เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 144

 

หลัวซิ่วเอินตัดบทหงไปจางด้วยสายตารังเกียจ “จะเล่นเกมอะไรกันอีก ไปให้พ้นเลย มีคนตั้งมากมายมารวมกันอยู่ที่นี่ทำให้บรรยากาศในห้องนี้ไม่สดชื่น แล้วคนไข้จะพักผ่อนให้ดีได้ยังไง”

 

คนตั้งแปดเก้าคนมายืนอยู่ในหอผู้ป่วย พูดกันไม่รู้จักจบสิ้น แล้วคนไข้จะยังพักผ่อนไหวเหรอ

 

หลัวซิ่วเอินเริ่มไล่คนออกไปจากห้อง และหงไป่จางก็เป็นคนแรกที่ถูกไล่ออกไป

 

ย่าเจี่ยนก็พูดขึ้นบ้างว่า “ย่าเห็นด้วย พวกเราควรจะพูดเรื่องพวกนี้ทีหลัง หลานรักฉันยังคงป่วยอยู่”

 

จากนั้นย่าเจี่ยนก็หันหน้าไปยังเจี่ยนหยุ่นน่าวที่กำลังกระวนกระวายอยู่ตรงประตูแล้วกล่าวว่า “เธอต้องจำไว้ว่านี่เป็นน้องสาวของเธอ กระดูกหักก็ยังต่อได้ เธอควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องไปในทางที่ดีบ้าง อย่ามัวแต่ดื้อรั้น วุ่นวายอยู่กับความคิดที่ยุ่งเหยิง”

 

ย่าเจี่ยนไม่ได้พูดเฉพาะเจาะจงว่าเธอหมายถึงอะไร คนที่รู้ต้นสายปลายเหตุย่อมสามารถที่จะฟังเข้าใจได้เป็นอย่างดี

 

เจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นเคยคิดที่จะทำร้ายเจี่ยนอีหลิงให้พิการมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาไม่ควรที่จะคิดแบบนั้นเป็นครั้งที่สอง

 

ย่าเจี่ยนหวังว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นจะได้เรียนรู้ที่จะเชื่อถือน้องสาวของตัวเองบ้างและหัดปล่อยวางความคิดที่ไม่ดีในใจออกไป

 

เจี่ยนชูฉิงนั้นโน้มตัวลงไปพูดเบาๆกับเจี่ยนอีหลิงที่นอนอยู่ในเตียงพยาบาล “เซี่ยวหลิง พ่อกับพี่ชายจะกลับบ้านก่อนนะ แล้วจะกลับมาเยี่ยมลูกหลังจากเสร็จงานตอนเย็นแล้ว ลูกจะได้พักฟื้นไข้ พี่ชายของลูกก็จะแจ้งไปทางโรงเรียนขอลาป่วยให้ลูก ลูกไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น”

 

“อื้อ” เจี่ยนอีหลิงยอมรับเบาๆ

 

เธอทำให้หัวใจของเจี่ยนชูฉิงสั่นไหวขึ้นมา

 

แม้ว่าลูกสาวของเขานั้นจะตอบกลับมาอย่างเชื่อฟัง แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตใดจึงทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีระยะห่างระหว่างเขากับลูกสาวขึ้นมา

 

เจี่ยนชูฉิงนั้นลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะจากหอผู้ป่วยไปพร้อมกับลูกชายคนโต

 

เมื่อทุกคนจากหอผู้ป่วยของเจี่ยนอีหลิงไปทีละคนสองคน เจี่ยนหยู่หมินก็พูดกับแม่บ้านของบ้านเก่าตระกูลเจี่ยนว่า “คุณแม่บ้านช่วยนำเสื้อผ้ามาให้ผมเปลี่ยนหน่อยนะตอนกลับมาครั้งหน้า”

 

เขายังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย

 

เพื่อให้ปลอดภัย เจี่ยนอีหลิงจะต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีกคืน

 

เจี่ยนหยุ่นน่าววางแผนที่จะอยู่กับเธอที่โรงพยาบาลคืนนี้

 

ไม่ว่ายังไง ในสองวันถัดไปนี้เขาก็ไม่ได้มีการนัดหมายอะไร แม้ว่าเขาจะมีนัดหมายกับสมาชิกทีมเพื่อที่จะซ้อมกันในตอนเย็น แต่ตอนนี้เขาก็เพียงได้แต่ส่งข่าวไปว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น

 

เมื่อเจี่ยนหยู่หมินพูด หลัวซิ่วเอินก็ชำเลืองมองไปในทันที

 

เสียงนี้ฟังดูคุ้นหูนัก

 

เธอเพียงแค่ฟังก็จำเสียงที่เหมือนแม่เหล็กนี้ได้

 

หลัวซิ่วเอินหันไปมองด้านหลังของเขา

 

สายตาของเธอปะทะเข้ากับชายในชุดนอน รองเท้าแตะ และผมทรงสุ่มไก่

 

ชายคนนี้…

 

ดูจะเละตุ้มเป๊ะอยู่บ้าง

 

แต่…

 

“นาย… ทำไมนายจึงดูคล้ายกับ เซี่ยหมินหยู่”

 

เสียงของหลัวซิ่วเอินนั้นค่อนข้างจะดัง และสายตาของเธอก็จับจ้องแต่เจี่ยนหยู่หมิน

 

เซี่ยหมินหยู่นั้นเป็นชื่อฉายาที่เจี่ยนหยู่หมินใช้บนเวทีแสดง เพราะว่าเหอเยี่ยนนั้นพยายามอย่างที่สุดในการต่อต้านการเข้าสู่วงการบันเทิงของเจี่ยนหยู่หมิน ดังนั้นเจี่ยนหยู่หมินจึงใช้ชื่อฉายาเมื่อเขาเข้าสู่วงการธุรกิจการแสดง ไม่สนใจที่จะเชื่อมโยงตัวเขากับตระกูลเจี่ยนเข้าด้วยกัน

 

เซี่ยนั้นเป็นนามสกุลของย่าเจี่ยน

 

หลัวซิ่วเอินจ้องมองไปยังเจี่ยนหยู่หมิน ยิ่งมองก็ยิ่งคล้าย

 

กระทั่งเฉิงอี้เองที่อยู่ข้างกายเธอ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเฉิงอี้นั้นไม่ได้เป็นแฟนของวงบอยแบนจูปิเตอร์ แต่เพราะว่าโต๊ะของหลัวซิ่วเอินนั้นแปะเต็มไปด้วยสิ่งของจากบอยแบน เขาก็ยังรู้จักอีกฝ่ายไปด้วยเช่นกันจากความสามารถทางด้านสายตาของเขา

 

เจี่ยนหยู่หมินเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังหลัวซิ่วเอิน ถึงแม้ว่าจะมองเห็นความประหลาดใจในดวงตาของอีกฝ่าย เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ

 

“ยังไงล่ะ ผมเอง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

 

เขารู้ว่าภาพพจน์ของตัวเขาเองในตอนนี้เละตุ้มเป๊ะเป็นอย่างมาก และภาพพจน์ก่อนหน้านี้ในการแสดงจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

 

แต่มันจะสำคัญแค่ไหนเชียว

 

อย่างมากก็แค่เสียแฟนเพลงไปหนึ่งคน

 

เมื่อแฟนเพลงต้องการจะแยกตัวไป เขาก็ไม่อาจที่จะหยุดยั้งพวกเขาได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่งอนง้อหรือว่าเอาอกเอาใจอีกฝ่าย

 

——————————————————

 

เฉิงอี้ – ทำไมผมถึงถูกทอดทิ้งเหมือนขยะ

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset