บทที่ 487 การประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการ 4
ฉินหยูผ่านประหลาดใจที่เห็นว่าเป็นชายวัยกลางคนคนเดียวกับที่กําลังคุยกับเจียนอีหลิง
เจียนอีหลิงรู้จักกับคนจากโรงพยาบาลสั่วไห่เซินงั้นเหรอ
บนเวที ชายวัยกลางคนแนะนําตัวกับทุกคน
“สวัสดีท่านศาสตราจารย์และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมชื่อหลีหัวเจีย และผมก็เป็นพนักงานของโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน”
เพียงประโยคเดียว เสียงปรบมือก็ดังสนั่นจากผู้ชม
ต่อจากนี้เมื่อหลี่จั่วเจียถูกเพิ่มเข้าไปในฐานะผู้บรรยาย เขาก็ได้นําเสนอสั้นๆแก่ผู้ชม
เขาแสดงให้ทุกคนได้เห็นความรู้และความสําเร็จทางการแพทย์ของเขาในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดถึงการรับสมัครที่ทุกคนต่างพากันพูดถึงอย่างลับๆ
ส่งผลให้หัวใจของทุกคนเริ่มคันคะเยอ
ผู้ชมหลายคนฟังคําปราศรัยของหลี่จั่วเจียอย่างไม่ค่อยตั้งใจนัก แต่พวกเขาให้ความสนใจไปที่ตัวตนของชายวัยกลางคนที่ชื่อหลีหัวเจีย
เมื่อการประชุมแลกเปลี่ยนสิ้นสุดลง ฉินหยุฝานก็รีบไปพบเจี้ยนอีหลิงอย่างรวดเร็วและขวางทางนางไว้
“เธอรู้จักมิสเตอร์หนึ่งั้นเหรอ” ฉินหยุฝานถาม เธอเคยเห็นเงี่ยนอีหลิงและหลี่จั่วเจียคุยกัน อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ยินสิ่งที่พูดในการสนทนาของพวกเขา
“อือ” เงี่ยนอีหลิงยอมรับ
“ยังไงล่ะ…เธอรู้จักเขาได้ยังไง” ฉินหยุฝานถาม เธอเต็มไปด้วยความอยากรู้
เงี่ยนอีหลิงรู้จักคนแบบนี้ได้อย่างไร
ทุกคนจากโรงพยาบาลรั่วไห่เซินต่างเป็นที่รู้จักกันอย่างโด่งดังว่าเป็นคนลึกลับ
“ฉันได้พบกับเขา เมื่อตอนที่ฉันทําวิจัย”
อาา นี่มันสมเหตุผล ฉินหยุฝานรู้มาบ้างว่าเจียนอีหลิงเป็นนักเรียนของศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติในต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงมีแนวโน้มว่าเธออาจได้พบกับอีกฝ่ายผ่านศาสตราจารย์คนนั้น
ในกรณีนี้ทุกอย่างล้วนสมเหตุผล
“แนะนําฉันให้รู้จักกับเขา ฉันสามารถเสนอค่าตอบแทนให้เธอเท่าไหร่ก็ได้” ฉินหยุฝานกล่าวน้ําเสียงของเธอเย่อหยิ่งเหมือนเคย
อย่างไรก็ตาม เธอก็รู้สึกอายและประหม่าอยู่บ้าง ขณะที่เธอพูด ดวงตาของเธอไม่ได้ มองตรงไปที่เจียนอีหลิง
“ฉันปฏิเสธ” เจียนอีหลิงตอบโดยไม่ลังเล
เสียงของเธอค่อนข้างเบา ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม คนที่คุ้นเคยกับเจียนอีหลิงต่างก็รู้ดีว่า ถ้าเธอปฏิเสธที่จะทําอะไร นั่นไม่เกี่ยวข้องกับเสียงของเธอ
“เธอ…” ฉินหยุฝานตะลึง รู้สึกเหมือนมีลมหายใจติดขัดอยู่ที่หน้าอก
ทําไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้น่ารําคาญนัก
ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ แต่ว่าตอนนี้ เธอพบว่าอีกฝ่ายน่ารําคาญจริงๆ
หลังจากหายใจเข้าลึกๆแล้ว ฉินหยุฝานกล่าวว่า “ฉันแค่ขอให้เธอช่วยแนะนําฉันให้รู้จักกับเขาฉันจะไม่ทําอะไรให้เป็นที่เสียหายต่อมิสเตอร์หลี่ ฉันจะไม่บังคับให้เขาทําอะไรทั้งนั้นฉันแค่ต้องการทําความรู้จักเขา”
“เธอสามารถคุยกับเขาได้ด้วยตัวเอง หากเธอมีคําขอที่สมเหตุผล เขาจะจัดการให้”
หลี่จั่วเจียเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องภายนอก เป็นผลให้เขาเป็นคนที่มักจะติดต่อกับคนอื่น
โดยปกติแล้ว ผู้คนจะได้รับการคัดเลือกโดยหลี่จั่วเจียก่อน จากนั้น พวกเขาค่อยได้รับการแนะนําให้รู้จักกับเจี้ยนอีหลิง
ตอนนี้ฉันหยุฝานทําสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคนอื่นโดยสิ้นเชิง
ฉินหยุฝานโกรธจนควันขึ้นอยู่ในใจ ทําไมนางถึงดื้อดึงนัก? นางสามารถหารายได้ได้อย่างง่ายดายผ่านวิธีนี้
“ฉันไม่อยากทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีให้เขา จะดีกว่ามากถ้ามีคนแนะนําให้ฉันรู้จักกับเขา”
ฉินหยุฝานรู้ว่าความประทับใจครั้งแรกของบุคคลนั้นสําคัญเหลือเกิน ส่งผลให้เธอไม่อยากเสี่ยงกับเรื่องนั้น นั่นคือเหตุผลที่เธอต้องการให้เจียนอีหลิงช่วยแนะนําเธอให้รู้จักกับเขา
เธอรู้ว่าเจียนอีหลิงคุยกับชายคนนั้นค่อนข้างนาน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนรู้จักกันดีทีเดียวด้วยเหตุนี้ จะเป็นการดีที่สุดถ้าเจี้ยนอีหลิงแนะนําเธอให้กับเขา
“เธอไม่ทิ้งความรู้สึกแย่ให้กับเขาหรอก หากเธอทักทายเขาตามปกติ”
เจียนอีหลิงไม่ได้รู้สึกว่าจําเป็นต้องมีคนกลางเพื่อช่วยแนะนํา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ฉินหยุฝานวางแผนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคอขาดบาดตายกับหลี่จั่วเจีย
บทที่ 488 แฟนรวย
ฉินหยุฝานมองไปที่ท่าทางที่จริงจังบนใบหน้าของเงี่ยนอีหลิง ยิ่งเธอมองอีกฝ่ายมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งโมโหมากขึ้นเท่านั้น
“อา พูดกับเธอไปก็ไร้ประโยชน์”
ฉินหยูฝานโกรธจัดขณะที่เธอกระทับรองเท้าส้นสูง
ช่างน่าผิดหวังมากที่ได้คุยกับผู้หญิงคนนี้
เรื่องพวกนี้ควรจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังยื้อต่อไปได้อีกนับครึ่งวัน จํายหวินเ% งชอบอะไรของอีกฝ่ายกัน เขามีตาหรือเปล่า
ศาสตราจารย์หวงถือโอกาสตามหาหลีจั่วเจีย
ระหว่างทางออก ลู่หยวนและเด็กชายก็ได้พบกับเจียนอีหลิง
ลู่หยวนก้าวไปตรงหน้าอย่างรวดเร็วและถือโอกาสพูดกับเจียนอีหลิง “เจี้ยนอีหลิง วันนี้เธอมาที่นี่เพราะศาสตราจารย์ไฮด์เหรอ? ศาสตราจารย์ไฮด์รู้จักคนจากโรงพยาบาลลัวไห่เซินเหรอหรือศาสตราจารย์ไฮด์รู้จักผู้จัดงาน”
สู่หยวนเข้าใกล้เงี่ยนอีหลิงมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ เจียนอีหลิงจึงถอยออกมาโดยสัญชาตญาณเธอต้องการรักษาระยะห่างระหว่างกัน
เธอยังไม่รู้จักลู่หยวนดีนัก เป็นผลให้การเข้าใกล้กับคนที่เธอไม่รู้จักมากเกินไปจะทําให้เธอรู้สึกอึดอัดอย่างมากมาย
เมื่อลู่หยวนสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเงี่ยนอีหลิง รอยยิ้มบนใบหน้าเธอก็จางลงเล็กน้อย
นี่มันค่อนข้างกระอักกระอ่วน มันเหมือนกับว่าเธอกําลังแนบหน้าที่อบอุ่นของเธอไปบนแก้มก้นเย็นเฉียบของใครบางคน
เมื่อเห็นแบบนี้ เด็กหนุ่มก็พยายามไกล่เกลี่ยสถานการณ์อย่างรวดเร็ว “อีหลิง ไม่คิดว่าเธอจะมาวันนี้ เธอคิดอย่างไรกับเนื้อหาในการประชุมแลกเปลี่ยนในวันนี้”
เด็กชายไม่เข้าใจเนื้อหาของการนําเสนอมากนัก
ถ้าเขาเข้าใจทุกอย่างที่นําเสนอ เขาก็คงจะไม่ได้เป็นนักศึกษาปริญญาโทอีกต่อไป
ในความเป็นจริง ศาสตราจารย์หวงเองก็ไม่เข้าใจการนําเสนอบางรายการ ไม่ว่าอย่างไรศาสตราจารย์บางคนก็มีทิศทางการวิจัยที่แตกต่างออกไป
“ก็ไม่เลว” เจียนอีหลิงตอบ
คําตอบดังกล่าวได้ยินแล้วไม่สบายหูอยู่บ้าง
ไม่เป็นไรที่จะยอมรับว่าเธอไม่เข้าใจในเนื้อหาการนําเสนอ แต่ว่า ความคิดเห็นดังกล่าวทําให้ดูเหมือนว่าเธอกําลังบอกใบ้ว่าความคิดเห็นที่เหลือนั้นด้อยกว่าเธอ
แน่นอน ถ้าคนอื่นพูดว่า “ไม่เลว” ผลของประโยคนี้ก็จะแตกต่างกันมากเลยทีเดียว
แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมสําหรับเจี้ยนอีหลิงที่จะพูดเรื่องนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่บุคคลในระดับเธอควรพูด ไม่ว่าพรสวรรค์ของเธอจะเท่าไหร่ก็ตาม
เด็กชายยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนก่อนจะพูดว่า “อา งั้นเราไปส่งเงี่ยนอีหลิงกลับบ้านกัน”
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห้องเรียนเดียวกัน แต่เจียนอีหลิงก็ยังเด็กกว่าพวกเขามากจริงๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมสําหรับพวกเขาที่จะดูแลเธอ
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ มีคนมารับฉันแล้ว” เงี่ยนอีหลิงตอบ เธอปฏิเสธข้อเสนอของเขาอย่างสุภาพ
จํายหวินเชิงบอกเธอว่าจะมารับ
“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร”
จากนั้นทั้งสามก็เดินออกจากสถานที่จัดงาน
เมื่อพวกเขามาถึงหน้าสถานที่จัดงาน พวกเขาก็เห็นรถสปอร์ตสีเหลืองสดใสสะดุดตามาจอดอยู่ตรงหน้าสถานที่จัดงาน
รถคันนี้จอดด้วยท่าทางหยิ่งเหลือเกิน ราวกับว่าเจ้าของรถไม่สนใจว่าจะขวางทางคนอื่นหรือ
โดยปกติ รถยนต์เหล่านี้จะเป็นของลูกหลานนักธุรกิจและผู้ประกอบการผู้มั่งคั่ง
จํายหวินเชิงลุกจากที่นั่งคนขับและเดินไปที่เขี่ยนอีหลิง
“นายมาถึงก่อนเวลา”
เขามาถึงก่อนเวลาที่ตกลงกันไว้
“นั่นเป็นเพราะว่าไม่มีอะไรให้ฉันทํา”
จํายหวินเชิงตอบแบบเป็นกันเอง
เขาไม่ต้องการให้เธอรอเขา ด้วยเหตุนี้ เขาจึงออกมารอนอกสถานที่จัดงานหนึ่งชั่วโมงเร็วกว่าเวลาที่ตกลงกันไว้
จากนั้นเจี้ยนอีหลิงและจํายหวินเชิงก็ขึ้นรถ รถสตาร์ทและออกจากสถานที่จัดงานไป
ลู่หยวนและเด็กหนุ่มยังคงรอรถบัสอยู่ พวกเขาได้แต่มองหน้ากัน ราวกับว่าพวกเขามีความคิด แบบเดียวกันอยู่ในใจ
ดูเหมือนว่าเจียนอีหลิงจะมีแฟนรวย
จํายหวินเชิงสั่งให้ลูกน้องไปซื้อของวันนี้
ลูกน้องเขาจบลงด้วยการซื้อของสีชมพูจํานวนหนึ่ง
อันที่จริงแล้วหากพูดให้เฉพาะเจาะจง พวกเขาได้ซื้อของตกแต่งสีชมพู ฟูฟ่อง และเป็นพวงน่ารัก
พวกเขายังซื้อตุ๊กตาหลายตัวเพื่อตกแต่งห้องด้วย
แน่นอน พวกเขายังซื้อโต๊ะทํางานสําหรับเจียนอีหลิงอีกด้วย