หลัวซิ่วเอินมองกลับไปที่หงไปจาง “เฒ่าหง ฉันพูดแล้วว่าพวกเราไม่ได้มาที่นี่วันนี้เพื่อพูดเรื่องงาน”
“ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าบางเคสที่ผมถืออยู่ก็คงไม่ต้องรบกวน ไม่ทราบว่าพวกคุณพอจะให้คำแนะนำผมได้บ้างหรือเปล่า”
หงไป่จางมองพวกเขาด้วยสายตาวิงวอน
เพราะว่าต้องการความช่วยเหลือ หน้าตาของคนแก่อย่างเขาก็ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
เฉิงอี้มองดูหงไป่จางอยู่ชั่วขณะ “พวกเรากำลังรอใครสักคนอยู่ ค่อยดูกันอีกทีเมื่อถึงตอนนั้น”
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเฉิงอี้ที่จะได้เห็นหงไป่จางรอคอยพวกเขาแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพวกเขารอคอยอยู่ที่หน้าหอผู้ป่วยในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี
หลัวซิ่วเอินมองไปที่หอผู้ป่วยอย่างไม่ยินยอมก่อนที่พวกเขาก็ไปยังห้องทำงานของเฉิงอี้
###
ไม่นานหลังจากนั้น หยูซีกับจ๋ายหวินเชิ่งก็มา
ในเวลานี้ มีเพียงเจี่ยนหยู่หมินเท่านั้นที่อยู่กับเจี่ยนอีหลิงในหอผู้ป่วย เวินน่วนนั้นถูกย่าเจี่ยนเรียกไปคุยด้วย ดูเหมือนว่าย่าเจี่ยนมีอะไรที่ต้องการพูดกับลูกสะไภ้คนโตของตนเองตามลำพัง
ทันทีที่หยูซีเดินเข้ามา เขาก็เห็นเจี่ยนหยู่หมินหัวเราะพูดคุยอยู่กับเจี่ยนอีหลิง
ในเวลานี้ เจี่ยนหยู่หมินนั้นได้ดูแลตัวเองเรียบร้อย สะอาด สดใส และหล่อเหลา
หยูซีชะงัก
ไม่ใช่ว่าชายคนนี้เป็นไอดอลสมาชิกของบอยแบนหรือยังไง
หยูซีไม่สามารถจำชื่อของชายคนนี้ได้ แต่เขาก็ประทับใจไปกับรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย
ดูเหมือนว่าเขาจะจำผลการประเมินชายคนนี้จากอินเตอร์เน็ตได้ว่า หน้าตาดี เสียงดี ความสามารถในการร้องดี และมีความสามารถในการเต้นที่น่ายกย่อง
นี่ถือว่าเป็นการประเมินที่สูงมากในบรรดาไอดอล
เทพหลิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เขายังจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไปหาจี้หมิงนั้น เทพหลิงมองไปยังวงบอยแบนด้วยท่าทางตื่นตะลึง
ตอนนี้คนสองคนนี้ดูเหมือนจะรู้จักกันเป็นอย่างดี และความใกล้ชิดของพวกเขาก็ดูเหมือนจะเกินกว่าความเป็นเพื่อนทั่วไป
ตามความเข้าใจที่หยูซีมีต่องเจี่ยนอีหลิงระหว่างช่วงเวลานี้ เจี่ยนอีหลิงไม่ชอบที่จะให้คนอื่นสัมผัสตัวเธอ ถ้ามีคนเข้าไปใกล้เธอเกินไป เธอก็จะถือโอกาสถอยเว้นช่องว่างระหว่างตัวเธอกับคนผู้นั้น
แต่การที่สามารถอยู่ห่างจากเจี่ยนอีหลิงได้ในระยะยี่สิบเซ็นติเมตรนั้น ความสัมพันธ์นี้….
เกิน เกินไปแล้ว
เมื่อหยูซีมองไปยังเจี่ยนอีหลิงกับเจี่ยนหยู่หมิน พวกเขาก็มองกลับมาที่เขาเช่นเดียวกัน
หยูซีจำเจี่ยนหยู่หมินไม่ได้ เช่นเดียวกันเจี่ยนหยู่หมินก็จำหยูซีไม่ได้เหมือนกัน
เจี่ยนหยู่หมินเป็นคนที่ใช้เวลาน้อยมากที่บ้านเก้าในบรรดาเด็กๆตระกูลเจี่ยน
และเพราะว่าการเลือกอาชีพของเขา เจี่ยนหยู่หมินไม่ได้กลับมาที่เมืองเหิงเหย่วนเป็นเวลาหลายปี เขาและหยูซีไม่ได้เห็นอีกฝ่ายมาเป็นเวลานานมาก
จ๋ายหวินเชิ่งเดินตามเข้ามาจากด้านหลัง และเมื่อเห็นสถานการณ์ในหอผู้ป่วย เขาก็ยิ้มเย้ย “ดูเหมือนว่าจะยังไม่ถึงเวลาที่นายท่านผู้นี้ควรมาใช่ไหม”
หยูซีรีบยิ้มและกล่าวว่า “ผมไม่คาดคิดว่าจะเห็นดาราดังในหอผู้ป่วยของเทพหลิง…”
จากนั้นเขาก็วางของเยี่ยมในมือของเขาลงบนโต๊ะกาแฟที่อยู่ข้างตัว
“เซี่ยวหลิง สองคนนี้เป็นใครกัน” เจี่ยนหยู่หมินถามเจี่ยนอีหลิง
“เพื่อน”
ทันทีที่เจี่ยนอีหลิงพูด หยูซีกับจ๋ายหวินเชิ่งก็รู้สึกได้ว่าเธอนั้นอ่อนแอเกินกว่าปกติ
“โอ เพื่อนของเซี่ยวหลิงนี่เอง พวกนายมาเยี่ยมเซี่ยวหลิงใช่ไหม นั่งลงก่อนสิ”
เจี่ยนหยู่หมินทักทายหยูซีและจ๋ายหวินเชิ่งด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าแบบมาตรฐานเป็นทางการ
“สุขภาพของเซี่ยวหลิงเป็นอย่างไรบ้าง ผมได้ยินว่าเธอเป็นโรคลำใส้อักเสบ” หยูซีถามถึงอาการของเจี่ยนอีหลิง
“ช่วงเวลานี้ ผมก็ได้แต่ป้อนเธอด้วยโจ๊กลูกเดือย” เจี่ยนหยู่หมินตอบ
ป้อนเธอ
สองคำนี้น่าสนใจจริงๆ
หยูซีคิดในใจ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายคนนี้กับเทพหลินจะไม่ธรรมดาจริงๆ
จ๋ายหวินเชิ่งก้าวยาวๆสองสามก้าวไปที่โซฟาจากนั้นก็นั่งลง
เจี่ยนหยู่หมินหรี่ตา รู้สึกว่าจ๋ายหวินเชิ่งค่อนข้างจะหยิ่งยะโส ดูไม่เป็นมิตร
จ๋ายหวินเชิ่งมองไปยังเจี่ยนอีหลิงที่อยู่บนเตียงแล้วกล่าวว่า “ครั้งที่แล้ว เธอไม่ยอมให้ฉันกินโน่นกินนี่ ตอนนี้เป็นตาของเธอที่จะไม่ได้กินอะไรบ้างแล้วใช่ไหม”