บทที่ 501 สาวสวยที่บุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์
และตอนนี้เมื่อเยือกเย็นลงแล้ว เขาก็ตระหนักว่าไม่ควรตีลูกสาวเลย
ฉินหงจื้อลดมือลงอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “กลับไปที่ห้องของแกและไตร่ตรองคําพูดให้ดี”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันหยุฝานก็หันหลังจากไปทันที
หลังจากที่ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินออกไปจากห้อง ฉินหงจื้อก็เป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องทํางาน
ฉินหงจื้อทรุดตัวลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทีสิ้นหวัง
ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้น เขาต้องเลิกกับผู้หญิงที่เขารักเพราะการจัดการของตระกูล เขาต้องกลับไปยังตระกูลและแต่งงานกับผู้หญิงที่มีฐานะทางสังคมที่ดี
ในช่วงหลายปีของการแต่งงาน เขามีความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกับภรรยา อีกทั้งลูกสาวเขาก็ยังเป็นแก้วตาดวงใจอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในความฝันตอนกลางคืน เขาก็ยังคงคิดถึงหญิงที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง
ดังนั้น เมื่อภรรยาเขาเสียชีวิต เขาจึงส่งคนไปตามหาหญิงคนนั้น
เดิมที่เขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับลูกชาย
เป็นธรรมดาที่ลูกชายเขาต้องกลับมาสู่ตระกูล เขาเป็นลูกชายคนเดียวของฉินหงจื้อ
เขารู้ว่าลูกสาวจะไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คาดคิดว่าหลังจากผ่านไปสามปี ลูกสาวเขาจะยังคงดื้อรั้นเช่นนี้ เธอปฏิเสธที่จะถือว่าฉันชวนเป็นพี่ชาย นอกจากนี้ เธอยังเรียกเขาว่า ‘ลูกนอกสมรส
สิ่งนี้ทําให้ฉินหงจื้อปวดหัวอย่างมาก
เมื่อจํายหวินเชิง เข้าไปในอพาร์ตเมนต์ เขาไม่ได้รับการต้อนรับจากเด็กหญิงที่น่ารักกระจิ๋มกระจิ๋ม
แต่กลับมีผู้หญิงสูงและเซ็กซี่มาอยู่ตรงหน้าเขาแทน เธอสวมชุดคอวีที่ยาวถึงต้นขา ความยาวของชุดเผยให้เห็นขาที่ยาวและหุ่นดีของเธอ
หญิงสาวสูงประมาณ 175 เซ็นติเมตร เธอมีตาโตและสันจมูกสูง ลิปสติกสีแดงสดถูกทาบนริมฝีปาก
ความระมัดระวังและความเกลียดชังฉายขึ้นในสายตาของจํายหวินเชิงทันที
แม้ว่าอพาร์ตเมนต์เขาจะไม่ใช่ที่อยู่อาศัยหลักของตระกูลจําย แต่ก็ยังได้รับการคุ้มครองโดยระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะเข้ามาในอพาร์ตเมนต์หากพวกเขาไม่ได้รับอนุญาต
แล้วทําไมถึงมีผู้หญิงคนนี้อยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเขาด้วย
“โอ้ นายท่านเชิง นายกลับมาแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวขึ้น เสียงเธอละเอียดอ่อนและเป็นผู้ใหญ่เธอตั้งใจมากเหลือเกินกับคําพูด ด้วยเหตุนี้ คําพูดของเธอจึงทําให้นายท่านเชิงไม่สบายใจ มากเหลือเกิน
จํายหวินเพิ่งถอยหนึ่งก้าวเพื่อรักษาระยะห่าง
” เธอเป็นใคร?”
น้ําเสียงเขาเคร่งขรึมและเย็นชา มีกลิ่นอายแห่งความตายอยู่ในคําพูดของเขา
“โอ ฉันคือคนที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับนายคืนนี้”
จํายหวินเชิงจ้องไปที่ผู้หญิงต่อหน้าเขาด้วยความสะอิดสะเอียนและรังเกียจเดียดฉัน ผู้หญิงคนนั้นลูบผมเธออย่างเย้ายวน
ไม่ใช่ครั้งแรกที่จํายหวินเพิ่งได้เห็นผู้หญิงแบบนี้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงประเภทนี้บุกเข้ามาในอพาร์ตเมนต์เขา
“เธอเข้ามาได้ยังไง”
เสียงจํายหวินเพิ่งเย็นเยียบราวกับน้ําแข็ง
“ก็คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เชิญฉันเข้ามา เธอเป็นสาวน้อยที่น่ารักมาก เธอต้องการให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนนาย เธอกลัวว่านายจะเหงาเกินไป” ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมรอยยิ้มที่มีเสน่ห์บนใบหน้า
“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธองั้นเหรอ”
“ทําไมนายถึงไม่เชื่อฉัน? ฉันจะเข้ามาในอพาร์ตเมนต์นี้ได้ยังไง? นายน่าจะรู้ดีกว่าฉันว่าระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาแค่ไหน นอกจากนี้นายก็ยังมีบอดี้การ์ดภายนอกอพาร์ตเมนต์ของนายด้วย ถ้าฉันไม่ได้รับเชิญ นายคิดว่าพวกเขาจะให้ฉันเข้ามาไหม”
นี่ค่อนข้างสับสน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจียนอีหลิงจะปล่อยให้เธอเข้ามา แต่ทุกอย่างก็ยังไม่สมเหตุผล
ทําไมเงี่ยนอีหลิงถึงปล่อยให้ผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในอพาร์ตเมนต์ของพวกเขา?
ที่ไม่สมเหตุสมผลก็คือ เจียนอีหลิงต้องไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในบ้านอย่างแน่นอน
“ฉันหมายความว่า เด็กหญิงคนนั้นไม่มีเนื้อมีหนังแม้สักปอนด์สองปอนด์ ทั้งเธอก็ยังเซ็กซี่ไม่เท่าฉัน นายไม่ควรเสียเวลากับเธอ แต่ควรอยู่กับฉันแทน…”
บทที่ 502 เงี่ยนอี้เพิ่ง
อีกครั้ง หญิงคนนั้นเข้าหาจํายหวินเพิ่งราวกับว่าเธอไม่กลัวตาย
เมื่อเจียนอีหลิงได้ยินเสียงความโกลาหลภายนอก เธอจึงออกมาจากห้องทํางาน
หลังจากที่จํายหวินเพิ่งหลบผู้หญิงที่ตรงเข้าหาเขา เขาก็รีบเดินไปที่เจี้ยนอีหลิง
เขายืนอยู่ระหว่างเงี่ยนอีหลิงกับผู้หญิงที่ไม่ทราบที่มา
ผู้หญิงคนนั้นแสร้งทําเป็นโกรธ “อีหลิง ขอบคุณพระเจ้าที่เธออยู่ที่นี่ มิฉะนั้น ชายผู้นี้คงจะโจมตีฉันช่างสําส่อนเขาไม่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย ถ้าเธอคบกับใครก็อย่าเลือกผู้ชายแบบนี้”
ผู้หญิงคนนั้นโยนข้อกล่าวหาไปที่จํายหวินเชิงทันที เมื่อกี้นี้ เห็นได้ชัดว่า เธอคือคนที่พุ่งเข้าหาจํายหวินเชิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเจียนอีหลิงปรากฏตัว เธอกลับบอกในทันทีว่าจํายหวินเชิงเป็นคนที่อยากจะทําอะไรเธอ
“ไปให้พ้น” จํายหวินเพิ่งสั่งผู้หญิงคนนั้น มันเป็นคําขาด
“ฉันเป็นแขกของอีหลิง นายได้รับอนุญาตจากอีหลิงให้เตะฉันออกหรือเปล่า” จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หันไปพูดกับเจียนอีหลิง “อีหลิง เธอให้ฉันเข้ามาในอพาร์ตเมนต์ใช่ไหม”
เจียนอีหลิงพยักหน้า
เจียนอีหลิงเป็นคนที่ปล่อยให้เธอเข้ามาในอพาร์ตเมนต์จริงๆ
“อีหลิง คนนี้เป็นใครกัน? ทําไมเธอถึงปล่อยให้เข้ามาในอพาร์ตเมนต์?” จํายหวินเชิงถามเสียงหนัก
“เจี้ยนอี้เหิง” เงี่ยนอีหลิงตอบ
เงี่ยนเหรอ?
“เดี๋ยวก่อน แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวในตระกูลเหรอ?”
“ใช่ เขาเป็นผู้ชาย”
เงี่ยนอีหลิงตอบด้วยสีหน้าเยือกเย็น
ผ ผู้ชาย…
นางเป็นผู้ชาย?
จํายหวินเซิ่งมองคนตรงหน้าอีกครั้ง
คนตรงหน้าเขาแต่งหน้าสวย ส่วนโค้งส่วนเว้างดงาม และเรียวขาที่สมส่วน ลักษณะของเขาสามารถทําให้ผู้หญิงทั่วไปอิจฉาเป็นที่สุด
คนแบบนี้… เขาเป็นผู้ชายงั้นเหรอ?
“หรือเป็นเพราะสิ่งนี้เหรอ” เจียนอี้เหงกล่าวขณะหัวเราะ
ต่อหน้าของเงี่ยนอีหลิงและจํายหวินเชิง เขาล้วงมือเข้าไปในชุดคอวีและหยิบแผ่นซิลิ โคนหน้าอกออกมาจากนั้นเขาก็โยนแผ่นซิลิโคนนี้ลงบนโต๊ะข้างๆ
มันเป็นแผ่นหน้าอกหนาๆ
“และสําหรับเสียงของฉัน ฉันเดาว่าฉันสามารถสร้างเสียงที่แตกต่างได้มากมาย”
ขณะที่เขาพูดแบบนั้น เสียงของเงี่ยนอี้เหิง ก็เปลี่ยนไปแล้ว เสียงที่เป็นหญิงและแหลมสูงก่อนหน้านี้ได้กลายเป็นเสียงของผู้ชาย
“โอ ฉันทําเสียงโลลิได้ด้วยนะ แต่ว่า ฉันค่อนข้างสูงไปหน่อยที่จะแต่งตัวเป็นโลลิ แต่อย่างไรก็ตามฉันสามารถใช้เสียงนั้นบนอินเทอร์เน็ตได้” จากนั้นเจี้ยนอี้เหิงก็กล่าวเสริมว่า “ถ้านายสนใจ ฉันจะทําให้นายพอใจทีหลังได้”
รอยยิ้มของเงี่ยนอี้เหิงอ่อนหวานและมีเสน่ห์ รอยยิ้มของเขาอาจทําให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งรู้สึกละอายใจที่ตัวเองด้อยกว่าเขาได้
เขาคือเจียนอี้เหิง ลูกชายคนที่สองของบ้านหลังที่สามในตระกูลเจียน
เจียนอี้เหิงเป็นที่รู้จักว่าเป็นจิ้งจอกยิ้ม
เขายิ้มให้ทุกคนที่เขาพบ ทําให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ไร้พิษภัยใดๆ
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง เขาเป็นบอสในโลกธุรกิจ มีข่าวลือว่าเขาจะหัวเราะขณะที่ทํา ทําให้คู่ต่อสู้ร้องไห้
นี่คือข้อมูลที่จํายหวินเพิ่งรู้จักเกี่ยวกับเงี่ยนอี้เหิง
อย่างไรก็ตาม… ชายตรงหน้าเขาในวันนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงนอกจากรอยยิ้มเขาแล้วไม่มีอะไรที่เข้ากันเลย
นอกจากนี้ นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เงี่ยนอีหลิงได้พบกับเจี้ยนอี้เหิงด้วยตนเองเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร
หนึ่งในความฝันของเธอ เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูลเจียน
ย้อนกลับไปตอนนั้น ทุกคนได้มารวมตัวกัน
ปูเจี้ยนบอกทุกคนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้น คนอื่นๆก็คุยกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจียนอีหลิง
เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามจากตระกูลฉิน ตระกูลเจียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขับไล่เลี่ยนอีหลิงออกจากตระกูลเจี้ยนอีหลิงไม่ได้เชื่อฟังพวกเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมายิ่งไปกว่านั้นเธอได้ทําผิดพลาดซ้ําแล้วซ้ําเล่าและปฏิเสธที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังนั้นเธอจึงถูกขับไล่ออกจากตระกูล
ย้อนกลับไปตอนนั้น เงี่ยนอี้เหิงต่อต้านแนวคิดดังกล่าว
แม้ว่าตระกูลเจียนจะไม่ดีเท่าตระกูลฉิน แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทําแบบนี้ พวกเขาไม่จําเป็นต้องกําจัดใครสักคนในตระกูลเพียงเพราะพวกเขาถูกคุกคาม
ไม่ว่าเจียนอีหลิงจะทําอะไร เธอก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลพวกเขา
เงี่ยนอี้เพิ่งเชื่อว่าการลงโทษเจี้ยนอีหลิงนั้นยอมรับได้ แต่ทว่าเขาต่อต้านการขับไล่เธอออกจากตระกูลในสายตาเขาเธอยังคงเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล