เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 447-448

บทที่ 447 สัญญากับฉันอย่างหนึ่ง

 

ภายในหอผู้ป่วย

 

มีสองเตียง

 

บนเตียงข้างหน้าต่าง นั่นเป็นจ๋ายหวินเชิง

 

มีอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมายที่ติดอยู่กับร่างกายของจ๋ายหวินเชิ่ง อุปกรณ์ตรวจสอบร่างกายเขาด้วยช่วงของตัวชี้วัดต่างๆ

 

บนเตียงข้างประตูเป็นเจี่ยนอีหลิง

 

เจียนอีหลิงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสใดๆ เธอมีรอยฟกช้ําและบวมเพียงเล็กน้อย แต่ว่าเธอก็ถูกคนของจ๋ายหวินเชิ่งนําส่งโรงพยาบาล พวกเขาขอให้เธอรับการตรวจหลายอย่างจากโรงพยาบาล

 

ทางเข้าของวอร์ดได้รับการคุ้มกันโดยบอดี้การ์ดของจ๋ายหวินเชิ่งและสมาชิกของตระกูลเจียน

 

บอดี้การ์ดไม่กล้าปล่อยให้เจี่ยนอีหลิงออกไป พวกเขากังวลว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะกังวลและอารมณ์เสีย ถ้าเขาไม่เห็นเธอเมื่อตอนที่เขาตื่นขึ้น

 

แต่ทว่า พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะให้ใครเข้าไปข้างใน ผู้คนจํานวนมากที่แออัดในวอร์ดจะรบกวนจ๋ายหวินเชิ่ง

 

ดังนั้นจึงมีเพียงสองคนในวอร์ด

 

เมื่อเจียนอีหลิงตื่นขึ้น เธอก็เห็นจ๋ายหวินเชิ่ง จ๋ายหวินเชิ่งยังไม่ฟื้นคืนสติสัมปชัญญะ

 

แต่ทว่าริมฝีปากเขาไม่ได้เป็นสีม่วงอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ริมฝีปากเขาก็ยังเปลี่ยนสีเล็กน้อย

 

เมื่อเจี่ยนอีหลิงมองไปที่อีกฝาย เธอรู้สึกว่าเขาดูอ่อนแออย่างอธิบายไม่ถูก ดูเหมือนไม่ใช่ตัวตนปกติของตัวเขาเอง จ๋ายหวินเชิ่งผู้ที่เอาแต่ใจและวางอํานาจ

 

อุปกรณ์การแพทย์ข้างๆตัวเขาแสดงให้เห็นว่าหัวใจเต้นเป็นปกติแล้ว

 

หลังจากนั้นไม่นาน จ๋ายหวินเชิ่งก็ค่อยๆฟื้นคืนสติ เขาค่อยๆลืมตาขึ้น

 

คนแรกที่เขาเห็นเมื่อลืมตาก็คือเจียนอีหลิง เจียนอีหลิงยังคงมองดูเขา

 

รอยแดงทั้งสองนั้นยังไม่จางหายไปจากใบหน้าอันบอบบางของเธอ

 

เจี่ยนอีหลิงมองไปที่เขาด้วยดวงตาที่สดใสและเปล่งประกายของตัวเธอ

 

ดูเหมือนว่าเธอจะค่อนข้างกังวลในเรื่องของเขา คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

 

ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเงียบๆ

 

เป็นเวลานานที่พวกเขามองดูกันอย่างเงียบๆ

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง เจี่ยนอีหลิงก็ทําลายความเงียบขึ้นมาในที่สุด “นาย…นายรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม”

 

“ฉันไม่เป็นไร” จ๋ายหวินเชิ่งตอบกลับ เสียงเขาเบากว่าปกติและน้ําเสียงของเขาก็จริงจังขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน

 

ดวงตาเขาดูเหมือนจะลึกล้ําอยู่ภายในด้วยเช่นเดียวกัน

 

“เจียนอีหลิง ฉันจะกลับไปแล้ว” เจียนอีหลิง

 

“นายต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืน” เจียนอีหลิงตอบกลับ

 

“ฉันกําลังจะกลับไปที่เป่ยจิง” จ๋ายหวินเชิ่งตอบกลับ

 

เขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะออกจากโรงพยาบาลในตอนนี้ แต่เขาหมายความว่าเขากําลังวางแผนที่จะจากเมืองเหิงหยวนไป

 

เจียนอีหลิงตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ

 

นี่ค่อนข้างกะทันหันอยู่บ้าง แต่อย่างไรนี่ก็สมเหตุผลอยู่เช่นกัน

 

เขาไม่ควรอยู่ในเมืองเหิงหยวนเป็นเวลานานมาตั้งแต่แรกแล้ว นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุผลแล้วที่เขาจะกลับไปปักกิ่ง

 

เพียงแต่ว่า จังหวะเวลานั้นดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก

 

มีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นในหัวใจ ที่เจียนอีหลิงไม่สามารถอธิบายได้

 

“อือ”

 

เนื่องจากเจียนอีหลิงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เธอรู้สึกได้ เธอจึงทําได้เพียงตอบสนองด้วยคําพูด “อือ”

 

“สัญญาฉันอย่างหนึ่ง” จ๋ายหวินเชิ่งเริ่มพูดอีกครั้ง

 

“ตกลง” เจี่ยนอีหลิงตกลงทันทีโดยไม่ถามว่ามันคืออะไร ราวกับว่าเธอเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาต้องการขอจากเธอ

 

“ในอนาคต อย่าไปที่เปยจิง โลกเป็นสถานที่กว้างใหญ่ เธอสามารถไปได้ทุกที่ที่เธอต้องการ แต่ว่าเธอต้องไม่ไปปักกิ่ง”

 

น้ําเสียงของจ๋ายหวินเชิ่งเคร่งเครียดและจริงจังมากเหลือเกิน ดูไม่เหมือนว่าเขาจะล้อเล่น

 

เขามองไปยังเจี่ยนอีหลิงด้วยความเศร้าแฝงอยู่ในดวงตา แต่ทว่านั่นเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เจียนอีหลิงไม่เข้าใจ

 

“ทําไม”

 

“ไม่มีเหตุผล แค่สัญญากับฉันว่าเธอจะไม่ไปที่นั่น”

 

จ๋ายหวินเชิ่งจ้องเข้าไปในดวงตาของเจี่ยนอีหลิง

 

เขารู้ว่าตลอดชีวิตของเขานั้น เขาไม่สามารถรักใครได้ในช่วงชีวิตของเขา เขาก็ไม่สามารถที่จะแต่งงานได้เช่นกัน

 

ความผิดปกติของหัวใจของเขาที่มีแต่กําเนิดนั้น เขาได้รับมาจากแม่ แม่ของเขาเสียชีวิตจากอาการนี้

 

มีโอกาสที่อาการของเขาจะถูกส่งต่อไปยังลูกๆ

 

แล้วเขาจะรักใครสักคนได้อย่างไร? เขาจะสร้างครอบครัวได้อย่างไร? เขาจะยอมให้ภรรยาในอนาคตของเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากการมีสามีและลูกที่ทั้งคู่สามารถตายได้ทุกเมื่อได้อย่างไร?

 

แต่ทว่า เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว เขาสามารถทําได้เพียงโน้มน้าวตัวเองให้ปล่อยเธอไปเพียงครั้ง

 

บทที่ 448 จะไม่ปล่อยไปเป็นครั้งที่สอง

 

เธอต้องไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง

 

มิฉะนั้น เขาอาจจะไม่สามารถปล่อยเธอไปเป็นครั้งที่สองได้

 

เขาอาจเห็นแก่ตัวเลือกที่จะกักขังเธอไว้ข้างกาย

 

เขาอาจจะเห็นแก่ตัวขอให้เธอยอมทนทุกข์อยู่เคียงคู่กับเขา เธอคงไม่มีความหวังในอนาคต เธอจะไม่มีโอกาสเสียใจและหลีกหนี้ในสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปแล้วเช่นกัน

 

เจียนอีหลิงมองเข้าไปในดวงตาของจ๋ายหวินเชิ่ง เธอพยายามอ่านความคิดที่ซ่อนอยู่ลึกลงไปในดวงตาของเขา

 

แต่ทว่าเธอล้มเหลวในการทําเช่นนั้น สําหรับเธอแล้ว การอ่านใจจยหวินเชิงนั้นยากกว่าปัญหาคณิตศาสตร์หรือเคมีใดๆ

 

ครอบครัวของเจี่ยนอีหลิงรออยู่ข้างนอกวอร์ดอย่างใจจดใจจ่อเป็นเวลานาน

 

ในที่สุดประตูก็เปิดออก

 

เจี่ยนอีหลิงเดินออกจากประตู

 

“อีหลิง”

 

เจี่ยนชูฉิงและเป็นน่วนรีบเข้าไปกอดลูกสาวของพวกเขาไว้

 

“อีหลิงลูกทําให้แม่กลัวแทบตาย” เวินน่วนร้องลั่น ถึงตอนนี้เสียงเธอก็ยังคงสั่น

 

เจี่ยนซูฉิงกอดภรรยาและลูกสาวของเขาไว้ ดวงตาของเขาก็แดงเช่นเดียวกัน

 

ขณะที่เจี่ยนอีหลิงถูกกอด เธอก็เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ

 

ทางเดินของโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย

 

นอกจากเจียนซูฉิงและเป็นนวนแล้ว ยังมีเจี่ยนหยุ่นเฉิง เจี่ยนหยุ่นโม่ เจี่ยนหยุ่นน่าว เจี่ยนหยู่หมิน เจียนหยู่โป๋ และเจียนหยู่เจี๋ย

 

ถัดจากพวกเขาเป็นอาจารย์เหลียงและนักวิจัยจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์สุ่ยหลิง

 

นอกจากปู่เจี่ยนและย่าเจี่ยนที่อยู่บ้านรอฟังข่าว คนอื่นๆล้วนมาที่โรงพยาบาลกันหมดแล้ว

 

วันนี้ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าต่างออกไปตามหาเธอ จ๋ายหวินเชิ่งไม่ใช่คนเดียวที่ตามหาเธอ

 

พวกเขาทั้งหมดล้วนกังวลเรื่องสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเธอ พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเธอ

 

เจี่ยนหยุ่นโม่ก้าวมาตรงหน้าและลูบผมของเจียนอีหลิงเบาๆ

 

นั่นเป็นท่าทางที่อ่อนโยน เขาพยายามบรรเทาความตกใจที่น้องสาวเขาได้รับ จากวันนั้น

 

เจียนหยู่เงียหายใจเข้าลึกๆ เขาเพิ่งมาถึง เขาไม่รู้ว่าน้องสาวเขาถูกลักพาตัวไปจนกระทั่งหลังเลิกเรียน

 

ใบหน้าของอีหลิงแดงจากการตบ แพทย์บอกว่าเธอถูกทุบตีในส่วนอื่นๆบนร่างกายของเธอเช่นกัน

 

เจี่ยนหยู่หมินได้ไปเตะต่อยคนพวกนั้นมาสักพักแล้ว

 

แต่ทว่าความเกลียดชังของเขาไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกโกรธขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือของน้องสาวเขายังแดงและบวมอยู่

 

เจียนหยู่โป๋ยังคงเงียบ ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่เยือกเย็นและเฉยเมยที่สุดในห้อง

 

แต่ทว่า เขาและเจี่ยนหยู่หมินเป็นพวกแรกที่ไปถึงโรงงานที่ไม่ได้ใช้ในวันนี้ตามหลังจ๋ายหวินเชิ่ง

 

ท่าทางของเจี่ยนหยุ่นเฉิงนั้นมืดมนและบูดบึงอย่างยิ่ง

 

อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นห่วงเจียนอีหลิงมาก

 

ปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้แสดงสีหน้าหรืออารมณ์

 

ดวงตาของเจี่ยนหยุ่นน่าวแดงเมื่อเขามองไปที่น้องสาว เขายังรู้สึกอารมณ์เสียเหลือเกิน

 

ในเวลานี้ เขาควรไปปลอบน้องสาว เขาควรจะเดินเข้าไปหาและกอดเธอไว้ แต่ว่าเขาทําได้เพียงยืนดูเธอเท่านั้น เขาไม่สามารถพูดออกมาได้สักคําเพื่อปลอบโยนเธอ

 

หลัวจิ๋วเอินและคนอื่นๆมีสีหน้าขอโทษ สถาบันวิจัยของพวกเขาล้มเหลวในการปกป้องข้อมูลของพวกเขา สิ่งนี้นําไปสู่การเปิดเผยตัวตนของเจี่ยนอีหลิง นี่คือสิ่งที่ทําให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นตั้งแต่แรก

 

วันรุ่งขึ้น เจี่ยนอีหลิงตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้า

 

จานที่เธอเตรียมมีเห็ดและเนื้อ

 

อาหารที่เธอเตรียมนั้นถูกบรรจุลงในกล่องอาหารกลางวันสีชมพูที่หุ้มฉนวนกันความร้อน จากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็นํากล่องอาหารกลางวันไปโรงพยาบาล

 

แต่ทว่าเมื่อเธอไปถึงที่ประตูของหอผู้ป่วย กลับไม่มีบอดี้การ์ดคนไหนคอยคุ้มกันประตูอีกต่อไป

 

เจี่ยนอีหลิงเดินไปที่ประตูแล้วผลักให้เปิดออก

 

วอร์ดว่างเปล่า

 

ต่อจากนั้น เจี่ยนอีหลิงจึงได้ไปเยี่ยมที่คฤหาสน์ตระกูลหยู

 

แต่ว่าทุกอย่างในตระกูลหยูที่มีความเกี่ยวข้องกับจ๋ายหวินเชิ่งถูกนําไปจนหมด

 

ตระกูลหยูบอกเจียนอีหลิงว่า ผู้คุ้มกันของจ๋ายหวินเชิ่งได้มาเก็บของเมื่อคืนนี้

เขาได้จากไปแล้ว

 

เหมือนอย่างที่เขาพูดไว้

 

เขาได้จากไปแล้ว เขาออกจากเมืองเหิงหยวนไปแล้ว

 

พวกเขายังมีรอบชิงชนะเลิศของ Zerg Invasion” ที่ต้องเล่น แต่ว่าเขาได้จากไปก่อนเวลา

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนืยายเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อเดิมที เจี่ยนอีหลิง เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลที่แฝงตัวอยู่ ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย “อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว” “อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ” “อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ” คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ นายท่านเฉิง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป” คนอื่นๆ “นายท่านเฉิง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset