บางคนถึงกับคาดเดาว่าพ่อแม่ของโม่ชืออวิ้นนั้นคุ้นเคยกับบ้านตระกูลเจี่ยนเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างเจี่ยนหยุ่นน่าวกับโม่ชืออวิ้น และครอบครัวของพวกเขานั้นสนิทกัน
โม่ชืออวิ้นส่ายหน้า “นี่เป็นความจริง และมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ฉันจะปฏิเสธ”
เมื่อเห็นความคิดเห็นบนอินเตอร์เน็ต โม่ชืออวิ้นก็รู้สึกอับอายเหมือนถูกฉีกเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าแล้วจ้องมองเข้าไปในทุกรูขุมขน
ไม่มีใครต้องการให้คนอื่นรู้ถึงเรื่องราวสุดจะทนของครอบครัวของตนเอง
ไม่มีใครต้องการให้พ่อที่เลวทรามปานนั้นเป็นที่รู้จักของเพื่อนๆในโรงเรียน
โม่ชืออวิ้นรู้สึกอึดอัดในใจ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติความเป็นมาของเธอได้
“เอาล่ะ เธอไม่จำเป็นที่จะต้องพูดแล้ว ฉันจะช่วยเธอรับหน้าให้เธอเอง ไม่ว่าอะไรก็ตามถ้าพวกเขาจะหาเรื่องเธอก็เหมือนกับกำลังหาเรื่องฉันอยู่”
หลังจากที่ชิวหยีเจนคิดดูแล้ว เธอก็ตัดสินใจที่จะช่วยโม่ชืออวิ้นแก้ไขปัญหา
โม่ชืออวิ้นลังเลเล็กน้อย “พี่ชิว อย่าให้เรื่องนี้ลากเธอเข้ามาร่วมเลย”
“หมายความว่ายังไงที่ว่าเรื่องนี้ลากฉันเข้ามาร่วมด้วย ฉันแค่พูดคำสองคำ ใครจะทำอะไรฉันได้”
จากนั้นชิวหยีเจนก็เข้ามาด้วยชื่อบัญชีของตัวเธอเอง
ปกติแล้วชิวหยีเจนจะให้ลูกน้องของเธอสองคนเขียนโพสต์บนฟอรัม และไม่เคยที่จะโพสต์ด้วยชื่อบัญชีของตนเอง
เพราะว่าชื่อบัญชีของเธอนั้นเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในโรงเรียน มันจะถูกเปิดโปงทันทีที่เธอโพสต์อะไรลงไป
เธอเริ่มตอบโพสต์
[พูดถึงเรื่องพ่อของโม่ชืออวิ้น พวกเธอตาบอดกันหรือเปล่า ทำไมคนแบบนี้จะเป็นพ่อของโม่ชืออวิ้นไปได้ ฉันเคยพบกับพ่อของโม่ชืออวิ้น แต่ไม่ใช่คนที่เลวเหมือนกับคนนี้]
เมื่อชิวหยีเจนตอบโพสต์จบ เธอก็โทรศัพท์ไปหาสมุนของเธอให้พวกเธอช่วยกดไลค์เพื่อให้ดันโพสต์ของเธอขึ้นไปด้านบน
ความเห็นของชิวหยีเจนนั้นเกิดผลอย่างรวดเร็ว
เพราะว่าทุกคนรู้ว่าชิวหยีเจนนั้นเป็นลูกสาวของผู้จัดการโรงเรียนและทุกคนก็รู้จักตัวเธอเป็นอย่างดี
ในเมื่อเธอพูดว่าเธอได้เคยพบกับพ่อของโม่ชืออวิ้น ดังนั้นพ่อของโม่ชืออวิ้นต้องเป็นคนมีหน้ามีตา ไม่ใช่เป็นพวกนักเลงข้างถนนแก่ๆที่อยู่ในภาพ
ความคิดเห็นในโพสต์เปลี่ยนทิศทางไปอย่างรวดเร็ว และทุกคนก็บอกให้คนที่ลงโพสต์นั้นออกมากล่าวขอโทษ
ชิวหยีเจนกล่าวอย่างภาคภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเธอเองต่อโม่ชืออวิ้น
“ดูสิ พี่สาวบอกแล้วว่ามันต้องไม่มีปัญหา พี่สาวไม่ได้ทำให้ผิดหวังใช่ไหม”
เมื่อเห็นข้อความสุดท้าย โม่ชืออวิ้นก็อดที่จะผ่อนคลายลงไปไม่ได้ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก ความกังวลบนใบหน้าลดทอนลงไปกว่าครึ่ง
“พี่ชิว ฉันต้องขอบคุณเธอมากครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เธอไม่รังเกียจความเป็นมาของฉัน แต่เธอก็ยังช่วยปกป้องฉันอย่างเต็มใจ ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนเธอได้อย่างไร”
“อย่าพูดอะไรโง่ๆ” ชิวหยีเจนโบกมือ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ต่อไปก็อย่าทำอะไรเพียงลำพัง”
“อื้อ…” โม่ชืออวิ้นยิ้มอย่างนุ่มนวล
ปัญหาได้รับการแก้ไข โม่ชืออวิ้นไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องพยาบาลอีกต่อไป เธอกลับคืนไปยังห้องเรียนของเธอ
ทันทีทนี่เธอกลับไปยังห้องเรียน ชูชาก็รีบวิ่งเข้ามาหาเธอแล้วกล่าวว่า “ชืออวิ้น ฉันต้องขอโทษเธอเมื่อกี้นี้ ฉันนึกว่าที่โพสต์พูดถึงนั้นเป็นความจริง ฉันไม่ควรจะตั้งคำถามเธอด้วยคำถามงี่เง่าแบบนั้น”
“ไม่เป็นไรหรอก” เสียงของโม่ชืออวิ้นนั้นสุภาพและดูเหมือนไม่มีความโกรธเจือปนอยู่เลยแม้แต่น้อย “ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่เมื่อกี้นี้ ฉันไม่ได้โกรธเธอหรอก”
“ถ้างั้นก็ดีแล้วหละ” ชูชาถอนหายใจ
โม่ชืออวิ้นคิดว่าเหตุการณ์นี้คงจะผ่านไปได้ชั่วคราว
อย่างไรก็ตามเมื่อทิศทางกระแสของโพสต์นั้นเพิ่งเปลี่ยนไปได้เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง โพสต์ต้นฉบับนั้นก็อัพโหลดวิดีโอชิ้นใหม่ขึ้นมา
มันเป็นวิดีโอในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียนเมื่อก่อนหน้านี้