บทที่ 457 พบกันอีกครั้ง 3
หยูซีกลัวที่จะคิด ว่าจะเป็นยังไง หากเห็นนายท่านเชิ่งโกรธ
คนอื่นๆในห้องจัดเลี้ยงต่างมองไปในทิศทางของพวกเขาอย่างสงสัย
ตาของเจี่ยนอีหลิงมองไปที่จ๋ายหวินเชิ่งเป็นเวลานาน
ดวงตาเธอไม่สั่นไหว ไม่มีความกลัวในสายตาเธอ
เธอไม่กลัว แต่ในทางกลับกัน ขาของหยูซีเริ่มอ่อนแรง
ในที่สุดจ๋ายหวินเชิ่งก็ยื่นมือออกมา เขาทําท่าทางเชิญชวนเจี่ยนอีหลิงให้ไปเต้นลีลาศ
“หือ” หยูซีอุทานด้วยความตกใจ ปากอ้าค้าง
สีหน้าเขาสงสัยอย่างสุดๆ
เดี๋ยวก่อน… นายท่านเชิ่งดูโกรธเหลือเกินเมื่อตอนเขาเดินมา สีหน้าเขาดูเหมือนว่าเขาต้องการจะฆ่าใครซักคน
จากนั้น ทั้งหมดที่เขาทําคือเชิญเทพหลิงไปเต้นลีลาศเนี่ยนะ
คนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าเขากําลังมาเพื่อฆ่าใครซักคน
สถานการณ์แบบนี้คืออะไรกันแน่
หยูซีตกใจ แต่ทว่า ทุกคนรอบตัวพวกเขาต่างตกใจยิ่งไปกว่านั้น
พวกเขาทั้งหมดดูจ๋ายหวินเชิ่งเดินตัดผ่านห้องบอลรูมไปอีกฟากก็เพื่อไปหาเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ เด็กสาวที่แต่งตัวไม่เข้ากับงานเลี้ยงเลย
จากนั้นจ๋ายหวินเชิ่งก็แสดงทางเชิญชวนให้เธอเต้นลีลาศ
นายท่านเชิ่งชวนหญิงสาวมาเต้นลีลาศอย่างงั้นเหรอ
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยเห็นอะไรแบบนี้
โม่ชืออวิ้นแอบกัดฟัน เมื่อสามปีที่แล้วในเมืองเหิงหยวน จ๋ายหวินเชิ่งก็ได้เชิญเจี่ยนอีหลิงมาเต้นกับเขาด้วยเช่นกัน-
ย้อนไปเมื่อตอนนั้น เจี่ยนอีหลิงได้กลายเป็นจุดสนใจของงานเลี้ยงอาหารค่ำ
โม่ชืออวิ้นจําวันนั้นได้ติดตา วันนั้นเป็นเวลาที่เธอได้สนิทกับฉันชวนมากที่สุด
เธอถูกดึงไปที่ฟลอร์เต้นรําโดยฉินชวน เธอเต้นลีลาศกับเขา
เธอย่อมจําเขาได้เสมอนับจากครั้งนั้น เธอจําความอบอุ่นของฝ่ามือและกลิ่นกายเขาได้
สามปีผ่านไปนับตั้งแต่นั้น จ๋ายหวินเชิ่งยังคงปฏิบัติต่อเจี่ยนอีหลิงเหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เธอทําได้แค่ดูฉินชวนจากระยะไกลเท่านั้น
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า
เธอรู้ว่ามันไม่เหมาะสมสําหรับเธอที่จะเต้นลีลาศกับจ๋ายหวินเชิ่ง เธอไม่ได้แต่งตัวที่เหมาะกับการเต้นลีลาศด้วยซ้ำไป
นอกจากนี้ เธอไม่ได้เห็นจ๋ายหวินเชิ่งมาเป็นเวลาสามปีแล้ว ดูเหมือนไม่ถูกต้องสําหรับเธอที่จะเต้นกับเขาทันที่ที่พบกัน
เจี่ยนอีหลิงไม่เข้าใจชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอไม่เข้าใจเขา คนเมื่อสามปีที่แล้ว และตอนนี้เธอก็ไม่เข้าใจเขาด้วยเช่นกัน
การปฏิเสธของเจี่ยนอีหลิงทําให้สีหน้าของจ๋ายหวินเชิ่งบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิม
เธอปฏิเสธที่จะเต้นกับเขาเพราะเธอจะไปเต้นกับฉันชวนในภายหลังใช่หรือไม่
เมื่อฉันชวนเห็นสถานการณ์เป็นแบบนั้น เขาก็รีบตรงไปที่เจี่ยนอีหลิง
เขาเห็นว่าจ๋ายหวินเชิ่งกําลังทําให้เจี่ยนอีหลิงลําบาก เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนอีหลิงไม่ต้องการเต้นลีลาศ
และด้วยเหตุนี้ฉินชวนจึงไม่ลังเลที่จะปกป้องเจี่ยนอีหลิง
“นายท่านเชิ่ง คุณหนูอีหลิงไม่อยากเต้นกับคุณ กรุณาอย่าทําให้เรื่องยุ่งยากด้วยการบังคับให้เธอเต้นลีลาศกับคุณเลย”
“เฮอะ” จ๋ายหวินเชิ่งพลันหัวเราะขึ้นมา
เสียงหัวเราะเขาน่ากลัวเหลือเกิน
จากนั้น ฉันชวนก็พยายามเกลี้ยกล่อมจ๋ายหวินเชิ่งอีกครั้ง “นายท่านเชิ่ง คนที่อยู่ที่นี่ในวันนี้คือแขกของผม ผมขอให้ท่านเคารพความต้องการของแขกของผมด้วย”
“แขกของนายงั้นรี” จ๋ายหวินเชิ่งเน้นย้ำ ขณะที่เขาพูด จ๋ายหวินเชิ่งก็มองไปที่เจี่ยนอีหลิง
เธอเป็นแขกรับเชิญที่ได้รับเชิญจากฉินชวน
เจี่ยนอีหลิงพยายามอธิบายให้ฉันชวนฟัง “เขาไม่ได้พยายามทําให้เกิดเรื่องยุ่งยากสําหรับฉันหรอก”
เจี่ยนอีหลิงไม่ต้องการให้ฉันชวนและจ๋ายหวินเชิ่งกลายเป็นศัตรูกัน
เธอต้องการให้สองคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เมื่อได้ยินคําพูดของเจี่ยนอีหลิงแล้วฉันชวนก็พูดอย่างจริงจังว่า “หากมีสิ่งใดที่เธอต้องการความช่วยเหลือ เธอสามารถบอกฉันได้โดยตรง ในเมื่อฉันเชิญเธอมา ฉันย่อมรับประกันความปลอดภัยของเธอ”
ฉันชวนไม่ใช่คนที่เขาเคยเป็นเมื่อสามปีที่แล้วอีกต่อไป ตอนนี้เขามีความสามารถในการปกป้องคนอยู่บ้าง
“ฉันไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา” เจี่ยนอีหลิงอธิบายอย่างจริงจัง
“เป็นเรื่องดีถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหา”
จ๋ายหวินเชิ่งตามีประกายของความเจ็บปวดและความโกรธขณะที่เขาดูการสนทนาระหว่างเจี่ยนอีหลิงและฉินชวน
จ๋ายหวินเชิ่งประชดประชัน “โอ เธอปฏิเสธที่จะเต้นกับฉันเพราะเธออยากเต้นเปิดฟลอร์กับนายน้อยฉินงั้นเหรอ?”
เขาสอนให้เธอเต้นลีลาศ แต่สุดท้ายกลับดูเหมือน เธอต้องการที่จะเต้นกับผู้ชายอีกคนหนึ่งต่อหน้าเขา
บทที่ 458 ทําไมเธอถึงมา?
หยูซีรู้สึกว่านายท่านเชิ่งพูดแปลกๆวันนี้
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนายน้อยฉินตรงไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เทพหลิงวางแผนที่จะเต้นกับนายน้อยฉินกัน?
เทพหลิงเพิ่งเข้ามาหาอะไรกิน เธอมาเพื่อพักผ่อนเท่านั้น
เธออยู่บนเครื่องบินนานกว่าสิบชั่วโมง จากนั้นเธอก็นั่งรถมาอีกหนึ่งชั่วโมงเพื่อมาที่นี่
เป็นไปได้ว่าสถานที่ที่เธอจะไปพักยังไม่มีอาหารเก็บไว้เลย
เทียบกับซื้อกลับบ้านหรือไปร้านอาหาร นี่ไม่สะดวกกว่าเหรอ มีอาหารสําเร็จพร้อมอยู่ที่นี่ สามารถประหยัดเวลาและความพยายามเธอได้
มันง่ายๆแค่นี้
“ฉันไม่ไปเต้นกับฉินชวน” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ
“หือ”
“วันนี้ฉันไม่ได้วางแผนที่จะเต้นลีลาศ” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับอีกครั้ง เธอไม่ชอบเต้นตั้งแต่แรก
ครั้งสุดท้ายที่เธอเต้นลีลาศคือเมื่อสามปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอเต้นเพราะว่าจ๋ายหวินเชิ่งลากเธอไปด้วย
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เธอไม่ได้เต้นลีลาศอีกเลย
หยุซีรีบอธิบายสถานการณ์ให้จ๋ายหวินเชิ่ง “นายท่านเชิ่ง เทพหลิงเพิ่งลงจากเครื่องบินวันนี้มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานสําหรับเธอ แถมเธอยังใส่เสื้อผ้าที่ไม่เข้ากับฟลอร์เต้นรําอีกด้วย”
ฉันชวนยังรู้สึกว่ามีความเข้าใจผิดบางอย่าง “นายท่านเชิ่ง คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
คําพูดของทั้งหยูซีและฉินชวนระบุว่าเจี่ยนอีหลิงไม่ใช่คนที่จะไปเต้นรํากับฉันชวนในการเต้นเปิดฟลอร์ในตอนกลางคืน
ถ้าไม่ใช่เจี่ยนอีหลิง แล้วใครกันที่เป็นคนสําคัญและพิเศษสําหรับฉันชวน?
ในยามนี้ ก็มีหญิงวัยกลางคนเข้ามาในงานเลี้ยง
แม้ว่ารูปลักษณ์ของผู้หญิงจะไม่โดดเด่นมากนัก แต่เธอก็ทําให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ รูปลักษณ์ของเธอสามารถรองรับความชื่นชมได้
เมื่อฉินชวนเห็นว่าไม่มีปัญหากับเจี่ยนอีหลิงแล้ว เขาก็พูดกับเธออีกสองสามคํา ก่อนจะเดินไปหาหญิงวัยกลางคนด้วยการก้าวอย่างรวดเร็ว
“แม่” ฉินชวนทักทาย เขาจับมือแม่และเชิญเธอไปเต้นลีลาศ
ฉันชวนได้รับการยอมรับจากตระกูลฉิน แต่ทว่าแม่เขาไม่ได้รับการยอมรับจากสมาชิกของตระกูลฉิน
ในสายตาของคนอื่น แม่ฉันชวนไม่ได้มีอะไรเลย เธอไม่ได้มีความหมายอะไรกับพวกเขา
และด้วยเหตุนี้ ฉันชวนจึงได้พาแม่เขาเข้าร่วมงานใหญ่ที่ตระกูลฉินจัดขึ้น เขาต้องการแนะนําแม่เขาให้ทุกคนรู้จัก
คนที่ทําผิดในตอนนั้นไม่ใช่แม่เขา แต่เป็นคนไร้ใจคนนั้นนั่นเอง
แม่เขาไม่ใช่เมียน้อย แต่เป็นผู้ชายที่กลับคําพูดและแต่งงานกับคนอื่น ผู้ชายคนนั้นทําให้แม่เขาผิดหวัง
แล้วทําไมแม่เขาต้องแบกรับคําวิจารณ์ที่รุนแรงด้วย?
และด้วยเหตุนี้ฉันชวนจึงประกาศชัดเจนว่าเขาจะกลับไปที่ตระกูลฉิน หากพวกเขาเต็มใจยอมรับแม่เขาเท่านั้น
ในที่สุดตระกูลฉินก็ได้แต่ประนีประนอม พวกเขาอนุญาตให้แม่ฉันชวนเข้าร่วมงานสาธารณะ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นภรรยาของผู้นําตระกูลฉิน
ฉินชวนเปิดเผยกับทุกคนว่าเขากําลังจะเชิญผู้หญิงคนพิเศษมาเต้นกับเขาในการเต้นเปิดฟลอร์
และผู้หญิงคนพิเศษคนนั้นก็คือแม่เขา
แม่เขาให้กําเนิดและเลี้ยงดูเขา เธอคือผู้ให้ชีวิตเขา
เขาต้องการให้เธอสามารถยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชนได้
และด้วยเหตุนี้ ปริศนาจึงถูกไข ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับเจี่ยนอีหลิง
จ๋ายหวินเชิ่งค่อยๆหันไปมองเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงก็มองไปยังเขาด้วย
อีกครั้งที่พวกเขาสบตากัน
เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนอีหลิงไม่เข้าใจว่าความขุ่นเคืองและโกรธแค้นของจ๋ายหวินเชิ่งมาจากไหน
อันที่จริง จ๋ายหวินเชิ่งก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าอารมณ์ของตนเองนั้นมาจากไหนเช่นกัน
เมื่อเขาเห็นเธอปรากฏตัว ความรู้สึกที่ซับซ้อนก็เริ่มปรากฏขึ้น
จากนั้นจ๋ายหวินเชิ่งถามเสียงต่ำว่า “มาทําไม”
เป็นเพราะฉินชวนเหรอ
ฉันชวนมาถึงเปยจิงแล้ววันนี้ เธอก็มาถึงในวันเดียวกัน
ตามเวลา พวกเขามาถึงในวันเดียวกัน
“มีบางอย่างเกิดขึ้น” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ
“ฉินชวนเหรอ?”
“หือ?” เจี่ยนอีหลิงถาม ดวงตาเธอดูสับสนเหลือเกิน
“เธอมาที่เปยจิงเพราะฉินชวนเหรอ” พูดจบจ๋ายหวินเชิ่งก็เบือนหน้าหนี เขาไม่อยากได้ยินเธอตอบว่าใช่
สามปีผ่านไปและเธอก็เติบโตขึ้น ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะชอบคนอื่น