หมายความว่ายังไงที่ว่ามีของส่งถึงเจี่ยนอีหลิงทางอินเตอร์เนต
“ดี” เจี่ยนอีหลิงตอบ
บรรดาคนในชุดสูทเหล่านี้ไม่ได้อยู่นาน หลังจากที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเจี่ยนอีหลิงเพียงสองสามคำพวกเขาก็จากไป
แต่พวกเขาก็ทิ้งของขวัญมีค่าไว้มากมาย
ของขวัญเหล่านี้สำหรับตระกูลเจี่ยนแล้วไม่มีปัญหาอะไร เวินน่วนเองก็คุ้นเคยกับบรรดาคนดังมาตั้งแต่เด็ก
เพียงแต่ว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา ดังนั้นภาพพจน์ที่อีกฝ่ายใจกว้างส่งของขวัญมีค่ามาให้นั้น จึงทำให้ตัวตนของพวกเขาอดเป็นที่น่าสงสัยไม่ได้
สามารถจัดส่งของแบบนี้ได้ เบื้องหลังของพวกเขานั้นก็คงจะไม่เบา
เวินน่วนเกิดความงุนงงสงสัย มองไปยังลูกสาวที่ยังไม่โตเป็นสาวกับใบหน้าที่ดูอ่อนแอของตัวเองแล้ว เวินน่วนก็เกิดความกังวลว่าลูกสาวของเธอนั้นจะถูกหลอก
ดังนั้นเธอจึงส่งข้อความไปหาสามีและลูกชายคนโตของเธอทางโทรศัพท์มือถือ อธิบายถึงสถานการณ์สั้นๆ หวังว่าพวกเขาจะให้ความสนใจที่จะสืบสวนความเป็นมาของคนเหล่านี้เพื่อให้มั่นใจว่าลูกสาวของพวกเขานั้นจะไม่ได้รับอันตราย
เจี่ยนอีหลิงรับอีเมลจากคนเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
มันเป็นวิดีโอ
เป็นวิดีโอฉากที่ห้องทำงานของเหอเยี่ยน
มันถูกแอบถ่ายจากกล้องซ่อน
สิ่งนี้มาจากตอนที่คนเหล่านี้ได้เข้าไปในบ้านของเหอเยี่ยนเพื่อขโมยวิดีโอ
ไม่เพียงแค่ติดตั้งกล้องไว้ในห้องทำงาน แต่ที่อื่นๆอีกหลายที่ก็ถูกติดตั้งไว้
วิดีโอมีเพียงภาพไม่มีเสียง
แต่แค่ภาพก็เพียงพอสำหรับเจี่ยนอีหลิงในการทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่ห้องทำงานของเหอเยี่ยน
เจี่ยนอีหลิงรีบส่งข้อความไปหาเจี่ยนหยู่เจี๋ย
แต่หลังจากคลิกไปที่กล่องข้อความ เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เจี่ยนอีหลิงไม่มีประสบการณ์ในการจัดการกับสถานการณ์แบบนี้
หลังจากคิดอยู่เนิ่นนาน เจี่ยนอีหลิงก็ส่งข้อความไปประโยคหนึ่ง
[นายเป็นยังไงบ้างตอนนี้]
มันต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง เจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงตอบกลับมาด้วยประโยคง่ายๆ ประโยคหนึ่ง
[ฉันสบายดี เธอต้องรักษาตัวเธอให้ดี]
ถ้าเป็นเจี่ยนหยู่เจี๋ยในอดีต เนื้อหาที่ตอบกลับจะไม่เคยเป็นอย่างนี้
หลังจากเวลาผ่านไปชั่วขณะ เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ส่งมาอีกประโยค
[ขอโทษนะ]
มีเพียงแค่คำสามพยางค์ ไม่แสดงเหตุผลใดๆ
ตัวอักษรบรรทัดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของเจี่ยนอีหลิง
เด็กวัยรุ่นอายุสิบเก้าปีฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงมาจากตึกด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบชัด
ในนิยายต้นฉบับ เจี่ยนหยู่เจี๋ยตายเมื่อเขาอายุได้สิบเก้าปี ตายก่อนเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงพลันเลิกผ้าห่มและลุกขึ้นจากเตียง
“เซี่ยวหลิง มีอะไรผิดไปหรือเปล่า ลูกต้องการไปห้องน้ำเหรอ” เวินน่วนรีบถามเธอ
“ออกข้างนอก”
เจี่ยนอีหลิงสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
“ลูกยังไม่หายดี หมอบอกว่าลูกต้องอยู่ต่ออีกอย่างน้อยสองวันเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย”
เวินน่วนรีบตามไปยับยั้งเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“หนูต้องออกโรงพยาบาล” ดวงตาและน้ำเสียงของเจี่ยนอีหลิงมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งการกระทำของเธอก็เด็ดขาด
“เซี่ยวหลิง เกิดอะไรขึ้นกับลูกกันแน่ พอจะบอกแม่หน่อยได้ไหม”
เวินน่วนค่อนข้างจะตกตะลึงกับปฏิกิริยาของเจี่ยนอีหลิง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไม่มีอะไร ออกจากโรงพยาบาล”
เจี่ยนอีหลิงตอบเวินน่วนในขณะที่เก็บของใส่เป้เล็กๆของเธอ
จากนั้นเธอก็ส่งข้อความไปยังคนที่เธอเพิ่งติดต่อ
[ยืมคน]
[ได้เลย พวกคนเมื่อกี้นี้ยังไม่ได้ออกไปพ้นประตูโรงพยาบาล ผมจะให้พวกเขารอเธอ]
การตอบกลับของอีกฝ่ายนั้นเฉียบขาดและชัดเจน
“หนูต้องไปข้างนอก แม่กลับบ้านก่อน” เจี่ยนอีหลิงกล่าวกับเวินน่วน
หลังจากพูดจบแล้ว เธอก็วิ่งออกไปด้านนอกโรงพยาบาล
“เซี่ยวหลิง เซี่ยวหลิง ลูกยังไม่หายดี ลูกยังวิ่งไม่ได้”
เวินน่วนรีบไล่ตาม
เจี่ยนอีหลิงวิ่งไปจนถึงประตูโรงพยาบาลและไปขึ้นรถยนต์ของชายในชุดสูทสีดำที่เพิ่งมาเยี่ยมเจี่ยนอีหลิงที่หอผู้ป่วย
ชายคนหนึ่งในนั้นเปิดประตูให้เจี่ยนอีหลิงอย่างสุภาพ
เวินน่วนรีบรุดติดตามมา แต่เมื่อเธอเข้ามาถึง รถก็ได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว