เอาอกเอาใจคนอื่น ไม่มีทาง
เอาอกเอาใจแฟนเพลง ยิ่งไม่มีทาง
แต่การเอาอกเอาใจน้องสาว… เจี่ยนหยู่หมินนึกถึงฉากที่น้องสาวทำตัวเหมือนกับเป็นเด็กทารก ช่างน่ารักเป็นที่สุด เขาคิดว่าควรจะลองดู
สมาชิกวงดนตรีคนอื่นในวิดีโอร่วมนั้นต่างพากันคำรามลั่น
“ไม่สำคัญว่าพี่จะมีความสามารถนี้หรือเปล่า ตราบเท่าที่พี่สามารถเอาใจน้องสาวพี่ได้นั่นถึงจะเป็นประเด็นหลัก แต่จะว่าไปแล้ว น้องสาวของพี่หยู่หมินควรจะดูดีใช่ไหม ไม่ว่ายังไงจากเพียงหน้าตาของพี่หยู่หมิน น้องสาวพี่ก็ควรจะไม่ด้อยไปกว่าเท่าไหร่นัก”
“ยังไงก็แล้วแต่ พี่หยู่หมิน ให้พวกเราไปที่บ้านพี่ไปสนุกกันสักวัน พวกเราจะได้เห็นน้องสาวของพี่ด้วยดีไหม”
“ใช่ ผมเห็นด้วยกับเรื่องนี้ พวกเราไปบ้านพี่หยู่หมินด้วยกัน”
เจี่ยนหยู่หมินปฏิเสธโดยเด็ดขาดโดยไม่ต้องคิด “ไปเลย ไปอยู่ที่ไหนก็ไป เพลงใหม่ไม่ทำกันแล้วใช่ไหม”
“พวกเราไปที่บ้านพี่ พวกเราจะได้ทำเพลงใหม่กันสดๆเลยไง นั่นไม่ดีเหรอ”
“ใช่ๆ”
เจี่ยนหยู่หมินมองไปยังบรรดาหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในหน้าจอ รู้สึกเหมือนกับว่าพวกนั้นกลายไปเป็นหมาป่า
เจี่ยนหยุ่นหมินปฏิเสธข้อเสนออย่างเด็ดขาด “บ้านฉันไม่ได้ใหญ่มากและไม่สามารถรองรับพวกนายได้”
###
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร เจี่ยนหยู่หมินกับเจี่ยนอีหลิงได้ร่วมทานอาหารที่โต๊ะเดียวกัน
พวกเขารับประทานอาหารกันอย่างเงียบๆ และหลังจากทานอาหารแล้วพวกเขาทั้งสี่คนก็นั่งดื่มชาหลังอาหารเย็น พูดคุยกันที่โซฟา และย่าเจี่ยนก็เริ่มสอบถามเจี่ยนหยู่หมิน
“หยู่หมิง เธอไปอยู่ข้างนอกตั้งหลายปี มีแฟนให้พูดถึงบ้างหรือยัง”
“บริษัทที่ทำสัญญาไม่ยอมให้พวกเรามีความรักกับใคร”
เจี่ยนหยู่หมินตัดสินใจใช้สัญญาที่ทำกับบริษัทเป็นข้ออ้างหยุดไม่ให้ย่าเร่งรัดให้เขาแต่งงาน
ย่าเจี่ยนถอนหายใจลึก “ใช่เลย พวกแกนี่ช่างน่ารำคาญจริงๆ”
ไม่เป็นไรถ้าพวกเขาไม่น่ารัก แต่กระทั่งหลานสะไภ้ก็ยังไม่หามาให้ย่า
พวกนี้ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย
ปู่เจี่ยนอดไม่ได้ที่จะกระเซ้าเย้าแหย่คู่ชีวิตชราของเขา “เจ้าพวกเด็กตัวเหม็นนั่นไม่หาคนมาให้ แต่หลานสาวที่รักของเธอก็ไม่หามาให้เหมือนกัน”
“แกพูดจาอะไรไร้สาระเหรอตาเฒ่า เด็กน้อยของเราโตเท่าไหร่เอง เธอจะมีแฟนได้ยังไงกัน”
อารมณ์ย่าเจี่ยนเปลี่ยนไปในทันที
จะดีมากถ้าหลานชายของเธอจะไปขโมยหลานสาวของคนอื่น
แต่ถ้าจะให้หลานสาวของฉันถูกหลานคนอื่นลักพาตัวไปนั้น นั่นเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า
ปู่เจี่ยนอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ “เฮ้ เธอก็เป็นอย่างนี้แหละ หลานสาวของเราคงไม่ต้องแต่งงานแล้วต่อไปนี้ ถ้าต้องการจะแต่งงานก็คงได้แต่แต่งกับเด็กข้างบ้าน หยูซี จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ”
ย่าเจี่ยนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง “ก็ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้นะถ้าจะแต่งกับหยูซี ฉันเห็นเด็กคนนี้โตมา ดูพึ่งพาได้มาก พ่อแม่ของหยูซีเองไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ทำอะไรที่รุนแรงกับลูกสะไภ้ของพวกเขาแน่ ฉันไม่กังวลเลย อยู่ใกล้ชิดสิดีฉันจะได้เห็นหลานสาวฉันทุกวัน”
เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ว่าเกิดผิดพลาดอะไรกันขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าย่าเจี่ยนถามเจี่ยนหยู่หมินถึงการหาแฟนสักคน แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงกลับกลายมาเป็นปัญหาของตัวเธอเองแทน
แต่ถึงแม้ว่าจะมีการถกเถียงถึงเรื่องของตัวเธอ เจี่ยนอีหลิงก็เพียงฟังอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ
เจี่ยนหยู่หมินมองไปยังเจี่ยนอีหลิง และก็เห็นว่าเธอนั้นถือถ้วยชาอยู่โดยไม่มีปากเสียง เขาจึงกล่าวกับเธอว่า “เธอต้องดื่มชาให้น้อยๆหน่อย ดื่มชามากจะทำให้ปวดฉี่ เธอทำน้ำท่วมกางเกงฉันตอนที่เธอเป็นเด็ก”
เจี่ยนหยู่หมินจำได้ชัดเจน มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาได้กอดเซี่ยวอีหลิงไว้ จากนั้นเด็กหญิงตัวเล็กก็มอบน้ำสีทองจำนวนมหาศาลให้กับเขาแล้วก็เริ่มร้องไห้
ความจริงแล้ว ตอนที่เด็กหญิงตัวเล็กร้องไห้นั้นน่ารักมาก แต่ว่าทันทีที่เธอร้องไห้ เธอก็จะถูกพาตัวไปในทันที
“แค่กๆ…”
เจี่ยนอีหลิงซึ่งกำลังลิ้มชิมรสชาอยู่นั้นถึงกับสำลักเมื่อได้ยินคำพูดของเจี่ยนหยู่หมิน