เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 124

 

ทันทีทนี่เฉิงอี้รับเคส เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องภายในสถาบันก็เริ่มติดต่อกับฉินชวนและโรงพยาบาลที่แม่ของฉินชวนรักษาตัวอยู่

 

ในเวลานี้ฉินชวนกำลังนั่งอยู่ในรถประจำทางออกจากสถาบัน

 

เขาชะงักไปชั่วขณะเมื่อเขาได้รับโทรศัพท์

 

“คุณฉิน คุณฟังโทรศัพท์อยู่หรือเปล่า คุณฉิน”

 

“ครับ พูดได้เลยครับ” ฉินชวนฟื้นคืนสติ น้ำเสียงตื่นเต้นของเขานั้นยากที่จะปิดไว้ได้

 

“เราจำเป็นที่จะต้องย้ายแม่ของคุณมายังสถาบันวิจัยของพวกเรา โปรดเตรียมการทุกอย่างให้พร้อมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการย้ายผู้ป่วยและการดำเนินงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง”

 

“ตกลงครับ ผมเข้าใจแล้ว”

 

“คุณฉีมีคำถามอะไรอีกไหม ถ้าไม่ พวกเราก็จะรอจนกว่าแม่ของคุณได้รับการเคลื่อนย้ายมาจากโรงพยาบาลก่อนแล้วเราค่อยปรึกษากันอีกที”

 

“ผมขอถามสักคำถามได้ไหม”

 

“บอกผมมาเลย”

 

“ทำไมพวกคุณถึงอยู่ดีๆตัดสินใจที่จะรับเคสแม่ของผมล่ะ”

 

“ขอโทษคุณฉิน ผมเป็นเพียงผู้ประสานงานในการติดต่อกับคุณ ส่วนที่ว่าทำไมจึงรับเคสของแม่คุณนั้น นั่นเป็นการตัดสินใจโดยนักวิจัยของสถาบันของพวกเรา ผมไม่รู้”

 

“ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากครับ”

 

เมื่อวางสายแล้ว ฉินชวนก็ยังคงไม่รู้ว่าทำไมสถาบันถึงตกลงที่จะรับเคสแม่ของเขาอย่างปุบปับอยู่ดี

 

เขาไม่รู้ว่าทำไมเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินชวนจะนึกถึงฉากตอนที่เขาพบกับเจี่ยนอีหลิงที่ทางเข้าสถาบันวิจัยเมื่อก่อนหน้านี้

 

แต่ฉินชวนก็ไม่สามารถที่จะคิดออกได้ว่าเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันตรงไหน

 

สถาบันวิจัยฮุ่ยหลิงนั้นไม่เคยไว้หน้าใคร ถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่อย่างเช่นตระกูลเจี่ยนหรือตระกูลหยู ก็ไม่สามารถที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสถาบันวิจัยได้

 

แล้วการตัดสินใจของสถาบันวิจัยจะได้รับอิทธิพลจากเพียงแค่เจี่ยนอีหลิงได้อย่างไรกัน

 

###

 

วันจันทร์ เจี่ยนอีหลิงไปที่โรงเรียนตามปกติ

 

ทันทีที่เธอไปถึงห้องเรียน หูเจียวเจียวก็ดูกระวนกระวาย

 

“อีหลิง แย่แล้ว ผลการสอบประจำเดือนจะออกมาในวันนี้” หูเจียวเจียวมองดูเจี่ยนอีหลิงด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

 

หูเจียวเจึยวยังพอที่จะปลอบใจตัวเองได้เมื่อตอนที่ผลการสอบยังคงไม่ออกมา แต่เมื่อผลการเรียนออกมา เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

 

หูเจียวเจียวร้องไห้และกระวนกระวายอยู่ตั้งนาน แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะหลบซ่อนตัวที่ไหนได้

 

กระดาษข้อสอบถูกส่งออกมาให้กับแต่ละคน

 

หูเจียวเจียวมองไปยังผลของวิชาหนึ่งพร้อมกับร่ำไห้ในใจ

 

“ลมพัดหนาว หิมะเคว้ง ใจข้าเอง อ่อนเหนื่อยล้า”

 

หูเจียวเจียวร้องออกมาอย่างเศร้าสร้อย พร้อมกับฟุบหน้าลงบนโต๊ะ

 

หลังจากที่ร้องคร่ำครวญอยู่พักหนึ่ง เธอก็พยายามทำใจให้เข้มแข็งขึ้นมา จากนั้นก็หันไปมองกระดาษคำตอบของเจี่ยนอีหลิง

 

คณิตศาสตร์ 90 เต็ม 150

 

อังกฤษ 90 เต็ม 150

 

ฟิสิกส์ 72 เต็ม 150

 

เคมี 60 เต็ม 150

 

 

ผ่านพอดีไม่มีขาดไม่มีเกิน

 

พูดว่าผ่านก็ผ่าน

 

หูเจียวเจียวทั้งประหลาดใจและอิจฉา “อีหลิง เธอบนกับเทพเจ้าองค์ไหนก่อนสอบเหรอ ทำไมเธอจึงผ่านคาบเส้นทุกวิชาเลย”

 

ก่อนการทดสอบหูเจียวเจียวได้บอกเจี่ยนอีหลิงว่าให้พยายามเต็มที่ให้ผ่านการสอบให้ได้

 

และผลลัพธ์ก็คือเจี่ยนอีหลิงผ่านการทดสอบจริงๆ

 

ทั้งยังเป็นการผ่านแบบคาบเส้นทุกวิชา

 

“เธอพูดว่าให้พยายามเต็มที่ให้ผ่านการสอบ” เจี่ยนอีหลิงตอบ

 

“อือ..” หูเจียวเจียวรู้ว่าเธอไม่สามารถแย้งได้

 

เธอพูดเช่นนั้นจริงๆ เธพูดว่าพวกเธอจะต้องมีความฝัน เผื่อบางทีจะโดนผีเข้า*

 

ปัญหาก็คือ เจี่ยนอีหลิงโดนผีเข้า แต่เธอไม่โดน

 

หูเจียวเจียวรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

หูเจียวเจียวเห็นคะแนนภาษาจีนของเจี่ยนอีหลิงอยู่ที่ 96 คะแนน ซึ่งคะแนนผ่านอยู่ที่ 90 จากคะแนนเต็มทั้งหมด 150 คะแนน ซึ่งเจี่ยนอีหลิงได้มากกว่าคะแนนผ่านอยู่ 6 คะแนน

 

นี่เป็นความผิดพลาดของเจี่ยนอีหลิง เจี่ยนอีหลิงสามารถประเมินแต้มของวิชาทางวิทยาศาสตร์อย่างเช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ได้อย่างแม่นยำ แต่เธอไม่สามารถประเมินได้แม่นยำสำหรับวิชาภาษาจีน

 

———————————————————-

 

ผู้แปล * โดนผีเข้า = เกิดปาฏิหาริย์

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset