห็นเงี่ยนชูหงและหลานชายของพวกเขาในสภาพเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ

 

เจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยุ่นโม่ออกจากห้องประชุมเป็นคนสุดท้าย

 

ก่อนจากไป เจี่ยนอีหลิงเดินกลับไปหาเจี่ยนหยู่โป๋ซึ่งนั่งอยู่ในตําแหน่งประธาน

 

เจี้ยนอีหลิงหยิบของขวัญที่ห่อแล้วออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโต๊ะตรงหน้าเจี้ยนหยู่โป จากนั้นเธอก็หันหน้าจากไป

 

เจี่ยนหยุ่นโม่ไม่ได้ออกไปทันที เขาพูดกับเจี้ยนหยู่โป๋ว่า “น้องสาวของฉันทําของชิ้นนี้ในเวลาว่างระหว่างการแข่งขัน เธอทําด้วยใจ”

 

เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้บ้างที่จะช่วยให้เจี้ยนหยู่โปรู้สึกเจ็บน้อยลง 

 

นอกจากโน้มน้าวใจปู่ให้มอบหุ้นในส่วนของเธอให้เขาแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็ไม่รู้จะทําอะไรอีก

 

ในที่สุด เธอก็ทําของขวัญให้กับเขา ของขวัญเป็นตัวแทนแสดงถึงความปรารถนาดีและความหวังดีที่เธอมีต่อเขา

 

เจี่ยนหยุ่นโม่ทนไม่ได้กับความคิดที่ว่าของขวัญของน้องสาวจะถูกคนอื่นเหยียบย่ํา ดังนั้นเขาจึงชี้แจงให้เจี้ยนหยู่โป็ฟังอย่างชัดเจน

 

เจี่ยนหยู่โป๋จ้องไปยังของขวัญบนโต๊ะอาหารอยู่นาน เขาพูดไม่ออก ดวงตาเขาดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ที่ของขวัญ

 

บทที่ 434 ของขวัญและความคิดของเธอที่มีต่อเขา

 

จากนั้น เจี่ยนหยุ่นโม่ก็ออกจากห้องประชุม

 

เจี่ยนหยู่โป๋ถูกทิ้งไว้ตามลําพังในห้องประชุมที่ว่างเปล่า

 

หลังจากดูของขวัญที่ห่อไว้บนโต๊ะแล้ว เจี่ยนหยู่โป๋ก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง

 

จากนั้นเขาก็ใช้มือเรียวยาวคู่หนึ่ง ค่อยๆทําการแกะกระดาษห่อนั้นออก

 

มีกล่องแก้วอยู่ภายในกระดาษห่อ ภายในกล่องเป็นภาพวาดที่สวยงาม

มันเป็นฉากที่สดใสและเหมือนจริงที่เจี่ยนอีหลิงสร้างขึ้นด้วยศิลปะน้ําตาล

 

ใต้ต้นไทร มีเด็กหนุ่มสวมชุดลําลองสีอ่อนนั่งอยู่บนหญ้าเขียวชอุ่ม เด็กชายหันหลังพิงกับลําต้นของต้นไม้

 

ต้นไทรนั้นก็คือต้นไทรที่อยู่ในบ้านเก่าตระกูลเจี่ยน

 

รายละเอียดทั้งหมดได้รับการทําอย่างประณีต และฉากทั้งหมดก็ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างน่าอัศจรรย์

 

ฉากนี้เคยเกิดขึ้นในความทรงจําของเจี่ยนหยู่โป๋มาก่อน

 

ในความทรงจําของเจี่ยนหยู่โป๋ เขานั่งอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมกับหนังสือในมือ จากระยะไกลนั้น เจี่ยนอีหลิงกําลังเล่นอยู่กับคนอื่นๆ

 

เธอเข้ามาหาเขาสองครั้งเพื่อถามว่าเขาอยากเล่นกับเธอไหม

 

เขาปฏิเสธและซ่อนผ้าคาดศีรษะที่เธอทําหล่นไว้อย่างลับๆ

 

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่แตกต่างออกไปในภาพวาดน้ําตาล

 

ในความทรงจําของเจี่ยนหยู่โป๋ เขาถือหนังสือไว้ในมือ

 

แต่ทว่า ในภาพวาดของเจี่ยนอีหลิง เขาถือเม็ดหมากล้อมสีดํา

 

มีกระดานโกะอยู่ตรงหน้าเขา

 

เจี่ยนหยู่โป๋กําลังนั่งอยู่ในภาพวาด เขามีสายตาจดจ่ออยู่กับกระดานหมากรุก อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีความเศร้าหรือความเฉยเมยอยู่ในสายตาของเขา

 

ในกล่องแก้ว เจี่ยนอีหลิงได้สร้างสิ่งที่เจี่ยนหยู่โป๋อยากทําในชีวิตเขาจริงๆ

 

ในภาพวาด แม่เขาไม่ได้บังคับให้เขาทําอะไร ไม่มีการดุด่าหรือตําหนิใดๆ ไม่มีความเจ็บปวด

 

นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่อยู่ใต้กล่องของขวัญ เอกสารเป็นการโอนหุ้น

 

เอกสารนี้ลงนามโดยเจี่ยนอีหลิงและผู้ปกครองเธอ

 

เจี่ยนหยู่โป๋เอื้อมมือไปแตะลูกปัดบนมือซ้าย

 

ปลายนิ้วของเขาคลอเคลียไปบนลูกปัดพลาสติกที่มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยนั้น

 

“พี่ชายหยู่โป็มาเล่นกับอีหลิงกัน หนังสือมันน่าเบื่อ”

 

“พี่ชายหยู่โป๋ ฉันเรียนรู้วิธีการเล่นโกะแล้ว ฉันสามารถเล่นกับพี่ได้ไหม ถ้าฉัน 5 คนดา หน้าเล่นกับพี่ ฉันจะชนะพี่แน่ พี่เอาชนะฉันไม่ได้”

 

“พี่ชายหยู่โป๋ ทําไมพี่ไม่มีความสุข”

 

“ฉันใช้เงินไม่ได้ แต่พี่ได้”

 

“…”

 

หลังจากออกจากบริษัท เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยู่เจี้ยก็ติดตามเจี่ยนอีหลิงและคนอื่นๆกลับไปที่บ้านเก่าตระกูลเจี้ยน นี่เป็นคําขอร้องของย่าเจี่ยน

 

ย่าเจี่ยนอยากให้หลานทั้งสองสามารถก้าวผ่านจากความทุกข์ของครอบครัวโดยเร็วที่สุด

 

แน่นอนว่ามีเจี่ยนหยู่โป๋อยู่ด้วย จะเป็นการดีที่สุดสําหรับเขาที่จะอยู่ที่บ้านเก่าตระกูลเจี้ยน เช่นเดียวกัน

 

เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยู่เจียเศร้าจริงๆ แต่ทว่าสถานการณ์ที่ไม่ได้เลวร้ายมากมายขนาดนั้น

 

พวกเขาไม่ใช่เด็ก พวกเขารู้หลายสิ่งหลายอย่าง พวกเขารู้ว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงเกิดขึ้น

 

แม้ว่าการหย่าร้างได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ทว่าเมล็ดพันธุ์สําหรับการหย่าร้างได้ปลูกทิ้งไว้นานแล้ว

 

ทันทีที่เจี่ยนอีหลิงกลับถึงบ้าน เธอก็เดินขึ้นไปชั้นบนแล้วขังตัวเองอยู่ในห้อง

 

เจี่ยนหยุ่นโม่สันนิษฐานว่าเหตุการณ์ในวันนี้ส่งผลกระทบต่อเธอ เขาวิ่งตามเธอไปและเคาะประตูห้องของเธอ

 

แต่ทว่า เจี่ยนอีหลิงไม่ตอบรับ

 

“อีหลิง ถ้าไม่ออกมา ฉันจะแจ้งตํารวจ

 

“ประตู…ไม่ได้ล็อค”

 

เสียงเงียบๆของเจี่ยนอีหลิง ดังออกมาจากห้อง

 

จากนั้นเจี้ยนหยุ่นโม่ก็เปิดประตู

 

เขาเห็นเจี้ยนอีหลิงนอนอยู่บนเตียง เธอขดตัวเป็นลูกบอล

 

ร่างเธอถูกฝังอยู่ใต้ผ้าห่ม มีเพียงศีรษะของเธอที่โผล่ออกมาจากใต้ผ้าห่ม

 

ใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือของเธอมองมาที่เจี่ยนหยุ่นโม่

 

เจี่ยนหยุ่นโม่มองดูเธอก่อนจะหัวเราะแล้วพูดว่า “เด็กโง่ ฉันก็นึกว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น รอฉัน ฉันจะไปทําชาขิงผสมน้ําตาลทรายแดงให้”

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เจี่ยนอีหลิงก็มุดหัวเข้าไปในผ้าห่มทันทีเช่นกัน

 

เธอรู้สึกอายมาก…

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนืยายเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อเดิมที เจี่ยนอีหลิง เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลที่แฝงตัวอยู่ ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย “อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว” “อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ” “อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ” คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ นายท่านเฉิง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป” คนอื่นๆ “นายท่านเฉิง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset